หากพูดถึงทัวร์จอร์แดน เชื่อว่าหลายๆ คนเมื่อได้ยินชื่อนี้อาจจะคิดว่าเป็นประเทศที่มีแต่ทะเลทราย แห้งแล้ง และร้อนระอุ ไม่มีสิ่งที่น่าสนใจมากนัก แต่ความเป็นจริงนั้นเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวและเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวจอร์แดนที่สำคัญ น่าสนใจ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นทะเลทราย ภูเขา และทะเลสาบ นอกจากนี้ประเทศจอร์แดนยังเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยอย่างมากอีกด้วย และวันนี้เราจะพาไปคุณไปสัมผัสกับเสน่ห์ของจอร์แดน ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีกลิ่นอายของอารยธรรมโบราณที่สวยงามกันค่ะ
ข้อมูลเที่ยวทัวร์จอร์แดน
ประเทศจอร์แดน หรือ “ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน” (Hashemite Kingdom of Jordan)เป็นประเทศในตะวันออกกลางที่มีพรมแดนติดกับหลายประเทศโดยโดยทิศเหนือติดกับซีเรีย ทิศตะวันออกติดซาอุดีอาระเบีย ทิศตะวันตกติดกับอิสราเอล ทิศใต้ติดกับทะเลแดง มีพื้นที่ 92,300 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดคืออัมมาน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายและภูเขาหินทรายจนถูกขนานนามว่า “Mar on Earth” หรือพื้นที่ดาวอังคารแห่งโลก นอกจากนี้จอร์แดนยังเป็นประเทศที่เกือบไม่มีทางออกสู่ทะเลแต่ก็มีชายฝั่งทะเลเดดซี (Dead Sea) ร่วมกับอิสราเอลและดินแดนที่ปกครองโดยอิสราเอลและมีชายฝั่งอ่าวอคาบา (Gulf of Aqaba) ร่วมกับอิสราเอล ซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์
จอร์แดนมีประชากรกว่า 11 ล้านคน (ข้อมูลในปี 2021) ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ รองลงมาคือศาสนาคริสต์ และอิสลามนิกายชีอะต์ และอื่นๆ ใช้ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ แต่ก็มีการใช้ภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลาย และเป็นประเทศที่มีความเป็นระเบียบ และบ้านเมืองสวยงามทั้งนี้เพราะบ้านเรือนที่ปลูกสร้างจะมีการกำหนดให้ใช้สีเอิร์ธโทน แนวสีขาว-เหลืองที่คล้ายกับหินทรายเหมือนกันหมดจึงทำให้ดูเป็นระเบียบและสบายตา และถึงแม้จะเป็นประเทศที่อยู่ท่ามกลางประเทศที่มีการก่อการร้าย และจลาจล แต่จอร์แดนกลับเป็นประเทศที่มีความสงบ และไร้อาชญากรรม จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวจอร์แดนไม่ใช่เรื่องยากเพราะไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า สามารถขอ Visa on Arrival (VOA) ได้ที่สนามบินปลายทาง ซึ่งปัจจุบันการเดินทางสะดวกสบายก็มีทั้งเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินแบบต่อเครื่อง และด้วยความที่จอร์แดนเป็นประเทศเล็กๆ ใช้เวลาเพียง 7-10 วัน ก็สามารถทัวร์จอร์แดนได้ทั่วตั้งแต่เหนือจรดใต้
ทัวร์จอร์แดนแนะนำ
ทัวร์จอร์แดนอาจจะไม่ใช่พิกัดแรกๆ ที่หลาย ๆ คนปักหมุดหมายอยากไปนัก ด้วยเพราะสภาพอากาศที่ค่อนช้างร้อน แห้งแล้ว ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวจอร์แดนส่วนใหญ่มักจะเป็นทะเลทรายและภูเขา อย่างไรก็ตามที่ท่องเที่ยวจอร์แดนแต่ละแห่งต่างก็มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ เช่นนครเพตรา สิ่่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลก, นครเจราช, ทะเลแดง,ทะเลเดดซี,ภูเขาเนโบ ที่มีตำนานเล่าขานเรื่องโมเสกแยกทะเลแดงเพื่อช่วยชาวยิวจากชาวอียิปต์ อีกทั้งยังมีความสนุก ตื่นเต้น ท้าทายให้นักท่องเที่ยวได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อีกมากมาย
แนะนำเมือง จอร์แดน น่าเที่ยว
ทัวร์จอร์แดน เมืองอัมมาน (Amman)
