ในปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศที่อยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กันมากขึ้น โดยเฉพาะการไปทัวร์เวียดนามที่บอกได้เลยว่ากำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวไทยรวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต่างก็เดินทางไปเที่ยวเวียดนามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นและสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ภูมิประเทศที่มีความแตกต่างกันทั้งที่ราบลุ่มและที่ราบสูง การเดินทางที่มีความทันสมัยสะดวกสบาย ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ รวมไปถึงอาหารการกินที่มีรสชาติอร่อยถูกปาก ดังนั้นหากใครกำลังวางแผนเพื่อไปทัวร์เวียดนาม วันนี้เราก็มีข้อมูลการเที่ยวทัวร์เวียดนามที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ
ข้อมูลเที่ยวทัวร์เวียดนาม
ประเทศเวียดนามมีชื่อทางการว่า “สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของคาบสมุทรอินโดจีน เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 15 ของโลกและอันดับ 9 ของเอเชีย มีลักษณะพื้นที่เป็นแนวยาวทั้งหมด 4,638 กิโลเมตร มีพื้นที่รวม 331,033 ตารางกิโลเมตร โดยมีพรมแดนติดกับประเทศจีนทางด้านทิศเหนือเป็นระยะทาง 1,281 กิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันตกอยู่ติดกับประเทศลาวเป็นระยะทาง 2,130 กิโลเมตร กัมพูชาเป็นระยะทาง 1,228 กิโลเมตร ส่วนทางทิศตะวันออกและทิศใต้ก็จะอยู่ติดกับอ่าวตังเกี๋ย ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย มีเมืองหลวงก็คือเมืองฮานอย โดยมีนครโฮจิมินห์เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม
เวียดนามเป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ มีที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอยู่ทางตอนใต้ โดยมีภูเขาสูงกั้นระหว่างที่ราบลุ่มแม่น้ำทางตอนเหนือและตอนใต้ เป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วแต่ว่ามีปัญหาในเรื่องการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า นั่นจึงทำให้ประเทศเวียดนามได้มีการซื้อพลังงานไฟฟ้ามาจากมณฑลยูนนานประเทศจีนตั้งแต่ในเดือนกันยายนปี 2004
ประเทศเวียดนามแบ่งเขตการปกครองออกได้เป็น 58 จังหวัด และ 5 เทศบาลนคร ประกอบไปด้วย ฮานอย โฮจิมินห์ ไฮฟอง ดานัง และ เกิ่นเทอ ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมโดยมีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวของประเทศก็คือ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (Communist Party of Vietnam : CPV) โดยมีประธานาธิบดีเป็นผู้นำประเทศ ชาวเวียดนามส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธแต่ไม่มีศาสนาประจำชาติ มีการผสมผสานวัฒนธรรมจากหลายชนชาติโดยเฉพาะวัฒนธรรมจากทางฝั่งจีนและวัฒนธรรมฝรั่งเศส มีชุดประจำชาติเวียดนามที่โดดเด่นเรียกว่าชุดอ๋าวหญ่าย ซึ่งถ้าหากใครไปทัวร์เวียดนามก็ต้องไม่พลาดที่จะสวมชุดประจำชาตินี้กันดูสักครั้ง ส่วนสกุลเงินที่ใช้ก็คือ ด่งเวียดนาม (VND) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยน 1 ด่งเวียดนาม เท่ากับ 0.0015 บาท
ประเทศเวียดนามสามารถแบ่งพื้นที่ออกได้ทั้งหมด 3 ภาคให้เราได้เลือกเที่ยวเวียดนามกันได้ตามชอบ โดยที่ภาคเหนือก็จะมีอากาศหนาวเย็นประกอบไปด้วยเทือกเขาและภูเขาสูง มีเทือกเขาฟานซีปัน (Fansipan Mountain) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดของเวียดนาม อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,143 เมตร เป็นที่ตั้งของเมืองฮานอยเมืองหลวงของเวียดนาม ภาคกลางก็จะเป็นที่ราบสูงที่เต็มไปด้วยเนินทราย หินภูเขาไฟ ทะเลสาบ ส่วนภาคใต้ก็ยังคงเป็นที่ราบสูงและมีที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม และเป็นที่ตั้งของเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอย่างนครโฮจิมินห์อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังวางแผนมาทัวร์เวียดนามก็สามารถใช้การเดินทางระหว่างประเทศทางเครื่องบิน โดยประเทศเวียดนามก็มีสนามบินนานาชาติอยู่มากถึง 10 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติเกิ่นเทอ จูลาย ดาลัด ดานัง ไฮฟอง ฮานอย นครโฮจิมินห์ เว้ ญาจาง และ ฟูโกว๊ก และมีท่าอากาศยานภายในประเทศอีกหลายแห่ง แต่ถ้าหากอยากเดินทางไปทัวร์เวียดนามด้วยรถไฟกันแบบชิลๆ ถึงแม้ว่ายังไม่มีเส้นทางรถไฟที่เดินทางจากประเทศไทยไปยังเวียดนามได้โดยตรง แต่ก็สามารถเลือกข้ามชายแดนไปยังประเทศลาวแล้วนั่งรถไฟต่อไปยังฮานอยเพื่อเที่ยวเวียดนามกันก็ได้
ทัวร์เวียดนามแนะนำตามเมืองยอดนิยม
1. ทัวร์เวียดนาม ดาลัด
