อยากไปเที่ยวประเทศที่เก่าแก่แสนจะโรแมนติกแถมอาหารอร่อยเด็ด คงหนีไม่พ้นการไปทัวร์อิตาลี การเที่ยวอิตาลีจะทำให้คุณได้เปิดโลกกว้าง เพราะอิตาลีเป็นประเทศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศิลปะวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และศาสนา รวมไปถึงธรรมชาติอันงดงาม การไปทัวร์อิตาลีจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทาง ไม่ว่าจะมาเที่ยวอิตาลีแบบครอบครัว คู่รักแสนโรแมนติก หรือแม้แต่สายลุยเดี่ยว ทุกคนก็จะได้พบกับรสชาติการเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจพร้อมวิวหลักล้านที่จะทำให้ประทับมิรู้ลืม
ข้อมูลเที่ยวทัวร์อิตาลี
บอกได้เลยว่าความงดงามอันโดดเด่นของอิตาลีทำให้ยากที่จะไปเยือนอิตาลีเพียงเมืองเดียวหรือเพียงครั้งเดียว เพราะประเทศอิตาลีนั้นแบ่งออกเป็น 20 แคว้น ซึ่งแต่ละแคว้นก็มีเมืองเล็กเมืองใหญ่ที่น่าเที่ยวต่างกันไป ดังนั้นสำหรับคนทำงานที่ลางานไปทัวร์อิตาลีได้เพียงช่วงสั้นๆ ก็อาจจะทำให้คุณยังรู้สึกว่าไม่เต็มอิ่มกับการเที่ยวอิตาลีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงคัดภูมิภาคเด็ดๆ ที่คุณสามารถจัดทริปไปเที่ยวได้อย่างไม่ยากนักดังนี้
Lake District : โซนทะเลสาบที่งดงามจนกลายเป็นฉากหลังของหนังดังฮอลลีวูดหลากหลายเรื่อง หากอยากจะทัวร์อิตาลีในโซนนี้ ควรวางแผนไป Lake Como และ Maggiore เพื่อพบกับผืนน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับ ซึ่งมีฉากหลังเป็นเทือกเขาอัลไพน์ที่งดงาม
Tuscany : เที่ยวอิตาลีแบบเจาะลึกถึงธรรมเนียมท้องถิ่นที่แคว้น Tuscany ยลโฉมโรงบ่มไวน์ ต้นกำเนิดไวน์ดังระดับโลก และสำรวจเมืองฟลอเรนซ์อัญมณีแห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา อย่าลืมแวะเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันอย่าง Lucca และ Siena
Emilia-Romagna : การทัวร์อิตาลีคือสวรรค์ของคนชอบอาหารอย่างแท้จริง ดังนั้นต้องมาเยือนเมือง Bologna ที่อยู่ในแคว้นนี้ ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป แถมยังโดดเด่นด้วยอาหารดั้งเดิมที่แสนอร่อย
ทัวร์อิตาลีแนะนำตามเมืองยอดนิยม
ทัวร์เวนิส
การมาเยือนเวนิสจะทำให้คุณซึมซับวัฒนธรรมที่มีสีสันได้อย่างสนุกสนาน ดังนั้นจึงต้องปักหมุดพิกัดทัวร์เวนิสไว้ด้วย สำหรับการเที่ยวเวนิสนั้นแนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน เพราะวันแรกคือการสำรวจสถานที่สำคัญในเวนิส เช่น St. Mark's Basilica, St. Mark's Square, Doge's Palace, Grand Canal ส่วนในวันที่สองแนะนำให้ออกล่องเรือไปตามเกาะสวยๆ เช่น Murano เมืองเล็กๆ ที่มีสีสันสดใสราวกับลูกกวาด
ทัวร์มิลาน
สายแฟชั่นและสายช้อปปิ้งต้องมาทัวร์มิลานให้ได้ เพราะมิลานเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของอิตาลี นอกจากนี้เมืองมิลานยังมีแลนด์มาร์กสำคัญที่ถ่ายรูปแล้วรู้อย่างแน่นอนว่าเราได้มาเที่ยวอิตาลี เช่น Duomo อันโด่งดังที่งดงามทั้งกลางวันและกลางคืน อย่าลืมสำรวจเมืองด้วยการเดินเล่นตามถนนสายเล็กๆ พร้อมแวะแหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนมที่ราคาดีต่อใจ
ทัวร์โรม
