ทัวร์มองโกเลีย

ถึงแม้ว่าการทัวร์มองโกเลียจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ต้องบอกว่าใครที่ชื่นชอบประเทศที่มีความงดงามของธรรมชาติอันน่าทึ่ง และยังคงรักษาวิถีชีวิตชาวเร่ร่อนแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ การเลือกมาทัวร์มองโกเลียนั้นเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าสามารถเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวในแบบที่คุณคาดไม่ถึง และจะทำให้คุณมีความสุขไปกับการผจญภัยอย่างแน่นอน ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวมองโกเลีย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนทัวร์มองโกเลียมาฝากกันค่ะ  

ข้อมูลเที่ยวทัวร์มองโกเลีย

มองโกเลีย (Mongolia) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกซึ่งไม่มีอาณาเขตติดกับทะเล ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ภูเขา และทุ่งหญ้า มีพรมแดนติดกับรัสเซียทางด้านทิศเหนือ และติดกับประเทศจีนทางด้านทิศใต้ มีพื้นที่ 1,564,116 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 18 ของโลก และถือได้ว่าเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีประชากรอยู่เพียง 3.3 ล้านคนเท่านั้น จึงทำให้ประเทศมองโกเลียเป็นประเทศอธิปไตยที่มีประชากรอาศัยอยู่เบาบางมากที่สุดในโลก แบ่งออกเป็น 21 จังหวัดหรือไอแม็ก (Aimag) และแบ่งย่อยออกเป็น 331 อำเภอ (Sums) มีเมืองหลวงคือกรุงอูลันบาตอร์ (Ulaanbaatar/Ulan Bator) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่อาศัยถึงกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ

พื้นที่ส่วนใหญ่ของมองโกเลียเป็นที่ราบทุ่งหญ้าสเตปป์ที่เรียกว่า ที่ราบทุ่งหญ้ามองโกเลีย-แมนจูเรีย มีภูเขาและเขตที่หนาวเย็นอยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันตก มีทะเลทรายโกบีอยู่ทางด้านทิศใต้ โดยมีป่าไม้คิดเป็น 11.2% ของพื้นที่ทั้งหมด ประเทศมองโกเลียทั้งหมดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของที่ราบสูงมองโกเลีย โดยมีจุดที่สูงที่สุดได้แก่ยอดเขา Khüiten Peak หรือที่รู้จักกันในประเทศจีนในชื่อ Friendship Peak โดยมีความสูง 4,356 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีหิมะปกคลุมอย่างถาวร  

ในปัจจุบันมองโกเลียมีการปกครองโดยระบอบเสรีประชาธิปไตย (Parliamentary Republic) โดยเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบบสังคมนิยมเมื่อปี 1990 กว่า 30% ของประชากรยังคงใช้ชีวิตแบบคนเร่ร่อนหรือกึ่งเร่ร่อน ซึ่งยังคงมีการใช้ม้าและวัฒนธรรมม้าเป็นบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิต ดังคำกล่าวที่ว่า “ชาวมองโกลที่ไม่มีม้าก็เหมือนนกที่ไม่มีปีก” ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ อีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มไม่มีศาสนาและมีกลุ่มที่นับถือศาสนาอิสลามอยู่บ้างในกลุ่มชาติพันธุ์คาซัคสถาน พลเมืองบางส่วนย้ายถิ่นฐานไปอยู่ตามเมืองใหญ่ ๆ และเมืองหลวงเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานและเรียนหนังสือ ใช้ภาษามองโกล (Mongol Khalkha) เป็นภาษาราชการ สกุลเงินที่ใช้ได้แก่สกุลเงินตูริก (Tugrik) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยน 1,000 ตูริก ต่อ 23.55 บาท  

ทัวร์มองโกเลียแนะนำ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมองโกเลียในปัจจุบันยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่ชาวมองโกเลียต่างตระหนักดีถึงความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งหญ้าสเตปป์กว้างใหญ่ ภูเขาที่สลับซับซ้อน ทะเลสาบใสสะอาด สัตว์ป่าและปศุสัตว์มากมาย ซึ่งบางพื้นที่ห่างไกลจนทำให้คุณต้องขับรถกันทั้งวันและแทบไม่เจอผู้คนกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าการมาทัวร์มองโกเลียนั้นเป็นการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวท้องถิ่นแบบทุรกันดารอย่างแท้จริง โดยเฉพาะวัฒนธรรมเร่ร่อนอันเป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงของมองโกเลีย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลียสามารถเข้าไปนอนในกระโจมสักหลาดแบบดั้งเดิม ที่เรียกว่า herder's ger และยังสามารถช่วยต้อนฝูงแกะ ขี่ม้า ใช้ชีวิตแบบชาวทุ่งหญ้า รวมไปถึงสัมผัสกับวัฒนธรรมในการต้อนรับแขกผู้มาเยือนตามแบบฉบับของชาวมองโกลกันได้อย่างใกล้ชิด  

แนะนำเมือง มองโกเลีย น่าเที่ยว

1. ทัวร์มองโกเลีย อูลันบาตอร์ (Ulaanbaatar/ Ulan Bator)    

กรุงอูลันบาตอร์เป็นเมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย เป็นเมืองแรก ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกมาทัวร์มองโกเลีย ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของมองโกเลียขึ้นไปทางตอนเหนือ ได้รับการแต่งตั้งให้กลายเป็นเมืองหลวงในปี 1924 เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ โดยประชากรถึงกว่าเกือบครึ่งของประเทศอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ และถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองหลวงที่มีอากาศโดยเฉลี่ยหนาวมากที่สุดในโลก เมืองนี้ปกครองในฐานะของเทศบาลอิสระ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทั้งในด้านวัฒนธรรม อุตสาหกรรม การเงิน การคมนาคมและการขนส่งของมองโกเลีย โดยมีทางรถไฟเชื่อมต่อทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียในรัสเซีย และระบบรถไฟของประเทศจีน มีย่านใจกลางเมืองที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โซเวียตในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 ล้อมรอบไปด้วยอาคารคอนกรีตสำหรับพักอาศัยและตึกสูงหลายแห่ง เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ ย่านช้อปปิ้ง โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก สถานบันเทิง สนามกีฬา สวนสาธารณะ มีวัดและอารามเก่าแก่ที่โดดเด่น รวมไปถึงพระราชวัง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่น่าสนใจได้แก่ พระราชวังฤดูหนาวแห่ง Bogd Khan, วัด Choijin Lama, จัตุรัส Sükhbaatar, อาราม Gandantegchinlen, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกเลีย เป็นต้น