เป็นเมืองที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศเวียดนามซึ่งเรียกว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ขึ้นชื่อสำหรับนักท่องเที่ยวในการมาทัวร์เวียดนามกันเลยทีเดียว ที่เมืองนี้มีอากาศเย็นสบายโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18 ถึง 25 องศาเซลเซียสเท่านั้น เป็นเมืองที่ชาวฝรั่งเศสในสมัยอาณานิคมเข้ามาสร้างให้เป็นเมืองพักตากอากาศจึงทำให้บ้านเรือนและบรรยากาศของเมืองนี้ถูกออกแบบในสไตล์ยุโรปเป็นส่วนใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองนี้ก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศาสนา และสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง King Palace หมู่บ้านดอกไม้วันทัญ (Van Thanh Flower Village) วัดตั๊กลัม วัดเจดีย์มังกร น้ำตกดาลันตา น้ำตกช้าง น้ำตกเพรนน์ ภูเขาลังเบียง หุบเขาแห่งความรัก (Valley Of Love) สวนดอกไม้เมืองหนาว และ บ้านเพี้ยน (Crazy House) เป็นต้น
2. ทัวร์เวียดนาม ฮานอย
เมืองหลวงของประเทศเวียดนามตั้งอยู่ทางเวียดนามตอนเหนือ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกมาทัวร์เวียดนาม ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความทันสมัยแต่ก็ยังคงเป็นเมืองที่คงไว้ด้วยศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ รวมไปถึงธรรมชาติที่สวยงามเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเวียดนามเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสุสานโฮจิมินห์ บ้านพักประธานาธิบดีโฮจิมินห์ พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ วัดเจดีย์เสาเดียว สะพานเทฮุก วิหารวรรณกรรม อ่าวฮาลองเบย์ ฮาลองบก หรือจะแวะไปชมความคึกคักและช้อปปิ้งกันที่ถนนสาย 36 street กันก็ได้
3. ทัวร์เวียดนาม ซาปา
เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดหล่าวกายทางเวียดนามตอนเหนือที่อยู่ในหุบเขาท่ามกลางสายหมอกสุดแสนโรแมนติก และยังเป็นเมืองจุดหมายปลายทางสำหรับใครที่ไปเที่ยวเวียดนามแล้วต้องการสัมผัสกับหิมะในช่วงฤดูหนาวกันอีกด้วย ที่นี่ก็มียอดเขาสูงที่สุดในเวียดนามอย่างยอดเขาฟานซีปันที่รอให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปพิชิต โดยสามารถเลือกได้ทั้งการเดินเท้าและการนั่งรถกระเช้าไฟฟ้า นอกจากนี้ก็ยังมีภูเขาฮามรอง น้ำตกสีเงิน โบสถ์หิน The Ancient Stone Church นาขั้นบันไดซาปา หมู่บ้านกั๊ตกั๊ตซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเผ่าม้งดำ เยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวบ้านพร้อมจับจ่ายซื้อของกันที่ตลาดเช้าซาปา และชมวิวที่สูงที่สุดในเวียดนามกันที่ Tram Ton Pass
4. ทัวร์เวียดนาม ฮอยอัน
เมืองเก่าแก่ในจังหวัดกว๋างนามที่ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมด้วยความงดงามและเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นทางประวัติศาสตร์ของเวียดนาม ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคนก็เลือกไปเที่ยวเวียดนามกันที่เมืองนี้เพราะหลงเสน่ห์ความงดงามที่ผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว เป็นเมืองเล็กๆ ที่ใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวเพียงแค่ไม่เกิน 1 วันก็เที่ยวกันได้ครบแล้ว ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเวียดนามที่เมืองนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น สะพานญี่ปุ่น สมาคมฟุกเกี๋ยน บ้านโบราณอายุ 200 ปี ล่องเรือชมรอบเมืองเก่าฮอยอัน พร้อมหาของกินอร่อยๆ กันที่ริมสองฝั่งแม่น้ำทูโบน
5. ทัวร์เวียดนาม ดานัง
เมืองที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับใครที่เลือกมาเที่ยวเวียดนาม เรียกว่าเป็นดินแดนยุโรปแห่งเอเชียกันเลยก็ว่าได้ จุดเด่นของเมืองนี้ก็คือมีเมืองท่าติดทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเวียดนามจึงทำให้หลายคนจะต้องเช็กอินกันที่ทะเลสวยๆ บนชายหาดสีขาวที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา รวมไปถึงเทือกเขาน้อยใหญ่ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่เมืองนี้ก็ได้แก่ บาน่าฮิลส์ (Ba Na Hills) วัดหลินอึ๋ง (Linh Ung Temple) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หมีเซิน พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม (Museum of Cham Sculpture) โบสถ์คริสต์ดานัง หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน แวะชมวิวที่สะพานมังกร หรือจะแวะช้อปปิ้งกันที่ตลาด Cho Han เป็นต้น
6. ทัวร์เวียดนาม โฮจิมินห์
เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเวียดนามซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งเวียดนามตอนใต้และยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามกันอีกด้วย ชื่อเดิมของเมืองนี้ก็คือไซ่ง่อน (Saigon) เป็นเมืองที่เคยเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศสและยังเป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศเวียดนามใต้ สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น อดีตทำเนียบประธานาธิบดี พิพิธภัณฑ์สงคราม ไปรษณีย์กลางที่ออกแบบในสไตล์ฝรั่งเศส โบสถ์นอร์ทเทอดาม จัตุรัสโฮจิมินห์ อุโมงค์กู๋จี และอย่าลืมล่องเรือในแม่น้ำไซ่ง่อน รับประทานอาหารเย็นท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกในระหว่างการล่องเรือ
