การทัวร์ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นเป้าหมายอันดับต้น ๆ สำหรับใครที่อยากจะท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชียกันเลยทีเดียว เพราะเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม สภาพภูมิประเทศ ลักษณะทางสังคมและวิถีการดำเนินชีวิตที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค โดยประเทศญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลแปซิฟิกของเอเชียตะวันออก ซึ่งนั่นก็ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันมากตั้งแต่เหนือจรดใต้ รวมไปถึงมีความหลากหลายทางชีวภาพที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบอกได้เลยว่ามาครั้งเดียวเที่ยวญี่ปุ่นไม่ทั่วอย่างแน่นอน ต้องมาเที่ยวซ้ำกันอีกหลายรอบ
แต่ทั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นก็ยังเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟที่ยังคงมีพลังอยู่มากถึง 108 แห่ง และยังเป็นประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลนั่นจึงทำให้ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงภัยธรรมชาติสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกด้วยเช่นกัน ดังนั้นใครที่วางแผนจะไปทัวร์ญี่ปุ่นนอกจากจะดูในเรื่องของสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นแล้วก็แนะนำให้ตรวจสอบสภาพอากาศและความเสี่ยงของภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้บริเวณภูมิภาคหรือพื้นที่ที่จะไปทัวร์ญี่ปุ่นกันด้วย จะได้เที่ยวญี่ปุ่นแบบปลอดภัยไร้กังวล
ข้อมูลเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นมีชื่อเรียกว่า “นิฮง” หรือ “นิปปง” ซึ่งแปลว่าถิ่นกำเนิดของดวงอาทิตย์ จึงทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่รวมแล้วมาถึง 6,852 เกาะ ครอบคลุมพื้นที่ 377,975 ตารางกิโลเมตร ทอดตามชายฝั่งแปซิฟิกของเอเชียตะวันออก รวมด้วยกันทั้งสิ้นถึง 6,852 เกาะ โดยหมู่เกาะหลักจากภาคเหนือลงมาก็จะประกอบไปด้วย ฮอกไกโด ฮนชู ชิโกกุ และคิวชู โดยมีหมู่เกาะริวกิวรวมทั้งเกาะโอกินาวะเรียงกันอยู่ทางใต้ของคิวชู ซึ่งเกาะต่าง ๆ ก็จะตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟวงแหวนไฟแปซิฟิก และรอยแยก Boso Triple Junction จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นยังคงมีภูเขาไฟที่มีพลังอยู่มากถึง 108 ลูก และมักประสบกับภัยพิบัติคลื่นสึนามิและแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง โดยดัชนีความเสี่ยงโลกปี 2556 ก็ได้จัดให้ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงภัยธรรมชาติสูงสุดเป็นอันดับที่ 15 ของโลก
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นเป็นป่าไม้และภูเขาที่ไม่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกและอยู่อาศัยรวมไปถึงการทำอุตสาหกรรม จึงทำให้ประชากรส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณชายฝั่งเป็นหลัก โดยแบ่งเขตการปกครองออกเป็นทั้งหมด 47 จังหวัด ใน 8 ภูมิภาค กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดในญี่ปุ่นก็จะอาศัยอยู่ในเขต 3 เมืองใหญ่ ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนั้นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรและความหนาแน่นของประชากรมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีประวัติศาสตร์โบราณที่ยาวนาน และด้วยความที่มีเมืองใหญ่เป็นจำนวนมากจึงทำให้แต่ละเมืองของญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสำเนียงของภาษา
ทางด้านการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องบอกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นนั้นก็ได้ส่งเสริมในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวกันอยู่ไม่น้อย โดยมีมาตรการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวให้กับประเทศเป้าหมายรวมไปถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ทำให้ความนิยมไปทัวร์ญี่ปุ่นสำหรับคนไทยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีพวกกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและโปรโมชั่นต่าง ๆ ในธุรกิจท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกมากมาย จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอยู่บ่อยครั้ง บางคนก็เลือกที่จะไปทัวร์ญี่ปุ่นแบบเก็บให้ทั่วครบทุกภูมิภาคกันเลยทีเดียว
ทัวร์ญี่ปุ่นแนะนำตามเมืองยอดนิยม
1. โอซาก้า
เป็นเมืองอันดับต้น ๆ ที่หลายคนเลือกในการมาทัวร์ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งโอซาก้าก็เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งในด้านการค้าและวัฒนธรรม จึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโอซาก้าอันโด่งดัง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง Kaiyukan สวนลอยน้ำ Universal Studio เป็นต้น ที่สำคัญเลยก็คือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารอร่อยราคาย่อมเยาอยู่ทั่วทุกมุมเมือง และถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นที่โอซาก้าในช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคมถึงเมษายนก็จะได้ชมซากุระกันที่เมืองนี้อีกด้วย
2. ฮอกไกโด
ใครมาทัวร์ญี่ปุ่นอย่าพลาดที่จะเลือกมาเที่ยวฮอกไกโด ซึ่งเมืองนี้ก็ถือได้ว่าเป็นจังหวัดและเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น เป็นเขตที่มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นและภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา โดยเขตที่ราบลุ่มซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ก็จะเป็นที่เมืองซัปโปโร ฮอกไกโดก็เป็นเกาะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงทำให้หลายคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นเลือกมาพักตากอากาศกันที่เมืองนี้ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายไม่ว่าจะเป็น ป้อมโงเรียวกาคุ หรือ ป้อมดาว 5 แฉก จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ทุ่งดอกไม้และลานสกีฟูราโน่ บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ โรงงานช็อกโกแลต Shiroi Koibito พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร เป็นต้น
3. โตเกียว
เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นเป้าหมายยอดฮิตที่หลายคนเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นกันที่เมืองนี้ เมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและสังคมเมืองที่มาบรรจบกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมตะวันออก จึงได้รับฉายาว่า “East meets West” ซึ่งถ้าหากใครเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นกันที่โตเกียวก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าแบบสุด ๆ เพราะเป็นเมืองที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมและเทคโนโลยีอันทันสมัยล่าสุดของโลกในที่เดียวกัน และยังเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งรวมไปถึงแฟชั่นมากมายที่รอให้คุณได้มาสัมผัสด้วยตนเองเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่น
4. ฟุกุโอกะ
เมืองที่ใหญ่มากที่สุดของเกาะคิวชูที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัดและศาลเจ้า แหล่งช้อปปิ้ง และของกินมากมาย เป็นเมืองที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองน่าอยู่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกจากนิตยสาร Monocle ในปี 2013 และยังถือได้ว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของญี่ปุ่น โดยเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากและมีคุณภาพการใช้ชีวิตที่สูง ใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นโดยเลือกที่จะมาฟุกุโอกะก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น แผงขายอาหารในนากาซุ ปราสาทฟุกุโอกะ ศาลเจ้าฮาโกซากิ ย่านเท็นจิน หรือจะพักผ่อนชิล ๆ ชมวิวสวย ๆ ที่ชายหาดกับฟุกุโอกะทาวเวอร์ก็ได้
5. เกียวโต
อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบสัมผัสกับศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นกันแบบถึงแก่น ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปยังอดีตด้วยตนเอง ขอแนะนำให้เลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นที่เมืองเกียวโต เมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางศาสนาถึงกว่า 2,000 แห่ง เป็นสถานที่ตั้งของวัดที่มีชื่อเสียงหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น วัดคิโยมิซุ วัดคิงกากุ (วัดศาลาทอง), วัดกิงกากุ (วัดศาลาเงิน) วัดเรียวอังที่มีสวนหินที่โด่งดัง รวมไปถึงศาลเจ้าเฮอัง ศาลเจ้าคาโมะ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมย่านที่มีความโดดเด่นอย่างเช่น อาราชิยามะ ย่านกิออน ย่านเกอิชา รับรองได้ว่าจะเป็นการทัวร์ญี่ปุ่นที่ทำให้คุณได้เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นในยุคเก่าได้อย่างแท้จริงเลยทีเดียว
6. นารา
เป็นอีกเมืองที่เมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วห้ามพลาด อดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณมากมายไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานต่าง ๆ วัดและศาลเจ้า รวมไปถึงอดีตพระราชวังหลวงอย่างพระราชวังเฮโจ จึงทำให้กลายเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยมีสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขาแห่งเปลวเพลิงวากากูซะ หลวงพ่อโตแห่งวัดโทได วัดยากูชิ วิหารวัดโทได ศาลเจ้าคาซูงะ และอย่าลืมไปเยี่ยมชมน้องกวางในอุทยานนารากันด้วย
7. ชิซูโอกะ
มาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมมาเยี่ยมชมที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิอันมีชื่อเสียง ซึ่งเมืองนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเมืองเขตพักตากอากาศชื่อดังของญี่ปุ่นเนื่องจากมีพื้นที่ยาวตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งเมืองนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ซึ่งนอกจากจะมีภูเขาไฟฟูจิและแหล่งปลูกชาอันขึ้นชื่อแล้วก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างเช่น สวนดอกไม้ฮามามัตสึ ชมดอกซากุระที่คาวาซุ ชมดาวที่หาดมินามิอิซุยูมิกาฮามะ เยี่ยมชมปราสาทคาเคกาวะ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ไปย้อนวัยกันที่ Izu Teddy Bear Museum และอย่าลืมแวะชิมกุ้งซากุระแบบสด ๆ กันได้ที่อ่าวซุรุกะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำ
ใครที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นตามเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้น เราก็ได้ทำการรวบรวมเทศกาลสำหรับคนที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นตามงานเทศกาลต่าง ๆ มาไว้ให้ครบทั้งปีกันไปเลย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนมกราคม
ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนมกราคมก็อย่าพลาดเทศกาลวันปีใหม่ "โชกัตสึ" งานเทศกาลเก่าแก่มากที่สุดของญี่ปุ่น โดยจะมีการจัดงานเทศกาลต้อนรับเทพโทชิกามิซามะ (เทพประจำปี) และยังมีงานเทศกาลที่ศาลเจ้าเอบิสุซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 9-11 มกราคมของทุกปีอีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนกุมภาพันธ์
สำหรับใครที่เลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ต้องไม่พลาดเทศกาลสุดยิ่งใหญ่แห่งปีอย่างเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่ในงานนี้ก็จะมีการประกวดรูปแกะสลักหิมะจากนานาประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลปาถั่ว เทศกาลแห่โคมไฟของศาลเจ้า Kasuga Taisha เทศกาลกระท่อมหิมะแห่งโยโคะเทะ และเทศกาลประจำปีวัดไซไดจิที่จังหวัดโอะคะยะมะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนมีนาคม
มาเที่ยวญี่ปุ่นเดือนมีนาคมแนะนำให้ไปเสริมสิริมงคลในเทศกาลโอะมิสึโทะริ หรือเทศกาลโคมไฟซึ่งจัดขึ้นในจังหวัดนารา โดยในเดือนนี้ก็ยังมีเทศกาลวันเด็กผู้หญิง ฮินะ มัตสึริ ซึ่งจัดขึ้นทั่วประเทศอีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนเมษายน
เทศกาลในเดือนเมษายนสำหรับใครที่เลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นในช่วงนี้ก็เริ่มกันที่เทศกาลถวายดอกไม้ ฮะนะมัตสึริ ที่จัดกันทั่วประเทศ โดยภายในวัดต่าง ๆ ก็จะตกแต่งด้วยดอกไม้ และมีพิธีชงชาเขียว ในช่วงกลางเดือนก็จะมีเทศกาลทาคายามะ หรือเทศกาลซันโนของศาลเจ้าฮิเอะในเมืองเมืองทาคายามะที่ตื่นตาตื่นใจด้วยขบวนรถแห่ศาลเจ้าสุดยิ่งใหญ่ และก็ยังมีเทศกาลแห่ศาลเจ้าฤดูใบไม้ผลิ ยะโยอิ-มัตสึริ ที่เมืองนิกโก้ที่ตกแต่งขบวนแห่อย่างสวยงามด้วยดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือน
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนพฤษภาคม
ใครที่เลือกมาญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้ก็มีเทศกาลขบวนแห่เทพเจ้าบนหลังม้า จังหวัดฟุกุโอกะ มาให้ไปร่วมสัมผัสบรรยากาศชมขบวนพาเหรดรอบเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือจะเลือกไปชมเทศกาลแข่งว่าวที่เมืองฮามามัตสึ พร้อมชมขบวนแห่ที่สวยงามในตอนกลางคืน โดยในเดือนนี้ก็ยังมีเทศกาลวันเด็กผู้ชายที่แต่ละบ้านจะมีการประดับธงรูปปลาคาร์ฟเอาไว้ และยังมีเทศกาลใหญ่ของเมืองเกียวโตอย่างเทศกาลอาโออิ ขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่ที่ผู้เข้าร่วมขบวนจะแต่งกายด้วยชุดโบราณอันงดงามผ่านถนนสายหลักของเกียวโต นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลใหญ่ของศาลเจ้าโทโชกุที่เมืองนิกโก้ เทศกาลล่องเรือ มิฟุเนะ-มัตสึริ ของเกียวโต และในช่วงปลายเดือนก็มีเทศกาลแห่ศาลเจ้าที่วัดอาซากุสะ หรือเทศกาลซันจะ มัตสึริ ที่กรุงโตเกียวด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนมิถุนายน
หากมาญี่ปุ่นในช่วงเดือนมิถุนายนก็จะได้เจอกับเทศกาลซันโน-มัตสึริ ซึ่งเป็นเทศกาลแห่ศาลเจ้าฮิเอะที่กรุงโตเกียว ซึ่งภายในงานก็จะมีขบวนแห่ศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งประเพณีต่างๆของญี่ปุ่นอย่างเช่นการจัดดอกไม้ พิธีกรรมเกี่ยวกับชาเขียว และพิธีชำระล้างสิ่งอัปมงคล นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลม้าที่เมืองเมืองทากิซาวา และโมริโอกะ อีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนกรกฎาคม
เดือนนี้บอกได้เลยว่ามีเทศกาลมากมายเอาไว้ให้สำหรับใครที่เลือกมาญี่ปุ่นในช่วงนี้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดวงดาวทานาบาตะที่จัดขึ้นทั่วประเทศ เทศกาลไฟที่ศาลเจ้านาชิ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เทศกาลไฟ ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่เมืองฟุกุโอกะก็มีเทศกาลใหญ่ของศาลเจ้าคูชิดะ สำหรับที่เมืองเกียวโตก็จะมีเทศกาลใหญ่ของศาลเจ้ายาซากะที่เต็มไปด้วยผู้ร่วมขบวนแห่สวมใส่เครื่องแต่งกายโบราณวนรอบเมือง ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมก็จะมีเทศกาลดนตรีศาลเจ้าอิตสึกูชิมะที่จังหวัดฮิโรชิมะ รวมไปถึงเทศกาลฤดูร้อนศาลเจ้าเทนมานกุแห่งโอซาก้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งใน 3 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนสิงหาคม
สำหรับในเดือนนี้คนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นก็สามารถเข้าชมเทศกาลหุ่นโคมไฟได้ที่จังหวัดอาโอโมริ เทศกาลแห่โคมไฟคันโตที่จังหวัดอาคิตะ ชมขบวนฟ้อนรำของชาวเมืองที่สวมหมวกฟางติดดอกไม้เทียมสุดยิ่งใหญ่กว่าหมื่นคนในเทศกาลหน้าร้อนฮานะกาสะ และเพลิดเพลินไปกับเทศกาลระบำงานบงโอะโดะริ จังหวัดโทคุชิมะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนกันยายน
ทัวร์ญี่ปุ่นในเดือนกันยายนก็แนะนำเทศกาลร่ายรำโบราณโทยามะ ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของโทยามะ นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาลแห่เกี๊ยวดันจิริที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดของญี่ปุ่นบริเวณปราสาทคิชิวะดะ โอซาก้า เทศกาลขี่ม้ายิงธนูซึ่งเป็นพิธีกรรมบนหลังม้าอันหาดูได้ยากและมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานที่เมืองคามาคุระ และเทศกาลโอฮาระ ฮาดากะ มัตสึริ เทศกาลที่กลุ่มชายฉกรรจ์เปลือยท่อนบนแบกเกี้ยวขึ้นบ่าแล้วลงไปในทะเล ที่เมืองอิสุมิ จังหวัดชิบะ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนตุลาคม
ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้ก็จะได้พบกับเทศกาลนางาซากิคุนจิ ซึ่งเป็นเทศกาลประจำฤดูใบไม้ร่วงขนาดใหญ่ของศาลเจ้าซุวะ จังหวัดนางาซากิ เทศกาลทาคายามะในฤดูใบไม้ร่วงหรือเทศกาลยะฮะตะ ที่ศาลเจ้ายะฮะตะ เมืองทาคายามะ ชมขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่ในชุดซามูไรกับเทศกาลเมืองนาโกย่า ชมงานเทศกาลดอกเบญจมาศศาลเจ้าเมจิ ที่กรุงโตเกียว เทศกาลใหญ่ฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าโทโชกุ ที่เมืองนิกโก้ ย้อนยุคไปกับเทศกาลศาลเจ้าเฮอันเกียวโตซึ่งเป็น 1 ใน 3 เทศกาลใหญ่ของเกียวโต และยังมีเทศกาลไฟที่เมืองเดียวกันอีกด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนพฤศจิกายน
สำหรับคนที่มาญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้ก็จะได้พบกับงานเทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าคะระสึ ในจังหวัดซากะ ซึ่งได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดย UNESCO โดดเด่นด้วยขบวนแห่ปลาสีแดงขนาดใหญ่ เทศกาลขบวนแห่เจ้าเมือง ฮะโกะเนะ ไดเมียว เกียวเรสึ จังหวัดคะนะกะวะ และเทศกาล ชิจิ โกะ ซัง-มัตสึริ ซึ่งเป็นเทศกาลฉลองอายุของเด็กชายหญิงที่มีอายุครบ 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี ซึ่งจัดขึ้นทั่วประเทศ
ทัวร์ญี่ปุ่น ตามเทศกาลแนะนำเดือนธันวาคม
มาทัวร์ญี่ปุ่นช่วงปลายปีเดือนธันวาคมก็แนะนำให้ไปชมขบวนแห่สุดอลังการในเทศกาลศาลเจ้าชิชิบุ จังหวัดไซตามะ ชมการแสดงโบราณและขบวนแห่ย้อนยุคพร้อมการขับร้องและเต้นรำแบบโบราณที่ราชการศาลเจ้าคะซุงะ เมืองนารา โดยในช่วงกลางเดือนก็จะมีเทศกาลไม้ตีลูกขนไก่โบราณ ฮะโงะตะ อิชิ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในโตเกียว
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ยอดนิยม
ใครที่มาท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นก็ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นต่างก็ต้องมาแวะเช็คอินกัน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
1. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ โตเกียว ทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
หอคอยขนาดใหญ่สีแดงสลับขาวอันโดดเด่นซึ่งตั้งอยู่ในเขตมินาโตะ กรุงโตเกียว มีความสูงทั้งสิ้น 332.6 เมตร (1,091 ฟุต) ซึ่งโดยหลักแล้วโตเกียวทาวเวอร์ก็จะเป็นหอคอยที่สร้างเอาไว้เพื่อใช้ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุโทรทัศน์ต่าง ๆ และใช้เป็นหอสังเกตการณ์ แต่ด้วยความโดดเด่นของหอคอยแห่งนี้จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมของกรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน บริเวณหอคอยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ด้านล่างสุดเป็นอาคารสูง 4 ชั้นซึ่งตั้งอยู่ใต้หอคอยโดยตรง มีพิพิธภัณฑ์ ภัตตาคาร และร้านค้าอยู่ภายในตัวอาคาร อีก 2 ส่วนที่เหลือจะเป็นจุดสำหรับชมทัศนียภาพของหอคอยซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 150 เมตร และ 250 เมตร ตามลำดับ
Location : 4 Chome-2-8 Shibakoen, Minato City, Tokyo 105-0011, Japan
2. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)
บอกเลยว่ามาญี่ปุ่นทั้งทีห้ามพลาดที่จะมาเที่ยวชมสัมผัสบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายอันสูงส่งของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ประทับหลักของจักรพรรดิญี่ปุ่นแห่งนี้ โดยพระราชวังอิมพีเรียลหรือพระราชวังหลวงโตเกียวก็จะเป็นพื้นที่คล้ายสวนขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตชิโยดะ กรุงโตเกียว สร้างขึ้นบนพื้นที่โดยรวมของปราสาทเอโดะอันเป็นที่อยู่ของโชกุนจากตระกูลโทกูงาวะ ประกอบไปด้วยพระราชมณเฑียร ตำหนักของราชวงศ์ สำนักพระราชวังหลวง พิพิธภัณฑ์ของสะสมในพระองค์ และอุทยานต่าง ๆ
Location : 1-1 Chiyoda, Chiyoda City, Tokyo 100-8111, Japan
3. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji)
เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นต่างก็ต้องแวะมาเช็คอินหรือถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ หรือที่เรียกกันว่า “ฟูจิซัง” กันสักครั้ง ซึ่งภูเขาไฟฟูจินี้ก็เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูงราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) ตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิทางตะวันตกของโตเกียว พื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิก็จะประกอบไปด้วย ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า อุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ และน้ำตกชิราอิโตะ จัดเป็นภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ ซึ่งถ้าหากวันไหนอากาศแจ่มใสก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากกรุงโตเกียวได้ [ 10 จุดถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟูจิ ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ]
Location : Fuji-Hakone-Izu National Park
4. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ย่านชินจูกุ
มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมไปสัมผัสกับย่านชุมชนระดับแนวหน้าของโตเกียวที่สุดแสนคึกคักแห่งนี้ ซึ่งย่านชินจูกุก็เรียกได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อของโตเกียวเพราะเต็มไปด้วย Shopping Mall ขนาดใหญ่ ร้านขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น แหล่งรวมของร้านกินดื่มและร้านอาหารมากมายให้เราได้เลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการ ซึ่งนอกจากแหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า และของกินแล้ว ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในย่านชินจูกุได้แก่ศาลาว่าการกรุงโตเกียว และสวนชินจูกุเกียวเอ็นอีกด้วย
Location : Shinjuku City Tokyo, Japan
5. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับใครที่มาญี่ปุ่นจะต้องแวะมาเยี่ยมชมปราสาทเก่าแก่แห่งนี้ เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ตามลักษณะสถาปัตยกรรมของปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ถือได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น จัดเป็น 1 ใน 3 ของปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่นก็จะเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าประสาทนกกระสาขาว หรือ ฮากุระโจ อันเนื่องมาจากสีภายนอกของปราสาทที่เป็นสีขาวสว่างนั่นเอง
Location : 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012, Japan
6. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ย่านชิบูย่า
แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกหนึ่งแห่งของกรุงโตเกียวที่บอกได้เลยว่าใครมาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด เพราะเป็นย่านที่คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นยุคใหม่ได้อย่างใกล้ชิด โดยมีจุดแลนด์มาร์คที่โดดเด่นก็คือ 5 แยกชิบูย่า ทางม้าลายที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนเดินสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ซึ่งปรากฏอยู่ในฉากภาพยนตร์และซีรี่ส์ต่าง ๆ มากมาย น่าจะมีก็ยังมีแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นทันสมัย และอย่าลืมไปเยี่ยมชมเช็คอินกับรูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ สุนัขยอดกตัญญูที่ตั้งอยู่ตรงทางออกสถานีชิบูย่ากันด้วย
Location : Shibuya City Tokyo, Japan
7. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ สวนสนุก Universal Studios Japan
มาญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่จะมาสวนสนุกแห่งแรกในเอเชียของ Universal Studios แห่งนี้ สวนสนุกขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น ภายในสวนสนุกก็จะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ตามเมืองและภาพยนตร์ชื่อดังของ Universal Studios พร้อมด้วยเครื่องเล่นแสนสนุกสุดมันส์ โชว์ต่าง ๆ และกิจกรรมให้ร่วมสนุกรับของรางวัลกันอีกมากมาย ถ้าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วมายังสวนสนุกแห่งนี้แล้วอยากสนุกสะใจไปกับเครื่องเล่นแบบเต็มอิ่มก็แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ Pass รับรองได้ว่าสนุกสุดเหวี่ยงกันแบบสุดคุ้มแน่นอน
Location : 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031, Japan
8. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
วัดพุทธซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนารา โดยมีหนึ่งในสมบัติประจำชาติอย่างศาลาหลวงพ่อโต (ไดบุตสึเด็ง) อาคารไม้ขนาดใหญ่อันเป็นที่ประดิษฐานขอพระพุทธรูปไดบุตสึขนาดใหญ่ ซึ่งวัดแห่งนี้ก็ยังเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนศาสนาในนิกายเคงง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
Location : 406-1 Zoshicho, Nara, 630-8211, Japan
9. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
เป็นอีกที่หนึ่งสถานที่ซึ่งไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น เพราะที่นี่คือสวนสนุกระดับโลกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดิสนีย์แลนด์แห่งแรกในแคลิฟอร์เนียและ Magic Kingdom ที่ Florida เป็นสวนสนุกแห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกเหนือจากในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ติดกับโตเกียวและตั้งอยู่ใน Tokyo Disney Resort เป็นสวนสนุกอีกแห่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ให้คุณได้เข้ามาสัมผัสดินแดนแห่งเวทมนต์และสนุกสุดเหวี่ยงไปกับเครื่องเล่นต่าง ๆ พร้อมกับตัวละครมากมายจาก Disney
Location : 1-1 Maihama, Urayasu, Chiba 279-0031, Japan
10. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm)
เป็นเมืองจุดหมายปลายทางสำหรับใครที่มาญี่ปุ่นแล้วอยากชมความสวยงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ซึ่งฟาร์มแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ในเมืองฟูราโนะ จังหวัดฮอกไกโด โดยช่วงดอกลาเวนเดอร์ของฟาร์มแห่งนี้ก็จะเปิดให้เข้าชมในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน แต่ถ้าอยากได้ความงดงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์แบบตระการตาก็แนะนำให้ไปช่วงเดือนกรกฎาคม โดยทุ่งดอกลาเวนเดอร์นี้เดิมทีก็จะเป็นการปลูกเอาไว้เพื่อใช้ทำน้ำมันหอมระเหย จากนั้นถึงได้มีการพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวจนกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นกันอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
Location : 15号 Kisenkita, Nakafurano, Sorachi District, Hokkaido 071-0704, Japan
11. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ศาลเจ้าจิ้งจอกแดง (Fushimi Inari Shrine)
เป็นศาลเจ้าอันโด่งดังแห่งเกียวโตที่มีจุดเด่นอยู่ที่เสาประตูสีแดงที่เรียงรายกันอยู่ด้านหลังศาลเจ้าเป็นจำนวนกว่าหลายพันต้นตามทางเดินทั่วทั้งภูเขาอินาริ โดยศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกแห่งนี้ก็คือศาลเจ้าชินโต (Shinto) เป็นศาลเจ้าที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นงดงามและยังขึ้นชื่อแต่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเทพอินาริที่เชื่อกันว่ามีรูปลักษณ์เป็นเทพเจ้าจิ้งจอก นอกจากนี้ก็ยังเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ดื่มด่ำกับวิวของยอดเขา รวมไปถึงยังมีร้านค้าขายอาหารสตรีทฟู้ดและของฝากอีกด้วย
Location : Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi Ward, Kyoto, 612-0882, Japan
12. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ หมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)
หากมาเที่ยวญี่ปุ่นขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมกับหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ หมู่บ้านที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ สัมผัสกับสถาปัตยกรรมบ้านหลังคาทรงกัชโชสุคุริที่มีมาแต่โบราณและวิถีชีวิตชนบทที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต ซึ่งถ้าหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกที่กลมกลืนระหว่างวิถีชีวิตดั้งเดิมและธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยหิมะก็ขอแนะนำให้ลองค้างคืนที่หมู่บ้านกันดูสักคืน เพราะบอกได้เลยว่าทิวทัศน์ยามค่ำคืนของหมู่บ้านแห่งนี้งดงามราวกับหลุดมาจากภาพวาดกันเลยทีเดียว
Location : Ono District, Gifu, Japan
13. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
จุดเช็คอินยอดนิยมสำหรับคนที่มาจากญี่ปุ่นคงหนีไม่พ้นย่านโดทงโบริแห่งนี้ ย่านการค้ายอดนิยมใจกลางเมืองโอซาก้า แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกและร้านอาหารอร่อยมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของร้านค้าต่าง ๆ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ และโรงแรม ย่านที่คึกคักหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนตลอดทั้งวันโดยเฉพาะยามค่ำคืน จุดเด่นของย่านนี้ก็คือป้ายกูลิโกะขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสะพานเอบิสุ ที่ใครมาถึงแล้วก็ไม่พลาดที่จะต้องเช็คอินหรือถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก
Location : 1 Chome Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071, Japan
14. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ สวนกวางนารา (Nara Park)
มาทัวร์ญี่ปุ่นก็อย่าลืมแวะเที่ยวหาน้องกวางที่สวนกวางนารากันสักหน่อย สถานที่แห่งนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็คงหนีไม่พ้นน้องกวางทั้งหลายที่มีอยู่กว่า 1,200 ตัว เดินไปมาชิล ๆ ให้เราได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดภายในสวนสาธารณะ และสามารถให้อาหารกวางได้โดยจะมีจุดจำหน่ายของโปรดของน้องกวางอย่างขนมปังอบกรอบ “เซมเบ้” ให้เราได้ซื้อมาป้อนน้องกวางกันอยู่เป็นระยะภายในสวนสาธารณะ
Location : Nara, Japan
15. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ สกีรีสอร์ท ชิงะ โคเงน (Shiga Kogen Ski Resort)
หากใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วต้องการมาสัมผัสกับหิมะและเล่นสกีก็ไม่ควรพลาดพื้นที่เล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ โดยสกีรีสอร์ท ชิงะ โคเงน ก็เป็นกลุ่มสกีรีสอร์ท 18 แห่งบนพื้นที่เล่นสกีขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงของจังหวัดนากาโนะ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติชิกะโคเก็นที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก มีพื้นที่เล่นสกีอย่างหลากหลายตามระดับความสูง ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของลานสกีและวิวทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว ก็ยังมีสวนลิงหิมะจิโกคุดานิ รวมไปถึงออนเซ็นต่าง ๆ ให้เลือกใช้บริการกันอีกหลายแห่ง
Location : 7148 Hirao, Yamanochi, Shimotakai District, Nagano 381-0401, Japan
16. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ บึงฮับโป (Happo Pond) เมืองนางาโน่
Happo Pond ที่เที่ยวญี่ปุ่นในเมืองนางาโน่ บรรยากาศของที่นี่เป็นทิวทัศน์ของภูเขาสูง ที่ตัดสลับกับแอ่งน้ำธรรมชาติ โดยแอ่งน้ำนี้อยู่ในภูเขาที่มีความสูงถึง 2,060 เมตรสวย ภูมิทัศน์ของนางาโน่เหมาะกับการเล่นสกีในฤดูหนาว วิวสวยจับใจอย่างมาก สายรักธรรมชาติต้องถูกใจสุดๆ
Location : Hakuba Happo-one Sky Resort, Hakuba, Nagano, Japan
17. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) เมืองนางาโน่
มาต่อกันที่เมืองนางาโน่ Matsumoto Castle หรือ Crow Castle ที่ชาวไทยเราเรียกว่าปราสาทอีกา เพราะมีสีดำ เป็นปราสาทที่ทำจากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีอายุมากถึง 400 ปีทีเดียว
Location : Matsumoto, Nagano, Japan
18. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ สวนคาวาชิฟูจิการ์เด้น (Kawachi Fuji Garden) Fukuoka
ไปลอดอุโมงค์ดอกไม้ถ่ายรูปเช็คอินแบบสุดฟินกันที่ สวน Kawachi Fuji Garden ที่นี่มีดอกไม้ที่ปลูกประดับสวยงามราวภาพวาด มี Wisteria มากกว่า 20 สายพันธุ์ปลูกบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ไฮไลท์สำคัญจึงเป็นการไปถ่ายรูปสวยๆ กับอุโมงค์ดอกไม้ Wisteria
Location : 2-2-48 Kawachi, Yahata-Higashi-ku, Kitakyushu City, Fukuoka, Japan
19. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ น้ำตกนะชิ (Nachi Waterfalls) วากายามะ
Nachi Fall เป็นน้ำตกที่สูงถึง 133 เมตร เรียกว่าสูงและใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยรอบบริเวณจะมีวัดนาจิซัง เซกันโท-จิ ซึ่งสวยงามมาก ตั้งตระหง่านกลางขุนเขา มีน้ำตกสูงใหญ่เป็นฉากหลัง ให้ความรู้สึกทั้งขลังและมีเสน่ห์ ถือเป็นอีกจุด ที่ต้องมาสักครั้ง
Location : Nachisan, Nachikatsuura, Higashimuro District, Wakayama 649-5301, Japan
20. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ กระเช้าลอยฟ้าเปบปุ (Kintetsu Beppu Ropeway) เมืองโออิตะ
ไปนั่งกระเช้าชมวิวภูเขากันค่ะ Kintetsu Beppu Ropeway มีกระเช้าซึ่งรับผู้โดยสารไปเที่ยวชมบนยอดเขา Tsurumi ที่สูงที่สุด 1,375 เมตร เดินทางชมวิวสวยๆ ถึงยอดเขาภายใน 10 นาที เราก็จะได้เห็นวิวโดยรอบของ Beppu ภูเขา Yufu และ Kuju แบบสุดอลังการ
Location : Beppu, Oita, Japan
21. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) อิบารากิ
Hitachi Seaside Park หรือ “Baby Blue Eyes” เป็นสวนสวยบนเนินเขา Miharashi ที่นี่มีดอกไม้ที่ปลูกและตกแต่งอย่างสวยงาม ในแต่ละฤดูกาล ดอกไม้ต่างๆก็ผลัดเปลี่ยนจัดแสดงแตกต่างกัน ส่วนไฮไลท์ที่สำคัญก็คือ ทุ่งดอก “Nemophilia” ดอกไม้จิ๋วๆ สีฟ้าที่บานสะพรั่งราวเทพนิยาย บอกได้เลยว่าสวยจนตะลึงค่ะ
Location : 605-4 Onuma-aza, Mawatari, Hitachinaka, Ibaraki, Japan
22. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ป่าไผ่ซากาโนะ (Sagano Bamboo Forest) เมืองเกียวโต
ไปต่อกันที่ ป่าไผ่ Sagano เกียวโตค่ะ ที่นี่จะเป็นสวนไผ่ที่จัดไว้อย่างสวยงามในระยะทางกว่า 500 เมตร ระหว่างทางเดินเราก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติ อันสวยงาม และมีจุดสวย ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
Location : Arashiyama, Kyoto, Japan
23. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ เทศกาลหิมะเมืองโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival) ฮอกไกโด
มาเยือนฮอกไกโดแล้วต้องไม่พลาด เทศกาล Otaru Snow Light Path Festival ค่ะ ไฮไลท์ของเทศกาลนี้คือทั้งเมืองจะประดับด้วยแสงไฟสวยๆ ทั้งโคม ตะเกียง แสงเทียน และตุ๊กตาหิมะ โดยบริเวณงานจะจัดขึ้นในพื้นที่เชื่อมต่อกันที่เราสามารถเดินเที่ยวอย่างเพลิดเพลินนั่นคือ Unga Kaijo ริมคลองโอตารุ และ Temiyasen Kaijo ที่ให้คุณได้ฟินตลอดทางเดินข้างรางรถไฟเก่า บอกได้คำเดียวว่าเทศกาลนี้สวยงามและโรแมนติกสุดๆ เลยล่ะค่ะ
Location : Unga Kaijo, Otaru, Hokkaido, Japan
24. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ทะเลสาบโทยะ (Toya Lake) ฮอกไกโด
Lake Toya ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เกิดจากปากปล่อง ภูเขาไฟ และมีความพิเศษตรงที่น้ำไม่แข็งตัวแม้อากาศจะหนาวจัด ไฮไลท์ของLake Toya คือ ทัศนียภาพที่สวยงาม อากาศสดชื่น และการมาเที่ยวชม เดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือ นอกจากนี้กลางทะเลสาบยังมีเกาะ Nakajima ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ให้ลงไปเดินเล่นอีกด้วยนะ
Location : Shikotsu-Toya Nation Park, Toyako, Hokkaido, Japan
25. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ หมู่บ้านมรดกโลก โกคายามะ (Gokayama) โทยามะ
Gokayama เป็นหมู่บ้านเก่าแก่กว่า 400 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโชงาวะ โดยหมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังเต็มไปด้วยกลิ่นไอของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ จุดเด่นของที่นี่คือบ้านทรงแบบกัชโชสึคุริ (Gassho) ที่เป็นรูปแบบงานก่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง ใครอยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบได้ฟีลเมืองเก่าต้องตกหลุมรักที่นี่แน่นอน
Location : Ainokura, Taira, Gokayama, Toyama, Japan
26. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ วัดเซนโซจิ หรือวัดโคมแดง (Sensoji Temple) Tokyo
วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) หรือวัดโคมแดง มีสัญลักษณ์เป็นโคมสีแดงใหญ่ บริเวณวัดนอกจากสวยงามแล้วยังเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมมีสินค้ามากมาย วัดนี้ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ทำให้เรียกอีกชื่อว่า วัดอาซากุสะ นั่นเอง
Location : 2 Chome-3-1 Asakusa, Taito, Tokyo 111-0032
27. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ รถไฟชมวิวซากาโน่ (The Sagano Railway) เกียวโต
ไปนั่งรถไฟเที่ยวเมืองเลียบแม่น้ำโฮซุกาว่า (Hozugawa River) กันค่ะ ใครต้องการฟีลแบบสุดแสนจะโรแมนติก The Sagano Railway จะพาคุณไปชมวิวสองข้างทางที่สวยงามด้วยทิวทัศน์ของหุบเขาสลับซับซ้อน และธรรมชาติบ้านเรือนชนบท ยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยงามตระการตามาก
Location : 616-8394 Saga Tenruji, Ukyo-ku, Kyoto
28. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ วัดทอง หรือวัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) เกียวโต
ปราสาทคินคะคุจิ (Kinkaku) หรือปราสาททองนี้ เดิมเป็นสถานตากอากาศของ โชกุนโยชิมิสึ (Yoshimitsu) แห่งตระกูลอาชิคางะ จากภาพยนตร์เรื่อง เณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง นั่นเองค่ะ ตัวปราสาทเป็นสีทองจากทองคำเปลว อีกจุดเด่นของปราสาทแห่งนี้ก็คือรูปหล่อ นกฟีนิกซ์ บนยอดปราสาท และโดยรอบจะมีลำธารน้ำใสสะอาดทำให้เกิดภาพสะท้อนผิวน้ำแสน สวยราวภาพวาด
Location : 1 Kinkakujicho, Kita Ward, Kyoto, 603-8361, Japan
29. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ ปราสาทชูริ (Shuri Castle) โอกินาว่า
มาเที่ยวโอกินาว่าต้องมาเยือน ปราสาทชูริค่ะ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ความโดดเด่นของปราสาทแห่งนี้อยู่ที่สถาปัตยกรรมอันสวยงามผสมผสานระหว่าญี่ปุ่นและจีน รวมถึงสีแดงอันโดดเด่น ภายในปราสาทก็จะมีจุดต่างๆ ให้แวะชม ไม่ว่าจะเป็นหอหลักของปราสาทหรือไซเด็น หรือ ประตูชูเรมอนที่เมื่อมาแล้วต้องแวะมาถ่ายรูปสวยๆ กันค่ะ
Location : 1 Chome-2 Shurikinjocho, Naha, Okinawa Prefecture 903-0815, Japan
30. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ จุดชมซากุระแม่น้ำเมกุโระ (Meguro River) โตเกียว
เทศกาลซากุระบาน อีกหนึ่งอีเว้นท์ที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นไม่ควรพลาดค่ะ ซึ่งหากอยากชมซากุระในตัวเมืองแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำอุโมงค์ซากุระ ที่สองริมฝั่งของแม่น้ำเมกุโระในโตเกียว เพราะที่นี่มีต้นซากุระปลูกประดับเรียงรายไปตลอด 2 ฝั่งแม่น้ำ สวยงามดั่งภาพวาด กลางวันว่าสวยแล้ว ถ้ามาเดินเล่นช่วงกลางคืนก็จะพบความประทับใจไปอีกแบบเพราะที่นี่จะมีการเปิดไฟประดับเพิ่มความสวยงามอีกด้วย
Location : Meguro River, Tokyo, Japan
31. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะ ฮักไก (Oshino Hakkai) ยามานาชิ
หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai เมืองยามานาชิ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากุจิโกะและทะเลสาบยามานาคาโกะ ภายในบริเวณมีบ่อน้ำที่ใสสะอาดเหมือนกับคริสตัลอยู่ด้วยกันถึง 8 บ่อ ซึ่งบ่อน้ำนี้เกิดจากหิมะที่ละลายในหน้าร้อน ผ่านหินภูเขาไฟที่มีรูพรุนมากมาย ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธ์อีกด้วย และนอกจากจะเพลิดเพลินกับธรรมชาติแล้วที่นี่ยังมีแหล่งช้อปปิ้งและของกินอร่อยๆ อีกด้วย
Location : Shibokusa, Oshino, Minamitsuru District, Yamanashi, Japan
32. สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ สะพานคินไทเคียว (Kintai Bridge) ยามากุจิ
สะพานคินไทเคียว ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เป็นสะพานไม้สมัยโบราณ ที่ก่อสร้างในทรงโค้งต่อเรียงกัน ตั้งอยู่ใน เมืองอิวะคุนิ ที่นี่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามสะพานที่สวยและมีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมอีกด้วย
Location : Iwakuni, Yamaguchi Prefecture 741-0062, Japan
สภาพอากาศและฤดูกาลที่ญี่ปุ่น
ต้องบอกว่าการเลือกมาทัวร์ญี่ปุ่นในฤดูกาลที่แตกต่างกันก็จะทำให้ได้รับประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นที่แตกต่างกันออกไป โดยสภาพอากาศของญี่ปุ่นนั้นก็จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว
- ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อุณหภูมิใช้งานโดยประมาณอยู่ที่ 13 - 25 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่มีสภาพอากาศกำลังดี ท้องฟ้าแจ่มใส ลมพัดเย็นสบาย เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาของพืชพรรณ ในฤดูกาลนี้ก็จะมีเทศกาลชมดอกซากุระขึ้นในแต่ละพื้นที่
- ฤดูร้อน อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 - 35 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนในญี่ปุ่นจะมีอากาศชื้นและทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ซึ่งจะมีช่วงฤดูฝนสั้น ๆ รวมอยู่ด้วยในช่วงต้นฤดูประมาณ 1 เดือน
- ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อากาศจะเริ่มเย็นลง อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 22 - 27 องศาเซลเซียส โดยจะมีพายุไต้ฝุ่นเกิดขึ้นมากในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งในฤดูนี้ก็จะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงบนพื้น ให้วิวทิวทัศน์ที่มีสีสันสวยงาม
- ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อากาศหนาวเย็นโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0 - 7 องศาเซลเซียส มีหิมะตกมากทางภาคเหนือและฝั่งทะเลญี่ปุ่น ส่วนทางใต้และฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกจะมีอากาศอบอุ่นกว่า
แต่ทั้งนี้สภาพอากาศและฤดูกาลที่ญี่ปุ่นนั้นสำหรับใครที่วางแผนจะเดินทางมาทัวร์ญี่ปุ่นก็ต้องดูด้วยว่าจะเลือกมาเที่ยวญี่ปุ่นที่ภูมิภาคไหน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของญี่ปุ่นตั้งแต่ทิศเหนือมาจนถึงทิศใต้นั้นมีลักษณะเป็นแนวยาว จึงทำให้ส่วนใหญ่แล้วสภาพภูมิอากาศทางภาคเหนือก็จะอยู่ในเขตหนาวเย็น และทางภาคใต้ก็จะเป็นเขตอากาศร้อนและมีฝนตกมากในฤดูร้อน
เที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น ใช้งบเท่าไหร่
ในการเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแต่ละครั้งก็ต้องบอกว่าสามารถจัดสรรงบประมาณมากน้อยได้ตามแต่แผนการเดินทางที่เราต้องการจะไปทัวร์ญี่ปุ่น ซึ่งโดยหลักแล้วงบที่ใช้สำหรับเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นก็จะมีดังนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสายการบินและการเลือกที่นั่ง ซึ่งถ้าหากช่วงไหนเจอตั๋วเที่ยวญี่ปุ่นราคาถูกก็อาจจะสามารถซื้อได้ในราคาหลักพันปลาย ๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับสำหรับการทัวร์ญี่ปุ่นก็จะอยู่โดยเฉลี่ยที่ประมาณ 15,000 บาท
- ค่าที่พัก เราสามารถเลือกที่พักในงบประมาณที่เราตั้งไว้ ซึ่งก็มีตั้งแต่ที่พักราคาถูกอย่างพวกโฮสเทล เกสต์เฮ้าส์ โรงแรมแคปซูล บ้านเช่าอพาร์ทเม้นท์ ไปจนถึงโรงแรม ซึ่งถ้าเป็นที่พักราคาถูกก็จะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาทต่อคนต่อคืน แต่ถ้าหากอยากพักโรงแรมดีๆหน่อยก็จะอยู่ที่ราคาประมาณ 3,000 - 6,000 บาทต่อคืนสำหรับห้องพัก 2 คน
- ค่าอาหาร มีร้านอาหารให้เลือกกินมากมายเมื่อเรามาเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งก็มีตั้งแต่ร้านธรรมดาราคาถูกทั่วไปจนไปถึงร้านอาหารราคาแพง ซึ่งโดยปกติแล้วค่าอาหารการกินโดยเฉลี่ยแบบธรรมดาสำหรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 เยน หรือประมาณ 260 บาทต่อมื้อ หรือถ้าหากอยากประหยัดค่ากินสักหน่อยก็ลองเข้าไปดูในพวกร้านสะดวกซื้อได้
- ค่าเดินทางภายในประเทศ การเดินทางเมื่อไปทัวร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้รถไฟกันเพราะสะดวกและสามารถไปได้ทุกที่ โดยแนะนำให้ซื้อเป็นบัตร Pass หรือบัตรแบบ One Day เพราะสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า นอกจากรถไฟแล้วก็ยังมีบริการแท็กซี่และรถบัสด้วย แต่ถ้าระยะทางไม่ไกลแนะนำให้เลือกใช้วิธีเดินเท้าเพราะนอกจากจะประหยัดแล้วก็ยังสามารถเดินกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในระหว่างทาง
- ค่าเข้าชมสถานที่ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นบางแห่งก็จะมีการเก็บค่าเข้าชมด้วย ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก อาคารสถานที่ ซึ่งก็จะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันเยน
- ค่าประกันภัยการเดินทาง ไม่เพียงแค่เฉพาะการทัวร์ญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะการเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศทุกครั้งเราควรที่จะต้องทำประกันการเดินทางเอาไว้ด้วย ซึ่งตรงนี้ก็จะมีบริษัทประกันภัยการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้เลือกว่าจะไปทั้งหมดกี่วันและมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ อย่างเช่นถ้าหากท่องเที่ยว 5 วันค่าประกันก็จะอยู่ที่หลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อคนเท่านั้น
- ค่าช้อปปิ้ง งบประมาณในส่วนนี้สำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องบอกว่าแล้วแต่คนกันเลยว่าจะเตรียมค่าช้อปปิ้งสำหรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าหากเน้นมาเที่ยวไม่เน้นซื้อของก็อาจจะเพียงแค่ซื้อของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือกลับบ้านไปแค่หลักพันบาทก็พอ แต่ถ้าหากหมายมั่นปั้นมือมาทัวร์ญี่ปุ่นเพื่อช้อปปิ้งกันโดยเฉพาะก็อาจจะต้องเตรียมเงินกันไว้ถึงหลักหมื่นหลักแสนเลยทีเดียว แต่อย่าลืมเช็คน้ำหนักกระเป๋าและภาษีที่ต้องจ่ายถ้าหากเดินทางกลับประเทศไทยกันด้วย
ดังนั้นโดยรวมแล้วถ้าหากคำนวณงบประมาณคร่าว ๆ สำหรับการเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแบบสบาย ๆ สัก 4-5 วัน ก็จะอยู่ที่ประมาณ 30,000 - 40,000 บาทก็เพียงพอแล้ว
อาหารญี่ปุ่นแนะนำ ที่ต้องลอง
มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีสิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือการกินอาหารญี่ปุ่นจากต้นตำรับแท้ ๆ ใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากสัมผัสรสชาติของอาหารตามแบบฉบับดั้งเดิม ก็มีอาหารญี่ปุ่นแนะนำให้ลองดังนี้
1. ซูชิ/ซาชิมิ (Sushi/Sashimi)
เป็นเมนูที่หลายคนต้องไปกินต้นตำรับกันสักครั้งเมื่อไปทัวร์ญี่ปุ่น สำหรับซูชิและซาซิมินั้นก็เรียกได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตกันในบ้านเราอยู่แล้ว แต่การไปกินที่ญี่ปุ่นก็จะได้รสชาติและบรรยากาศต้นตำรับดั้งเดิมและวัตถุดิบที่สดใหม่กันแบบเต็ม ๆ คำ รับรองได้ว่าไม่เหมือนกับกินที่เมืองไทยอย่างแน่นอน
2. ราเมน/อูด้ง (Ramen/Udon)
เมนูเส้นยอดนิยมที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องสั่งมากินกันสักชาม ซึ่งทั้ง 2 เมนูนี้ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่ที่ลักษณะของเส้น และน้ำซุป โดยราเมนนั้นจะใช้เส้นบะหมี่ข้าวสาลี ใช้น้ำซุปที่ทำมาจากเนื้อสัตว์หรือน้ำสต๊อกจากปลา ในขณะที่อูด้งก็จะเป็นเส้นที่ทำมาจากแป้งบักวีตและแป้งสาลีผสมกัน ซึ่งเมื่อผสมแป้งบักวีตแล้วก็จะทำให้ตัวเส้นบะหมี่ออกเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล
3. เนื้อย่าง (Yakiniku)
สำหรับสายเนื้อที่มาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นบอกเลยว่าเป็นเมนูที่ห้ามพลาด เนื้อวัวของญี่ปุ่นนั้นก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อยที่มีความพิถีพิถันกันมาตั้งแต่วัตถุดิบและสภาพแวดล้อมที่ใช้เลี้ยงวัวกันแล้ว ดังนั้นมาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีใครที่ชื่นชอบกินเนื้อกันอยู่แล้วต้องไม่พลาดที่จะจัดเมนูเนื้อย่างกันสักหลายมื้อ ยิ่งถ้ามาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นกันเป็นหมู่คณะรับรองว่ายิ่งกินเนื้อย่างกันแบบอร่อยและสนุกสนานอย่างแน่นอน
4. เทมปุระ (Tempura)
ถึงแม้ว่าบ้านเราก็จะหากินเทมปุระได้ไม่ยากแต่มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะไม่เข้าถึงเทมปุระจากต้นตำรับเห็นทีว่าจะมาไม่ถึงญี่ปุ่น เมนูทอดยอดนิยมที่ใช้วัตถุดิบหลายอย่างชุบแป้งทอดให้กรอบด้วยเทคนิคเฉพาะตัว ทีเด็ดที่สุดก็คือกุ้งเทมปุระนั่นเอง
5. มันปู (Kani miso)
เปลี่ยนจากมันปูจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดบ้านเรามาลองมันปูญี่ปุ่นที่นำมันปูปรุงรสมาใส่กระดองย่างไฟอ่อนหอมกรุ่น ให้รสชาติมันปูที่เข้มข้นหอมมันออกเค็มเล็กน้อยจากซอสที่ใช้ปรุง โรยต้นหอมญี่ปุ่นหรือไข่กุ้งสักเล็กน้อยแล้วกินเปล่า ๆ เพื่อดื่มด่ำซึมซาบกับรสชาติมันปูเน้น ๆ หรือจะนำมาคลุกกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อน ๆ งานนี้มีเติมข้าวอย่างแน่นอน
6. ข้าวหน้าปลาไหล (Kabayaki)
มาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมมาลิ้มรสข้าวหน้าปลาไหลสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่มีขายทั่วไปหาซื้อกินได้ไม่ยากและมีราคาไม่แพง เพราะเป็นเมนูที่ร้านไหน ๆ ต่างก็มีกันอยู่แล้ว ปลาไหลย่างชิ้นโต ๆ หอมหวานที่ปรุงรสด้วยซอสแบบเข้าเนื้อ กินกับข้าวสวยญี่ปุ่น ก็อิ่มอร่อยกันไปอีกมื้อ
7. หอยนางรม (Kaki)
มาลองกินหอยนางรมตามแบบฉบับญี่ปุ่นที่เป็นการนำเอาหอยนางรมสดตัวโต ๆ มากินแบบดิบๆเลยก็ดี หรือจะนำไปย่างก็ได้ ใครมาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากลิ้มลองหอยนางรมสดใหม่ ที่นี่ก็มีแหล่งผลิตหอยนางรมขึ้นชื่ออยู่ที่จังหวัดมิยางิ
8. สุกี้ยากี้/ ชาบู/ นาเบะ (Sukiyaki/ Shabu/ Nabe)
ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงอากาศหนาวถ้าหากอยากหาอะไรร้อน ๆ อร่อย ๆ พร้อมวัตถุดิบสดใหม่แนะนำว่าเมนูพวกหม้อไฟ ซึ่งแล้วแต่ใครจะถนัดหรือชอบแบบไหนมากกว่ากัน โดยทั้ง 3 เมนูนี้ก็จะเป็นการนำวัตถุดิบมาต้มใส่หม้อเหมือนกันแต่จะมีรายละเอียดในการกินแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย อย่างสุกี้ยากี้ก็จะเป็นการผัดเนื้อกับต้นหอมก่อนแล้วค่อยนำวัตถุดิบอื่นๆและน้ำซุปลงไปต้ม ในขณะที่นาเบะก็จะ เป็นการนำเอาวัตถุดิบทุกอย่างต้องลงไปในหม้อเดียวกันให้เดือดปุด ๆ ส่วนชาบูก็จะเป็นการนำเอาเนื้อจุ่มลงไปในน้ำซุปให้สุกแล้วกินกับน้ำจิ้ม
9. โซบะ (Soba)
ต้องบอกว่าเมนูนี้เป็นอาหารจิตวิญญาณของชาวโตเกียวกันเลยทีเดียว เป็นเมนูอาหารเส้นดั้งเดิมที่บอกเลยว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีต้องลิ้มลองรสชาติของต้นฉบับกันดูสักครั้ง โดยเส้นโซบะก็จะทำมาจากแป้งโซบะ กินได้ทั้งแบบร้อนและเย็น ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็บอกว่าเป็นเมนูที่หากินได้ไม่ยากเพราะมีขายกันอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะร้านโซบะแบบยืนกินที่มาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีต้องลองกินกันดูสักครั้ง
10. ทงคัตสึ (Tonkatsu)
เมนูหมูทอดที่หลายคนชื่นชอบ อีกหนึ่งเมนูที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมลองกินรสชาติต้นตำรับแท้ ๆ กันดูสักมื้อ กับหมูทอดหั่นชิ้นหนาที่นำมาคลุกเคล้ากับแป้งผสมกับไข่ชุบเกล็ดขนมปังทอดกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งโดยทั่วไปก็จะกินคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นและซุปมิโซะ กะหล่ำปลีซอย โดยสามารถราดซอสเพื่อเพิ่มรสชาติได้ตามชอบ
11. โคร็อกเกะ (Korokke)
อีกหนึ่งเมนูของทอดยอดฮิตที่เมื่อไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นแล้วไม่ควรพลาด ซึ่งโคร็อกเกะนี้ก็มีจำหน่ายตามร้านเบเกอรี่ทั่วไป ส่วนใหญ่ก็นิยมกินกันเป็นอาหารว่างโดยจะเป็นการนำเอาเนื้อสัตว์ซื้อผักไปผสมกับมันบดแล้วปั้นให้ขึ้นรูปนำไปคลุกแป้งสาลี ไข่ เกล็ดขนมปัง แล้วนำไปทอดให้สุกเหลืองกรอบนอกนุ่มใน นิยมเสิร์ฟพร้อมซอสทงคัตสึและกะหล่ำปลีซอยเป็นเครื่องเคียง
12. ทาโกยากิ (Takoyaki)
ถึงแม้บ้านเราจะมีให้เลือกกินกันหลายร้านและหาซื้อได้ง่ายทั่วไปแต่เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดทาโกยากิฉบับต้นตำรับไปได้อย่างไร ซึ่งทาโกะยากิที่ญี่ปุ่นก็มีขายอยู่ทั่วไปและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หาซื้อได้ง่ายทุกที่ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นริมถนน ร้านอาหาร ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อเลยทีเดียว
แหล่งช้อปปิ้งในญี่ปุ่น ยอดนิยม
แน่นอนว่าถ้าหากมาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีงานช้อปปิ้งก็ต้องมา ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งในญี่ปุ่นยอดนิยมส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่โตเกียว หากใครอยากแวะช้อปปิ้งซื้อของ เราก็มีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในโตเกียวมาฝากกัน
1. ชินจูกุ
แหล่งช็อปปิ้งชื่อดังที่ใคร ๆ ก็รู้จักและไม่พลาดที่จะมาเยือนเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่น ต้องบอกแถบนี้เป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าใหญ่ ศูนย์รวมแฟชั่น ของกิน ของฝาก ของที่ระลึกมากมาย มาให้ช้อปปิ้งกัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวก็สามารถช้อปปิ้งได้ครบทุกสิ่งตามที่ต้องการ
Location : Shinjuku City Tokyo, Japan
2. ฮาราจูกุ
วัยรุ่นต้องมาทางนี้ สำหรับย่านฮาราจูกุก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นและวัยรุ่นที่ขึ้นชื่อของโตเกียวด้วยเช่นกัน ใครอยากสัมผัสวิถีชีวิตวัยรุ่นญี่ปุ่นเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่จะมาฮาราจูกุ และขอแอบกระซิบว่าย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเครปเป็นอย่างมาก อย่าลืมลองซื้อมาชิมกันดู [พาเที่ยว ฮาราจูกุ ไปช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่น ที่วัยรุ่นญี่ปุ่นนิยม]
Location : Jingumae Shibuya City, Tokyo 150-0001 Japan
3. ชิบูย่า
ย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และ Landmark ยอดฮิตอย่าง 5 แยกชิบูย่า นอกจากจะ ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั้งหลายแล้ว ก็ยังมีร้านให้นั่งกินกาแฟและของว่างชิล ๆ เพื่อชมบรรยากาศความคึกคักและมีชีวิตชีวาของชิบูย่ากันด้วย
Location : Shibuya City Tokyo, Japan
4. โอโมเตะซันโด
ไปช้อปปิ้งของแบรนด์เนมเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่นต้องมาที่ย่านนี้ เพราะเป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Dior ซึ่งในย่านนี้ก็เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมี่ยมอย่าง Omotesando Hills และ Tokyo Plaza อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะช้อปปิ้งของแบรนด์เนมกันแล้วก็ยังสามารถเดินเล่นเพื่อเพลิดเพลินไปกับการตกแต่งสถานที่ที่สวยงามและทันสมัยได้อีกด้วย
Location : Omotesando, Tokyo. Japan
5. อาเมโยโกะ
มาทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีแล้วอยากช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าของฝากในราคาย่อมเยาขอแนะนำให้มากันที่ย่านนี้ มีร้านค้าเรียงรายไปตลอดสองฝั่งให้เราได้เลือกช็อปปิ้งกันมากกว่า 400 ร้าน เดินช็อปปิ้งกันได้เต็มที่แบบสบาย ๆ และยังต่อราคากันได้แบบสนุก ๆ อีกด้วย
Location : 10 Ueno, Taito City, Tokyo 110-0005, Japan
โรงแรมและที่พักในญี่ปุ่นแนะนำ
แน่นอนว่าการเลือกมาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นนั้นก็จะต้องมีการจองโรงแรมและที่พักกันด้วย ซึ่งทางที่ดีก็ควรเลือกโรงแรมที่สะดวกต่อการเดินทางตามแผนท่องเที่ยว ใกล้กับแหล่งของกินและแหล่งช้อปปิ้ง และมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งต้องบอกว่าโรงแรมที่พักในญี่ปุ่นนั้นก็มีรูปแบบและราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็มีโรงแรมและที่พักในญี่ปุ่นที่น่าสนใจสำหรับใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นมาแนะนำกัน
1. โรงแรมแคปซูล (Capsule Hotel)
ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อนกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่กี่คน หรืออาจจะแบ็คแพ็คมาเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวแล้วอยากประหยัดในเรื่องของค่าที่พักก็แนะนำให้เลือกเป็นโรงแรมแคปซูล ซึ่งเป็นที่พักราคาประหยัดซึ่งสามารถพบเห็นได้ตามเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งตอนนี้ก็มีโรงแรมแคปซูลพรีเมี่ยมที่น่าสนใจก็คือ “First Cabin” ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ด้วยกันหลายสาขาในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่น เป็นโรงแรมแคปซูลที่บอกเลยว่าจะทำให้ประสบการณ์นอนโรงแรมแคปซูลของคุณเป็นเรื่องน่าประทับใจเลยทีเดียว
2. โรงแรมราคาประหยัด (Business Hotel)
เป็นโรงแรมมาตรฐาน 3 ดาว ที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น ซึ่งก็จะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟในเมืองต่าง ๆ เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่เดินทางมาทำธุรกิจในระยะสั้นและนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์ญี่ปุ่น ดังนั้นใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากได้ห้องพักที่มีความเป็นส่วนตัว สะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีราคาไม่แพง ก็แนะนำให้เลือกโรงแรมแบบนี้ ซึ่งก็มีโรงแรมแนะนำได้แก่ “Residential Hotel Hare Shin-Osaka” โรงแรมที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองโอซาก้ามาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของการตกแต่งแบบญี่ปุ่นและความโมเดิร์นที่ลงตัว มีห้องครัวขนาดย่อมเครื่องซักผ้าให้ใช้งานกันด้วย
3. โรงแรมสไตล์ตะวันตก
เป็นโรงแรมหรู 4-5 ดาว ซึ่งถ้าหากใครวางแผนมาทัวร์ญี่ปุ่นเจ้าโชคดีเจอโปรโมชั่นเท่าพอดีก็อาจจะได้พักโรงแรมหรูในราคาไม่ต่างจากโรงแรมราคาประหยัดมากนักก็ได้ แต่แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วก็จะมีราคาค่อนข้างแพงแต่ก็มีความสะดวกสบายสมราคาด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากใครมีงบประมาณเพียงพอก็สามารถเลือกพักโรงแรมแบบนี้ได้ ซึ่งโรงแรมที่น่าสนใจก็คือโรงแรม Mitsui Garden Hotel Nagoya Premier โรงแรมสไตล์ตะวันตกสุดหรูซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมืองนาโกย่า
4. โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียวกัง
ใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากสัมผัสบรรยาบรรยากาศกาศการพักผ่อนที่เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม แนะนำให้เลือกที่พักแบบเรียวกัง ซึ่งห้องพักก็จะตกแต่งด้วยเสื่อทาทามิและฟูกนอนปูกับพื้นแบบญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีออนเซ็นให้ได้มาใช้บริการกันอีกด้วย ซึ่งเรียวกังที่น่าสนใจก็จะเป็นที่ “Andon Ryokan” ใน Tokyo นี่เอง เรียกว่าเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศการพักผ่อนแบบเรียวกังในใจกลางเมืองโตเกียวที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย
นอกจากโรงแรมแล้วสำหรับใครที่มาทัวร์ญี่ปุ่นแล้วอยากได้ที่พักในรูปแบบอื่น ๆ ก็ยังมีบ้านพักตากอากาศ ที่พักแบบโฮมสเตย์ บ้านพักและห้องชุดที่เจ้าของปล่อยให้เช่าผ่านเว็บไซต์ Airbnb.com มาให้เลือกพักแรมกันในระหว่างที่ทัวร์ญี่ปุ่นอีกด้วย
แนะนำของฝาก ญี่ปุ่น
มาเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีต้องมีของฝากติดไม้ติดมือเอาไปให้เพื่อนฝูงและญาติสนิทมิตรสหายกันบ้าง ซื้อของฝากจากญี่ปุ่นที่หาซื้อได้ง่าย มีราคาไม่แพง ที่น่าสนใจก็มีดังนี้
1. แก้วสตาร์บัคญี่ปุ่น
แม้ว่าแก้วสตาร์บัคจะมีจำหน่ายกันอยู่ทั่วโลกแต่ก็จะมีลวดลายที่ทำออกมาโดยเฉพาะของประเทศนั้น ๆ กันอยู่ และแน่นอนว่าแก้วสตาร์บัคญี่ปุ่นนั้นก็เป็นอะไรที่มีลวดลายสวยงามน่ารักน่าซื้อเสียเหลือเกิน ดังนั้นมาทัวร์ญี่ปุ่นทั้งทีอย่าลืมแวะดูแก้วสตาร์บัคติดไม้ติดมือกันมาสักหน่อย จะซื้อมาใช้เองหรือจะซื้อเป็นของฝากรับรองใครได้รับเป็นต้องชอบใจอย่างแน่นอน
2. แก้วฟูจิ
เป็นของฝากสำหรับคนมาเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมาก ก็เป็นแก้วใสที่ออกแบบให้มีรูปทรงของภูเขาไฟฟูจิอยู่บริเวณก้นแก้ว เมื่อใส่น้ำลงไปก็จะทำให้เราได้เห็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม เรียกได้ว่าเป็นของฝากที่มีลักษณะเฉพาะของญี่ปุ่นและสามารถใช้งานได้จริงอีกด้วย
3. ช็อกโกแลต Royce'
ช็อกโกแลตที่เรียกได้ว่าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องซื้อกลับบ้านด้วยกันทั้งนั้น ช็อกโกแลตยี่ห้อนี้ก็มีโรงงานผลิตอยู่ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งก็มีผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตออกมาจำหน่ายมากมายและที่ขึ้นชื่อเป็นที่นิยมมากก็จะเป็น ช็อกโกแลตนามะ (Nama Chocolate)
[ แนะนำ 10 ขนมญี่ปุ่น สวรรค์ของคนสายหวาน ]
4. กาชาปอง
ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องลองไขตู้กาชาปองกับเจ้าถิ่นกันดูสักครั้ง ซึ่งนอกจากจะได้ลุ้นของที่อยู่ด้านในแล้วว่าจะเป็นอันที่ต้องการหรือไม่ ก็ยังนำกาชาปองที่ไข่ออกมาเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนทางบ้านได้อีกด้วย เพราะบอกเลยว่าของที่อยู่ด้านในเป็นของดีของแท้ที่เกี่ยวข้องกับพวกอนิเมะ เกม มังงะ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
5. ตุ๊กตาแมวกวัก
ใครที่ชื่นชอบแมวขอแนะนำของฝากจากการทัวร์ญี่ปุ่นเป็นตุ๊กตาแมวกวัก ซึ่งนอกจากจะเป็นสินค้าที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล กวักโชคลาภ กวักเงินกวักทอง ทำมาค้าคล่องแล้ว ก็ยังมีดีไซน์ที่น่ารักและมีหลายขนาดให้เลือกเหมาะเป็นของฝากจากญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
6. สินค้าพื้นเมือง
อีกหนึ่งของฝากจากญี่ปุ่นที่หลายคนนิยมซื้อกลับไปฝากเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะมีราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย ก็ยังมาพร้อมกับลวดลายในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ซึ่งสินค้าพื้นเมืองเหล่านี้ก็จะมีทั้งของกระจุกกระจิกเล็กน้อยอย่างเช่น พัด กระเป๋าผ้า ของแต่งบ้าน เครื่องครัว กระเป๋าใส่เหรียญ เหมาะกับการซื้อเป็นของฝากเล็กๆ น้อย ๆ จากการไปทัวร์ญี่ปุ่น
7. รองเท้ารุ่น Japan limited edition
ถึงแม้ว่ารองเท้ากีฬาจะมีจำหน่ายกันทั่วโลก แต่รองเท้ารุ่นที่ทำมาเป็น Japan limited edition ก็เป็นหนึ่งในของฝากจากญี่ปุ่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะแน่นอนว่าเป็นลวดลายที่ผลิตมาจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเมื่อมาญี่ปุ่นก็อย่าลืมซื้อรองเท้าที่เป็น Japan limited edition ไปเป็นของฝากหรือซื้อกลับไปสะสมก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
ดังนั้นใครที่วางแผนจะมาทัวร์ญี่ปุ่นก็ลองพิจารณาดูจากงบประมาณ ระยะเวลา และสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยือนกันก่อนนะคะ จะได้วางแผนการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นอย่างมีความสุข ในงบประมาณที่เราวางไว้กันค่ะ