อัมมาน (Amman) เป็นเมืองเก่าแก่ ที่เป็นทั้งเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่สุดของประเทศจอร์แดน เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและการค้าในปัจจุบัน ในประวัติศาสต์อัมมานเป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองมาก และเป็นทางการค้าระหว่างอียิปต์และเมโสโปเตเมีย ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์และมีความหลากหลายทางอารยธรรมและมีสถาปัตยกรรมโบราณที่สวยงาม เช่น สนามอัฒจันทร์โรมันโบราณขนาดใหญ่ (Roman Amphitheatre),ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel),วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules),พระราชวังอุมัยยะฮ์ (Umayyad Palace) ซึ่งสร้างขึ้นจากหิน, มัสยิด อัลฮุไซนีย์ หรือมัสยิดพระราชาฮุเซน( Al-Husseini Mosque) ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในเมืองอัมมาน, น้ำพุใจกลางเมือง (Nymphaeum), ช้อปปิ้งย่าน Rainbow Street, เที่ยวชมตลาดจอร์แดน และลองลิ้มชิมอาหารจอร์แดนที่ว่ากันว่าในอัมมานอร่อยที่สุดอีกด้วย
ทัวร์จอร์แดน เมืองมาดาบา (Madaba)
เมืองมาดาบา (Madaba) เป็นเมืองเก่าแก่กว่า 5,000 ปีซึ่งอยู่ในสมัยยุคสำริด ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศจอร์แดน ห่างจากกรุงอัมมานประมาณ 30 กิโลเมตร ขึ้นชื่อในเรื่องศิลปะโมเสกที่ได้รับอิทธิพลมาตั้งแต่ยุค ไบแซนไทน์ (Byzantine) มีสถานที่เที่ยวจอร์แดน ขึ้นชื่ออย่าง ยอดเขาเนโบ (Mount Nebo)อันเปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์,โบสถ์เซนต์จอร์จ (st, George's Church),อุธยานประวัติศาสตร์มาดาบา (Madaba Archaeological Park), โบสถ์อัครสาวก (Apostle Church) ที่มีสถาปัตยกรรมโมเสกที่สวยงามและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์,โบราณสถาน Mukawir ที่ในอดีตจะเป็นป้อมปราการ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังและจุดนี้เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลสาบเดดซีที่สวยงาม
ทัวร์จอร์แดน เมืองอคาบา (Aqaba)
เมืองอคาบา ตั้งอยู่ทางใต้สุดของจอร์แดน ตั้งอยู่บริเวณอ่าวอคาบา (Gulf of Aqaba) เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวจอร์แดนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ และเต็มไปด้วยรีสอร์ท และสถานที่พักผ่อนตากอากาศมากมายซึ่งพิกัดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมตลอดทั้งปี และมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำชมปะการังในทะเลแดง,นั่งเรือกระจกชมปะการัง,เดินเล่นชายหาดต่างๆ,ล่องเรือ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Aqaba,ใต้พิพิธภัณฑ์ทหารใต้น้ำ (Aqaba Underwater Military Museum),แวะชมเมืองโบราณ Ayla, พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Aqaba Great Arab Revolt Plaza,ปราสาทอคาบา (Aqaba Castle), และชมความงดงามของมัสยิด Sarif Hussein bin Ali Mosque เป็นต้น
ทัวร์จอร์แดน เมืองอัลเครัค (Al-Karak)
ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศจอร์แดน เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยครูเสด ในปี ค.ศ 1142 โดยจุดประสงค์ที่สร้างขึ้นเพื่อสอดส่องป้องกันศัตรู ซึ่งต่อมาก็ถูกครอบครองโดยกษัตริย์ ซาลาดิน แห่งราชวงค์ Ayyubid ของอียิปต์ โดยใช้ความพยามยามยึดปราสาทแห่งนี้ถึง 2 ครั้งและประสบความสำเร็จในปี 1189 จึงทำให้ปราสาทเครัคตกอยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิม ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งในจอร์แดน
ทัวร์จอร์แดน เมืองเจราช (Jerash)
เมืองเจราช ตั้งอยู่ทางตอนเหนืองของอัมมาน ซึ่งในอดีตเคยมีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมากและเป็น 1 ใน 10 หัวเมืองเอกของอนาจักรโรมัน ก่อนจะล่มสลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และถูกลืมเลือน และได้ฉายาว่าปอมเปอีแห่งตะวันออก จนมีผู้ค้นพบเมืองเจราชอีกครั้งในปี ค.ศ. 1599 และพบว่าบางแห่งยังคงซึ่งสถาปัตยกรรมที่เกือบสมบูรณ์ จึงกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวจอร์แดนที่สำคัญในปัจจุบัน
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์จอร์แดน ยอดนิยม
ทัวร์จอร์แดน นครเพตรา (Petra)