มาเที่ยวอิตาลี หากไม่มาเยือนเมืองหลวงอย่างโรมก็กระไรอยู่ โรมถือเป็นเมืองที่น่าทึ่งเพราะมีส่วนผสมที่ลงตัวของประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปะ และวัฒนธรรม แถมอาหารยังอร่อยมากๆ อีกด้วย และหากได้มาทัวร์โรม แลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดก็คือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ชื่อดัง เช่น โคลอสเซียม พิพิธภัณฑ์วาติกัน น้ำพุเทรวี วิหารแพนธีออน
ทัวร์เจนัว
หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเมืองเจนัวร์ แต่รู้ไหมว่าเมืองๆ นี้เคยเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและเป็นเมืองหลวงทางทะเลของโลกมานานกว่า 700 ปี เมืองเจนัวร์นั้นเป็นเมืองหลวงของแคว้นลิกูเรียและยังมีท่าเรือที่สำคัญที่สุดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย ดังนั้นการมาเที่ยวเจนัวควรจะปักหมุดไว้ที่ Porto Antico ท่าเรือเก่า จากนั้นค่อยสำรวจสสถานที่ที่ได้รับรองให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกซึ่งได้แก่ ถนนช้อปปิ้ง Via Garibaldi และ Via Cairoli
ทัวร์ตูริน
เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองที่สำคัญของยุโรป ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1563 ดังนั้นจึงมีแลนด์มาร์กที่น่าสนใจสำหรับคนมาทัวร์อิตาลีอย่างแน่นอน ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่า Paris of Italy ด้วยเหตุที่ว่ามีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทางรถรางแบบเก่า และโบสถ์ที่ออกแบบอย่างวิจิตรบรรจงเอาไว้มากมาย นอกจากนี้ตูรินยังเป็นสวรรค์ของนักชิม เพราะมีร้านกาแฟหรูหราและเก่าแก่อย่างเช่น Baratti & Milano และ Caffè Mulassano
ทัวร์อิตาลี ตามเทศกาลยอดนิยม
Carnevale
อยากทัวร์อิตาลีให้คุ้มต้องมาเยือนช่วงเทศกาลสำคัญอย่าง Carnevale เทศกาลนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 งาน Carnevale จัดขึ้นทุกๆ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยจะจัดราวๆ 2 สัปดาห์ ผู้ที่เข้าร่วมเทศกาลจะสวมหน้ากากตามอาชีพของตน มีกิจกรรมมากมาย เช่น คอนเสิร์ต ปาร์ตี้ ขบวนพาเหรด ดังนั้นหากมาเที่ยวอิตาลีในช่วงเดือนนี้จึงไม่ควรพลาดเป็นอันขาด
Battle Of Oranges
ถือเป็นเทศกาลที่แสนจะสนุก เหมาะกับการมาทัวร์อิตาลีเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเทศกาลนี้มีที่มาน่าสนใจมาก เพราะการปาส้มแสดงถึงการลุกฮือที่เกิดขึ้นในอิตาลีกับผู้ปกครองที่โหดร้ายอย่าง Ranieri di Bankrate ผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะแข่งกันขว้างปาส้มใส่กัน หากมาเที่ยวอิตาลีช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แนะนำให้ลองไปที่เมือง Ivrea เพื่อไปสัมผัสความสนุกด้วยตนเอง
เทศกาลวันอีสเตอร์
สนุกสนานไปกับขบวนพาเหรด แต่ที่เด็ดสุดคือ ดอกไม้ไฟ Scoppio del Carro ในเมืองฟลอเรนซ์ โดยในวันอีสเตอร์ รถดอกไม้ไฟจะออกจาก Porta al Prato จากนั้นจะมีการจัดแสดงดอกไม้ไฟเต็มรูปแบบใช้เวลาประมาณ 20 นาที นอกจากนี้ยังเชื่อว่าใครมางานนี้จะโชคดีอีกด้วย ดังนั้นสายมูที่มาทัวร์อิตาลีจึงห้ามพลาด
