สำหรับใครที่อยากท่องเที่ยวประเทศในทวีปเอเชียแต่ได้บรรยากาศเหมือนกับอยู่ในทวีปยุโรป ผสมผสานกับวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่คล้ายกับตะวันออกกลาง เราขอแนะนำไปทัวร์จอร์เจียกันค่ะ ประเทศจอร์เจียนั้นก็เต็มไปด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม เป็นประตูสู่เทือกเขาคอเคซัสอันเป็นจุดมุ่งหมายของนักปีนเขาและนักผจญภัยจากทั่วทุกมุมโลก ประเทศที่เต็มไปด้วยร่องรอยของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเกิดจากอิทธิพลของชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ตุรกี และเปอร์เซีย ที่ต่างก็ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตั้งแต่ในอดีต และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทั้งหมดนี้จึงทำให้ประเทศจอร์เจียกลายเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็อยากที่จะมาเยือนให้ได้กันสักครั้ง และใครที่กำลังวางแผนทัวร์จอร์เจียกันอยู่ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการเที่ยวจอร์เจียมาฝากกันค่ะ
ข้อมูลเที่ยวทัวร์จอร์เจีย
ประเทศจอร์เจีย (Georgia) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดของทวีปยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตก โดยเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคคอเคซัส มีพรมแดนติดกับทะเลดำทางด้านทิศตะวันตก ติดกับรัสเซียทางด้านทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้อยู่ติดกับตุรกี อยู่ติดกับอาร์เมเนียทางทิศใต้ และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับอาเซอร์ไบจาน มีพื้นที่ 69,700 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 3.7 ล้านคน มีเมืองหลวงคือ ทบิลิซี (Tbilisi) ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของประเทศจอร์เจียและมีประชากรอยู่มากที่สุด สกุลเงินที่ใช้ก็คือ ลารีจอร์เจีย (Georgian Lari: GEL) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยน 1 ลารี เท่ากับ 12 -13 บาท
สภาพภูมิประเทศของจอร์เจียค่อนข้างมีความหลากหลายโดยมีทั้งพื้นที่ป่า ที่ราบลุ่ม หนองน้ำ และเขตเทือกเขา แต่โดยรวมแล้วภูมิประเทศของจอร์เจียเป็นภูเขาเกือบทั้งหมด ในขณะที่เขตป่าไม้บางส่วนของประเทศก็จะอยู่บริเวณทางตอนเหนือของลุ่มน้ำคอเคซัส โดยมีเทือกเขา Greater Caucasus เป็นพรมแดนทางตอนเหนือของจอร์เจีย มีอุโมงค์ Roki เป็นทางผ่านเทือกเขาเข้าสู่ดินแดนของรัสเซีย นอกจากเทือกเขาแล้วจอร์เจียก็ยังมีแหล่งน้ำแร่และน้ำพุร้อนรวมไปถึงแม่น้ำไหลผ่าน 2 สายได้แก่ แม่น้ำริโอนี (Rioni) และ แม่น้ำคูรา (Kura) หรือแม่น้ำ Mtkvari
และด้วยความที่ภูมิประเทศของจอร์เจียนั้นมีสภาพพื้นที่ค่อนข้างหลากหลายและมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจียมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เขตเทือกเขา สกีรีสอร์ท บ่อน้ำแร่ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ปราสาท โบสถ์และวิหาร สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งบางแห่งก็ได้รับการยอมรับจากยูเนสโกให้เป็นแหล่งมรดกโลก นอกจากนี้ก็ยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าจอร์เจียนั้นเป็นประเทศที่มีการบ่มไวน์เก่าแก่มากที่สุด โดยมีการค้นพบไหไวน์อายุถึงกว่า 8,000 ปีก่อนคริสตกาล นั่นจึงทำให้จอร์เจียกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์ที่เก่าแก่มากที่สุดในโลก นั่นจึงทำให้ที่จอเจียร์กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ทัวร์จอร์เจียแนะนำตามเมืองยอดนิยม