2. ทัวร์มองโกเลีย เซเลงเก (Selenge)    

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมองโกเลียบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ Orkhon และแม่น้ำ Selenge พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ตั้งชื่อตามแม่น้ำ Selenge เป็นหนึ่งในจังหวัดของมองโกเลียที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียทางธรรมชาติอันแสนงดงาม รวมไปถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นบ้านเกิดของจักรพรรดินี  Khulan แห่งเจงกิสข่าน โดยมีรูปปั้นของเจงกิสข่านและจักรพรรดินีขนาดใหญ่อยู่ที่จังหวัดนี้ด้วย ที่นี่เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการผลิตน้ำผึ้งของมองโกเลีย เป็นจังหวัดที่มีการปลูกผัก มันฝรั่ง รวมไปถึงข้าวสาลีแห่งใหญ่ของประเทศ เป็นจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายทรานส์-มองโกเลียของรถไฟทรานส์ไซบีเรียในมองโกเลีย และมีรถไฟ 2 ขบวนต่อวันจากเมืองหลวงมายังเมือง Sukh-Baatar ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัด Selenge โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่น่าสนใจได้แก่ อาราม Amarbayasgalant Khiid, ช่องเขา Saikhan, ทะเลสาบ Gun Nuur, อุทยานแห่งชาติ Tujiin Nars, Soronzon เป็นต้น  

3. ทัวร์มองโกเลีย อัมนูโกวี (Omnogovi)  

จังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมองโกเลีย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศในทะเลทรายโกบี มีเมืองหลวงคือดาลันซัดกัด (Dalanzadgad) เป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยแหล่งแร่มากมายทั้งทองคำและทองแดง ดังนั้นจึงมีการทำเหมืองแร่เป็นหลัก รองลงมาคือการทำเกษตรกรรมโดยการปลูกผักในโอเอซิสบางแห่ง เช่น ใน Dal ใกล้กลับเมือง Dalanzadgad การเดินทางมาที่จังหวัดนี้มีสนามบิน Dalanzadgad (ZMDZ/DLZ) ซึ่งให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ และเนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่หลากหลาย โดยนอกจากสถานที่ต่าง ๆ ภายในตัวเมืองแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอยู่หลายแห่ง เช่น Flaming Cliffs, อุทยานแห่งชาติ Gobi Gurvansaikhan และเนินทรายร้องเพลง Khongoryn Els, Yolyn Am Valley  เป็นต้น  

4. ทัวร์มองโกเลีย ดันโกบี (Dundgobi/ Dundgovi)  

เป็นอีกหนึ่งจังหวัดซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศมองโกเลีย มีเมืองหลวงคือมันดัลโกวี (Mandalgovi) เป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มกึ่งแห้งแล้งและเป็นเนินเขาเตี้ย ๆ อุณหภูมิร้อนจัดในฤดูร้อนและหนาวจัดในฤดูหนาว มีฝนตกน้อยและมีความชื้นในอากาศค่อนข้างต่ำ ดังนั้นที่นี่จึงมีปัญหาอันเกิดมาจากสภาพอากาศที่รุนแรง ทั้งพายุทรายและพายุฤดูร้อน แต่ก็เป็นจังหวัดที่มีความท้าทายสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวมองโกเลียในแถบทุรกันดารด้วยเช่นกัน ซึ่งการเดินทางมาที่นี่มีบริการขนส่งสาธารณะรวมถึงรถประจำทางให้บริการ แต่พื้นที่ชนบทส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในเส้นทางขนส่งสาธารณะ ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องใช้การเดินทางโดยรถไมโครบัส รถแท็กซี่ หรือโดยรถ Jeep ส่วนตัว ในขณะที่คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์ขนาด 250 ซีซี เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง อุตสาหกรรมหลักของจังหวัดคือการทำปศุสัตว์ และยังอุดมไปด้วยถ่านหิน แร่ทองแดง แร่เหล็ก โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่น่าสนใจของจังหวัดนี้ได้แก่ Tsagaan Suvarga Mine, Yolyn Am Gorge, อุทยานแห่งชาติ Ikh Gazriin Chuluu, Baga Gazriin Chuluu, Somon khukh oasis, Tsagaan stupa-pyramid, เนินทราย Uush เป็นต้น  

5. ทัวร์มองโกเลีย บายังฮองกอร์ (Bayanhongor)

เป็นจังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ของมองโกเลีย มีเมืองหลวงที่ใช้ชื่อเดียวกับจังหวัดคือบายันฮองกอร์ (Bayanhongor) ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลีย โดยมีรถประจำทางออกจากเมืองหลวงอูลันบาตอร์ทุกวัน มีท่าอากาศยาน Bayanhongor (BVN/ZMBH) ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร และถ้าหากต้องการเดินทางเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบของที่นี่ สามารถใช้บริการรถแท็กซี่และรถมินิบัสได้ ที่จังหวัดแห่งนี้มีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่มีความหลากหลาย เต็มไปด้วยภูเขาและป่าไม้ทางตอนเหนือ ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ทางตอนกลาง และทะเลทรายโกบีที่แห้งแล้งทางตอนใต้ จึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่น่าสนใจได้แก่ ทะเลสาบ Boon Tsaagan, ทะเลสาบ Orog Nuur, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์วิทยาแห่งบายังฮองกอร์, ,Dinosaur Park houses, อุทยานแห่งชาติ Gobi Gurvansaikhan, ถ้ำ Tsagaan เป็นต้น  

สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์มองโกเลีย ยอดนิยม

1. ทัวร์มองโกเลีย อาราม Amarbayasgalant Khiid

เป็น 1 ใน 3 ศูนย์กลางของพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลีย ตั้งอยู่ในหุบเขา Iven ใกล้แม่น้ำ Selenge ที่เชิงเขา Büren-Khaan ก่อสร้างขึ้นระหว่างปี 1727 และ 1737 โดยจักรพรรดิหย่งเจิ้ง สร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง เพื่อใช้เป็นสถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของ Zanabazar ผู้นำทางศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบแมนจูที่มีความสวยงามคล้ายกับวัดหย่งเหอ (Yonghe Temple) ในกรุงปักกิ่ง เดิมทีอารามแห่งนี้มีวัดถึง 40 แห่งที่ถูกจัดวางแบบสมมาตร มีวัดหลักคือ Tsogchin Dugana แต่หลังจากการกวาดล้างของพวกสตาลินในปี 1937 มีพระสงฆ์หลายรูปถูกประหารชีวิต ในขณะที่ทรัพย์สินต่าง ๆ และศาสนวัตถุของวัดถูกโจรกรรมไป โดยคงเหลือเพียงบางส่วนที่ถูกแอบซ่อนเอาไว้ ในปัจจุบันเหลือวัดอยู่ที่อารามแห่งนี้ทั้งหมด 28 วัด มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาประมาณ 40-50 รูป และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี 1996 จากองค์การยูเนสโก  

2. ทัวร์มองโกเลีย เนินทราย Khongoryn Els

เป็นเนินทรายที่ใหญ่และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในมองโกเลีย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่ได้รับความนิยม ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Gobi Gurvansaikhan อยู่ห่างจาก Dalanzadgad เมืองหลวงของจังหวัด Omnogovi ประมาณ 180 กิโลเมตร มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Duut Mankhan หรือเนินทรายร้องเพลง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากลมพัดผ่านเม็ดทราย ประกอบกับปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่เหมาะสมทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เนินทรายมีความสูงถึง 300 เมตร กว้าง 12 กิโลเมตร และมีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ทอดยาวไปถึงตีนเทือกเขาอัลไต ให้คุณได้สัมผัสกับปรากฏการณ์ธรรมชาติอันแสนน่าทึ่ง วิวทิวทัศน์ของทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงสัมผัสกับการเดินบนทะเลทรายกันได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่นี่ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการขี่อูฐของนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลียอีกด้วย  

3. ทัวร์มองโกเลีย อนุสาวรีย์เจงกิสข่าน (Chinggis Khaan Statue Complex)  

ตั้งอยู่ในอูลันบาตอร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของมองโกเลีย จุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาท่องเที่ยวมองโกเลีย อนุสาวรีย์แจงกิสข่านสีเงินแวววาวนั่งอยู่บนหลังม้า หันหน้าไปทางทิศที่เป็นทุ่งหญ้าสเตปป์มองโกเลียอันเป็นสถานที่เกิด โดยมีความสูงถึง 40 เมตร สร้างขึ้นในปี 2008 โดยทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม ตามตำนานเล่าว่าบริเวณนี้คือจุดที่เจงกิสข่านพบแส้ทองคำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ ภายในอนุสาวรีย์มีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซึ่งจัดแสดงวัตถุโบราณของชาวมองโกล แผนที่ขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง แสดงให้เห็นถึงดินแดนทั้งหมดที่เจงกิสข่านสามารถพิชิตได้ มีศูนย์นักท่องเที่ยว หอศิลป์ที่นำเสนอผลงานของศิลปินท้องถิ่น ห้องประชุม ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารและคาเฟ่ มีบันไดและลิฟท์ที่จะนำไปส่งจุดชมวิวซึ่งตั้งอยู่บนหัวม้าที่ระดับความสูง 30 เมตร โดยอนุสาวรีย์แจงกิสข่านนี้ถือเป็นหนึ่งใน 9 สิ่งมหัศจรรย์ของมองโกเลีย และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศกันเลยทีเดียว  

4. ทัวร์มองโกเลีย อาราม Erdene Zuu (Erdene Zuu Monastery)

คาดว่าที่นี่เป็นอารามพุทธนิกาย Gelug ของทิเบตที่เก่าแก่ที่สุดในมองโกเลีย ตั้งอยู่ในจังหวัด Övörkhangai ห่างจากใจกลางเมือง Kharkhorin ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร สร้างขึ้นในปี 1585 เพื่อเป็นการประกาศให้ศาสนาพุทธแบบทิเบตนั้นเป็นศาสนาประจำชาติของมองโกเลีย ได้มีการนำเอาหินจากซากปรักหักพังบริเวณใกล้เคียงมาใช้ในการก่อสร้าง มีสถูป 108 องค์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาพุทธ ผนังพระอุโบสถถูกทาสีและใช้หลังคาแบบจีนปูด้วยกระเบื้องสีเขียว ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในอารามที่ได้รับความเสียหายจากสงครามระหว่าง Dzungars และ Khalkha Mongols ในปี ค.ศ. 1688 และถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 18 แต่ในปี 1939 อารามแห่งนี้ถูกกวาดล้างโดยผู้นำคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกับอารามอีกหลายร้อยแห่งในมองโกเลีย โดยเหลือเพียงวัดเล็ก ๆ เพียง 3 แห่งและกำแพงด้านนอกเท่านั้น ในปัจจุบันที่นี่ยังคงเป็นวัดพุทธที่มีการใช้งานกันอยู่ รวมไปถึงใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลียได้เข้าชม บนเนินเขานอกอารามมีลึงค์หินคาร์คอริน (Kharkhorin Rock) ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถยับยั้งแรงกระตุ้นทางเพศของพระสงฆ์และช่วยให้พระสงฆ์สามารถละจากกิเลสได้  

5. ทัวร์มองโกเลีย หุบเขา Yolyn Am (Yolyn Am Gorge)