ทัวร์จอร์แดนต้องไม่พลาด นครเพตราหรือนครเปตรา เมืองโบราณที่ได้ฉายาว่านครศิลาสีกุหลาบเป็นนครโบราณเก่าแก่โบราณตั้งอยู่ในหุบเขาวารี มูซา (Wadi Musa) หรือหุบเขาโมเสส สร้างขึ้นโดยชาวนาบาเธียน (Nabataeans)ในประวัติศาสตร์ที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมากเพราะเป็นเมืองที่อยู่บนเส้นทางของการค้าขาย หลังจากถูกยึดครองโดยอาหรับและโรมัน ประกอบกับเส้นทางการค้าเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น รวมถึงเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ผู้คนจึงอพยพออกไปทิ้งไว้แต่เมืองร้าง และซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างและกลายเป็นเมืองที่ถูกลืมเลือน ต่อมาถูกค้นพบโดยจอห์น เลวิช เบอร์คฮาร์ดท์ (Johann Ludwig Burckhardt) นักสำรวจชาวสวิสเซอร์แลนด์ เพตราจึงกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง นอกจากนี้นครเพตรายังได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528 และยังได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ของโลกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 อีกด้วย
ทัวร์จอร์แดน มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์เอล - คาซเนท์ (Al Khazneh)
มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์เอล - คาซเนท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Treasury เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในทัวร์จอร์แดนนครเพตรา โดยเส้นทางเข้าชมต้องผ่านทางเดินแคบ ๆ ที่เดียกว่า ซิก (The Siq) ซึ่งตามความเชื่อแล้วเรียกว่าเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับความอลังการของการสกัดและสลักหินอันสวยงามภายในตกแต่งด้วยอารยธรรมผสมผสาน เช่น อียิปต์และโรมัน ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็นคลังที่ใช้เก็บสมบัติของฟาโรห์ บ้างก็ว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญทางศาสนา รวมถึงเป็นสุสานของผู้ครองนครเพตราอีกด้วย ซึ่งที่นี่ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง “อินเดียน่า โจนส์” ภาค 3 ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าอีกด้วยค่ะ และหากชมความงามในช่วงกลางวันยังไม่หนำใจ ที่นี่ยังมีกิจกรรม Petra by Night ทุก ๆ วันจันทร์ อังคาร และ พฤหัส ในช่วงเวลา 20.00 น. เป็นต้นไปซึ่งจะมีการประดับเทียนตามทางเดินจนไปถึง The Treasury ซึ่งมีการจุดเทียนเต็มพื้นที่ลาน โรแมนติกและสวยงามมากๆ ค่ะ
ทัวร์จอร์แดน ทะเลเดดซี (Dead Sea)
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ในการเที่ยวจอร์แดน คือการได้มาลอยตัวบนทะเลสาบเดดซีซึ่งทะเลแห่งนี้มีความเค็มสูงถึง 30% และด้วยความเข้มข้นของเกลือทำให้เราสามารถลอยตัวได้โดยไม่จมค่ะ ถึงแม้อากาศจะร้อนวิวทิวทัศน์บริเวณนี้ก็สวยงามไม่น้อย นอกจากลอยตัวในทะเลสาบแล้วอีกหนึ่งกิจกรรมก็คือการพอกตัวด้วยโคลนจากทะเลทรายเดดซีที่ว่ากันว่าช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยงามค่ะ นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ทะเลสาบเดดซียังเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทหรู ๆ อีกหลายแห่งเลยล่ะค่ะ และหากใครลงไปเล่นน้ำต้องระวังอย่าให้น้ำเข้าตาและปากนะคะเพราะเค็มมากจะทำให้แสบคอและแสบตาได้
ทัวร์จอร์แดน ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum)
หากคุณยังไม่ได้เหยียบทะเลทราย ก็เปรียบเสมือนว่ายังไปไม่ถึงจอร์แดนค่ะ และพิกัดที่ห้ามพลาดของทัวร์จอร์แดนก็คือทะเลทรายวาดิรัม ซึ่งมีฉายาว่าหุบเขาแห่งพระจันทร์ หรือ The valley of the moon ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดนมีทัศนียภาพอันสวยงามทั้งภูเขาหินทราย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบการพยนต์ผจญภัยในทะเลทราย มีบริการขี่อูฐ, ขี่ม้า, นั่งโฟร์วีลตะลุยทะเลทราย, ชมวิวพระอาทิตย์ตก และหากอยากเที่ยวแบบครบรสต้องนอนเต้นท์กลางทะดลทรายด้วยนะคะ ว่ากันว่าดาวตอนกลางคืนสวยมากๆ เลยล่ะ นอกจากนี้ทะเลทรายวาดิรัมยังได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกปี ค.ศ. 2011 อีกด้วย สำหรับทะเลทรายวาดิรัมเคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น The Martian, Star Wars, Transformer, Aladin และ Lawrence of Arabia อีกด้วย มีฉากไหนคุ้นตากันบ้างหรือปล่าวคะ?
