หากมีเพื่อนจัดทริปทัวร์ลัตเวีย คุณอาจจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดการไปทัวร์ลัตเวียถึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ เพราะประเทศเล็กๆ ในยุโรปตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้ แม้จะไม่ได้เป็นพิกัดยอดฮิตสำหรับนักเที่ยว แต่การท่องเที่ยวลัตเวียกำลังได้รับความนิยมจากนักเดินทางจำนวนมากที่มองหาธรรมชาติที่กว้างใหญ่ สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง และภูมิประเทศที่น่าหลงใหล แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของลัตเวีย เพราะแท้จริงแล้วลัตเวียยังมีทั้งศิลปวัฒนธรรมและความแตกต่างในหลายแง่มุม ซึ่งคุณต้องมาสำรวจด้วยตัวเองเท่านั้นจึงจะค้นหาความจริงได้
ข้อมูลเที่ยวทัวร์ลัตเวีย
ในแง่ของการทัวร์ลัตเวีย การผจญภัยมักจะเริ่มต้นที่เมืองหลวงอย่างริก้า แล้วค่อยต่อด้วยการสำรวจชายหาดทะเลบอลติกที่กว้างใหญ่ ที่สำคัญลัตเวียยังเป็นดินแดนแห่งแม่น้ำ 12,000 สาย และทะเลสาบ 3,000 แห่ง ซึ่งกลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วมุมโลก ส่วนคนที่อยากเที่ยวลัตเวียเพื่อสัมผัสแลนด์มาร์กสวยคลาสสิก ที่นี่ก็มีทั้งเมืองริก้าที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “ปารีสแห่งแดนเหนือ” เพราะในอดีตลัตเวียเคยเป็นศูนย์กลางของศิลปะที่งดงามอย่าง Art Nouveau ความวิจิตรบรรจงเหล่านี้ทำให้นักท่องเที่ยวสำรวจลัตเวียได้อย่างไม่รู้จบ และจะพบว่าการมาเยือนลัตเวียนอกจากจะสวยจับใจแล้ว ยังเที่ยวได้สนุกไม่แพ้ที่ไหนในโลกอีกด้วย
ทัวร์ลัตเวียตามเมืองยอดนิยม
ริก้า (Riga)
การจัดทริปทัวร์ลัตเวียควรจะต้องเริ่มต้นที่เมืองหลวงอย่างริก้า เมืองที่สง่างามจนถูกเรียกว่าเป็นปารีสในแถบทะเลบอลติก การเที่ยวลัตเวียให้ครบรส แนะนำให้เริ่มจากย่านเมืองเก่า หรือ Vecriga ที่แสดงถึงความเป็นยุคกลาง แม้ว่าแท้จริงแล้วสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่จะได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1990 นอกจากนี้ในริก้ายังมีแลนด์มาร์กหลักที่สำคัญอย่าง Centrs ที่จะพาเราเข้าสู่โลกแห่งเทพนิยาย ด้วยบรรยากาศของสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตนูโว ซึ่งมีอาคารที่ยังคงสภาพสมบูรณ์กว่า 800 หลัง
เจอร์มาลา (Jurmala)
นักเดินทางที่อยากทัวร์ลัตเวียพร้อมสัมผัสกับบรรยากาศแบบชายทะเล ขอแนะนำให้มาเยือนเมืองเจอร์มาลา เพราะเมืองนี้เป็นสถานที่สำหรับตากอากาศริมชายทะเลที่สวยงามด้วยวิลลาไม้สไตล์อาร์ตนูโว นอกจากนี้ยังมีป่าสนที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและช่วยเติมบรรยากาศวันหยุดในการเที่ยวลัตเวียให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สำหรับนักเดินทางที่มาเที่ยวลัตเวียแต่มีเวลาไม่เยอะนัก สามารถทำทริปเที่ยวเจอร์มาลาแบบไปเช้าเย็นกลับจากริก้าได้เช่นกัน
ซิกุลดา (Sigulda)
ซิกุลดาเป็นเมืองโรแมนติกในหุบเขาที่งดงาม การทัวร์ลัตเวียในเมืองซิกุลดาจะทำให้เราได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเมืองอย่างใกล้ชิด เมืองเมืองนี้มีชื่อเล่นว่าสวิตเซอร์แลนด์แห่งลัตเวียเนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม นอกจากนี้ยังเหมาะกับสายเที่ยวลัตเวียที่สนใจด้านสถาปัตยกรรม เพราะในเมืองมีอาคารที่น่าทึ่งอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น Krimulda Manor ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ล้อมรอบด้วยสวนที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีปราสาทจากยุคกลางหลายแห่งที่รอให้คุณมาสำรวจด้วยเช่นกัน