เป็นเส้นทางที่ท่องเที่ยวคาซัคสถานทางธรรมชาติมีความสวยงามในระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร โดยเป็นพื้นที่อนุรักษ์นกในเทือกเขา Gurvan Saikhan ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา Zuun Saikhan Nuruu จังหวัด Omnogovi อยู่ห่างจาก Dalanzadgad ไปทางตะวันตก 46 กิโลเมตร และอยู่ภายในทะเลทรายโกบี มีลักษณะของหุบเขาที่ลึกและแคบอันเป็นที่อยู่ของนกแร้งเครา ซึ่งภาษามองโกเลียเรียกกันว่า Yol อันเป็นที่มาของชื่อหุบเขา เส้นทางนี้เป็นบริเวณที่ถูกล้อมรอบด้วยช่องเขาสูง ทำให้ลำธารแคบ ๆ ที่ไหลผ่านหุบเขา ซึ่งได้เปลี่ยนกลายเป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาวละลายเพียงแค่บางส่วน และจะยังคงสภาพความเป็นน้ำแข็งเอาไว้ได้ตลอดทั้งปี  บริเวณหุบเขามีหน้าผาหินสีเทาธรรมชาติที่จะเปลี่ยนสีเมื่อดวงอาทิตย์สัมผัสกับแผ่นธารน้ำแข็งสีฟ้า เป็นที่อยู่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนกรวมถึงอีแร้ง Yol และนกสโนว์ค็อกแห่งอัลไต บริเวณทางเข้าของหุบเขามีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ช่วยให้คุณรู้จักนกและสัตว์ป่าที่อยู่ภายในหุบเขา Yolyn Am โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการทัวร์มองโกเลียที่หุบเขาแห่งนี้คือช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน  

6. ทัวร์มองโกเลีย หน้าผาเพลิง Flaming Cliffs (Bayanzag)  

Bayanzag หรือที่เรียกว่า Flaming Cliffs สถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียยอดนิยมที่ควรจะไปเห็นด้วยตาตัวเองกันสักครั้ง ตั้งอยู่ในทะเลทรายโกบีในอุทยานแห่งชาติ Gobi Gurvan ของจังหวัด Omnogovi ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นก้นทะเลโบราณที่มีอายุ 60 ถึง 70 ล้านปีก่อน เป็นสถานที่ซึ่งถูกค้นพบซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์เป็นจำนวนมาก โดยขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ถึง 8 ชนิด ซึ่งจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งมองโกเลีย ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่มีชื่อเสียงระดับโลก ชื่อของ Flaming Cliffs หรือผาเพลิง มาจากการที่หน้าผามีลักษณะเป็นสีแดงเพลิงเหมือนถูกไฟไหม้ในช่วงที่พระอาทิตย์ตกดิน เป็นช่วงเวลาที่ห้ามพลาดถ้าหากมีโอกาสได้มาทัวร์มองโกเลียกันที่หน้าผาแห่งนี้ ซึ่งในบางครั้งให้ความรู้สึกเหมือนกับได้ไปอยู่บนดาวเคราะห์สีแดงอย่างดาวอังคารกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่การขี่อูฐ 2 โหนก (Bactrian camel) ที่มีเฉพาะในทะเลทรายโกบีเท่านั้น รวมไปถึงการดูดาวบนหน้าผาเพลิงที่สามารถมองเห็นดาวนับพันล้านดวงและทางช้างเผือก

7. ทัวร์มองโกเลีย Tsagaan Suvarga

หน้าผาหินปูนหลากสีสันที่มีความสูงตั้งแต่ 30-60 เมตร และยาวถึงกว่า 400 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Ulziit ในจังหวัด Dundgobi ประมาณ 85 กิโลเมตร ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นก้นมหาสมุทรเนื่องจากมีการขุดค้นพบซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์และหอยทะเล คำว่า Tsagaan Suvarga มีความหมายคือ สถูปสีขาว จึงได้รับการตั้งชื่อตามรูปร่างที่คล้ายกับสถูปหรือเจดีย์ในทางพุทธศาสนา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่คล้ายกับหน้าผาเพลิงแต่มีสีสันของหน้าผาที่โดดเด่นมากกว่า ด้วยสีสันของหน้าผาทรายที่มีตั้งแต่สีขาว ม่วง ส้ม และแดง จัดเรียงเป็นริ้วลายทางที่แสนงดงามน่าอัศจรรย์ มีเส้นทางเดินขึ้นลงผ่านหน้าผาให้เป็นบางช่วง นอกจากนี้บริเวณหน้าผายังมีถ้ำ Khevtee Bosoo ความยาว 50 เมตร ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม และห่างจาก Tsagaan Suvarga ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ยังมีหน้าผาอีกแห่งที่มีโครงสร้างเหมือนกัน เรียกว่า Ulaan Suvarga หรือสถูปสีแดงอีกด้วย  

8. ทัวร์มองโกเลีย National Museum of Mongolia

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของมองโกเลียในเมืองอูลันบาตอร์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 นำเสนอภาพรวมของวัฒนธรรมมองโกเลียตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน บริเวณชั้น 1 จัดแสดงเกี่ยวกับยุคหินในมองโกเลียที่ขุดค้นพบ ชั้น 2 จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคกลางของ ชั้น 3 จัดแสดงคอลเลกชันที่มีตัวอย่างจริงของชุดเกราะมองโกลในช่วงศตวรรษที่ 12 จดหมายที่เขียนติดต่อระหว่าง Pope Innocent IV และ Guyuk Khaan เป็นภาษาละตินและเปอร์เซียลงวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1246 พร้อมตราประทับของข่าน รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมมองโกเลียแบบดั้งเดิม ไปจนถึงชุดของนักบินอวกาศชาวมองโกเลียคนแรกอย่าง Jügderdemidiin Gurragchaa และในโซนสุดท้ายมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านระบบการปกครองจากคอมมิวนิสต์เป็นประชาธิปไตยของมองโกเลีย  

9. ทัวร์มองโกเลีย พระราชวังฤดูหนาวแห่ง Bogd Khan (Winter Palace of the Bogd Khan)

พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงอูลันบาตอร์ สร้างขึ้นในระหว่างปี 1893 ถึง 1903 อันเป็นที่ประทับของ Jebtzun Damba Hutagt VIII ที่ต่อมาถูกแต่งตั้งให้เป็น Bogd Khan หรือผู้ปกครองมองโกเลีย และเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งมองโกเลีย ในปัจจุบันถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่มากที่สุด และมีของสะสมมากที่สุดในมองโกเลีย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียทางประวัติศาสตร์เพียงไม่กี่แห่งที่ยังไม่เคยถูกทำลายโดยโซเวียตหรือกองกำลังคอมมิวนิสต์ ภายในพระราชวังมีวัด 6 แห่งซึ่งจัดแสดงงานศิลปะทางพระพุทธศาสนา พระคัมภีร์ และทังกา อาคารสีขาวทางด้านตะวันตกเป็นพระราชวังฤดูหนาวที่จัดแสดงเกี่ยวกับชีวิตอันหรูหราไม่ธรรมดาของกษัตริย์ Bogd Khan และราชินี โดยรวมแล้วมีการจัดแสดงวัตถุโบราณถึงกว่า 8,600 ชิ้น และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์คาซัคสถานให้มาเยี่ยมชมถึงกว่า 40,000 คนต่อปี  