7. ทัวร์เวียดนาม ญาจาง
ใครที่เลือกมาทัวร์เวียดนามแล้วอยากได้บรรยากาศริมทะเลกันแบบเต็มๆ แนะนำให้มากันที่เมืองนี้ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่อยู่ในจังหวัดคั้ญฮหว่าทางเวียดนามตอนใต้ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศที่คนเวียดนามต่างก็บอกว่ามีชายหาดสวยที่สุดในประเทศกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น สวนสนุกวินเพิร์ล (Vinpearl Land) วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) วัดโพนากา (Po Nagar Cham Towers) โบสถ์ญาจาง (Nha Trang Cathedral) และอย่าลืมแวะไปช้อปปิ้งกันที่ตลาดนัดแห่งใหญ่ของเมืองอย่าง ตลาดดัม (Dam Market) รวมไปถึงเดินเล่นหรือนั่ง Cafe ชมทะเลชิลๆ กันที่หาดญาจาง (Nha Trang Beaches) ก็เพลิดเพลินไม่แพ้กันเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวเวียดนาม ยอดนิยม
1. บาน่า ฮิลล์ (Bana Hill)
เมืองเล็กๆ สไตล์ยุโรปที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 25 กิโลเมตร โดยอยู่บนภูเขาที่มีความสูง 1,487 เมตร การเดินทางขึ้นไปที่นี่ก็จะต้องโดยสารเคเบิลคาร์ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งเคเบิลคาร์ที่นี่ก็เป็นเคเบิลคาร์ที่มีความยาวที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่มาทัวร์เวียดนามบอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะมายังที่แห่งนี้ เพราะเต็มไปด้วยจุดเช็กอินและจุดถ่ายภาพสวยๆ เหมือนกับหลุดมาอยู่ในเมืองฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความโรแมนติกเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีจุดเช็กอินที่ห้ามพลาดอย่างสะพานบนมือยักษ์ Golden Bridge อีกด้วย
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : XXWQ+V4P City, Hoà Phú, Hòa Vang, Đà Nẵng, Vietnam
2. ฮาลอง เบย์ (Halong Bay)
เป็นอ่าวที่มีขนาดพื้นที่ 1,553 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมหมู่เกาะมากถึง 1,969 แห่ง เป็นอ่าวที่มีความสวยงามทางธรรมชาติจนเคยถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกถึง 2 ครั้งในปี 1994 ด้านความสวยงามของธรรมชาติ และด้านคุณค่าทางภูมิศาสตร์ในปี 2000 ตั้งอยู่ในพื้นที่มหาสมุทรเขตร้อนจึงทำให้เต็มไปด้วยระบบนิเวศแนวปะการังจำนวนมากรวมไปถึงสัตว์ทะเลนานาชนิด เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามและความมหัศจรรย์อันเกิดมาจากการสรรสร้างของธรรมชาติ ที่เมื่อมาทัวร์เวียดนามแล้วต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่กันให้ได้สักครั้ง
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh, Vietnam
3. ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับการมาทัวร์เวียดนามของหลายๆ คน โดยภูเขาทราย 2 สีแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ที่เมืองมุยเน่ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตร้อนอยู่ติดชายฝั่งทะเล โดยแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่กันในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและช่วงที่พระอาทิตย์ตกบริเวณภูเขาทรายซึ่งบอกเลยว่าเป็นบรรยากาศที่สวยงามโรแมนติก และได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายกันเลยทีเดียว
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : 01 Hòn Rơm, ĐT716, Mũi Né, Thành phố Phan Thiết, Bình Thuận, Vietnam
4. ทัวร์เวียดนามถ้ำซันดอง (Son Doong Cave)
ใครที่ชื่นชอบธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความผจญภัยในการเดินทางแนะนำให้ลองมาเที่ยวทัวร์เวียดนามที่นี่กันดู แต่ต้องบอกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ว่าอยากไปเลยก็ไปได้เพราะจะต้องมีการจองล่วงหน้าเพื่อเข้าชมกันเป็นเดือนเลยทีเดียว และที่สำคัญก็คือมีการกำหนดอายุของผู้เดินทางขั้นต่ำอยู่ที่ 18 ปีขึ้นไป โดยจะเปิดให้เข้าชมถ้ำได้ในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคมเท่านั้น แต่บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยและการเดินทางอย่างแน่นอนเพราะที่นี่คุณจะได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์และความงดงามที่ธรรมชาติสรรสร้างได้อย่างน่าประทับใจไม่รู้ลืม
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : ĐT562, Thượng Trạch, Bố Trạch, Quảng Bình, Vietnam
5. ทัวร์เวียดนามสวนดอกไม้เมืองหนาวดาลัด (Flower Garden Dalat)