ลีปาจา (Liepaja)
เมืองชายทะเลที่เหมาะกับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และเน้นทัวร์ลัตเวียแบบเจาะลึก ลีปาจาเป็นเมืองที่มีประวัติอันยาวนาน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทะเลบอลติก ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของลัตเวียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แถมเมืองนี้ยังเคยถูกแบ่งแยก โดยครึ่งหนึ่งเป็นศูนย์กลางดั้งเดิม ส่วนอีกครึ่งจะเป็นเมืองทางเหนือที่เรียกว่า Karosta ที่น่าสนใจก็คือ Karosta เคยเป็นเมืองลับทางการทหารของรัสเซียด้วย การมาเที่ยวลัตเวียในโซนนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับเรื่องราวที่น่าสนใจ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากเมืองอื่น แลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดคือ อดีตป้อมปราการทางทหารซึ่งถูกพัดพาลงสู่ทะเล นอกจากนี้ยังมีมหาวิหารที่งดงามอย่าง Holy Trinity Cathedral ซึ่งเป็นที่ตั้งของออร์แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ดอกาฟพิลส์ (Daugavpils)
เมืองดอกาฟพิลส์เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของลัตเวีย เหมาะกับสายทัวร์ลัตเวียที่หลงใหลในศิลปะ เพราะงดอกาฟพิลส์ถือเป็นศูนย์ศิลปะมาร์ก รอธโก ซึ่งมักจะมีการจัดแสดงภาพวาดของรอธโก รวมถึงบอกเล่าเกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็กของเขาในช่วงที่อยู่ดอกาฟพิลส์และลัตเวียก่อนที่จะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกา สำหรับสายเที่ยวลัตเวียที่เน้นแลนด์มาร์กสวยๆ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเมืองนี้มีพิกัดปักหมุดที่ควรไปเยือนหลายจุดเช่น ป้อมปราการโบราณ Daugavpils และโบสถ์ Saints Boris and Gleb Cathedral เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ลัตเวีย ยอดนิยม
พระราชวังรุนดาเล (Rundale Palace)
สำหรับคนที่ประทับใจพระราชวังแวร์ซาย การมาทัวร์ลัตเวียก็จะทำให้คุณได้เจอกับหนึ่งในพระราชวังที่สวยที่สุดในโลกไม่แพ้แวร์ซายเลยทีเดียว พระราชวังแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Bartolomeo Rastrelli สถาปนิกชาวอิตาลีที่รับผิดชอบพระราชวังฤดูหนาวในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ด้วยห้องพัก 138 ห้องและสวนที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10 เฮกตาร์ ซึ่งผสมผสานกับสถาปัตยกรรมบาโรกและโรโกโกที่สวยงาม จึงทำให้ผู้ที่มาเที่ยวลัตเวียและแวะมาที่พระราชวังแห่งนี้ต้องเผื่อเวลาเดินชมไว้ถึงครึ่งค่อนวันเลยทีเดียว
มหาวิหารอโกลนา (Aglona Basilica)
ได้รับการยกย่องจาก Holy See ให้เป็นมหาวิหารนานาชาติ ที่สำคัญมหาวิหารแห่งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางศาสนา และมีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในลัตเวีย การมาทัวร์ลัตเวียและได้ชมวิหารที่ตระการตาอย่างที่นี่จะทำให้เราได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมบาโรกตอนปลาย นอกจากนี้ภายในมหาวิหารยังมีการตกแต่งภายในที่สวยงาม โดยมีจุดศูนย์กลางคือ Aglona Mother of God ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อกันว่ามีพลังในการรักษาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