สภาพอากาศและฤดูกาลที่มองโกเลีย

ประเทศมองโกเลียนั้นได้ชื่อว่าเป็น "ดินแดนแห่งท้องฟ้าสีครามนิรันดร์" หรือ "ประเทศแห่งท้องฟ้าสีคราม" เนื่องจากมีแสงแดดมากกว่า 260 วันต่อปี และด้วยสิ่งกีดขวางทางธรรมชาติที่ล้อมรอบประเทศเอาไว้จึงทำให้มองโกเลียนั้นมีภูมิอากาศแบบทวีป (continental climate) ที่มีความผันผวนของสภาพอากาศอย่างรุนแรงในแต่ละวัน และจะเริ่มมีฝนตกตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน โดยสภาพอากาศของมองโกเลียสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดูกาล ดังนี้  

• ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงกลางเดือนมีนาคมจนถึงพฤษภาคม เป็นฤดูที่หิมะเริ่มละลายและกลางวันเริ่มยาวขึ้น สัตว์ต่าง ๆ เริ่มออกจากฤดูจำศีล เป็นฤดูที่มีลมแรงโดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลทรายโกบีที่มักเกิดพายุฝนอยู่บ่อยครั้ง สามารถฉีกกระโจมเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและพัดไปไกลได้หลายกิโลเมตร อุณหภูมิโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 12 °C   
   
• ฤดูร้อน อยู่ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม เป็นฤดูที่มีอากาศอบอุ่นเหมาะสำหรับการทัวร์มองโกเลียมากที่สุด เดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคมโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 21 °C และอุณหภูมิสูงสุดในทะเลทรายโกบีอยู่ที่ 40 °C หรือมากกว่านั้น   
   
• ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน เป็นฤดูที่เปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนไปสู่ฤดูหนาวที่มีความหนาวเย็นและแห้งแล้ง จึงเป็นช่วงที่มีอากาศแปรปรวนเป็นอย่างมาก ฝนเริ่มตกน้อยลงและอากาศจะเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ชาวบ้านจะทำการเก็บเกี่ยวผักและธัญพืชในช่วงเวลานี้ และเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ฤดูหนาว 
   
• ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นฤดูที่มีอากาศหนาวที่สุดและยาวนานมากที่สุด แหล่งน้ำต่าง ๆ เริ่มกลายเป็นน้ำแข็งจนเกือบทั้งหมด มีหิมะตกทั่วประเทศ เดือนที่หนาวที่สุดคือเดือนมกราคม อุณหภูมิสามารถลดลงได้ถึง - 40 °C และเป็นที่รู้กันดีว่าเมืองหลวงอูลันบาตอร์นั้นเป็นเมืองหลวงที่หนาวที่สุดในโลก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ -13˚C

เที่ยวทัวร์มองโกเลีย ใช้งบเท่าไหร่ 

นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่เดินทางไปทัวร์มองโกเลียจะได้รับการฟรีวีซ่า โดยสามารถท่องเที่ยวมองโกเลียได้นาน 30 วัน สำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการเที่ยวทัวร์มองโกเลีย สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

• ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ - อูลันบาตอร์ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 บาท  
• ค่าเดินทางภายในประเทศมองโกเลีย เริ่มต้นที่ประมาณวันละ 100 บาทต่อคน แล้วแต่ระยะทาง ประเภทของยานพาหนะ และสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียที่เลือกไป  
• ค่าที่พักเริ่มต้นที่ประมาณ 700 บาทต่อคืน แล้วแต่รูปแบบของที่พัก  
• ค่าอาหารและเครื่องดื่มเริ่มต้นที่ประมาณ 300 บาท ต่อวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของร้านอาหารที่เลือก  
• ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียต่าง ๆ เริ่มต้นที่ประมาณ 150 บาทต่อคน    

นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในข้างต้น จะเป็นในส่วนของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการช้อปปิ้ง การซื้อข้าวของกระจุกกระจิกต่าง ๆ ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละบุคคล โดยรวมเบ็ดเสร็จแล้วงบประมาณสำหรับการท่องเที่ยวทัวร์มองโกเลีย ประมาณ 5 วัน 3 คืน จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทต่อคนขึ้นไป แต่ถ้าหากไม่อยากวางแผนทัวร์มองโกเลียด้วยตัวเองให้ยุ่งยาก และสามารถควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายได้ แนะนำให้เลือกแพ็คเกจทัวร์มองโกเลียกับบริษัททัวร์ที่เชื่อถือได้จะเป็นการดีที่สุดค่ะ  

อาหารมองโกเลีย ที่ไปเที่ยวแล้วควรลอง

• Buuz เมนูยอดนิยมที่ไม่อยากให้พลาดเมื่อมาเที่ยวมองโกเลีย เกี๊ยวมองโกเลียไส้เนื้อยอดนิยมซึ่งถือได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติ นิยมกินกันในวัน Tsagaan Sar หรือวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติของมองโกเลีย มีสูตรแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ โดยทั่วไปมักทำด้วยแป้งและเนื้อแกะ หรือเนื้อวัว พร้อมส่วนผสมอื่น ๆ เช่น หัวหอม กระเทียม ต้นหอม ยี่หร่า นำไปนึ่งประมาณ 20 นาทีและกินด้วยมือ     
   
• Bansh หนึ่งในอาหารมองโกเลียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีลักษณะเป็นเกี๊ยวไส้เนื้อเช่นเดียวกับ Buuz แต่มีขนาดเล็กกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง มักนำไปต้มในน้ำซุปหรือทอด รวมไปถึงใช้นำไปทำเป็นส่วนผสมสำหรับเมนูอื่น ๆ หนึ่งในเมนูที่ใช้ Buuz เป็นวัตถุดิบคือ Banshtai tsai เป็นซุปนมชนิดหนึ่งที่ใส่เกี๊ยวลงไป เป็นเมนูที่น่าสนใจและอยากให้ลองเมื่อมาทัวร์มองโกเลีย   
   