ทัวร์จอร์แดน ทะเลแดง (Red Sea)
ทะเลแดง หรือ อ่าวอาระเบีย (Arabian Gulf) เป็นจุดแบ่งแยกทวีปเอเชียและแอฟริกาออกจากกัน และเป็นจุดที่ดินแดนของอียิปต์,อิสราเอล,จอร์แดนและซาอุดิอาระ มารวมกัน และยังมีเรื่องเล่าในไบเบิ้ลว่าเป็นจุดที่โมเสกได้ใช้ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แหวกทะเลให้เป็นทางเดินเพื่อพาชาวยิวหนีออกจากอียิปต์ ซึ่งทะเลแดงได้ชื่อว่าเป็นทะเลร้อนที่สุดในโลก โดยน้ำมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 21–30 องศาเซลเซียส และมีสีแดงเนื่องจากการเปลี่ยนสีตามฤดูกาลของสาหร่ายและแบคทีเรีย และแสงอาทิตย์ยามเเย็นที่กระทบบนผิวน้ำ กิจกรรมยอดนิยมเมื่อมาเที่ยวทะเลแดง ได้แก่การล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของทั้ง 4 ประเทศ,นั่งเรือท้องกระจกชมปะการัง และพิพิธภัณฑ์ทหารใต้น้ำ, ดำน้ำ และเดินเล่นชายหาดเป็นต้น
ทัวร์จอร์แดน โรงละครโรมัน (Roman Theatre, Roman Amphitheatre)
โรงละครเป็นสิ่งก่อสร้างในสมัยโรมันที่งดงามและยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่บนเชิงเขาบริเวณ Amman Citadel ยาวไปถึงดาวน์ทาวน์ เป็นดรงละครกลางแจ้งที่ออกแบบได้ดีมากคือหันหน้าไปทางทิศเหนือเพื่อไม่ใช้แสงอาทิตย์เข้าตาผู้ชม ที่นั่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ระดับแรกติดกับเวที เป็นของบุคคลสำคัญและชั้นปกครอง,ที่นั่งชั้นที่สองหรือชั้นกลางเป็นของทหาร และชั้นสุดท้ายเป็นของประชาชนทั่วไป ที่เรียกว่า “The Gods” เพราะเป็นจุดที่เคยมีรูปปั้นและแท่นบูชาเทพีอะธีนาตั้งอยู่ ภายในบริเวณรอบๆ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Jordan Museum of Popular Traditions และ Jordan Folklore museum เปิดให้เข้าชมอีกด้วย ปัจจุบันโรงละครโรมันยังเปิดให้ใช้งานตามปรกติโดยเป็นสถานที่จัดแสดงออเครสต้าและใช้เป็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรี และเป็นที่ท่องเที่ยวจอร์แดนยอดนิยมอีกด้วยค่ะ
ทัวร์จอร์แดน วาดิ มูจิบ (Wadi Mujib)
สำหรับนักท่องเที่ยวจอร์แดนที่เป็นสายเทรลและสายผจญภัย วาดิ มูจิบ คือพิกัดที่ท้าทายและพลาดไม่ได้ค่ะ ที่นี่ได้รับสมญาว่าเป็นแกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน และมีแม่น้ำไหลผ่านระหว่างหุบเขาซึ่งกิจกรรมยอดนิยมคือการปีนเขา,วิ่งเทรลและ การผจญภัยเดินลุยน้ำเข้าไปในแกรนด์แคนยอน โดยจะแบ่งเส้นทางตามระดับความยากง่าย ใครไหวที่เส้นทางไหนก็ลุยได้เต็มที่ค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของจอร์แดนอีกด้วย เพราะมีสัตว์หายากหลายชนิดเช่นแมวพันธุ์หายาก, แพะภูเขาและสัตว์ภูเขาอื่น ๆ ซึ่งที่นี่ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าตลอดปี เพราะขึ้นอยู่กับระดับน้ำในหุบเขา นักท่องเที่ยวจอร์แดนที่จะมาพิกัดนี้ต้องเช็คช่วงเวลาปิดฤดูท่องเที่ยวกันด้วยนะคะ
ทัวร์จอร์แดน นครเจราช (Jerash)
นครเจราช หรือที่เราคุ้นหูกันดีในชื่อของเมืองพันเสา ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของกรุงอัมมาน เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดนิยมของชาวทัวร์จอร์แดน โดยในประวัติศาสตร์ที่นี่เป็นเมืองค้าขายที่มีความเจริญรุ่งเรือง ต่อมาในปี ค.ศ 749 เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักและไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิม ผู้คนจึงอพยพออกจากเมืองไปทิ้งไว้แต่เมืองร้าง จนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 นักโบราณคดีได้ค้นพบนครเจราชอีกครั้ง และพบว่ายังมีซากสถาปัตยกรรมของกรีกโรมันที่หลงเหลือในสภาพอันค่อนข้างจะสมบูรณ์ เช่นโอวัลพลาซ่า (Oval Plaza), โรงละครโรมันโบราณ (South Roman Theatre),น้ำพุใจกลาง เมือง (Nymphaeum)และ ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน (Hadrian 's Arch) นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีพิพิธภัณฑ์โบราณคดีเจราช (Jerash Archaeological Museum) ให้ผู้สนใจได้เข้าชมอีกด้วย