สำหรับที่นี่บอกเลยว่าเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตสำหรับคนที่มาทัวร์เวียดนามกันเลยทีเดียว ซึ่งสวนดอกไม้แห่งนี้ก็จะตั้งอยู่ที่บริเวณปลายสุดของทะเลสาบซึ่งอยู่ออกห่างจากตัวเมืองดาลัดไปประมาณ 2 กิโลเมตร ให้คุณได้ชมสวนดอกไม้สวยๆ กว้างสุดลูกหูลูกตาถึงกว่า 300 ชนิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายกำลังดี
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Đ. Trần Phú, Phường 3, Thành phố Đà Lạt, Lâm Đồng, Vietnam
6. ทัวร์เวียดนามสวนไฮเดรนเยียเมืองดาลัด (Hydrangea Garden Dalat)
เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมสำหรับการมาทัวร์เวียดนามของใครหลายคน ซึ่งที่นี่ก็จะอยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัดเพียงแค่ประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น โดยจะเก็บค่าเข้าชมอยู่ที่ประมาณ 15,000 ด่งเวียดนาม คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 25 บาทเท่านั้นเอง (ค่าเงินอาจเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ลองเช็กค่าเงินกันอีกทีนะคะ) ให้คุณได้มาสัมผัสกับทุ่งดอกไฮเดรนเยียที่กว้างขวางสวยงามเหมาะสำหรับการถ่ายรูปอวดเพื่อนๆ ลงโซเชียลกันเป็นอย่างยิ่ง
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Xã, Tp. Đà Lạt, Lâm Đồng, Vietnam
7. ทัวร์เวียดนามสุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh's Mausoleum)
หากใครไปทัวร์เวียดนามแล้วอยู่ที่ฮานอยก็อย่าลืมแวะเช็กอินที่นี่กันสักหน่อย เพราะเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองอันแสดงถึงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเวียดนาม โดยสุสานของที่นี่ก็จะเป็นที่พำนักร่างของโฮจิมินห์ ผู้นำปฏิวัติของเวียดนามซึ่งได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1969 โดยสุสานแห่งนี้ก็เปิดให้เข้าชมกันตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมปี ค.ศ. 1947 จนถึงปัจจุบัน
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : 8 Hùng Vương, Điện Biên, Ba Đình, Hà Nội 100000, Vietnam
อาหารเวียดนามแนะนำ ที่ต้องลอง
1. เฝอ (phở)
อาหารเมนูเส้นที่มีลักษณะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยวของบ้านเรา แต่จะมีความแตกต่างกันที่ตัวเส้นและน้ำซุปรวมไปถึงเครื่องเคียง ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในบ้านเรากันอยู่มากด้วยเช่นกัน ในประเทศเวียดนามถือได้ว่าเฝอนั้นเป็นอาหารจานหลักที่สามารถรับประทานได้ทุกมื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะนิยมเป็นเฝอเนื้อวัว ซึ่งถ้าหากใครไปทัวร์เวียดนามก็อย่าลืมสั่งเมนูนี้มากินกันดูว่าเฝอรสชาติตามแบบฉบับดั้งเดิมเวียดนามแท้ๆ นั้นเป็นอย่างไร
2. ก๋วยจั๊บญวน (cháo canh)
เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบและยังเป็นอาหารยอดฮิตในบ้านเรากันอีกด้วย แต่ถ้าหากใครไปเที่ยวเวียดนาม ก็แนะนำว่าให้ลองหาก๋วยจั๊บญวนสูตรต้นตำรับมากินกันดู โดยที่เวียดนามก็จะเรียกเมนูนี้ว่า “จ๋าวแก็ง” ลักษณะโดยทั่วไปก็จะคล้ายกับข้าวต้มแต่ใช้เส้นแทนข้าว โดยมีเครื่องปรุงง่ายๆ ก็คือน้ำซุปที่ออกข้นเล็กน้อยพร้อมใส่เส้นแป้งบางๆ คล้ายกับเส้นก๋วยเตี๋ยว จึงทำให้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าข้าวเปียกเส้น นิยมกินกันเป็นอาหารเช้าโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
3. แหนมเนือง (Nem Lụi)
สำหรับเมนูนี้แต่เดิมก็ถือได้ว่าเป็นอาหารชาววังของเวียดนามที่จะรับประทานเฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ก็สามารถหากินกันได้ทั่วไปเมื่อไปเที่ยวเวียดนามรวมไปถึงเป็นเมนูทั่วไปที่หากินกันได้ในบ้านเราอีกด้วย โดยส่วนประกอบหลักของเมนูนี้ก็คือผักสมุนไพรนานาชนิดที่กินคู่กับหมูที่ใช้ทำเป็นตัวแหนมเนือง น้ำจิ้ม และแผ่นแป้งสำหรับห่อ เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่อร่อยถูกปากและควรที่จะไปลองกินสูตรต้นตำรับกันดูสักครั้งเมื่อไปทัวร์เวียดนาม
4. ขนมเบื้องญวน (Bánh Xèo)
เป็นอาหารเวียดนามที่มีลักษณะคล้ายกับแพนเค้กโดยทำจากแป้งข้าวเจ้า น้ำ ผงขมิ้นหรือกะทิ แล้วยัดไส้ด้วยมันหมู กุ้ง ถั่วงอก สมุนไพร อย่างเช่น ใบสะระแหน่ ใบโหระพา นำมาทอดในกระทะ เวลากินก็ตัดเป็นชิ้นพอดีคำแล้วห่อด้วยใบมัสตาร์ด หรือใบผักกาดหอม ราดด้วยน้ำจิ้ม เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยถูกปากคนไทยและอยากให้ไปลองชิมรสชาติดั้งเดิมเมื่อไปเที่ยวเวียดนาม
5. ปอเปี๊ยะสด (Gỏi cuốn)
เป็นอาหารเมนูสุขภาพที่อุดมไปด้วยผัก ส่วนไส้ด้านในก็แล้วแต่สูตรของทางร้านว่าจะใช้ไส้อะไรด้านใน ไม่ว่าจะเป็นหมูย่าง หมูยอ เนื้อย่าง เต้าหู้ เห็ดย่าง กุ้ง และผักต่างๆ นำมาม้วนกับแผ่นแป้งแล้วกินแกล้มกับผักสมุนไพร พร้อมด้วยน้ำจิ้ม เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและห้ามพลาดที่จะหามาลองชิมรสชาติต้นตำรับเมื่อไปทัวร์เวียดนามกัน