• Khuushuur เมนูท้องถิ่นที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารรัสเซียที่อยากให้ลองเมื่อมาเที่ยวมองโกเลีย ลักษณะเป็นเกี๊ยวทอดที่มีส่วนผสมคล้ายกับ Buuz แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 4-6 เท่า มักมีรูปร่างเป็นวงรีหรือพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และมีน้ำมันมากกว่าเกี๊ยว 2 ชนิดก่อนหน้านี้มากเพราะนำไปทอด   
   
• Tsuivan อาหารจานเนื้อที่อยากให้ลองเมื่อมาทัวร์มองโกเลีย เนื่องจากเนื้อสัตว์เป็นวัตถุดิบหลักของมองโกเลีย เป็นเมนูเส้นที่ทำจากเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ เช่นเนื้อแกะ เนื้อวัว หรือเนื้อหมู ใช้บะหมี่เส้นแบนที่เตรียมขึ้นเอง นำไปคลุกเคล้าเคี่ยวกับผักและเนื้อในหม้อเพื่อให้บะหมี่สุกและซึมซาบส่วนผสมอย่างทั่วถึง เป็นหนึ่งในเมนูที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม เนื่องจากผู้ชายมองโกเลียชอบอาหารจานนี้มากจึงมีคำพูดทั่วไปว่า ถ้าหากผู้หญิงคนไหนสามารถทำ Tsuivan ได้ดีจะสามารถเป็นแม่บ้านที่ดีได้   
   
• Guriltai Shul เป็นอีกเมนูเส้นที่อยากให้ลองเมื่อมาเที่ยวมองโกเลีย มีความหมายตามตัวอักษรว่า "ซุปก๋วยเตี๋ยว" เป็นซุปปรุงรสง่าย ๆ ที่ทำมาจากเนื้อแกะหรือเนื้อต้มกระดูก ปรุงรสด้วยเกลือ ใช้บะหมี่เส้นแบนสั้น ๆ ที่ทำด้วยมือ พร้อมเนื้อติดมันเช่นเนื้อแกะหรือเนื้อวัว ใส่ผัก ต้นหอม มันฝรั่ง หรือแครอทลงไป โดยเส้นบะหมี่จะมีรูปร่างแบบไหนก็ได้ ขอเพียงแค่น้ำซุปอร่อยก็พอ   
   
• Borts ให้คุณได้สัมผัสรสชาติการถนอมอาหารด้วยวิธีของชาวเร่ร่อนในอดีตเมื่อมาเที่ยวมองโกเลีย มักทำด้วยเนื้อวัว แพะ หรือเนื้ออูฐ เป็นการนำเอาเนื้อสัตว์ที่แล่สด ๆ ไปสัมผัสกับอากาศเย็นเพื่อให้แห้งและเก็บรักษาเอาไว้ สามารถอยู่ได้นาน 1-3 ปี นิยมนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเมนูต่าง ๆ เช่น ในซุป เกี๊ยว และยังเป็นเมนูที่ถูกนำไปใช้เป็นแหล่งอาหารโดยนักบินอวกาศคนแรกของมองโกเลียอีกด้วย   
   
• Khorkhog บาร์บีคิวแบบดั้งเดิมของมองโกเลียที่คิดค้นโดยชนเผ่ามองโกเลียเร่ร่อน มักทำจากเนื้อแกะหรือแพะ พร้อมผักและพืชหัวที่ใส่ลงไปในโถลักษณะคล้ายหม้อ ใส่หินแม่น้ำที่ถูกนำไปทำให้ร้อนในกองไฟ จากนั้นนำมาใส่ลงในหม้อแล้วตามด้วยน้ำ เกิดเป็นไอน้ำที่ทำให้ผักและเนื้อสัตว์สุก และเมื่อวัตถุดิบสุกแล้วชาวมองโกเลียจะนำเอาก้อนหินในหม้อมาถูมือ โดยเชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคได้ ถ้าหากได้ไปเที่ยวมองโกเลียแล้วมีโอกาสได้กินเมนูนี้ ควรลองทำตามดูด้วยเช่นกัน   
   
• Boodog เมนูที่ใช้วิธีการเตรียมเนื้ออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวมองโกเลียเร่ร่อนด้วยการปรุงเนื้อให้สุกภายในผิวหนังของตัวสัตว์เอง นิยมใช้เนื้อแกะหรือเนื้อแพะ ส่วนที่ยากที่สุดคือการนำเอาเนื้อ กระดูก และเครื่องในออกโดยที่ไม่ทำให้ผิวหนังของสัตว์ฉีกขาด นำออกมาปรุงรสแล้วยัดกลับเข้าไปใหม่พร้อมกับผัก หินแม่น้ำ และน้ำ ก่อนที่จะปิดผิวหนังแล้วนำไปย่างบนกองไฟ เป็นเมนูท้องถิ่นโบราณที่ได้รับความเคารพอย่างสูง โดยชาวมองโกเลียมีคำพูดเกี่ยวกับเมนูนี้ว่า “คนที่ทำและกินบูด็อกด้วยกันจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดไปตลอดชีวิต”   
   
• Boortsog เมนูของกินเล่นประเภทแป้งทอดที่ได้รับความนิยมในมองโกเลียและประเทศในเอเชียกลาง สามารถหากินได้ทั่วไปเมื่อมาเที่ยวมองโกเลีย ทำมาจากแป้ง เนย น้ำ เกลือ และน้ำตาล นำมานวดแล้วตัดขึ้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ เช่น ทรงกลม สี่เหลี่ยมผืนผ้า นำไปทอดจนเป็นสีน้ำตาลทอง เป็นของว่างที่นิยมกินเปล่า ๆ กับชา หรือจะกินคู่กับเนย น้ำผึ้ง หรือชีสก็ได้   
   