ทัวร์จอร์แดน ภูเขาเนโบ (Mount Nebo)
ทัวร์จอร์แดนพิกัดต่อไป เราจะไปตามรอยตำนานโมเสสผู้แหวกทะเลแดงพาทาสชาวยิวหนีจากอียิปต์กลับอิสราเอลกันที่ภูเขาเนโบค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโมเสสอาทิ โบสถ์อนุสรณ์โมเสส (The Moes Memorial Church)ภายในโบสถ์มีภาพโมเสกสีที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก,อนสรณไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโมเสส (The Serpentine Cross sculpture)ที่สร้างขึ้นให้เป็นไม้เท้าที่มีลักษณะคล้ายกับไม้กางเขนอันเป็นตัวแทนของโมเสสและพระเยซู และจากจุดชมวิวบนนี้เราจะสามารถเห็นทะเลแดง,ทะเลเดดซี,เมืองเบธเลเฮม และประเทศอิสราเอล ได้อย่างชัดเจนในวันที่ท้องฟ้าเปิดค่ะ
ทัวร์จอร์แดน ป้อมแห่งอัมมาน (The Amman Citadel)
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอัมมาน บนเนินเขารูปตัว L ซึ่งเป็นหนึ่งในเนินเขาทั้งเจ็ดที่สร้างขึ้นในอัมมาน และเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่นักท่องเที่ยวจอร์แดนไม่ควรพลาด และเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่จะมองเห็นทัศนียภาพของเมืองอัมมานได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้บริวเณรอบ ๆ ยังมีโบราณสถานอื่น ๆ อีกด้วย เช่น วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules),พระราชวังอุมัยยาด (Umayyad Palace)และโบสถ์คริสต์ในยุคไบแซนไทน์ (Byzantine Church) เป็นต้น
สภาพอากาศและฤดูกาลที่จอร์แดน
ภูมิอาการของจอร์แดนเป็นแบบกึ่งเขตร้อน โดยทั่วไปอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง และมีปริมาณฝนตกน้อย เวลากลางวันมีแดดจัดและมีอากาศค่อนข้างเย็นในเวลากลางคืน อุณหภูมิฤดูร้อนเฉลี่ย 35-38 องศาเซลเซียส และอุณภูมิฤดูหนาวเฉลี่ย 8-20 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่าอากาศกำลังเย็นสบายเหมาะกับการเที่ยวจอร์แดน
สภาพอากาศของจอร์แดนสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดูกาล ดังนี้
- ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 15-25 องศาเซลเซียส ถึงแม้จะมีฝนเล็กน้อยแต่ก็เป็นช่วงที่อากาศกำลังดี
- ฤดูร้อน อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 35-38 องศาเซลเซียส อากาศจะร้อนจัดในตอนกลางวัน ควรหลีกเลี่ยงการเที่ยวจอร์แดนในพื้นที่ทะเลทราย
- ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 18-27 องศาเซลเซียส เป็นช่วงที่อากาศที่ดีมาก เป็นช่วงที่จอร์แดนคึกคักมากที่สุดเพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว
- ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 8-20 องศาเซลเซียส อากาศค่อนข้างเย็นแต่ก็มีฝนเล็กน้อย
เที่ยวทัวร์จอร์แดน ใช้งบเท่าไหร่
สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวท่องเที่ยวจอร์แดนอย่าลืมแพลนงบประมาณกันไว้ดี ถึงแม้จะเป็นประเทศฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยแต่หากไม่ทำแพลนค่าใช้จ่ายดี ๆ ก็อาจจะทำให้งบบานได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการทัวร์จอร์แดนร์มีประมาณนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับแบบแวะพัก ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 29,000 บาท
- ค่าเดินทางภายในประเทศจอร์แดน เริ่มต้นที่ประมาณวันละ 100 บาท/คน แล้วแต่ระยะทาง, ประเภทของยานพาหนะ และสถานที่ท่องเที่ยวจอร์แดนสถานที่เลือกไป
- ค่าที่พักเริ่มต้นที่ประมาณ 800-900 บาทต่อคืน แล้วแต่รูปแบบของที่พัก
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มเริ่มต้นที่ประมาณ 350 บาท ต่อวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของร้านอาหารที่เลือก
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวจอร์แดน เริ่มต้นที่ประมาณ 400-800 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับประเภทสถานที่ท่องเที่ยว
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้แล้วก็จะเป็นส่วนของที่เรียกว่าพ็อกเก็ตมันนี่กันแล้วล่ะค่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบัดเจ็ดของแต่ละคนว่าเตรียมไว้ช้อปปิ้งต่างๆ กันไว้ประมาณที่เท่าไหร่ ซึ่งคร่าวๆ หากเที่ยวจอร์แดน 6 วัน 3 คืน ค่าใช้จ่ายจะอยู่ราว ๆ 45,000 บาท ต่อคนค่ะ
อาหารจอร์แดน ที่ไปเที่ยวแล้วควรลอง
มันซาฟ (Mansaf)
เป็นอาหารประจำชาติของจอร์แดน ซึ่งเป็นอาหารดั้งเดิมของชาวเผ่าเบดูอิน ใช้เนื้อแกะหรือเนื้ออูฐปรุงรสกับสมุนไพรหมักกับโยเกิร์ต shakreyyeh,ถั่วและข้าว ซึ่ง Mansaf นั้นนิยมเสิร์ฟในงานมงคลต่างๆ หรืองานเฉลิมฉลอง และมักเสิร์ฟมาในจานใหญ่ๆ วิธีรับประทานแบบดั้งเดิมคือคือใช้มือขวาเปิบ แต่ปัจจุบันมีการดัดแปลงให้ใช้ช้อนและส้อมได้ เป็นเมนูแนะนำเมื่อมาเที่ยวจอร์แดนค่ะ
มาคลูบา (Maqluba)
อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของจอร์แดน เป็นข้าวหุงกับเนื้อสัตว์ เช่นไก่หรือเนื้อแกะปรุงด้วยเครื่องเทศและผักต่าง ๆ อาทิเช่นมะเขือเทศทอด มันฝรั่ง ดอกกะหล่ำ โดยจะเรียงเป็นชั้น ๆ เสิร์ฟพร้อมกับสลัดและโยเกิร์ตสด เวลาเสิร์ฟมาคลูบาจะคว่ำบนจาน ดูน่าทานเหมือนเลเยอร์เค้กเลยก็ว่าได้
เคบัพ หรือ กะบาบ (Kebab)
เมนูนี้เราคงคุ้นเคยกันดีเพราะมีให้เห็นในบ้านเราบ่อย ๆ เป็นเนื้อย่าง ที่อาจใช้เนื้อวัว หรือเนื้อแกะ หมักกับเครื่องเทศแล้วนำไปย่าง เวลาเสิร์ฟๆ ฝานบางๆ เสิร์ฟพร้อม นาน โนตี จาปาตี และเครื่องเคียงอย่าง ผักดอง มะกอกดอง โยเกิร์ต เป็นต้น มาทัวร์จอแดนทั้งทีอย่าลืมลองเคบัพแบบดั้งเดิมนะคะ
ฮัมมูส (Hummus)
หรือดิปถั่วลูกไก่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยประเภทจิ้มหรือใช้ทา ทำจากถั่วลูกไก่บด ผสมด้วยงาขาวบด หรือซอสงาขาว (Tahini) ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำมันมะกอก น้ำมะนาว และกระเทียม เสิร์ฟพร้อมขนมปังพิต้า เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ต้องลองเมื่อมาทัวร์จอร์แดน
ฟาลาเฟล (Falafel)
เป็นอีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อย หรือของว่างยอดนิยม มาจากถั่วลุกไก่บด ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและกระเทียมและนำไปทอด โดดเด่นด้วยกลิ่นของยี่หร่า เสิร์ฟคู่กับซอสซอสงาขาว (Tahini) สลัด ผักดอง ซอสพริกและ ขนมปังพิต้า
บัคลาวา (Baklava)
ขนมหวานที่อยากแนะนำว่าควรลองทานสักครั้งเมื่อไปเที่ยวจอร์แดนค่ะ เป็นขนมรสหวานที่ทำจากแผ่นฟีลโลและถั่วบด เช่น พิชตาชิโอ น้ำตาล น้ำผึ้ง หอมกลิ่นอบเชย ทานคู่ชาอาหรับลงตัวสุดๆ เลยค่ะ
มูฮัลเลบี (Mahalabia)
หรือพุดดิ้งไสตล์อาหรับ เป็นอีกหนึ่งของหวานขึ้นชื่อ เป็นนมผสมกับมะพร้าว โรยหน้าด้วยพิตาชิโอและถั่ว ชินามอน หรือมะพร้าวขูด รสชาติหวานหอมอร่อย
แหล่งช้อปปิ้งในจอร์แดน ยอดนิยม
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Rainbow Street หรือ ถนน Abu Bakr As-Siddeeq
เป็นถนนช้อปปิ้งและแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ขึ้นชื่อของจอร์แดน มีบ้านของบุคคลสำคัญเช่น ที่พำนักของ King Talal, บ้านนายกรัฐมนตรี บ้านพักอดีตผู้บัญชาการทหาร บนถนนเส้นนี้มีทั้งบริษัทฯ ร้านค้า ผับ บาร์ เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวจอร์แดนสุดฮิตของเมืองเลยล่ะ
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Al Ballad
แหล่งช้อปปิ้งกลางใจเมืองที่เต็มไปด้วยสินค้าแนววินเทจ ของเก่า ของที่ละลึก งานแฮนด์เมดและน้ำหอมสไตล์อาหรับ รวมถึงขนมและเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งนอกจากร้านช้อปปิ้งสองข้างทางเพียบแล้ว ยังมีคาเฟ่และอาหารอร่อยๆ อีกเพียบเลยล่ะ
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Mecca Mall
เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมแห่งหนึ่งในจอร์แดน ตั้งอยู่บนถนน Mecca Street ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อห้างฯ นั่นเองค่ะ ที่นี่มีทุกสิ่งให้ช้อปทั้งของใช้ ขอองฝาก เสื้อผ้าตั้งแต่แบรนด์ในประเทศ สินค้าแบรนด์ไฮเอนด์ และสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Souk Jara