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์อิตาลี ยอดฮิต
โคลอสเซียม (Colosseum)
เชื่อว่าการมาทัวร์อิตาลีคงไม่พลาดการมาเยือนโคลอสเซียมอย่างแน่นอน สนามกีฬาแห่งนี้มีอัฒจันทร์เป็นรูปวงรี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโรม และถือเป็นอัฒจันทร์โบราณที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมา การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปีค.ศ. 69 ภายใต้จักรพรรดิ Vespasian สามารถรองรับผู้ชมได้มากถึง 80,000 คน แต่ด้วยความเก่าแก่ ปัจจุบันจึงจำกัดจำนวนผู้เข้าชมไว้ที่ 3,000 ต่อวันเท่านั้น ดังนั้นหากวางแผนจะไปเที่ยวอิตาลีแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้า
Location : Piazza del Colosseo, 1, 00184 Roma RM, Italy
เวนิส (Venice)
เมืองที่แสนจะโรแมนติกอย่างเวนิสนั้นมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 5 แต่ในช่วง 1200 ปีที่ผ่านมา เมืองและอาคารต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปหลายครั้ง การมาเที่ยวอิตาลีและมาเยือนเวนิสก็เปรียบเสมือนการมาทัวร์พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เพราะทุกตรอกซอกซอยนั้นเก่าแก่และน่าค้นหา แถมการนั่งเรือกอนโดลาพร้อมฟังเสียงร้องนั้นก็ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
Location : Venice, Metropolitan City of Venice, Italy
ปอมเปอี (Pompeii)
สำหรับใครที่มาทัวร์อิตาลีทางแถบเนเปิ้ล สามารถแวะมาเมืองปอมเปอีได้ไม่ยาก เพราะอยู่ห่างเพียง 23 กม. เท่านั้น หลังจากที่ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิด จนทำให้ลาวาไหลปกคลุมเมืองปอมเปอี อาคารต่างๆ ถูกทำลาย ชาวเมือง 2,000 คนต่างก็ถูกฝังไว้ใต้เถ้าถ่าน ซึ่งเศษซากทุกอย่างถูกเก็บรักษาไว้หลายศตวรรษ จนกระทั่งมีการถูกค้นพบในปี 1700 ปัจจุบันมีการบูรณะซ่อมแซมในหลายๆ ส่วนและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
Location : Via Villa dei Misteri, 2, 80045 Pompei NA, Italy
หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa)
หากเอ่ยถึงแลนด์มาร์กดังของการมาทัวร์อิตาลีก็คงหนีไม่พ้นหอเอนปิซ่าอย่างแน่นอน หอเอนปิซ่ามีความเอียง 3.9 องศาจากแนวตั้ง สูง 58 เมตร และใช้เวลาสร้างยาวนานเกือบ 200 ปี ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ในอีก 600 ปีข้างหน้า หอคอยยังคงเอียงอยู่ที่ประมาณ 1 มม. ต่อปี ดังนั้นหากอยากทัวร์อิตาลีเพื่อไปชมหอเอนปิซ่าควรจะต้องจองล่วงหน้าเสียก่อน เพราะมีการจำกัดคนเข้าชมครั้งละ 45 คนต่อรอบเท่านั้น
Location : Piazza del Duomo, 56126 Pisa PI, Italy
วิหารแพนธีออน (Pantheon)
ถือเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของการทัวร์อิตาลี การก่อสร้างวิหารแพนธีออนเริ่มขึ้นในสมัยของเฮเดรียนในปี ค.ศ. 126 สิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ วิหารมีโดมคอนกรีตที่ใหญ่ที่สุดในโลก วงแหวนทรงกลมบริเวณโดมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 9 เมตร ทำหน้าที่เป็นนาฬิกาแดดขนาดใหญ่ ตลอดจนเป็นทางผ่านให้กับแสงที่ส่องเข้ามาที่ประตูทางเข้าวิหารในทุกวันที่ 21 เมษายนอีกด้วย