• Airag นมม้าหมักตัวช่วยสำหรับการย่อยอาหาร เครื่องดื่มประจำชาติแบบดั้งเดิมของมองโกเลียที่ได้รับความนิยม มีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อยและมีแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 2% อุดมไปด้วยโปรตีน แร่ธาตุและวิตามิน ชาวมองโกเลียมักใช้เป็นเครื่องดื่มแก้วแรกที่มอบให้แขกเพื่อแสดงการต้อนรับ ดังนั้นมาเที่ยวมองโกเลียกันทั้งที ลองหาดื่มนมม้าหมักกันดู  

แหล่งช้อปปิ้งในมองโกเลีย ยอดนิยม

• ทัวร์มองโกเลีย ช้อปปิ้งที่ Galleria Ulaanbaatar ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่อยู่ใกล้กับจัตุรัสซุคบาตาร์ (Sukhbaatar Square) ในกรุงอูลันบาตอร์ แหล่งช้อปปิ้งที่รวบรวมของขวัญของฝากจากมองโกเลียเอาไว้ได้อย่างครบครันภายในที่เดียว และมีร้านขายผ้าแคชเมียร์ที่ใหญ่ที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มาทัวร์มองโกเลียแล้วอยากหาที่ซื้อของฝากและช้อปปิ้งกันแบบชิล ๆ   
   
• ทัวร์มองโกเลีย ช้อปปิ้งที่ Hunnu Mall ห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจรที่อยู่ห่างจากจัตุรัส Sukhbaatar Square ออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นอาคารสูง 3 ชั้นที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ชั้นนำมากมาย ที่ชั้น 1 มีสวน Hunnu Park ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ Jurassic Park มีการจัดแสดงซากโครงกระดูกจริงของไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งแล้วยังเต็มไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำกันอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่น สนามโกคาร์ท ลานสเก็ตน้ำแข็ง พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ โรงภาพยนตร์และร้านอาหาร ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการทัวร์มองโกเลียกันได้ทั้งวัน   
   
• ทัวร์มองโกเลีย ช้อปปิ้งที่ Naran Mall ศูนย์การค้าทันสมัยซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอูลันบาตอร์ ทางใต้ของ Peace Avenue บนถนน Seoul Street ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์ชั้นนำของโลก ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ ร้านกาแฟที่ไม่เหมือนใคร ร้านเสริมสวยที่ดีที่สุด ร้านอาหาร เครื่องประดับ และของที่ระลึก รวมไปถึงสถานบันเทิงมากมาย ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการได้มากกว่าแค่การช้อปปิ้งเมื่อมาเมื่อมาทัวร์มองโกเลีย   
   
• ทัวร์มองโกเลีย ช้อปปิ้งที่ Naran Tuul Market ตลาดนัดกลางแจ้งขนาดใหญ่ของคนท้องถิ่นในอูลันบาตอร์ ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าหรูหรา แต่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวมองโกเลียได้อย่างใกล้ชิด ที่ตลาดแห่งนี้คือที่ที่ผู้คนจากทุ่งหญ้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเพื่อหาซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ สำหรับการดำรงชีวิต โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ แต่ต้องระวังโจรล้วงกระเป๋ากันด้วย   
   
• ทัวร์มองโกเลีย ช้อปปิ้งที่ Zaisan Square Center ศูนย์การค้าอีกแห่งในอูลันบาตอร์ อาคาร 8 ชั้นที่มีพื้นที่สำหรับส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ร้านค้าปลีก ธนาคาร ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีทุกสิ่งให้เลือกสรร ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลียรวมไปถึงผู้คนในท้องถิ่นเนื่องจากรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัย ​​การตกแต่งภายในที่หรูหรา และทำเลที่ยอดเยี่ยม   
   
• ทัวร์มองโกเลีย ช้อปปิ้งที่ State Department Store ห้างสรรพสินค้าของรัฐที่อยู่ไม่ไกลจาก Sukhbaatar Square ในอูลันบาตอร์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีทุกสิ่งให้เลือกสรรตั้งแต่อุปกรณ์ตั้งแคมป์ไปจนถึงเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้ยังมีสินค้าจากแบรนด์ทั่วไป ข้าวของเครื่องใช้ ของฝากของที่ระลึก สินค้าพื้นเมือง และอื่น ๆ อีกมากมายในราคาที่ย่อมเยา  

โรงแรมและที่พักในมองโกเลียแนะนำ

1. ทัวร์มองโกเลีย พักที่ Best Western Premier Tuushin Hotel

ตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลียและพักที่เมืองหลวงอูลันบาตอร์ ห้องพักทันสมัยใจกลางเมืองท่ามกลางวิวภูเขาและวิวเมือง แวดล้อมไปด้วยร้านค้าร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ National History Museum, Genghis Khan Square, Zaisan Memorial, Choijin Lama Temple Museum เป็นต้น  

2. ทัวร์มองโกเลีย พักที่ Anak Ranch of Mongolia

ที่พักในเมือง Sukhbaatar เมืองหลวงของจังหวัดเซเลงเก (Selenge) ที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ใช้ชีวิตแบบชนบทได้อย่างแท้จริง เป็นฟาร์มปศุสัตว์ซึ่งดำเนินกิจการโดยครอบครัว ให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจไปกับวิวทิวทัศน์และธรรมชาติอันแสนงดงามโดยรอบ เพลิดเพลินไปกับการเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ การเดินป่า อิ่มอร่อยไปกับอาหารท้องถิ่น และบรรยากาศการต้อนรับอันแสนอบอุ่นที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมเมื่อมาทัวร์มองโกเลีย    

3. ทัวร์มองโกเลีย พักที่ Dalanzadgad Homestay

ที่พักที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบชาวมองโกเลียเร่ร่อนได้อย่างแท้จริง หากมีโอกาสมาทัวร์มองโกเลียกันที่จังหวัดออมเนอโกวี (Omnogovi) แนะนำให้มาลองพักที่นี่กันดูสักครั้ง เกสท์เฮาส์แบบกระโจมหรือ Mongolian Ger ที่อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ South Gobi ในเมือง Dalanzadgad มีบริการรับส่งจากสนามบินและบริการมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์พักค้างคืนและท่องเที่ยวมองโกเลียที่น่าตื่นเต้นไม่เหมือนใคร  