ตั้งอยู่บน Rainbow street ในเมืองอัมมาน เป็นตลาดนัดงานอาร์ต งานศิลป์ และ งานฝีมือสุดเจ๋ง เช่นพวกเครื่องประดับเก๋ๆ เสื้อยืดเพ้ท์ลายแจ่ม ๆ ภาพวาด และของเก่าของสะสม ที่เราไม่สามารถหาช้อปได้ตามห้าง สนนราคาสินค้าในตลาดนี้ค่อนข้างสูง แต่ก็สามารถต่อรองได้ ตลาดนัดแห่งนี้จะเปิดทุกๆ วันศุกร์ในช่วง Summer เท่านั้น
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Taj Mall
สำหรับใครที่ไม่มีเวลาหาสถานที่ช้อบปิ้ง Taj Mall ตอบโจทย์มากๆ เพราะที่นี่มีสินค้าครบทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าและของฝาก รวมทั้งเป็นศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์เนม แบรนด์ดังอีกเพียบ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟอร่อย ๆ อีกหลายร้าน
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ City Mall
เป็นห้างสรรพสินค้ายอดนิยมในอัมมาน ที่นี่มีสินค้าให้เลือกมากมาย เป็นห้างที่ทันสมัยและเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นต่างๆ รวมถึงเครื่องเทศที่ชึ้นชื่อของจอร์แดน ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟ แหละหากใครอยากช้อปของแบรนด์เนม ที่นี่ก็มีให้ช้อปอย่างจุใจ
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Why Not Shop
ร้านนี้อยู่ในเมืองเพตรา มีสินค้าที่น่าสนใจหลายอย่างเหมาะมากสำหรับซื้อเป็นของฝาก ตัวร้านอาจจะดูไม่ค่อยน่าสนใจมากนักเมื่อแรกเห็น แต่พอเข้าไปในร้านแล้วขอบอกเลยว่ากระเป๋าสตางค์มีสั่นแน่นอน สินค้าในร้านนี้เป็นจำพวก งานฝีมือแบบพื้นบ้าน,เครื่องประดับ,ชามเครื่องปั้นดินเผาและของตกแต่งบ้าน
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Town Bazaar
เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในเมืองเพตรา มีหลายสาขาในจอร์แดน สินค้าของที่นี่ มีทั้งเครื่องเงิน, พรม, กำยาน, หมวก, ผ้าคลุม, ผลิตภัณฑ์จากทะเลเดดซี และอื่นๆ อีกเพียบ ใครอยากซื้อของฝากร้านนี้ก็มีให้ช้อปอย่างหลากหลาย
ทัวร์จอร์แดน ช้อปปิ้งที่ Jerusalem Bazar
ตั้งอยู่ที่เมือง Aqabaว่ากันว่าถ้าอยากได้ของเกี่ยวกับจอร์แดนแล้วหาของที่อยากได้ไม่เจอให้มาที่นี่ เพราะเป็นศูนย์รวมของสินค้าต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น พวกงานฝีมือต่าง ๆ ,เครื่องประดับ, หมอน,ผ้าห่ม รวมไปถึงสินค้าพื้นเมืองที่น่าสนใจ
โรงแรมและที่พักในจอร์แดนแนะนำ
ทัวร์จอร์แดน ที่พัก Movenpick Resort & Spa Dead Sea
โรงแรมหรู 5 ดาวในเครือ Movenpick ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม บริการดีเป็นเลิศ พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อยู่ใกล้ทะเลสาบ Dead Sea ที่นักท่องเที่ยวจอร์แดนสามารถดื่มด่ำกับความงามของวิวทะเลสาบ พร้อมบริการสปาจากโคลนเดดซีที่มีชื่อเสียงเรื่องบำรุงผิวพรรณ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้ๆ เช่น Dead Sea Museum, Souk Zara Dead Sea, Petra, Jerash เป็นต้น
ทัวร์จอร์แดน ที่พัก Bedouin Lifestyle Camp
ที่พักกลางทะเลทรายสไตล์เคบิน วิวภูเขา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบรั้น ทั้งเตียงนอน ห้องน้ำ ฟรีอาหารเช้า, และอาหารพื้นเมืองแบบชาวเบดูอิน พร้อมบริการนำเที่ยวทะเลทรายไม่ว่าจะเป็นนั่งรถ,ขี่อูฐ หรือกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างปีนเขา และมีสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Wadi Rum Protected Area, Lawrence's Spring, Jebel Khazali, Jabal Umm ad Dami, Lawrence's house เป็นต้น
ทัวร์จอร์แดน ที่พัก InterContinental Jordan Hotel
โรงแรม 5 ดาวในอัมมานที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในย่านช้อปปิ้งบนถนน Rainbow street, เป็นโรงแรมนานาชาติที่ให้บริการห้องพักที่ทันสมัย และมีให้เลือก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น King Abdullah Mosque, Rainbow Street, The Hashemite Plaza, Jordan Archaeological Museum ,Al Balad, The Jordan Museum, Roman Amphitheatre เป็นต้น