1. ทัวร์จอร์เจีย ทบิลิซี (Tbilisi)
เมืองหลวงของประเทศจอร์เจียอันเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์จอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (Kura) เสน่ห์ของการท่องเที่ยวที่เมืองนี้ก็คือการท่องเที่ยวแบบใช้การเดินหรือ City Walk เป็นหลัก โดยมีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียน่าสนใจ ได้แก่ เขตเมืองเก่า (Old Tbilisi), โบสถ์เมเตคี (Metekhi Cathedral), โรงอาบน้ำ Sulphur Bath , ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress), น้ำตกเลกทากิวี (Leghvtakhevi Waterfall), Mother of a Georgian, ถนนรัสตาเวลีและจัตุรัสอิสรภาพ (Rustaveli Avenue and Freedom Square), สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace), โบสถ์ทรินิตี้แห่งเมืองทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi), The Chronicle of Georgia เป็นต้น
2. ทัวร์จอร์เจีย ซุกดีดี (Zugdidi)
ที่นี่เป็นเมืองซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจอร์เจีย เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Samegrelo-Zemo Svaneti ของรัฐจอร์เจียตะวันตก ถึงแม้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนักแต่ก็เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ทางด้านวัฒนธรรมและอาหารของชาว Mingrelian ที่เมืองนี้มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียน่าสนใจ ได้แก่ Dadiani Palaces Historical and Architectural Museum, สวนพฤกษศาสตร์ Zugdidi, Tobavarchkhili Lake, Rukhi Fortress, River Enguri เป็นต้น
3. ทัวร์จอร์เจีย คาเคตี (Kakheti)
ตั้งอยู่ในจอร์เจียตะวันออก ที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในยุคต่าง ๆ และธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะในแง่ของวัฒนธรรมและประเพณี นอกจากนี้ก็ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของอาหารจานเนื้อและไวน์อีกด้วย โดยมีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียที่น่าสนใจ ได้แก่ ทะเลสาบ Black Rocks, น้ำตก Rocho, น้ำตก Ninoskhevi, ทะเลทราย Gareja, ภูเขาไฟโคลน Kilakupra, ช่องเขา Eagle Gorge, หมู่บ้าน Tusheti, อาราม Ikalto, อาราม David Gareja, อาราม Alaverdi เป็นต้น
4. ทัวร์จอร์เจีย บาตูมี (Batumi)
เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของจอร์เจีย และเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐปกครองตนเองอัดจารา (Adjara) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลดำทางตะวันตกเฉียงใต้ของจอร์เจีย ที่นี่เป็นเมืองท่าและเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียที่น่าสนใจ ได้แก่ Batumi Cathedral of the Mother of God, Batumi Botanical Garden, Chacha Tower, Aquapark, Church of St. Nicholas, Adjara Museum of Art, Medea Monument เป็นต้น
5. ทัวร์จอร์เจีย กอรี (Gori)
เป็นเมืองทางตะวันออกของจอร์เจียและเป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Shida Kartli ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำ 2 สายคือ Mtkvari และ Liakhvi เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันโดดเด่นอยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นบ้านเกิดของโจเซฟ สตาลิน นักปฏิวัติชาวจอร์เจียและผู้นำทางการเมืองของสหภาพโซเวียต โดยมีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียน่าสนใจ ได้แก่ ป้อมปราการ Gori Fortress, วิหาร Gori Cathedral of Saint Mary, พิพิธภัณฑ์ Gori State Historical-Ethnographic Museum, โรงละคร Gori State, State Museum Of Joseph Stalin, โบสถ์ Gorijvari, เมืองหิน Uplistikhe, ช่องเขา Ateni เป็นต้น