เฮาส์ออฟแบล็กเฮด (House of Black Heads)
การมาทัวร์ลัตเวียคงจะต้องแวะมาแลนด์มาร์กแห่งนี้เป็นที่แรกๆ เนื่องจากตั้งอยู่ในเมืองหลวงอย่างริก้า สร้างขึ้นในปี 1344 ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเก่า โดยอาคารเดิมรู้จักกันในชื่อ New House ภายหลังมีการสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง ส่งผลให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่เที่ยวลัตเวียสุดฮิตเพราะถูกแปลงโฉมด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามที่คงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
หาดเวนต์สปิลส์ (Ventspils Beach)
ทริปทัวร์ลัตเวียที่ต้องการให้มีแผนเที่ยวชมทะเลบอลติกที่สวยงาม ควรจะต้องรวมหาดเวนต์สปิลส์ไว้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ เนื่องจากหาดเวนต์สปิลส์เป็นหาดทรายที่กว้างและสวยงาม น้ำที่หาดใสราวกับคริสตัล ที่สำคัญหาดแห่งนี้ถือเป็นที่เที่ยวลัตเวียซึ่งเป็นชายหาดที่สะอาดที่สุดในลำดับต้นๆ อีกด้วย
ยูเจนด้า สติลา นามิ (Jugenda Stila Nami)
นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ลัตเวียแล้วเน้นเที่ยวในโซนเมืองหลวงอย่างริก้าจะต้องไม่พลาดการเดินเล่นชมสถาปัตยกรรมที่งดงามในย่านนี้ โดยอาคารที่สวยงามส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนถนนเอลิซาเบธและถนนอัลเบิร์ต และหลังจากเดินถ่ายรูปแบบสวยๆ เสร็จแล้ว โซนนี้ก็มีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ ให้คลายเมื่อยอีกด้วย
สภาพอากาศและฤดูกาลที่ลัตเวีย
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) แม้ว่าจะยังคงมีอากาศหนาวเย็นอยู่บ้าง แต่พอเข้ากลางเดือนเมษายนอากาศก็จะอุ่นขึ้น ทำให้การเที่ยวลัตเวียเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น โดยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ -7 องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส
- ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) ฤดูร้อนของทะเลบอลติกเหมาะกับการทัวร์ลัตเวียมากๆ เพราะอากาศเริ่มที่จะอุ่นขึ้น โดยหากมาเที่ยวลัตเวียช่วงนี้อาจจะเจอทั้งฟ้าใสและท้องฟ้าที่มีเมฆมากในบางช่วง อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 9 – 22 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - เดือนธันวาคม) การเปลี่ยนจากสภาพอากาศอบอุ่นเป็นอากาศหนาวเย็นอาจจะทำให้การเที่ยวลัตเวียติดขัดบ้าง แต่ก็ยังพอทัวร์ลัตเวียได้อยู่ เพราะมักจะมีวันที่มีแดดและวันที่มีฝนตกสลับกันไป อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 8 – 14 องศาเซลเซียส แต่อาจจะลดลงจนถึงติดลบเมื่อเข้าเดือนธันวาคม
- ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) ด้วยอิทธิพลของทะเลบอลติกทำให้ฤดูหนาวที่นี่หนาวแบบสบายๆ เนื่องจากได้รับความชื้นจากลมทะเล ดังนั้นหากต้องการมาทัวร์ลัตเวียเพื่อชมหิมะสวยๆ ก็ยังทำได้อยู่ โดยสามารถชมหิมะได้ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคม อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง -10 จนถึง – 2 องศาเซลเซียส