6. บุ๋นเรียว (Bún riêu)
เป็นขนมจีนทรงเครื่องแนวสตรีทฟู้ด อาหารขึ้นชื่อของเมืองดาลัดที่หากินได้ง่ายๆ ทั่วไปตามตลาด ซึ่งหน้าตาก็จะดูคล้ายๆ กับขนมจีนน้ำเงี้ยว โดยทำมาจากน้ำซุปที่เคี่ยวกับมะเขือเทศใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวกลมๆ คล้ายกับเส้นขนมจีน มีรสชาติออกไปทางเปรี้ยว มีเครื่องให้เลือกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ปู เนื้อ หรือหมู กินแกล้มกับผักสมุนไพร รับประทานร้อนๆ ตอนอากาศเย็นๆ รับรองได้ว่าฟินมากมาทัวร์เวียดนามทั้งทีต้องลองชิมนะคะ
7. บั๋นหมี่ (bánh mì)
อาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศสซึ่งครั้งหนึ่งเวียดนามเคยตกเป็นอาณานิคม โดยจะเป็นขนมปังบาแก็ตหรือขนมปังฝรั่งเศสทรงสั้นนำมาผ่าตามยาวแล้วยัดส่วนผสมต่างๆ จำพวกเนื้อสัตว์และผักในสไตล์อาหารเวียดนาม อย่างเช่น หมูยอ แตงกวา ผักชี หัวไชเท้าดอง แครอทดอง ลงไปตรงกลางคล้ายกับแซนวิช พร้อมด้วยเครื่องปรุงรสตามแบบฉบับของอาหารฝรั่งเศสอย่างเช่น ปาเต พริกและมายองเนส เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่ผสมผสานระหว่างอาหารเวียดนามและอาหารฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว และห้ามพลาดที่จะลองชิมเมื่อไปเที่ยวเวียดนาม
แนะนำของฝาก เวียดนาม
1. กาแฟเวียดนาม
เวียดนามนั้นเป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟรายใหญ่ของโลก ดังนั้นใครที่ไปทัวร์เวียดนามก็อย่าลืมซื้อกาแฟดีๆ มาเป็นของฝาก ซึ่งกาแฟที่นี่ก็มีให้เลือกกันหลายชนิดหลายราคา โดยเฉพาะถ้าหากที่บ้านมีเครื่องชงกาแฟหรือมีเครื่องทำกาแฟกันอยู่แล้วก็ลองซื้อเป็นเมล็ดกาแฟคั่วที่มีกลิ่นหอมรสชาติกลมกล่อมไปเป็นของฝาก รับรองว่าถูกใจผู้รับอย่างแน่นอน
2. เมล็ดบัวและถั่วอบแห้ง
เป็นของฝากเที่ยวเวียดนามที่หาซื้อได้ง่ายทั่วไปและมีราคาไม่แพงแถมยังอร่อยเคี้ยวเพลิน ถูกใจผู้รับกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมล็ดบัวอบแห้งที่บอกเลยว่าต้องซื้อกลับมาเป็นของฝากหรือซื้อกลับมากินกันให้ได้ เพราะอร่อยเคี้ยวเพลินจนในบางครั้งอาจนึกเสียดายที่ซื้อมาน้อยเกินไป
3. สินค้าแฮนด์เมด
เป็นของที่ระลึกทัวร์เวียดนามที่สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ที่สำคัญก็คือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีราคาที่ไม่แพง ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งพวกชุดน้ำชา พวงกุญแจ กระเป๋าสาน กระเป๋าผ้าปัก หมวกงอบ ผ้าปักเวียดนาม ผ้าไหม เครื่องประดับ เป็นต้น
4. ไวน์องุ่นเมืองดาลัด
ใครไปเที่ยวเวียดนามกันที่ดาลัดก็อย่าลืมหาซื้อไวน์องุ่นมาเป็นของฝากกันดู เพราะไวน์องุ่นของที่นี่มีรสชาติดีไม่แพ้กับไวน์ในแถบยุโรปกันเลยทีเดียว เพราะที่เมืองนี้มีอากาศหนาวเย็นจึงเป็นสถานที่ใช้สำหรับเพาะปลูกไม้ผลเมืองหนาวโดยเฉพาะองุ่น แล้วนำมาแปรรูปเป็นไวน์องุ่น ซึ่งก็มีให้เลือกกันหลายเกรดหลายราคาตามแต่งบประมาณของแต่ละคน
5. เครื่องประดับเงิน
เป็นของฝากทัวร์เวียดนามขึ้นชื่อของเมืองซาปา ถ้าหากใครไปเที่ยวเวียดนามกันที่เมืองนี้ก็อย่าลืมมองหาเครื่องประดับเงินมาเป็นของฝากของขวัญคนทางบ้านหรือให้กับคนพิเศษกันดู โดยมีเครื่องประดับเงินให้เลือกกันมากมายหลายแบบหลายราคาและมีลวดลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
สภาพอากาศ เวียดนาม
เนื่องจากประเทศเวียดนามนั้นเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นแนวยาวจึงทำให้มีลักษณะภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันค่อนข้างมากในแต่ละภาค ดังนี้
- ภาคเหนือ มีภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสูงเป็นส่วนใหญ่ แบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) จะหนาวที่สุดในเดือนมกราคม อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 7 - 20 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) มีฝนตกเล็กน้อย อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 17 - 23 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน (พฤษภาคม-สิงหาคม) สภาพอากาศร้อนและมีฝนตก อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 - 39 องศาเซลเซียส และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 23 - 28 องศาเซลเซียส
- ภาคกลาง ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและมีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก แบ่งออกได้เป็น 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม) เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่มีอากาศร้อนที่สุดโดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่มีอุณหภูมิสูงถึงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ในขณะที่ฤดูแล้ง (ตุลาคม-เมษายน) ก็จะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย โดยในช่วงเดือนมกราคมจะเป็นเดือนที่มีอากาศเย็นที่สุด มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส
- ภาคใต้ ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและที่ราบลุ่มแม่น้ำ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยค่อนข้างร้อนแต่ก็ค่อนข้างคงที่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) ฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) และ ฤดูร้อน (เดือนมีนาคม-เมษายน) โดยเดือนที่ร้อนที่สุดก็จะเป็นเดือนเมษายน ซึ่งอาจมีอุณหภูมิสูงถึง 39 องศาเซลเซียส ในขณะที่เดือนมกราคมมีอากาศเย็นที่สุดโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 26 องศาเซลเซียส
โรงแรมและที่พักเวียดนาม แนะนำ
สำหรับการไปทัวร์เวียดนามถ้าหากใครอยากจองโรงแรมหรือที่พักล่วงหน้าก็สามารถทำได้ผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมหรือที่พัก ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งโรงแรม โฮมสเตย์ เกสเฮ้าส์ แต่ถ้าหากใครอยากไปเดินหาโรงแรมกันด้วยตนเองและมีเวลามากพอก็อาจจะใช้วิธีเลือกหาโรงแรมกันเองก็ได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วการไปเที่ยวเวียดนามก็มีโรงแรมที่พักให้เลือกเยอะและมีห้องว่างให้พักอยู่เสมอ สำหรับโรงแรมและที่พักเวียดนามที่แนะนำก็มีดังนี้
1. Hanoi La Siesta Hotel Trendy (ฮานอย)
โรงแรมบูติคสุดหรูที่ตั้งอยู่ในเขต Hoan Kiem เมืองฮานอย ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,300 บาทต่อคืน มีทำเลที่ตั้งดีเยี่ยมสะดวกสบายและใกล้แหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์เซนต์โจเซฟ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทหารเวียดนาม พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติเวียดนาม ตลาดดงซวน ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม Hanoi Old City Gate เป็นต้น
พิกัดที่พัก : 12-14 P. Nguyễn Quang Bích, Cửa Đông, Hoàn Kiếm, Hà Nội 100000, Vietnam
2. JM Marvel Hotel & Spa (ฮานอย)
โรงแรมซึ่งตั้งอยู่บนทำเลยอดเยี่ยมในย่าน Hoan Kiem ของฮานอย ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,800 บาทต่อคืน โดยอยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่สามารถเดินเท้าไปได้อย่างเช่น โบสถ์เซนต์โจเซฟ โรงละครหุ่นกระบอกน้ำ (Thang Long Water Puppet Theatre) ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม ตลาดดงซวน Hanoi Book Street จัตุรัส Dong Kinh Nghia Thuc เป็นต้น
พิกัดที่พัก : 16 Phố P. Hàng Da, Cửa Đông, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnam
3. Terracotta Hotel & Resort Dalat (ดาลัด)
รีสอร์ทวิวสวยอยู่ใกล้กับทะเลสาบ Tuyen Lam Lake ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาทต่อคืน อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช้เวลาเดินทางแค่ไม่กี่นาที อย่างเช่น ทะเลสาบ Tuyen Lam Lake วัดตั๊กลัม (Truc Lam Temple) น้ำตกดาตันลา (Datanla Falls) บ้านเพี้ยน (Hang Nga Crazy House) สวนดอกไม้ดาลัด หุบเขาแห่งความรัก (Valley of love) และตลาดดาลัด เป็นต้น
พิกัดที่พัก : Phân khu chức năng 7.9 KDL hồ Tuyền Lâm, Phường 3, Lâm Đồng 670000, Vietnam
4. Swiss-Belresort Tuyen Lam Dalat (ดาลัด)
ที่พักสุดฟินบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนส่วนตัว ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,600 บาทต่อคืน อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ไม่กี่นาที อย่างเช่น น้ำตกดาตันลา (Datanla Falls) ทะเลสาบ Tuyen Lam Lake มหาวิหารแห่งดาลัด (Dalat Cathedral) บ้านเพี้ยน (Hang Nga Crazy House) สวนดอกไม้ดาลัด เป็นต้น
พิกัดที่พัก : số 7 và 8, KDL Hồ Tuyền Lâm, Phường 3, Thành phố Đà Lạt, Lâm Đồng 061000, Vietnam
5. Pao’s Sapa Leisure Hotel (ซาปา)
ที่พักสุดโรแมนติกท่ามกลางขุนเขาและไอหมอก ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,800 บาทต่อคืน โดยตั้งอยู่ในเมืองซาปาซึ่งอยู่ห่างจากสถานีเคเบิลคาร์ Fansipan Legend Cable Car Station เพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างเช่น ทะเลสาบซาปา (Sapa Lake) ภูเขาฟานซีปัน (Fansipan) น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall) ตลาดซาปา (Sapa Night Market) และ Ham Rong Garden เป็นต้น
พิกัดที่พัก : Mường Hoa, TT. Sa Pa, Sa Pa, Lào Cai 661300, Vietnam
6. Mega View Homestay (ซาปา)
ที่พักแบบโฮมสเตย์สุดแสนอบอุ่นทำเลดีเยี่ยมท่ามกลางวิวขุนเขา ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 บาทต่อคืน โดยอยู่ห่างจากสถานีรถเคเบิลคาร์ Fansipan Legend Cable Car Station ประมาณ 2.1 กม. ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบซาปา โบสถ์หินซาปา ศูนย์การค้าซันพลาซ่า (Sun plaza Sapa)ตลาดซาปา เป็นต้น