4. ทัวร์มองโกเลีย พักที่ Gobi Caravanserai

ที่พักสุดหรูในเมือง Mandalgovi จังหวัดดันโกบี (Dundgovi) ที่จะทำให้คุณหลีกหนีจากความวุ่นวายและเพลิดเพลินไปกับทะเลทรายโกบีในตำนาน ดื่มด่ำไปกับภูมิทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามและโรแมนติก ให้คุณได้สัมผัสกับการพักผ่อนในบรรยากาศเดียวกับกองคาราวานบนเส้นทางสายไหมในอดีต มีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ Tsagaan Suvarga Mine, Ikh Gazriin Chuluu Nature Reserve, Ongi Monastery เป็นต้น  

5. ทัวร์มองโกเลีย พักที่ Bayankhongor Ulziit palace

โรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองบายังฮองกอร์ (Bayanhongor) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจึงมีร้านค้า ร้านอาหาร และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างครบครัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกมาทัวร์มองโกเลียกันที่จังหวัด Bayanhongor โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวมองโกเลียใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ ทะเลสาบ Boon Tsaagan, ทะเลสาบ Orog Nuur, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์วิทยาแห่งบายังฮองกอร์, ,Dinosaur Park houses, อุทยานแห่งชาติ Gobi Gurvansaikhan, ถ้ำ Tsagaan เป็นต้น

แนะนำของฝาก มองโกเลีย

• ผลิตภัณฑ์ขนสัตว์หรือแคชเมียร์ ผลิตภัณฑ์ค่าขนสัตว์จากมองโกเลียถือได้ว่าเป็นของที่ดีที่สุดและมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ที่สุดในโลก ซึ่งมองโกเลียนั้นเป็นประเทศที่ผลิตแคชเมียร์รายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ดังนั้นจึงเต็มไปด้วยสินค้ามากมายที่ทำมาจากขนสัตว์หรือแคชเมียร์ โดยนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลียนิยมซื้อรองเท้าแตะขนแกะและผ้าห่มขนอูฐกลับไปเป็นของฝากกัน   
   
• โคมไฟเกลือ ชาวมองโกเลียเชื่อว่าเกลือช่วยชำระล้างพลังงานที่ไม่ดีออกจากร่างกายและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงมีการทำโคมไฟที่ทำมาจากเกลือมองโกเลีย เรียกว่า "Jamts" โดยออกแบบเป็นรูปทรงต่าง ๆ ที่สวยงามให้เราได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากเมื่อมาทัวร์มองโกเลีย   
   
• ช้อนส้อมเงิน ของที่ระลึกอีกอย่างหนึ่งที่แนะนำเมื่อมาทัวร์มองโกเลียคือเครื่องเงิน ซึ่งที่มองโกเลียนั้นมีประเพณีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติด้วยการใช้ภาชนะที่ทำจากเงินการเสิร์ฟเครื่องดื่ม ด้วยเหตุนี้ช้อนส้อมสีเงินจึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในของขวัญที่ดีที่สุดของชาวมองโกเลีย และกลายเป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์มองโกเลียด้วยเช่นกัน   
   
• ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวออร์แกนิก มองโกเลียเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าปศุสัตว์มากมายกว่า 60 ล้านตัว ดังนั้นวัตถุดิบที่ใช้ทำสกินแคร์ของที่นี่ส่วนใหญ่จึงทำมาจากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ พืชและสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีคุณภาพสูงและช่วยบำรุงผิวพรรณได้ดี ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวออร์แกนิกของที่นี่จึงเหมาะสำหรับการซื้อกลับไปเป็นของฝาก หรือซื้อไว้ใช้เองเป็นอย่างยิ่งเมื่อมาเที่ยวมองโกเลีย 
   
• Mongolia Ger กระโจมแบบดั้งเดิมของชาวเร่ร่อนที่พบได้ทั่วไป และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของมองโกเลีย แต่ไม่ใช่ว่าจะให้คุณซื้อ Ger ของจริงกลับไปด้วย โดยแนะนำให้ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้แพ็คเกจเป็น Mongolia Ger กลับไปเป็นของฝากกันดู ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตที่บรรจุในกล่องรูป Ger โคมไฟรูปทรง Ger เป็นต้น ซึ่งของที่ระลึกเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปเมื่อมาเที่ยวมองโกเลีย   
   
• หมวก เป็นเครื่องแต่งกายที่สำคัญและเป็นที่เคารพนับถือของชาวมองโกเลีย ผู้คนที่นี่มักจะเก็บหมวกและเข็มขัดเอาไว้ในที่สูงเสมอโดยไม่ให้สัมผัสกับพื้น ดังนั้นจึงมีหมวกหลากหลายรูปแบบและหลายประเภทให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากเมื่อมาทัวร์มองโกเลีย โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วทุกแห่ง หมวกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือหมวกขนสัตว์   
   
• ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ประเทศมองโกเลียมีการเลี้ยงวัวเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีสินค้าประเภทเครื่องหนังให้เลือกมากมายเต็มไปหมด ซึ่งหนึ่งในของที่ระลึกหรูหราที่สุดของมองโกเลียคือกระเป๋าหนังปัก นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ เข็มขัด รองเท้า ภาพวาดบนแผ่นหนัง เป็นต้น   
   
• Egg Shaped Doll ตุ๊กตารูปไข่ที่ทำมาจากไม้ ทาสีวาดลวดลายเป็นหน้าตาและการแต่งตัวของชาวมองโกเลีย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกทั่วไป เป็นหนึ่งในของฝากหน้าตาน่ารักจากมองโกเลียที่นักท่องเที่ยวนิยมเลือกซื้อกลับไปเมื่อมาทัวร์มองโกเลีย   
   

ดังนั้นใครอยากสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันแสนแปลกใหม่ในดินแดนที่ยังไม่ค่อยมีใครได้เข้าถึง สัมผัสกับธรรมชาติอันแสนงดงาม วิถีชีวิตของชาวทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ตามรอยเส้นทางสายไหมในอดีต ค้นพบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองหาโอกาสวางแผนเที่ยวทัวร์มองโกเลียกันดูสักครั้ง รับรองได้เลยว่าคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ ที่สามารถสร้างความประทับใจและกลายเป็นหนึ่งในประสบการณ์ชีวิตที่ยากจะลืมอย่างแน่นอน