ทัวร์จอร์เจีย ตามเทศกาลแนะนำ
ทัวร์จอร์เจีย เทศกาล Tbilisoba
เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นปีละครั้งในช่วงประมาณเดือนตุลาคม งานเฉลิมฉลองส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเก่าของทบิลิซี, สวน Rike Park, ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Mtkvari รวมไปถึงสวนสาธารณะในเมืองหลายแห่ง เทศกาลนี้เต็มไปด้วยการแสดง การแสดงเต้นรำแบบดั้งเดิม การแสดงละครและดนตรี ดอกไม้ไฟ เพลินไปกับของกินไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ ผัก ไวน์ ชีส ขนมหวาน และขนมอื่นๆ มากมาย ไฮไลท์ของเทศกาลนี้ก็คือกระบวนการบดองุ่นเพื่อผลิตไวน์ที่ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่น่าทึ่งและสนุกสนานพร้อมทั้งชิมอาหารและไวน์รสเลิศของจอร์เจีย
ทัวร์จอร์เจีย เทศกาล Art-Gene Festival กรกฎาคม
หนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจอร์เจีย จัดขึ้นประมาณเดือนกรกฎาคมโดยจะจัดงานนานประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อรำลึกถึงประเพณีทางดนตรีและมรดกของประเทศทุกปี จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาในทบิลิซี มีการแสดงดนตรีพื้นบ้านและการเต้นรำ การแสดงดนตรีร่วมสมัยและการแสดงงานฝีมือ การแสดงและนิทรรศการ มีแผงขายงานฝีมือและ workshop นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารมากมายให้คุณได้ลิ้มรสกับอาหารและไวน์รสเลิศของจอร์เจีย
ทัวร์จอร์เจีย เทศกาล Rtveli
จอร์เจียนั้นถือเป็นประเทศที่ผลิตไวน์ซึ่งเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เต็มไปด้วยไวน์ชื่อดังรสเลิศมากมาย เทศกาลนี้ไม่มีวันที่แน่นอนเนื่องจากขึ้นอยู่กับวันที่เก็บเกี่ยวของแต่ละภูมิภาค โดยจะเป็นการรวบรวมองุ่นซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของฤดูใบไม้ร่วงเพื่อทำการผลิตไวน์ โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมการเก็บองุ่นและสนุกสนานไปกับการยำองุ่นได้ นอกจากนั้นก็ยังเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยและไวน์โฮมเมดที่สืบทอดวิธีการหมักบ่มมาตั้งแต่ในอดีต
ทัวร์จอร์เจีย เทศกาล Shatiloba
เป็นงานเทศกาลดั้งเดิมงานหนึ่งของจอเจียร์ซึ่งมีรากฐานมาจากประเพณีท้องถิ่น โดยจัดขึ้นในหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขต Khevsureti ในเทือกเขาคอเคซัสตอนเหนือ มีการแสดงดนตรีพื้นเมือง การแสดงพื้นบ้าน มวยปล้ำแบบจอร์เจีย และการแข่งม้าภูเขาของคนท้องถิ่นอันน่าตื่นเต้น ดื่มด่ำไปกับงานเลี้ยงและอาหารรสเลิศ และเพลิดเพลินไปกับการจัดแสดงสินค้าทำมือแบบดั้งเดิม อาหารท้องถิ่น และเบียร์ Khevsur ที่บอกเลยว่าห้ามพลาด โดยปกติแล้วเทศกาลนี้ก็จะจัดขึ้นในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม
ทัวร์จอร์เจีย เทศกาล Cheese Festival
การทำชีสของประเทศจอร์เจียไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมทั่วไปเท่านั้น แต่เป็นประเพณีทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในอดีต เทศกาลนี้จัดขึ้นในช่วงประมาณเดือนเมษายน โดยเกษตรกรผู้ทำชีสจากทั่วประเทศก็จะมารวมตัวกันเพื่อสาธิตและแสดงวิธีการทำชีสให้นักท่องเที่ยวและนักชิมจากทั่วโลกได้ลิ้มลองชีสหลายชนิด ที่บอกเลยว่าคนรักชีสไม่ควรพลาด