ทัวร์จอร์แดน ที่พัก The Old Village Hotel & Resort
โรงแรม 5 ดาว ที่ตกแต่งด้วยหินทราอยู่ห่างจากเมือง Petra 3 กม. และห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติ King Hussein 124 กม. ห้องพักตกแต่งด้วยผนังหินสวยและแปลกตา มาพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า อาหารเช้าฟรี อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเช่น Petra, The Treasury, Al-siq, The Monastery, Great Temple, Royal Tombs และ Petra Museum เป็นต้น
ทัวร์จอร์แดน ที่พัก Kempinski Hotel Amman Jordan
โรงแรมหรู 5 ดาวตั้งอยู่ใจกลางเมืองอัมมาน ที่มาพร้อมคะแนนรีวิวอย่างท่วมท้นไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่ง่ายต่อการเดินทาง, สิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ ครบครัน และบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า อีกทั้งยังอยู่ใกล้ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Amman Citadel, Roman Amphitheatre, King Abdullah I Mosque, The Jordan Museum, Souk Jara, Rainbow Street, Roman Temple of Hercules, The Royal Automobile Museum และ Grand Husseini Mosque เป็นต้น
แนะนำของฝาก จอร์แดน
- ผลิตภัณฑ์จากทะเลสาบเดดซี มาทัวร์จอร์แดนแล้วต้องได้ของดีเป็นผลิตภัณฑ์จากทะเลเดดซีติดมือกลับไปกันด้วย ซึ่งสินค้าจากที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงผิวชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นเกลือขัดผิว ,โคลนพอกตัว พอกหน้าเป็นต้น
- งานศิลปะโมเสคที่ทำจากเซรามิค มาทัวร์จอร์แดนต้องอย่าพลาดช้อปศิลปะพวกงานโมเสคของเมือง Madaba กลับไปกันด้วยนะคะ เพราะงานโมเสคของที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความปราณีต และสวยงามมากๆ
- ผ้าคลุมไหล่ เป็นไอเท็มยอดนิยมมากๆ โดยเฉพาะผ้าคลุมไหล่จากฝีมือของชนเผ่าเบดูอินที่มีลวดลายที่สวยงาม รวมถึง Kofiyyeh หรือ ผ้าคลุมศรีษะของผู้ชาย ส่วนใหญ่จะมีสีขาว-แดง หรือ ขาว-ดำ เป็นสัญลักษณ์ของชาวเบดูอิน โดยที่จอร์แดนเรามักจะเห็นตำรวจ หรือชาวเบดูอินโพกหัวกันทั่วเมืองค่ะ
- ช็อคโกแล็ต ที่จอร์แดนมีช็อคโกแล็ตที่ทำจากเนยและนม เรียกว่า Jameed ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารของจอร์แดนอย่าง Mansaf, รวมถึงช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของผลไม้แห้งและถั่วต่างๆ ขอบอกเลยว่าเป็นของฝากที่น่าซื้อมากๆ
- น้ำมันมะกอก จอร์แดนเป็นแหล่งผลิตน้ำมันมะกอกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยน้ำมันมะกอกที่มีคุณภาพสูงและได้รับความนิยมจะมาจากแหล่งผลิตใน Ajloun ไปทัวร์จอร์แดนทั้งทีต้องมีติดมือกลับมากันด้วยนะคะ
- งานศิลปะทรายในขวดแก้ว เป็นอีกหนึ่งของฝากยอดนิยมเมื่อมาทัวร์จอร์แดน มีลวดลายสวยงามปราณีต ส่วนใหญ่จะทำออกมาเป็นลวดลายเกี่ยวกับจอร์แดน เป็นของฝากที่มีเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน
- ครีมน้ำหอม ของฝากที่มาทัวร์จอร์แดนแล้วต้องซื้อกลับไป มีกลิ่นหอมตามสไตล์อาหรับ ที่หอมทน หอมนาน แพคเกจจิ้งสวยงามน่าใช้ และมีหลายแบรนด์ให้เลือก
สำหรับใครที่อยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยว ขอแนะนำให้ลองมาทัวร์จอร์แดน ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจและมีสถานที่สวยงามมากกว่าที่คิด ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ของดลก หรือตะลุยทะเลทรายเท่านั้น อาหารการกิน ตลอดจนแหล่งช้อปปิ้งของจอร์แดนก็ต้องบอกว่าไม่แพ้ที่ไหนในโลกเช่นเดียวกัน วันหยุดพักผ่อนคราวหน้าลองหาเวลาไปเที่ยวจอร์แดนดูนะคะ รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งทริบในความทรงจำที่เต็มไปด้วยความประทับใจอย่างแน่นอน