เที่ยวทัวร์ลัตเวีย ใช้งบเท่าไหร่
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับสำหรับการทัวร์ลัตเวียจะอยู่ในเรตที่ใกล้เคียงกับยุโรปโซนอื่นๆ โดยมักจะเริ่มต้นที่ 3 หมื่นกว่าบาท แต่หากไปช่วงโลว์ซีซันราคาก็อาจจะปรับลดลง
- ค่ากิน สายชิมจะต้องฟินอย่างแน่นอนเมื่อได้มาเที่ยวลัตเวีย เพราะประเทศนี้อาหารการกินหลากหลาย แถมยังมีราคาค่อนข้างถูกอีกด้วย โดยหากทานอาหารง่ายๆ แบบสตรีทฟู้ดราคาจะอยู่ที่ 2 – 5 ยูโร หรือตกราวๆ 75 – 185 บาทเท่านั้น สำหรับคนที่เน้นเข้าร้านแบบสบายๆ อาหารต่อจานก็ไม่ได้แพงมากนัก โดยมีราคาประมาณ 7 ยูโร หรือ 300 บาท
- ค่าที่พัก สายแบ็กแพ็กเกอร์ที่เน้นเที่ยวลัตเวียรแบบประหยัดสามารถจองโฮสเทลในราคาดีๆ เริ่มต้นที่ 15 ยูโร หรือ 560 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวที่เน้นนอนสบาย โรงแรมระดับกลางๆ ราคาจะเริ่มต้นที่ 30 ยูโร หรือ 1,100 บาท
- ค่าเดินทางและค่าเข้าชมสถานที่ หากเลือกใช้ขนส่งสาธารณะ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.15 ยูโรหรือ 43 บาท สำหรับตั๋วมาตรฐาน แต่หากเน้นเดินทางเยอะ เช่นการเที่ยวในริก้าสามารถซื้อ Travel Pass แบบ 24 ชั่วโมงในราคา 5 ยูโร หรือ 185 บาท ได้เช่นกัน ส่วนค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ก็อาจจะมีราคาที่หลากหลาย เช่น การเข้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติค่าตั๋วจะอยู่ที่ 6 ยูโรหรือ 224 บาท
อาหารลัตเวีย ที่ไปเที่ยวแล้วควรลอง
แพนเค้กมันฝรั่ง
ใครที่มาทัวร์ลัตเวียแล้วไม่ได้ชิมแพนเค้กมันฝรั่งจะถือว่าพลาดของดีไปอย่างแรง แพนเค้กของที่นี่แปลกแหวกแนวเพราะทำมาจากมันฝรั่ง ซึ่งต้องทานพร้อมกับครีมเปรี้ยวและซอส สามารถสั่งทานได้ง่ายๆ ตามร้านอาหารท้องถิ่น
คาร์โบนาเด
การเที่ยวลัตเวียและชิมของอร่อยๆ อย่างคาร์โบนาเดจะทำให้ทริปของคุณฟินสุดๆ เพราะเมนูนี้มีต้นกำเนิดในลัตเวียเท่านั้น โดยใช้วัตถุดิบหลักอย่างหมูทอดทุบบาง ๆ ที่เคลือบด้วยแป้ง ไข่ที่ตีแล้ว ชุบเกล็ดขนมปังก่อนที่จะทอดจนน่ารับประทาน
สลานดราอูซิส (Sklandrausis)
เป็นพายกลมจากลัตเวียที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยตัวแป้งจะทำจากแป้งไรย์ไร้เชื้อที่ถูกรีดเป็นแผ่นและขึ้นรูปเพื่อให้ขอบพับขึ้น ส่วนไส้จะเป็นส่วนผสมของมันฝรั่งและแคร์รอตวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ จากนั้นเคลือบด้วยครีมและโรยด้วยอบเชยหรือเมล็ดยี่หร่า นิยมรับประทานพายกับชาหรือนม
เนื้อเย็นในเยลลี่ (Auksta Gala)
หากอยากลองมื้อเช้าที่แปลกใหม่ก่อนออกตะลุยทัวร์ลัตเวีย ขอแนะนำมื้อเช้าและอาหารว่างที่น่าสนใจอย่างเมนูเนื้อเย็นในเยลลี่ โดยเมนูนี้ทำมาจากหูและหัวหมูแบบดั้งเดิมและมักทานพร้อมกับมะรุมขูดหรือมัสตาร์ด
สลัดผักและเนื้อรวม (Rasols)
ถือเป็นเมนูสลัดยอดนิยมประจำลัตเวียก็ว่าได้ หากไปเที่ยวลัตเวียแล้วอยากไดเอ็ต ขอแนะนำให้ลองสั่งเมนูสลัดแสนอร่อยจานนี้ โดยเมนูนี้ได้รับอิทธิพลมาจากสลัด 'Olivier' ของรัสเซีย โดยจะประกอบไปด้วยมันฝรั่ง แครอท หัวบีท ไข่ แฮร์ริ่ง แตงกวา ถั่วลันเตา จากนั้นก็ใส่เนื้อสัตว์หรือไส้กรอกและเพิ่มมายองเนสเพื่อให้มีรสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น
แหล่งช้อปปิ้งในลัตเวีย ยอดนิยม