ทัวร์จอร์เจีย เทศกาล Black Sea Jazz Festival
เป็นอีกหนึ่งเทศกาลดนตรีแจ๊สที่ดีที่สุดในจอร์เจีย จะขึ้นในช่วงประมาณเดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่ชื่นชอบดนตรีแจ๊สต่างก็มาที่เทศกาลนี้เพื่อชมการแสดงจากศิลปินระดับโลกชั้นนำมากมายในสถานที่ใกล้เคียงกับบนชายฝั่งทะเลดำ นอกจากดนตรีแจ๊สก็ยังมีดนตรีแนวอื่นๆอย่างเช่น R&B, hip hop, soul และ funk
ทัวร์จอร์เจีย เทศกาล Tushetoba
เป็นเทศกาลเก่าแก่ซึ่งจัดขึ้นในอุทยานแห่งชาติ Tusheti ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก จะขึ้นประมาณช่วงเดือนสิงหาคม โดยมีประเพณีขี่ม้าเก่าแก่ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ซึ่งผู้ชนะก็จะได้รับฝูงแกะและธง Tushetoba นอกจากนี้ในเทศกาลเราก็จะได้พบกับการทำชีสแบบดั้งเดิม งานหัตถกรรมของชาว Tushetian รวมไปถึงอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์จอร์เจีย ยอดนิยม
1. ทัวร์จอร์เจีย Ushguli
หมู่บ้านเล็ก ๆ ในพื้นที่ภูเขา Caucasian ของ Svaneti ที่คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาสูงตระหง่าน เต็มไปด้วยหอสังเกตการณ์โบราณนับสิบแห่งก่อนที่จะเข้ามาสู่หมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ สัมผัสกับการต้อนรับที่อบอุ่นด้วยอาหารแสนอร่อยและไวน์มากมาย การเดินทางมาที่นี่เต็มไปด้วยความท้าทายและการผจญภัย แต่รับรองได้เลยว่าคุ้มค่ากับที่เดินทางมาอย่างแน่นอน
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Ushguli, Georgia
2. ทัวร์จอร์เจีย Old Tbilisi
ย่านเมืองเก่าหรือเรียกกันโดยทั่วไปว่าย่านประวัติศาสตร์ทบิลิซิ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ซึ่งสถานที่ส่วนใหญ่ของทบิลิซิก็จะรวมกันอยู่ในย่านนี้ เรียกว่าเป็นศูนย์กลางหลักในสถานที่ท่องเที่ยวของเมือง เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ถึงศตวรรษที่ 20 โรงอาบน้ำกรรมฐาน โบสถ์และพิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงผลงานภาพวาดจากศิลปินชื่อดัง Giovanni Vepkhavadze
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Dzveli Tbilisi, Tbilisi, Georgia
3. ทัวร์จอร์เจีย ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress)
สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและมีชื่อเสียงของทบิลิซิ อยู่ใกล้กับย่านประวัติศาสตร์ทบิลิซิ เป็นป้อมปราการโบราณในศตวรรษที่ 4 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องเมือง ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำสายสำคัญอย่าง Mtkvari จากมุมสูงได้ บริเวณป้อมปราการแห่งนี้ก็ประกอบไปด้วยกำแพงล้อมรอบที่อยู่บนเนินเขาสูงชัน ห้องอาบน้ำกำมะถัน สวนพฤกษศาสตร์ และโบสถ์เซนต์นิโคลัส
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : MRQ5+4R8, Tbilisi, Georgia
4. ทัวร์จอร์เจีย Batumi botanical garden
ที่นี่เป็นศูนย์วิจัยพันธุ์พืชที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุด เต็มไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ต่าง ๆ หลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลกใน 9 โซนที่แตกต่างกัน สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Mtsvane Kontskhi อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ กิโลเมตรท่องเที่ยวที่ดีที่สุดใน Batumi โดยสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเลดำและเส้นขอบฟ้าที่แสนงดงามได้อีกด้วย