Location : Piazza della Rotonda, 00186 Roma RM, Italy
สภาพอากาศและฤดูกาลของประเทศอิตาลี
การเที่ยวอิตาลีให้สนุกต้องคำนึงถึงสภาพอากาศเป็นลำดับต้นๆ เพราะบางทีวางแผนทัวร์อิตาลีแสนจะโรแมนติกไว้เป็นอย่างดี แต่กลับเจอคลื่นความร้อนหรือน้ำท่วม การเที่ยวอิตาลีก็คงหมดสนุกไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นแวะมาดูว่าสภาพอากาศในการท่องเที่ยวอิตาลีเดือนไหนดีที่สุด
- ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มต้นราวๆ มีนาคมถึงพฤษภาคม ช่วงฤดูนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการไปทัวร์อิตาลี อุณหภูมิจะอยู่ที่ราวๆ 5 - 12 °C ทำให้อากาศเย็นสบาย
- ฤดูร้อน เริ่มเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ถือเป็นฤดูท่องเที่ยว อากาศร้อนมากในบางพื้นที่ ช่วงนี้ค่าที่พักอาจจะปรับตัวขึ้นสูง เพราะเป็นช่วงไฮซีซัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงช่วงนี้หากทำได้
- ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อุณหภูมิอิตาลีตอนกลางอยู่ที่ 13 - 21°C อุณหภูมิในช่วงนี้ไม่หนาวจนเกินไป แถมได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามทั่วอิตาลีเช่น Tuscany, Le Marche และ Piedmont
- ฤดูหนาว เริ่มที่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวเริ่มหายเพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็น หากอยากไปทัวร์อิตาลีช่วงนี้อาจจะต้องคิดดีๆ เพราะทางเหนืออย่างมิลานอุณหภูมิจะอยู่ที่ −2 ถึง 8 °C ส่วนทางตอนกลางจะอยู่ที่ 20 °C แต่สำหรับคนที่ชอบเล่นหิมะ ก็แวะไปเที่ยวอิตาลีที่เมืองสกีอย่าง Dolomites และ Val d'Aosta ได้
เที่ยวทัวร์อิตาลี ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ?
ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวอิตาลีสักครั้งในชีวิต ไม่ต้องคิดหนักจนเหนื่อยใจ เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นเราสามารถคำนวณล่วงหน้าได้ ยิ่งวางแผนเนิ่นๆ ค่าใช้จ่ายบางส่วนก็อาจจะประหยัดยิ่งขึ้นอีกด้วย เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจองตั๋วรถไฟ ดังนั้นลองมาค้นหาคำตอบกันว่าค่าใช้จ่ายของทัวร์อิตาลีอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆ ในการไปเที่ยวอิตาลีก็ว่าได้ แต่แนะนำว่าหากคอยตามโปรโมชันดีๆ อาจจะเจอตั๋วบินอิตาลีไทยถูกกว่าไปญี่ปุ่นก็เป็นได้ โดยจากข้อมูลของ sky scanner พบว่าหากจองตัวเครื่องบินต้นปี 2023 ตั๋วไปกลับราคาปกติเริ่มต้นราวๆ 21,000 บาท
- ค่าที่พัก สายบัดเจ็ทแนะนำให้ลองหาห้องราคาดี รีวิวแจ่มจากใน Airbnb ซึ่งเราพบว่าสำหรับทริป 7 วันและเลือกพักในตัวเมืองมิลาน ค่าที่พักแบบเป็นส่วนตัวมีห้องน้ำ พร้อมด้วยห้องครัวสำหรับการพัก 7 วันราคาสำหรับ 2 คนตกอยู่ที่ราวๆ 17,400 บาท เท่านั้น หากหารกัน 2 คนก็เหลือเพียง 8,700 บาทเท่านั้น
- ค่าอาหาร จริงๆ หากเราเลือกที่พักที่มีครัว เราก็สามารถประหยัดค่าอาหารเช้าและมื้อเย็นได้ หรือหากเน้นทาน 2 มื้อข้างนอก ให้เฉลี่ยว่าตกมื้อละ 15 ยูโร หรือราวๆ 600 บาทต่อมื้อ ทานข้างนอก 2 มื้อก็จะเป็นวันละ 1,200 บาท โดยรวมทริป 7 วันจะอยู่ที่ 8,400 บาท