พิกัดที่พัก : 24 Ngõ Cầu Mây, TT. Sa Pa, Sa Pa, Lào Cai 333101, Vietnam
7. Wyndham Legend Halong (ฮาลองเบย์)
ที่พักสุดหรูที่วิวทะเลอยู่ห่างจากตัวเมืองฮาลองเพียง 6.5 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาทต่อคืน อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น สวนสนุกซันเวิลด์ ฮาลองพาร์ค พิพิธภัณฑ์ Quang Ninh ภูเขา Bai Tho ตลาดกลางคืนฮาลอง ถ้ำ Heavenly Palace Cave เป็นต้น
พิกัดที่พัก : 12 Hạ Long, Bãi Cháy, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh, Vietnam
8. Little Colmar Boutique Homestay (ฮาลองเบย์)
ที่พักสไตล์อบอุ่นที่อยู่ห่างจากสถานีเคเบิลคาร์ Halong Queen เพียงแค่ประมาณ 600 เมตรเท่านั้น ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,500 บาทต่อคืน จากที่นี่สามารถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ได้หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น ชายหาด Bai Chay Beach สวนสนุกซันเวิลด์ ศูนย์การค้า Halong Marine Plaza ตลาดกลางคืนฮาลอง เป็นต้น
พิกัดที่พัก : 9B Suối Mơ, Bãi Cháy, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh, Vietnam
9. Harmony Homestay (ดานัง)
ที่พักราคาประหยัดตกแต่งในสไตล์สดใสอบอุ่นด้วยโทนสีฟ้าขาว ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 บาทต่อคืน อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม (Museum of Cham Sculpture) สะพานมังกร (Dragon Bridge) สะพานแห่งความรัก (Love Lock Bridge Da Nang) ตลาด Con Market หาด My Khe Beach และ Asia Park Danang เป็นต้น
พิกัดที่พัก : 152-21 Phan Thanh, Thạc Gián, Thanh Khê, Đà Nẵng 550000, Vietnam
10. Ngói house (ดานัง)
สำหรับที่นี่ก็เป็น Guest House สุดอบอุ่นเหมือนพักอยู่ที่บ้าน ราคาเริ่มต้นประมาณ 800 บาทต่อคืน อยู่ใกล้กับสถานที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น ตลาด Con Market พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม (Museum of Cham Sculpture) สะพานมังกร (Dragon Bridge) วัด Cao Dai Temple สะพานแห่งความรัก (Love Lock Bridge Da Nang) ชายหาด Thanh Binh Beach เป็นต้น
พิกัดที่พัก : 84 Man Thiện, Hòa Thuận Nam, Hải Châu, Đà Nẵng 550000, Vietnam
แหล่งช้อปปิ้งเวียดนาม ที่ต้องไป
1. ตลาดกลางคืนฮอยอัน (Hoi An Night Market)
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจเที่ยวเวียดนามกันในช่วงกลางวันแล้ว สำหรับใครที่เลือกพักอยู่ในเมืองฮานอยก็แนะนำให้ลองมาเดินช้อปปิ้งและชมความคึกคักกันที่ตลาดกลางคืนฮอยอัน ที่นี่ก็เป็นตลาดกลางคืนซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองเก่า จุดที่ห้ามพลาดสำหรับการไปเช็กอินก็คือการถ่ายภาพกับโคมไฟหลากสี ช้อปปิ้งของฝากของที่ระลึก ของกินท้องถิ่น หรือจะนั่งเรือออกไปลอยโคมไฟรอบแม่น้ำทูโบนก็ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีการแสดงวิถีชีวิตในสมัยโบราณของเมืองฮอยอันให้ชมกันที่นี่ด้วย
พิกัดแหล่งช็อปปิ้ง : Nguyễn Hoàng, Phường Minh An, Hội An, Quảng Nam, Vietnam
2. ตลาดดาลัด (Dalat Market/Da Lat Night Market)
ตลาดนัดถนนคนเดินในเมืองดาลัดที่มีของกินในแนวสตรีทฟู้ดมากมายรวมไปถึงเสื้อผ้า ดอกไม้ อาหารอบแห้ง ผลไม้ กาแฟ เหล้าดอง และของฝากต่างๆ เป็นตลาดเช้าที่มีผู้คนพลุกพล่านไม่ว่าจะเป็นคนเวียดนามหรือนักท่องเที่ยว ถ้าหากใครมาทัวร์เวียดนามที่เมืองดาลัด ก็แนะนำให้ตื่นเช้ามาเดินจับจ่ายซื้อของกันที่ตลาดเช้า Dalat Market แต่ถ้าเป็นกลางคืนก็มี Da Lat Night Market ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวรวมไปถึงสินค้าให้เลือกมากมายหลายอย่าง ให้คุณได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่คึกคักในยามค่ำคืน พร้อมเลือกช้อปปิ้งและหาของกินอร่อยๆ โดยเฉพาะอาหารทะเลปิ้งย่างและพวกเสื้อผ้ากันหนาวราคาถูก
พิกัดแหล่งช็อปปิ้ง : WCVP+5PH, Nguyễn Thị Minh Khai, Phường 1, Thành phố Đà Lạt, Lâm Đồng, Vietnam
3. ลอตเต้มาร์ท (Lotte Mart)
ศูนย์การค้าขนาดใหญ่สัญชาติเกาหลีที่มีของขายให้เราเลือกช้อปปิ้งมากมาย ภายในก็จะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ขายของเกาหลีและสินค้าจากนานาชาติ อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังไปทางใต้ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ซึ่งโดยรวมก็จะคล้ายกับห้างสรรพสินค้าโดยทั่วไปที่มีราคาปานกลาง สามารถเดินมาช้อปปิ้งหาซื้อของใช้ของฝากกลับบ้านกันได้
พิกัดแหล่งช็อปปิ้ง : 6 Nại Nam, Hoà Cường Bắc, Hải Châu, Đà Nẵng, Vietnam
4. Takashimaya