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Green Cape, Batumi, Georgia
5. ทัวร์จอร์เจีย โบสถ์ Gergeti Trinity Church
ที่นี่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งจอร์เจียที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด โบสถ์ Gergeti Trinity Church เป็นโบสถ์หินแกรนิตขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยศตวรรษที่ 14 ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาที่ถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาคอเคซัสในภูมิภาค Kazbegi ทำให้โบสถ์แห่งนี้ดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่สวยงามแปลกตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจียที่ไม่ควรพลาด
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : MJ6C+V4J, Kazbegi, Oni, Georgia
6. ทัวร์จอร์เจีย Uplistsikhe Cave Town
เมืองถ้ำโบราณที่เป็นหนึ่งในหลักฐานการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดในจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาหินอยู่ไม่ไกลจากทบิลิซีและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจียยอดนิยม โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่มีการสกัดภูเขาหินให้กลายเป็นพระราชวังเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ที่นี่เป็นเมืองหลวงอาณาจักรโบราณแห่ง Kartli เป็นศูนย์กลางทางศาสนา การเมือง และวัฒนธรรมที่สำคัญในยุค Hellenistic และเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 9 - 11
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Uplistsikhe, Gori, Georgia
สภาพอากาศและฤดูกาลที่จอร์เจีย
สภาพอากาศของจอร์เจียนั้นค่อนข้างมีความหลากหลายเนื่องจากสภาพภูมิประเทศ ซึ่งที่นี่ก็มีเขตภูมิอากาศหลักอยู่ 2 เขต ได้แก่ทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก โดยมี เทือกเขา Greater Caucasus ที่มีบทบาทสำคัญของสภาพภูมิอากาศ พื้นที่ทางฝั่งตะวันตกอยู่ติดกับทะเลดำมีสภาพอากาศเป็นแบบกึ่งร้อนชื้น มีความแตกต่างกันออกไปตามระดับความสูงของพื้นที่ อากาศโดยทั่วไปค่อนข้างอบอุ่นกว่าทางเขตตะวันออกที่มีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างหนาวเย็น โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดูดังนี้
- ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อากาศหนาวเย็นและมีหิมะตก อุณหภูมิติดลบ โดยมีเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 8 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิเริ่มอบอุ่นขึ้นมาจากในช่วงฤดูหนาว โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 10-25 องศาเซลเซียส
- ฤดูร้อน อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม อากาศอบอุ่นไปจนถึงค่อนข้างร้อน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 31 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน อากาศเริ่มหนาวเย็น ใบไม้เปลี่ยนสี อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4 ถึง 20 องศาเซลเซียส
ดังนั้นใครที่วางแผนมาทัวร์จอร์เจียก็อย่าลืมเช็คดูก่อนว่าวางแผนไปเที่ยวกันที่ไหนบ้าง และตรงกับฤดูอะไร จะได้เตรียมตัวสำหรับการทัวร์จอร์เจียกันได้อย่างถูกต้องเหมาะสมให้ได้มากที่สุด
เที่ยวทัวร์จอร์เจีย ใช้งบเท่าไหร่