- ค่าเดินทาง ตรงนี้แนะนำให้จองตั๋วรถไฟเดินทางระหว่างเมืองล่วงหน้าเพราะราคาจะถูกมากๆ บางทีดีกว่าการซื้อพาสสำหรับเดินทางเสียอีก ส่วนในตัวเมืองค่ารถไฟฟ้าหรือรถบัสก็ไม่แพงเลย หากไม่นั่งแท็กซี่ เราประเมินค่าเดินทางภายในประเทศต่อคนไว้ที่ 5,000 บาท
อาหารอิตาลี ที่ไม่ควรพลาด
พิซซ่า (Pizza)
แม้จะยังไม่เคยไปทัวร์อิตาลี แต่เราต่างก็รู้ดีว่าพิซซ่านั้นถือกำเนิดมาจากประเทศนี้อย่างแน่นอน แต่ที่ไม่รู้ก็คือ พิซซ่าที่อร่อยที่สุดต้องไปชิมด้วยตนเองที่เมืองเนเปิลส์เท่านั้น หากมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวอิตาลี แนะนำให้แวะร้านพิซซ่าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง Antica Pizzeria Port’Alba ที่เนเปิลส์ ส่วนคนที่ไม่มีโอกาสไปเนเปิลส์ ก็อยากให้ลองชิมพิซซ่ารสดั้งเดิม ซึ่งหาทานได้ทั่วอิตาลีอย่างพิซซ่ามาการิต้า พิซซ่าที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในอิตาลี
ลาซานญา (lasagna)
หลายคนมักจะสั่งพิซซ่าแล้วต้องแจมด้วยลาซานญาอยู่เสมอ แต่รู้ไหมว่าหากไปเที่ยวอิตาลีเราจะได้เจอลาซานญาที่หลากหลายสูตรอย่างแน่นอน ลาซานญาเป็นชื่อของพาสต้าที่มักเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำจากแป้งและไข่ โดยลาซานญามีต้นกำเนิดจากแคว้น Emilia Romagna
พาสต้า (Pasta)
อาหารเส้นๆ ในอิตาลีที่เรานึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นพาสต้า ดังนั้นหากมีโอกาสไปทัวร์อิตาลีก็ต้องไปชิมรสชาติแบบต้นฉบับ พาสต้าทำจากแป้งสาลีอาจจะแห้งหรือเป็นพาสต้าสดก็ได้ แถมเส้นยังมีหลายแบบ เหมือนเส้นเล็กเส้นใหญ่บ้านเรา หากไปเที่ยวอิตาลีควรสั่งพาสต้าหน้าออริจินัลอย่างหน้า aglio, al pomodoro เป็นต้น
ทิรามิสุ (Tiramisu)
สายหวานที่ชอบทัวร์ร้านขนมจะต้องไม่ลืมที่ลิ้มลองทิรามิสุ ของหวานชนิดนี้มีรสกาแฟ ทำจากเลดี้ฟิงเกอร์ กาแฟ และใส่ส่วนผสมอย่างไข่ น้ำตาล มาสคาร์โปนชีส รวมถึงปรุงรสด้วยโกโก้ โดยต้นกำเนิดของทิรามิสุยังไม่ชัดเจน แต่ว่ากันมาอาจจะมาจาก Veneto หรือ Friuli Venezia Giuli
ริซอตโต (Risotto)
หากมาทัวร์อิตาลีแล้วอยากโหลดคาร์บอย่างข้าวแต่หาไม่ได้ แนะนำให้ลองริซอตโตแทน เพราะริซอตโตนั้นเป็นอาหารทางเหนือของอิตาลี ที่มีวิธีการหุงข้าวแบบวิธีดั้งเดิมและปรุงด้วยน้ำซุป ใส่เนย หัวหอม และไวน์ขาวให้กลมกล่อม
แนะนำแหล่งช้อปปิ้งในอิตาลี
Galleria Vittorio Emanuele II
ไปทัวร์มิลานพลาดไม่ได้กับการแวะช้อปห้างอลังการอย่าง Galleria Vittorio Emanuele II ที่นี่ถือเป็นห้างที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลีและเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิลาน ด้านในมีทั้งร้านแบรนด์เนมและร้านอาหารชื่อดังอยู่มากมาย
Location : P.za del Duomo, 20123 Milano MI, Italy
Via Del Corso
เที่ยวเมืองหลวงอย่างโรมก็ต้องไม่ลืมแวะซื้อของฝาก ที่นี่จะทำให้การมาทัวร์อิตาลีของคุณสมบูรณ์แบบ เพราะเป็นถนนคนเดินแถมด้วยมีร้านค้าแบรนด์และร้านท้องถิ่นมากมายให้เลือกช้อปปิ้ง เปิดทุกสุดสัปดาห์ตั้งแต่ 14.00 น. ถึง 18.00 น.