ตลาดกลางริก้า (Riga Central Market)
นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ลัตเวียและมองหาของฝากที่มีเอกลักษณ์ควรจะต้องแวะที่ตลาดริก้าแห่งนี้ เพราะที่นี่ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีของซื้อของขายแทบจะทุกชนิด ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองริก้า โดยตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าริมฝั่งแม่น้ำ Daugava ภายในมีสถาปัตยกรรมโอ่อ่า และนอกจากของฝากแล้ว เรายังสามารถซื้ออาหารลัตเวียแบบโฮมเมดและผลไม้แปลกใหม่ได้อีกด้วย
ริก้า พลาซ่า (Riga Plaza)
เมื่อมาทัวร์ลัตเวียและอยากแวะซื้อของฝากที่อินเทรนด์หรือสินค้าแบรนด์ดัง แนะนำให้มาที่ริก้า พลาซ่าแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมแฟชั่นและความบันเทิงในเมืองริก้า มีสินค้าขายครบแทบจะทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีสวนแฟนตาซีในห้างสรรพสินค้าซึ่งเหมาะกับทริปที่มีเด็กมาด้วย
ดิตตัน นัมส์ (Ditton Nams)
ใครที่มาทัวร์ลัตเวียในฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ที่เมือง Daugavpils แนะนำให้แวะมาที่ห้างขนาดใหญ่และศูนย์รวมความบันเทิงของเมืองอย่างดิตตัน นัมส์แห่งนี้ ภายในนอกจากจะมีร้านค้าปลีกมากกว่า 800 ร้านแล้ว ยังมีตลาดเชิงนิเวศน์ (ตลาดสีเขียว) ที่มีสินค้าเกษตรสดๆ ใหม่ๆ วางจำหน่ายอีกด้วย และหากเดินจนเหนื่อย ภายในห้างก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกสรรอีกหลายแห่งด้วยเช่นกัน
ห้างสรรพสินค้าโดมินา (Domina shopping mall)
หากมองหาที่ช้อปที่เป็นห้างขนาดใหญ่ แถมเน้นสินค้าลดราคาอย่างมากมาย ขอแนะนำห้างโดมินาแห่งนี้ เพราะภายในมีร้านรวงที่อัดแน่นไปด้วยสินค้าคุณภาพ และมักจัดโปรโมชั่นลดราคาราวกับว่ามาจากเอาท์เล็ตเลยทีเดียว
เอาท์เล็ตเจอร์มาลา (Jurmala Outlet Village)
สาวกแบรนด์เนมไม่ควรพลาดกับการช้อปปิ้งแบรนด์ดังแบบชิกๆ ที่เมืองเอาท์เล็ทกลางแจ้งในราคาสุดพิเศษ โดยทั่วไปมักจะมีส่วนลดเริ่มต้นที่ 30% และสูงสุดถึง 70% ภายใน Outlet Village มีแบรนด์ดังกว่า 100 แบรนด์ ครอบคลุมสินค้าแทบจะทุกประเภทก็ว่าได้
โรงแรมและที่พักในลัตเวียแนะนำ
A22 Hotel
มาทัวร์ลัตเวียทั้งทีก็ต้องหาที่นอนดีๆ ระดับ 5 ดาวกันหน่อย ดังนั้นขอแนะนำ A22 Hotel ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงห้องซาวน่าด้วย โลเคชั่นดีงาม เดินทางง่าย และอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติอีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่คืนละ 8,000 บาท
Grand Poet Hotel and SPA by Semarah
อยากผ่อนคลายหลังจากทัวร์ลัตเวียมาอย่างเหน็ดเหนื่อย แนะนำให้บุ๊กห้องที่ Grand Poet แห่งนี้ เพราะนอกจากโรงแรมจะตกแต่งอย่างสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีบริการสปาและศูนย์สุขภาพที่ช่วยคลายเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี ค่าห้องเริ่มต้นที่ 7,000 บาท
Grand Hotel Kempinski Riga
โรงแรม Kempinski ที่แสนจะโด่งดัง ตั้งอยู่ห่างจาก Latvian National Opera เพียง 100 เมตร และสำหรับคนที่เมื่อยล้าจะทริปลัตเวียมาหลายวัน ที่นี่มีศูนย์สปาและห้องซาวน่าให้บริการอีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่คืนละ 11,000 บาท
Baltic Beach Hotel & SPA