ต้องบอกว่าการไปทัวร์จอร์เจียนั้นคนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวเพราะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งประเทศจอร์เจียก็เป็นประเทศที่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องทำวีซ่า ดังนั้นค่าใช้จ่ายหลัก ๆ สำหรับการเที่ยวจอร์เจีย ก็มีดังนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ การเดินทางจากประเทศไทยไปจอร์เจียนั้นยังไม่มีเที่ยวบินตรง ดังนั้นจะต้องทำการต่อเครื่องบินโดยเลือกไปลงจุดหมายปลายทางที่ประเทศอื่น ๆ ใกล้เคียงแล้วทำการต่อเครื่องบินไปยังจอร์เจียอีกที ซึ่งประเทศที่แนะนำให้เลือกไปลงแล้วต่อเครื่องบินก็อย่างเช่น ตุรกี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน เป็นต้น โดยค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับตามปกติแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 บาท
- ค่าที่พัก สำหรับค่าที่พักเมื่อไปท่องเที่ยวจอร์เจียก็มีให้เลือกหลายราคา โดยทั่วไปก็จะอยู่ในช่วงราคาประมาณ 300 ถึง 2,500 บาท แล้วแต่สถานที่และเมืองที่เลือกไปพัก
- ค่าเดินทางในประเทศ สำหรับค่าเดินทางภายในจอร์เจียก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนท่องเที่ยวจอร์เจียของเราด้วย ส่วนใหญ่แล้วก็จะค่อนข้างใกล้เคียงกับบ้านเรา อย่างเช่น ค่ารถไฟและรถบัสก็จะอยู่ที่ประมาณ 6 ถึง 10 บาทตลอดสาย แต่ถ้าต้องไปนอกเมืองก็จะอยู่ที่ประมาณ 250 ถึง 300 บาท ค่าแท็กซี่จะอยู่ที่ประมาณ 400 บาท เป็นต้น
- ค่าเข้าชมสถานที่ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอย่างเช่นพิพิธภัณฑ์ เมืองโบราณ ป้อมปราการ ก็จะมีการเก็บค่าเข้าชมอยู่ที่ประมาณ 200 บาทขึ้นไป
- ค่าอาหารการกิน โดยทั่วไปแล้วค่าอาหารต่อหัวก็จะอยู่ที่ประมาณ 100 บาทต่อมื้อ ในขณะที่เบียร์และไวน์ก็มีราคาไม่แพงมาก อย่างเช่นเบียร์ก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 20 บาท ส่วน Y ก็จะมีขายอยู่ประมาณขวดละตั้งแต่ 150 บาทขึ้นไป
- ค่าช้อปปิ้ง ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละคนว่าเตรียมงบช้อปปิ้งกันไปมากน้อยแค่ไหน แต่ราคาของฝากส่วนใหญ่ของจอร์เจียก็จะไม่ค่อยแพงมากนัก อยู่ที่ประมาณหลักสิบหลักร้อยเท่านั้น
ดังนั้นค่าใช้จ่ายสำหรับการเที่ยวจอร์เจียโดยคร่าว ๆ สำหรับการท่องเที่ยวประมาณ 5-7 วัน ก็จะอยู่ที่ราว ๆ 40,000 - 50,000 บาท ต่อคน หรือซื้อเป็นแพ็คเกจทัวร์จอร์เจียก็อาจจะได้ราคาถูกกว่านี้
อาหารจอร์เจียแนะนำ ที่ต้องลอง
1. Khinkali
เมนูเกี๊ยวเนื้อชื่อดังที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์จอร์เจีย ความพิเศษของเมนูนี้ก็คือการพับจีบเกี๊ยว ยิ่งพ่อครัวมีประสบการณ์มากการจับจีบของเกี๊ยวก็จะมีมากถึงกว่า 20 จีบ วิธีการกินเกี๊ยวก็จะใช้การจับบริเวณขั้วด้านบนของเกี๊ยวจากนั้นจะตัดด้านข้างให้เป็นรูเพื่อซดน้ำซุปก่อนจะกินเกี๊ยวที่เหลือ แล้วทิ้งปมจับด้านบนของเกี๊ยวไป
2. Khachapuri
ทัวร์จอร์เจียทั้งทีต้องห้ามพลาดเมนูอาหารประจำชาติของจอร์เจียที่จะมาในลักษณะของขนมปังแบบดั้งเดิม ขึ้นรูปร่างหัวท้ายแหลมเหมือนกับเรือแคนู ตรงกลางมีชีสซุลกานีละลายราดด้วยเนยก้อนและไข่ มีการใช้เนื้อสัตว์และผักที่แตกต่างกันออกไปตามภูมิภาค สามารถหาทานได้ทั่วไปตามร้านเบเกอรี่และร้านอาหารต่าง ๆ
3. Churchkhela