Location : 00187 Rome, Metropolitan City of Rome Capital, Italy
Via Giovan Battista Zannoni
มาแวะเที่ยวฟลอเรนซ์ต้องไม่ลืมที่จะซื้อเครื่องหนังชั้นดีติดไม้ติดมือกลับไป และจะไปแวะช้อปที่ไหนไม่ได้หากไม่ใช่ที่ Via Giovan Battista Zannoni แถบนี้มีร้านขายเครื่องหนังสไตล์ฟลอเรนซ์อยู่มากมาย ทั้งดีไซน์ ราคาและคุณภาพก็ยอดเยี่ยมจนขนกลับแทบไม่ไหว
Location : 00119 Rome, Metropolitan City of Rome Capital, Italy
โรงแรมและที่พักในอิตาลี ยอดนิยม
Hotel Mirage Sure Hotel Collection by Best Western
ที่พักในมิลานเมืองแฟชั่นราคาอาจจะสูง แต่หากฉายเดี่ยวและเลือกดีๆ ก็จะได้ห้องพักในราคาที่สู้ไหวอย่างโรงแรมในเครือ Best Western ห้องเดี่ยวเป็นส่วนตัว ห้องน้ำในตัว มีแบรนด์และสะอาดราคาเริ่มต้น 2,800+ บาท
Free Hostels Roma
เที่ยวทัวร์อิตาลีและไปเยือนเมืองเก่าแก่แบบโรม แนะนำให้นอนโฮสเทลใจกลางเมืองที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟอย่าง Free Hostel สะดวกและประหยัด โดยราคาเตียงเดี่ยวเพียง 1,200+ บาท
Hotel Villa Rosa
เที่ยวเวนิสแสนคลาสสิค แม้เวนิสจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแต่โรงแรมราคาสูง แต่ก็ไม่ยากในการหาที่พักราคาประหยัดที่เป็นห้องส่วนตัว มีห้องน้ำในตัว แถมเดินทางสะดวกอย่าง Hotel Villa Rosa ที่มีราคาเริ่มต้น 2,200+บาท
ของฝากจาก อิตาลี ที่ควรซื้อกลับ
น้ำมันมะกอก
ของที่ระลึกสุดคลาสสิคที่ใครๆ ก็ต้องชอบ เพราะเลื่องชื่อมากมายหากผลิตในอิตาลี ยิ่งหากมาในช่วงเก็บเกี่ยวมะกอกในฤดูใบไม้ร่วง ก็จะหาซื้อน้ำมันมะกอกสด ๆ ได้ง่ายมาก
ไวน์
อิตาลีมีจุดเด่นในเรื่องไวน์ที่หลากรสชาติ ดังนั้นหากคุณเป็นแฟนไวน์ตัวยง อย่าลืมเลือกซื้อไวน์หิ้วกลับไปชิมเองหรือฝากเจ้านายและญาติผู้ใหญ่
หม้อต้มกาแฟโมก้าพอต
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าหม้อต้มกาแฟแสนอร่อยของแท้นั้นมาจากอิตาลี ดังนั้นหากมาเยือนที่นี่คุณจะได้เจอหม้อต้มโมก้าพอตหลากสีหลายสไตล์ ที่สำคัญราคาถูกกว่าเมืองไทยเป็นเท่าตัว
จะเห็นได้ว่าค่าที่พัก ค่าเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวันโดยทั่วไป หากเราคุมค่าใช้จ่ายและคำนวณล่วงหน้าก่อน การเดินทาง เราก็จะสานฝันการเที่ยวอิตาลีให้เป็นจริงได้ เพราะโรงแรมที่อิตาลีก็มีราคาหลักพันพอๆ กับเมืองไทย แต่ต้องไม่ลืมว่ายังมีค่าใช้จ่ายยิบหย่อยที่ลืมไม่ได้ เช่น ค่าวีซ่า ค่าของฝาก ค่าช้อปปิ้ง ที่ควรนำมาคิดวิเคราะห์ก่อนด้วยเช่นกัน จากนั้นค่อยวางแผนเก็บเงินและวางแผนการเดินทางอย่างรัดกุมอีกที เชื่อว่าฝันในการเดินทางทัวร์อิตาลีของคุณเป็นจริงได้อย่างแน่นอน