หากคุณกำลังมองหาโรงแรมสวยๆ โลเคชันดีๆ ติดชายหาด ต้องไม่พลาดเช็กอินที่ Baltic Beach Hotel นอกจากจะมีชายหาดส่วนตัวแล้ว ยังสามารถเดินไปเที่ยวในย่านใจกลางเมืองอย่าง Jomas Street ได้ในระยะ 200 เมตรอีกด้วย ค่าห้องเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
Biplan City
หากตัดสินใจค้างคืนที่ Daugavpils โรงแรม Biplan City น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากห้องจะสวยแล้ว ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจาก Daugavpils Ice Arena เพียง 400 เมตรเท่านั้น ค่าห้องเริ่มต้นที่ 2,500 บาท
แนะนำของฝาก ลัตเวีย
เครื่องประดับอำพัน
มองหาของขวัญที่ทรงคุณค่าในทริปทัวร์ลัตเวีย ขอแนะนำเครื่องประดับอำพันที่ขึ้นชื่อ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "Baltic Gold" เพราะด้วยความที่ทะเลบอลติกครอบครองอำพันสูงถึง 80% ของโลก ดังนั้นจึงมีการเก็บอำพันตามชายฝั่งทะเลบอลติกได้เป็นจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถหาซื้ออำพันสวยๆ ได้ตามตลาดท้องถิ่นและร้านขายเครื่องประดับ โดยอำพันที่งดงามจะส่องแสงระยิบระยับใน 250 เฉดสีที่แตกต่างกัน ส่วนในแง่ของสี อำพันจะมีสีตั้งแต่เกือบขาวไปจนถึงเกือบดำ และอาจโปร่งใสหรือขุ่นก็ได้ แต่ประเภทที่พบมากที่สุดคือสีเหลืองโปร่งแสง ซึ่งคล้ายกับหยดของแสงอาทิตย์ที่งดงาม
ริก้ายาหม่องดำ
ยาหม่องริก้าดำถือเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของลัตเวียก็ว่าได้ ดังนั้นจึงเป็นของฝากที่โด่งดังอย่างไม่ต้องสงสัย โดยยาหม่องดำได้รับรางวัลระดับนานาชาติกว่า 30 รางวัล แถมยังผลิตมานานกว่า 200 ปี โดยเริ่มแรกผลิตขึ้นเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะ ปัจจุบันใช้เป็นยาแก้เมาค้างและแก้ปวดท้อง บางคนก็นำไปผสมกาแฟหรือบรั่นดี มีส่วนผสมประกอบจากพืช ดอกไม้ ดอกตูม น้ำผลไม้ ราก น้ำมัน และผลเบอร์รีกว่า 24 ชนิด
หม้อปัมปาลู
สำหรับคนที่มองหาของฝากสำหรับนำไปประดับบ้าน หรือของฝากเชิงประวัติศาสตร์ อย่าลืมมองหาหม้อปัมปาลู รับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอน แต่หม้อชนิดนี้ไม่ได้เหมาะกับการทำอาหาร เพราะจริงๆ เป็นงานเครื่องปั้นดินเผาแบบทำมือ ที่สืบทอดมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 10
ลูกอมรสนมโกตินา (Gotina Milk Candy)
แนะนำขนมลูกอมแสนอร่อยที่ทำจากนมและน้ำตาล แถมมีเนื้อที่นุ่มและละลายในปาก คล้ายกับฟัดจ์ที่นุ่มและกลมกล่อม โดยรสชาติดั้งเดิมมีรสชาติเหมือนคาราเมล แต่จริงๆ มีหลากรสชาติให้เลือก เช่น รสกาแฟ รสเมล็ดทานตะวัน หาซื้อได้ที่ตลาดกลางริก้า
น้ำผึ้งลัตเวีย
ถือเป็นของฝากยอดนิยมอีกชนิดหนี่งจากลัตเวีย ที่สำคัญพกพาง่ายและราคาไม่แพงนัก หากเร่งรีบลองมองหาซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่จะมีน้ำผึ้งแบบดั้งเดิมจำหน่าย
ลองเปิดใจกับการท่องเที่ยวในประเทศใหม่ๆ ดูบ้างสักครั้ง ซึ่งหากคุณตัดสินใจที่จะไปเยือนลัตเวีย คุณจะมีโอกาสได้ชมสถานที่ที่สวยงามไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่แสนจะอลังการ รวมถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและจิตวิญญาณแบบยุโรปดั้งเดิมแฝงไว้ที่ประเทศนี้อีกด้วย รับรองได้เลยว่าคุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและกลิ่นอายแบบชาวยุโรปในราคาที่สบายกระเป๋าสตางค์