เมนูที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปเมื่อมาทัวร์จอร์เจีย รูปร่างหน้าตาภายนอกเหมือนกับไส้กรอก แต่ความจริงแล้วคือขนมหวานสีสันสดใสที่ทำมาจากวอลนัทและน้ำองุ่นเข้มข้นที่เหลือมาจากการทำไวน์ประจำปี ใช้แป้งและน้ำตาลทำให้แข็งตัว โดยสีสันของขนมก็จะแตกต่างกันออกไปตามน้ำผลไม้ที่ใช้ นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ถั่วชนิดอื่น ๆ อย่างเช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์, อัลมอนด์, ถั่วลิสงหรือถั่วบราซิล และมีการเติมผลไม้แห้งเข้าไปเพื่อรสชาติที่อร่อยมากขึ้น
4. Pkhali
เป็นเมนูอาหารที่เกิดขึ้นในช่วงการปกครองของสหภาพโซเวียต ซึ่งในช่วงนั้นเหลือสัตว์เป็นวัตถุดิบที่มีราคาแพงมาก ดังนั้นชาวบ้านจึงทำการพัฒนาสูตรอาหารมังสวิรัติจากวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาลจนได้เป็นสลัดผัก Phkali โดยทั่วไปก็จะใช้ แครอท บีทรูท หรือผักโขมต้มแล้วนำไปปั่นกับน้ำมะนาว กระเทียม และวอลนัท เสิร์ฟบนขนมปัง โรยหน้าด้วยเมล็ดทับทิม ใครที่มาทัวร์จอร์เจียไม่ควรพลาดเมนูนี้
5. Kharcho
เมนูยอดนิยมสำหรับการทัวร์จอร์เจียฤดูหนาว สตูว์ที่ใช้เนื้อไก่หรือเนื้อวัวปรุงรส ตุ๋นพร้อมกระเทียมและเครื่องเทศของจอร์เจีย พร้อมด้วยผักชีและวอลนัท ปรุงรสเปรี้ยวด้วย tklapi ซึ่งเป็นแผ่นผลไม้ที่ทำมาจากเชอร์รี่หรือลูกพลัม วัตถุดิบที่ใช้จะมีความแตกต่างกันไปและน้อยตามภูมิภาค นิยมเสิร์ฟพร้อมกับ shoti bread เพื่อกินกับน้ำแกง
6. Mtsvadi
เป็นเคบับฉบับท้องถิ่นของจอร์เจีย มาในรูปแบบของเนื้อเสียบไม้ย่างและปรุงรสบนเปลวไฟ โดยทำการปรุงเนื้อด้วยเกลือก่อนที่จะนำไปย่าง เสิร์ฟพร้อมกับ tkemali ซึ่งเป็นซอสพลัมรสเปรี้ยว เม็ดทับทิม รวมไปถึงเครื่องเคียงต่าง ๆ ตั้งแต่มันฝรั่งไปจนถึงไก่ทอด
7. Amber wine
ไวน์สีเหลืองอำพันของจอร์เจียที่ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าดีที่สุด ไวน์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและใช้เทคนิคโบราณในการหมักบ่มที่ยังคงรักษาสีและกลิ่นของผลไม้เอาไว้ได้เป็นอย่างดี จนทำให้ได้ไวน์ที่มีสีเหลืองอำพันที่มีความสวยงามและมีรสชาติโดดเด่น เหมาะสำหรับการจับคู่กับอาหารจอร์เจียสไตล์ดั้งเดิม ที่บอกได้เลยว่ามาเที่ยวจอร์เจียทั้งทีต้องไม่พลาดที่จะดื่มไวน์ของที่นี่ให้ได้กันสักครั้ง
แหล่งช้อปปิ้งในจอร์เจีย ยอดนิยม
ต้องบอกว่าประเทศจอร์เจียนั้นเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมไปถึงมีประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นอันแข็งแกร่ง ดังนั้นแหล่งช้อปปิ้งในจอร์เจียส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นตลาดนัดตลาดสดธรรมดาที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตของชาวจอร์เจีย แต่ก็มีศูนย์การค้าและร้านค้าต่าง ๆ ให้เราได้เดินช้อปปิ้งกันด้วยเมื่อมาทัวร์จอร์เจีย อย่างเช่น ในทบิลิซี ก็จะมีตลาดสด Bazari Orbeliani, ตลาดนัด Flea Market Dry Bridge, ตลาดสด The Dezerter Bazaar, ศูนย์การค้ Tbilisi Mall, ศูนย์การค้า Galleria Tbilisi, ศูนย์การค้า East Point, Yuliko & Friends Concept Store ส่วนแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็อย่างเช่น Kutaisi Market ใน Kutaisi, Seafood Market ใน Batumi เป็นต้น
โรงแรมและที่พักในจอร์เจียแนะนำ
1. ที่พักทัวร์จอร์เจีย Mercure Tbilisi Old Town (Tbilisi)
โรงแรมระดับ 4 ดาวทำเลดีเยี่ยม ตั้งอยู่บนทางเดินเลียบริมแม่น้ำย่านใจกลางเมือง ในราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2,800 บาทต่อคืน อยู่ใกล้กับศูนย์การค้าและเขตเมืองเก่า (Old Tbilisi) มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียใกล้เคียงน่าสนใจ ได้แก่ โรงอาบน้ำและสปากำมะถัน Chreli Abano, ป้อมปราการ Narikala, วิหาร Holy Trinity Cathedral แห่งทบิลิซี, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจอร์เจียน, โบสถ์ Metekhi เป็นต้น