ห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ในโฮจิมินห์ซิตี้ แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมที่มีสินค้าให้เลือกมากมายจากเกือบทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง น้ำหอม สินค้าแบรนด์ดังต่างๆ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ศูนย์อาหาร อยากช้อปปิ้งกันแบบสบายๆ ได้ของครบก็แนะนำให้มากันที่นี่ได้เลย
พิกัดแหล่งช็อปปิ้ง : 92-94 Đ. Nam Kỳ Khởi Nghĩa, Bến Nghé, Quận 1, Thành phố Hồ Chí Minh 700000, Vietnam
5. ตลาดดงซวน (Dong Xuan Market)
เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงฮานอย ตลาดในร่มที่มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งไม่เหมือนใครสำหรับการเที่ยวเวียดนาม เพราะที่นี่ก็จะมีให้เลือกทั้งสินค้าทั่วไปที่สามารถหาซื้อไปเป็นของฝากของที่ระลึกกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หมวก กระเป๋าสาน หมวกทรงกรวย ไปจนถึงอาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักสด แนะนำว่าถ้าใครมาเที่ยวเวียดนามกันที่ฮานอยแล้วอยากช้อปปิ้งก็ให้มาที่นี่กันเลย
พิกัดแหล่งช็อปปิ้ง : Đồng Xuân, Hoàn Kiếm, Hanoi 100000, Vietnam
6. ถนนสาย 36 street
แหล่งช้อปปิ้งของฮานอยที่สวยงามและร่มรื่นมีต้นไม้ปกคลุมสองฝั่งถนน ซึ่งชื่อของถนน 36 ก็มาจาก 36 อาชีพที่ทำการค้าขายบนถนนแห่งนี้ในอดีต ที่นี่ก็จะมีสินค้าให้เราเลือกช้อปปิ้งกันหลากหลายแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น งานด้านหัตถกรรม เครื่องเงิน ผ้าไหม และอย่าลืมมองหาชุดกีฬาซื้อกลับบ้านกัน เพราะที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตชุดกีฬาให้กับให้หลายๆ แบรนด์อีกด้วย
พิกัดแหล่งช็อปปิ้ง : 78a Đ. Trần Nhật Duật, Đồng Xuân, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnam
7. ตลาดดัม (Dam Market)
ตลาดนัดเก่าแก่แห่งใหญ่ตั้งอยู่ในตึกรูปดอกบัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองญาจาง มีสินค้าให้เลือกช้อปปิ้งมากมายมากกว่า 3,000 รายการ รับรองว่าอยากจะซื้ออะไรกลับไปเป็นของฝากหรือหาซื้อของกลับบ้านที่นี่มีให้เลือกครบอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารทะเลให้เลือกซื้อกันอีกด้วย
พิกัดแหล่งช็อปปิ้ง : Phan Bội Châu, P, Nha Trang, Khánh Hòa 650000, Vietnam
เที่ยวเวียดนามเดือนไหนดี
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าประเทศเวียดนามมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแนวยาวจึงทำให้มีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันค่อนข้างมากในแต่ละภาค หากใครกำลังวางแผนทัวร์เวียดนามกันอยู่ก็ลองเช็กสภาพอากาศและเวลาว่าที่จะไปนั้นอยู่ในช่วงฤดูไหนจะได้วางแผนเที่ยวเวียดนามกันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสภาพอากาศในเดือนต่างๆ ก็เป็นดังนี้
- เดือนมีนาคม – เมษายน เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีอากาศเย็นสบายและมีฝนตกเล็กน้อย ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบดูเขียวสดใสสบายตา เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการทัวร์เวียดนามตอนเหนือเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
- เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม เป็นช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนของเวียดนามที่จะมีฝนตกค่อนข้างบ่อยและมีอากาศร้อนมากแทบไม่ต่างจากบ้านเรากันเลยทีเดียว อุณหภูมิสามารถสูงได้ถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าหากใครวางแผนมาทัวร์เวียดนามในช่วงนี้ก็แนะนำให้ไปเที่ยวเมืองติดทะเลอย่างดานัง หรือไปเมืองที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปีอย่างดาลัด เป็นต้น
- เดือนกันยายน – พฤศจิกายน เป็นช่วงที่เวียดนามอยู่ในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งอากาศก็จะเริ่มกลับมาเย็นสบายเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเวียดนามเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากใครวางแผนมาทัวร์เวียดนามในช่วงนี้บอกได้เลยว่าสามารถเลือกไปได้ทุกเมืองตามชอบกันเลยทีเดียว
- เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูหนาวหรือฤดูแล้งของเวียดนามที่มีอากาศเย็น โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 ถึง 20 องศาเซลเซียสตามลักษณะภูมิประเทศ ดังนั้นแนะนำให้ไปเที่ยวเมืองที่อยู่ทางเวียดนามตอนใต้ จะได้เที่ยวกันแบบเย็นสบายและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
โดยรวมแล้วประเทศเวียดนามก็เป็นประเทศที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างมาก เพราะยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิม และยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัย ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมเอาไว้ได้อย่างกลมกลืน เป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนหลงรักและเลือกที่จะมาทัวร์เวียดนามกันค่ะ