2. ที่พักทัวร์จอร์เจีย Iberia Palace Hotel (Zugdidi)
โรงแรมระดับ 4 ดาวตั้งอยู่ใน Zugdidi ในราคาเริ่มต้นประมาณ 1,700 บาทต่อคืน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมบริการรถรับส่งสนามบินโดยมีค่าธรรมเนียม มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียใกล้เคียง ได้แก่ Dadiani Palaces Historical and Architectural Museum, Orkol Studio, Zugdidi Botanical Garden, Nokalakevi, Poti Central Park, Martvili Canyon เป็นต้น
3. ที่พักทัวร์จอร์เจีย Royal Palace Hotel (Kakheti)
โรงแรม 3.5 ดาวในอุทยานแห่งชาติ Lagodekhi ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม มีราคาเริ่มต้นต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียใกล้เคียงที่น่าสนใจ ได้แก่ Bodbe Monastery, St. George Church, Pirosmani Museum, Ilia Lake, Nekresi Monastery เป็นต้น
4. ที่พักทัวร์จอร์เจีย Hotel London (Batumi)
โรงแรม 3.5 ดาวบรรยากาศสวยหรูอบอุ่น ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดใน Batumi ราคาเริ่มต้นต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 1,700 บาท มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียใกล้เคียงที่น่าสนใจ ได้แก่ Europe Square, ชายหาด Batumi Beach, อนุสรณ์สถาน Ali and Nino, Port of Batumi เป็นต้น
5. ที่พักทัวร์จอร์เจีย Guest House - MK (Gori)
เป็นเกสเฮ้าส์ระดับ 3 ดาวใน Gori ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนอบอุ่นและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักแต่ละห้องมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป ราคาเริ่มต้นต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 600 บาท อยู่ไม่ไกลจากแหล่งชุมชน มีสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียที่น่าสนใจใกล้เคียง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์โจเซฟ สตาลิน, ป้อมปราการ Gori เป็นต้น
แนะนำของฝาก จอร์เจีย
สำหรับของฝากเมื่อไปเที่ยวจอร์เจียที่แนะนำ ส่วนใหญ่จะเป็นของท้องถิ่นของจอร์เจียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับอีนาเมล (Enamel Jewelry) ที่มีลวดลายสวยงามไม่ซ้ำใคร สามารถหาซื้อได้ทั่วไป, Churchkhela ขนมหวานของชาวจอร์เจียที่ทำมาจากถั่วและน้ำผลไม้หลากสี นำมาผูกเชือกร้อยดูคล้ายไส้กรอก สามารถหาซื้อได้ง่ายตามตลาดต่าง ๆ ทั่วไป, ผ้าปูโต๊ะสไตล์จอร์เจีย (Traditional Blue Tablecloth) โดดเด่นด้วยลวดลายและงานฝีมือที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีต, Khantsi เป็นแก้วไวน์ที่ทำมาจากเขาแพะ ตกแต่งด้วยโซ่และกำไลเงิน เป็นหนึ่งในของฝากที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่ห้ามพลาดเลยก็คือ Georgian Wine ไวน์ของจอร์เจียคุณภาพดีในราคาไม่แพง
สำหรับการท่องเที่ยวจอร์เจียนั้นเรียกว่าเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถือได้ว่าเป็นประเทศในแถบเอเชียที่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีค่าใช้จ่ายไม่แพง มีแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีวิวทิวทัศน์และสภาพอากาศที่คล้ายกับประเทศในแถบยุโรป และยังคงเอาไว้ซึ่งกลิ่นอายของวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมที่เข้มข้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศกันเลยทีเดียวค่ะ