30 อาหารรัสเซีย อร่อยจัดรัสเซีย ไปรัสเซียทั้งทีต้องลองให้ได้

แนะนำ 30 อาหารรัสเซีย ที่ต้องลอง เมื่อไปเยือนรัสเซีย

1. ปิร็อก (Pirog, Пирог)

เริ่มต้นกันที่เมนูเบา ๆ อย่างปิร็อก (Pirog) กันค่ะ อาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ เป็นพายรัสเซียยอดนิยมที่ทำจากแป้งสาลี, ยีสต์, ชอร์ตครัสต์ หรือใช้พัฟเพสตรี้ ที่ใส่ส่วนผสมทั้งคาวและหวาน โดยไส้ที่นิยม ได้แก่ เนื้อสัตว์, ปลา, เห็ด, ชีส, กะหล่ำปลี, มันฝรั่ง และผลไม้ เช่น ลูกพลัม, แอปเปิ้ล หรือผลเบอร์รี่ต่าง ๆ ซึ่งวิธีการทำแป้งพายจะทำแบบปิดหรือเปิดหน้าก็ได้ตามชอบ และสามารถขึ้นรูปร่างได้ทั้งแบบสี่เหลี่ยมและแบบวงกลม ในรัสเซียนั้น pirog เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมาก และมักจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของแม่บ้านที่ดีอีกด้วยค่ะ

2. ซาคุสกี้ (Zakuski, закуски)

ก่อนอาหารหลักแบบดั้งเดิมในงานเลี้ยงของรัสเซียทุกมื้อ จะมี Zakuski ซึ่งเป็นชุดอาหารเรียกน้ำย่อยเสิร์ฟให้กับแขกที่โต๊ะเสมอ ดูไปแล้วก็คล้ายกับการเสิร์ฟเมนูจานเย็นโต๊ะจีนบ้านเราอยู่พอสมควรค่ะ อาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ ประกอบไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยหลายชนิดที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน เช่น เนื้อตัดเย็น, สลัด pirozhki, ปลาหมัก, ผักดอง, ชีส, ขนมปัง และคาเวียร์ โดย Zakuski เป็นคอร์สที่สำคัญที่สุด ว่ากันว่าเจ้าภาพส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการเตรียมและจัด Zakuski มากกว่าการเตรียมอาหารจานหลักกันอีกค่ะ การเสิร์ฟอาหารเรียกน้ำย่อยแบบนี้ สันนิษฐานว่าเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นงานเลี้ยงสำหรับแขกที่เดินทางมาไกล โดยจะเสิร์ฟก่อนในขณะที่เจ้าบ้านกำลังเตรียมอาหารมื้อหลักให้กับแขกนั่นเอง

3. บลินี (Blini, блины)

บลินี (Blini) เป็นแพนเค้กแบบดั้งเดิมของรัสเซีย ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากสมัยโบราณ โดยเป็นอาหารที่เสิร์ฟในช่วงวันหยุดนอกศาสนา ที่เรียกว่า “Maslenitsa” ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองที่กินเวลานานหนึ่งสัปดาห์ เพื่อยกย่องการสิ้นสุดฤดูหนาว และการเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ เตรียมด้วยแป้ง, ไข่, นม, ยีสต์ และเกลือเล็กน้อย สิ่งที่บลินีแตกต่างจากแพนเค้กอื่น ๆ คือการเติมยีสต์ลงไปจึงมีความนุ่มมากกว่า จากนั้นนำไปทำให้สุกบนกระทะที่ร้อนจัด โดยทำเป็นรูปวงกลมแล้วทอดเป็นเวลาสองสามนาทีทั้งสองด้าน รูปทรงและสีสันของบลินี เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ที่รอคอยมานานหลังจากฤดูหนาว สามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบของหวานและของคาว โดยนิยมใช้ท็อปปิ้งได้แก่ แยม, นมข้นหวาน และที่นิยมที่สุดคือการโรยหน้าด้วยไข่ปลาคาเวียร์ค่ะ

4. คาชา (Kasha, Каша)

คาชา (Kasha) ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นตัวแทนของอาหารรัสเซียที่สำคัญมานานหลายศตวรรษ คาชาของรัสเซียหมายถึงอาหารต่าง ๆ ที่ทำขึ้นจากธัญพืช โดยทั่วไปมักเป็นข้าว, ข้าวสาลี หรือข้าวฟ่าง รวมไปถึงบัควีท และควินัว โดยจะนำไปต้มในน้ำและนม ซึ่งรสชาติที่ได้จะมีตั้งแต่รสหวานไปจนถึงรสเผ็ดแล้วแต่การปรุง อีกทั้งยังสามารถดัดแปลงด้วยการใส่ผลไม้สด, ผลไม้แห้ง, แยม, ชีส, เนย, ผัก, ถั่ว หรือน้ำผึ้ง ลงไปได้ตามชอบ เป็นเมนูโจ๊กซึ่งมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ชัดเจน ในเรื่องของการเป็นอาหารมื้อแรกที่นำไปเสิร์ฟให้กับเด็ก ๆ และการเสิร์ฟในงานศพ อันแสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของวงจรชีวิตนั่นเองค่ะ

5. เปลเมญี่ (Pelmeni, Пельмени)

เปลเมญี่ (Pelmeni) เป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติรัสเซียยอดนิยมเลยทีเดียวค่ะ มีลักษณะเป็นเกี๊ยวชิ้นเล็ก ๆ แป้งบางละเอียด โดยสามารถใส่ไส้ได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เนื้อบด, ไก่, ปลา ไปจนถึงเห็ด ไส้อาจมีรสอ่อนหรือเผ็ดมากแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของเครื่องปรุงรส เช่น สมุนไพรสดต่าง ๆ รวมไปถึงพริกไทยดำ และหัวหอม เกี๊ยว Pelmeni เป็นอาหารประจำชาติรัสเซียที่สามารถพบได้ในร้านอาหารรัสเซียเกือบทุกแห่ง รวมถึงเป็นเมนูอาหารประจำบ้านที่แต่ละครอบครัวจะมีสูตรเป็นของตัวเองกันอีกด้วย

6. เนื้อสโตรกานอฟ (Beef Stroganoff, бефстро́ганов)

อาหารรัสเซียเมนูนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกในรัสเซียช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่มาของอาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเชฟชาวฝรั่งเศสที่ทำงานให้กับตระกูล Stroganoff จึงเป็นที่มาของชื่อเมนูนั่นเอง ทำจากเนื้อวัวผสมกับแป้งเล็กน้อย แล้วนำไปผัดในซอสที่ปรุงด้วยน้ำสต็อก, มัสตาร์ด, หัวหอม, พริกไทย, ใบพาสลีย์, เกลือ และครีมเปรี้ยว เมนูอาหารประจำชาติรัสเซียที่ได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมากจากสไตล์การปรุงอาหารแบบฝรั่งเศส โดยจะเห็นได้ชัดจากการหั่นเนื้อวัวเป็นก้อนหรือเป็นเส้นนั่นเอง นิยมเสิร์ฟพร้อมกับ potato straws แต่ก็เข้ากันได้ดีกับข้าวพิลาฟ, บะหมี่ไข่ หรือมันฝรั่งบด

7. โอเซตราคาเวียร์ (Osetra Caviar)

Osetra Caviar เป็นไข่ปลาคาเวียร์ที่แพงเป็นอันดับ 2 รองจาก Beluga caviar โดยได้มาจากปลาสเตอร์เจียน osetra ของรัสเซีย (Acipenser gueldenstaedtii) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในทะเลแคสเปียน, ทะเลดำ, ทะเล Azov รวมถึงลุ่มแม่น้ำ แต่คาเวียร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเก็บเกี่ยวมาจากปลาที่เพาะเลี้ยงเอาไว้ในฟาร์ม โดย Osetra Caviar เป็นไข่คาเวียร์ขนาดกลาง มีลักษณะนุ่มและหลวม มีสีเทาอ่อนสะท้อนสีทอง และมีกลิ่นหอมมาก รสชาติจะออกเค็ม มัน และมีรสชาติของวอลนัท ถึงแม้ว่าจะว่าเป็นอาหารรัสเซียที่มีราคาแพง แต่ก็อยากให้ลองอาหารประจำชาติรัสเซียชนิดนี้เมื่อมาเยือนถึงถิ่นกันดูค่ะ

8. เคอนิกส์แบร์เกอร์ คล็อปป์ (Königsberger Klopse, Soßklopse)

อาหารรัสเซียจานนี้เป็นลูกชิ้นหรือมีทบอลในซอสขาว เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งต้มและบีทรูทฝาน โดยพบว่ามีเมนูอาหารที่มีความคล้ายคลึงกับเมนูนี้ตั้งแต่ในช่วงยุคกลาง แต่ตัวของ klopse หรือมีทบอล ถูกคิดค้นขึ้นมาในเมือง Königsberger ในช่วงศตวรรษที่ 18 จึงเป็นที่มาของชื่อเมนูนั่นเอง มีทบอลเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำมาจากเนื้อลูกวัวสับ ผสมกับปลาแองโชวี่, ปลาซาร์ดีน หรือปลาเฮอริ่งจำนวนเล็กน้อย เป็นเมนูที่ดูง่าย ๆ และน่าจะถูกปากคนไทยอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

9. กูริเยฟ คาชา (Guriev kasha, Гурьевская каша)

Guriev kasha เป็นโจ๊ก semolina หรือโจ๊กข้าวสาลีบดหยาบแบบดั้งเดิมของรัสเซียที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นโจ๊กที่มีการใช้นมมาเป็นส่วนผสม โดยมีการเติมถั่วหวาน เช่น เฮเซลนัท, วอลนัท, อัลมอนด์ รวมไปถึงน้ำผึ้ง, ผลไม้แห้ง หรือแยมผลไม้ลงไป ความเป็นมาของอาหารรัสเซียเมนูนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับศตวรรษ ชื่อของโจ๊ก Guriev มาจากชื่อของ Count Dmitry Alexandrovich Guriev รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและสมาชิกสภาแห่งรัฐของจักรวรรดิรัสเซีย ว่ากันว่าเป็นเมนูที่ถูกเสิร์ฟในช่วงพิธีราชาภิเษกของซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ในปี 1881 และมักจะถูกนำมาใช้สำหรับงานพิธีและโอกาสพิเศษต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ

10. สโตรกานินา (Stroganina, Cтроганина)

อาหารรัสเซียเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นซาซิมิเวอร์ชั่นรัสเซียก็ได้ค่ะ ชื่อของเมนูมาจากคำว่า “strogat” ซึ่งแปลว่า “โกน” เมนูปลาดิบซึ่งทำมาจากปลาดิบทั้งตัวที่แช่แข็งเอาไว้ นำมาลอกหนังออกและหั่นด้วยมีดคม ๆ ให้เป็นชิ้นบาง ซึ่งเนื้อปลาที่ถูกหั่นออกมาเป็นชิ้นบาง ๆ จะม้วนงอเองได้ตามธรรมชาติ โดยทั่วไปจะเสิร์ฟทันทีหลังจากหั่นเนื้อปลาแล้ว อาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ มีต้นกำเนิดมาจากแถบอาร์กติกของรัสเซีย ซึ่งรูปแบบดั้งเดิมจะใช้ปลาเนื้อขาว และตามธรรมเนียมปฏิบัติ Stroganina จะรับประทานคู่กับวอดก้าและเสิร์ฟบนน้ำแข็ง ใครที่ชื่นชอบเมนูปลาดิบแนะนำให้ลองชิมเมนูนี้กันดูค่ะ

11. ราสสเตไก (Rasstegai, Расстегаи)

อาหารรัสเซียเมนูขนมอบแบบดั้งเดิม ที่มีการเจาะรูตรงกลางและมีไส้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตับกับไข่, ข้าวกับเห็ด แต่ไส้แบบดั้งเดิมจะใช้เป็นเนื้อปลาบด เช่น ปลาสเตอร์เจียน หรือปลาแซลมอน ตัวขนมปังทำมาจากแป้ง, ยีสต์, นม, ไข่, เนย, น้ำตาล และเกลือ ในขณะที่ไส้ปลามักจะผสมรวมกับหัวหอม, เนย และครีม โดยทั่วไปแล้ว Rasstegai เป็นอาหารรัสเซียที่ถูกใช้เป็นเครื่องเคียงกับซุป ซึ่งรูที่อยู่ด้านบนของขนม คือช่องสำหรับใส่น้ำซุปเติมลงไปในไส้นั่นเองค่ะ

12. มิโมซ่าสลัด (Mimoza Salad, сала́т мимо́за)

Mimoza เป็นสลัดรัสเซียแบบดั้งเดิม ที่ปรุงโดยการนำเอาส่วนผสมต่าง ๆ มาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ โดยในแต่ละชั้นจะมีการทามายองเนสเอาไว้บาง ๆ ส่วนผสมหลักที่นิยมใช้ได้แก่ ปลาทูน่า, ปลาแมคเคอเรล, ปลาแซลมอน, ปลาเทราต์, ไข่ต้ม, หัวหอม, ครัมเบิลชีส บางครั้งอาจใช้มันฝรั่งต้มกับแครอทด้วยก็ได้ ซึ่งส่วนผสมแต่ละอย่าง จะถูกนำมาทำให้ละเอียดก่อนที่จะประกอบเป็นชั้น โดยจะใช้ไข่แดงต้มเป็นชั้นบนสุด เนื่องจากมีสีสันที่ดูคล้ายกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อของเมนูนั่นเองค่ะ และจะโรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง (Dill) ก่อนนำไปเสิร์ฟ

13. คูร์นิค (Kurnik, Курник)

อาหารรัสเซียเมนูนี้คือ Pirog แบบดั้งเดิมที่ถูกทำขึ้นในเทศกาลต่าง ๆ ว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และความมั่นคง ในอดีตเมนูนี้ถูกสงวนเอาไว้สำหรับราชวงศ์เพื่อเป็นเมนูสำหรับการเสิร์ฟในงานเลี้ยงฉลองสมรส โดยเป็นพายที่ทำมาจากแป้งหลายชนิด และสอดไส้ด้วยส่วนผสมหลากหลายทั้งคาวและหวาน มีลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่และถูกตกแต่งอย่างประณีต โดยใช้แป้งมาปั้นเป็นลวดลายให้มีความสวยงาม ด้านในอัดแน่นไปด้วยชั้นของไส้ โดยทั่วไปจะใช้เนื้อไก่, ไข่, ข้าว, คาชา (kasha) เห็ด และอื่น ๆ นิยมเสิร์ฟพร้อมกับซอสจิ้ม หรือเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงกับซุป

14. ซูชึชกี (Sushki, су́шки)

อาหารรัสเซียเมนูของว่างแบบดั้งเดิมที่ทำมาจากแป้งขนมปังหวาน ปั้นเป็นวงแหวนขนาดเล็กแล้วนำไปอบ ซึ่งส่วนผสมของตัวแป้งประกอบไปด้วย แป้ง, ไข่, น้ำ, น้ำตาล และเกลือ โดยชื่อของเมนูนี้มาจากคำภาษารัสเซียซึ่งแปลว่าแห้ง ซึ่งหมายถึงพื้นผิวด้านนอกของขนมที่แข็งและแห้งนั่นเอง ชาวรัสเซียนิยมรับประทาน Sushki เป็นของหวาน โดยจะเอาจุ่มลงไปในน้ำชาเพื่อให้ตัวขนมนั้นอมน้ำและนุ่มขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานคู่กับแยมผลไม้ และครีมเปรี้ยวต่าง ๆ ได้เช่นกัน

15. คูลิเบียค (Coulibiac, Кулебяка)

Coulibiac อาหารรัสเซียที่มีลักษณะเป็นพายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมีไส้ต่าง ๆ เช่น ปลาแซลมอนและบัควีท, กะหล่ำปลีกับเห็ดและหัวหอม หรือเนื้อบดกับข้าวและไข่ ตัวแป้งพายมักทำด้วยแป้งยีสต์ และปริมาณไส้จะใส่มามากกว่าปริมาณของแป้งเสมอ อาหารรัสเซียเมนูนี้ถูกคิดค้นขึ้นในศตวรรษที่ 17 และได้แพร่หลายจนได้รับความนิยมในฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 19 เป็นเมนูง่าย ๆ ที่อร่อยและอยู่ท้องได้ดีเลยทีเดียวค่ะ โดยแนะนำให้รับประทานคู่กับนมหรือชาสักแก้ว ก็อิ่มกันแบบเบา ๆ ไปอีกมื้อ

16. ชูบา (Shuba, Сельдь под шубой)

อาหารรัสเซียเมนูนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ปลาเฮอริ่งใต้เสื้อคลุมขนสัตว์” สลัดรัสเซียที่หน้าตาไม่เหมือนใคร และเป็นอีกหนึ่งในเมนูอาหารประจำชาติรัสเซียที่ไม่อยากให้พลาดกันค่ะ สลัดจานนี้ประกอบไปด้วยส่วนประกอบทั้งหมด 3 ชั้นที่มีความโดดเด่น ได้แก่ ปลาเฮอริ่งเค็ม, มันฝรั่ง และหัวบีท หรืออาจจะมีชั้นมากกว่านั้นก็ได้ ถ้าหากอยากใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติมลงไป เช่น แอปเปิ้ล, หัวหอม หรือไข่ลวก เมนูนี้ว่ากันว่าถูกคิดค้นโดยโรงเตี๊ยมชื่อ Anastas Bogomilov เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 โดยสีของหัวผักกาดเป็นสัญลักษณ์ของทองสีแดง ในขณะที่มันฝรั่งเป็นสัญลักษณ์ของอาหารหลักของชาวนาและผู้ใช้แรงงาน ปัจจุบันเป็นอาหารรัสเซียซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในการเฉลิมฉลองปีใหม่ของรัสเซียค่ะ

17. อูคา (Ukha, Уха)

อาหารรัสเซียเมนูนี้เป็นซุปใสที่ทำมาจากปลาหลายชนิด ปลาทรายแดง, ปลาดุกเวลส์, ปลาแซลมอน, ปลาค็อด, ปลาคอน และปลาเทราต์ โดยจะใช้น้ำซุปที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เครื่องเทศ และผักต่าง ๆ เช่น รากผักชี, ต้นหอม, ใบกระวาน, ผักชีลาว, ลูกจันทร์เทศ, เมล็ดยี่หร่า เป็นต้น โดยนิยมเติม Vodka ลงไปในน้ำซุปเล็กน้อยในขณะที่น้ำซุปกำลังเดือดปุด ๆ ถึงแม้ว่าอาหารรัสเซียเมนูนี้จะมีต้นกำเนิดมาจากน้ำซุปธรรมดา แต่ก็ถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นอาหารประจำชาติรัสเซียจานเด็ดในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 เนื่องจากกลายเป็นอาหารที่เสริมกันในราชสำนัก และเป็นที่โปรดปรานของ Ivan the Terrible เจ้าชายแห่งมอสโกเป็นอย่างยิ่ง

18. โอครอชก้า (Okroshka, окрошка)

Okroshka เป็นซุปเย็นแบบคลาสสิกดั้งเดิมของรัสเซีย อาหารรัสเซียเมนูนี้ประกอบไปด้วย ผักสับ, เนื้อสุก และมันฝรั่ง โดยมี kvass (เครื่องดื่มข้าวสาลีหมัก) หรือ kefir เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำซุป ในขณะที่เนื้อสัตว์นั้นจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับภูมิภาค โดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่ ลิ้น หรือไส้กรอก ไปจนถึงปลารมควัน, แฮม และ doktorskaya kolbasa (ไส้กรอกสไตล์โบโลญญา) เป็นต้น แต่เกือบทุกแบบจะใส่ แตงกวา, ต้นหอม, ผักชีฝรั่ง, หัวไชเท้า, และไข่ลวก ในขณะที่บางแบบจะใช้ผลไม้แทน เช่น เชอร์รี่และแอปเปิ้ล เมนูนี้เป็นอาหารรัสเซียที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากนิยมเสิร์ฟแบบเย็นเป็นเครื่องดื่ม อีกทั้งยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์และเตรียมได้ง่ายอีกด้วย

19. ราสโซลนิค (Rassolnik, рассольник)

อาหารรัสเซียเมนูซุปยอดนิยมที่มีกลิ่นหอม และรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากส่วนผสมที่หลากหลาย ในอดีตเป็นเมนูที่ถูกปรุงขึ้นสำหรับกษัตริย์และขุนนางในช่วงศตวรรษที่ 19 ประกอบไปด้วยแตงกวาดอง, ข้าวบาร์เลย์มุก ผักต่าง ๆ เช่น มันฝรั่ง, หัวหอม, แครอท, สมุนไพรสด และส่วนผสมของเครื่องใน เช่น ตับไก่, เนื้อวัว หรือไตหมู เชื่อกันว่าเมนูนี้เป็นซุปที่ช่วยแก้อาการเมาค้างได้ดีเยี่ยม เวลาเสิร์ฟจะโรยหน้าด้วยผักชีฝรั่งสับ (Dill) ละเอียด และตักครีมเปรี้ยวโปะลงไปด้านบน 1 ก้อน

20. เนื้อทอดโปซาร์สกี (Pozharsky cutlet, Пожарские котлеты)

เนื้อทอด Pozharsky เป็นอาหารรัสเซียแบบดั้งเดิม ที่มีต้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้รับการตั้งชื่อตามเจ้าชาย Pozharsky ซึ่งขณะนั้นพระองค์มีแขกคนสำคัญมาร่วมรับประทานอาหารค่ำ แต่ปรากฏว่าไม่มีเนื้อลูกวัวซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแขก เจ้าชายจึงสั่งให้พ่อครัวนำเอาเนื้อไก่มาปรุงอาหารแทน จนกลายมาเป็นเมนูอาหารประจำชาติรัสเซียยอดนิยมในปัจจุบัน โดยใช้เนื้อไก่นำมาบด และชุบกับเกล็ดขนมปัง จากนั้นนำไปทอดกับเนย รับประทานคู่กับซอสครีม นิยมเสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งอบและถั่วเขียว หรือผักอื่น ๆ ที่คล้ายกันก็ได้

21. โซลยันก้า (Solyanka, соля́нка)

อาหารรัสเซียเมนูนี้เป็นซุปรัสเซียแบบดั้งเดิม ส่วนประกอบหลักโดยพื้นฐานของอาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย เนื้อ, ปลา หรือเห็ด และผักต่าง ๆ เช่น มะเขือเทศ, หัวหอม, มะกอก และกะหล่ำปลี แต่โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ Solyanka ที่ทำจากเนื้อ, ปลา และเห็ด เวลาเสิร์ฟจะใช้มะนาวฝานเป็นแว่น ๆ วางไว้บนซุป และใช้น้ำมะนาวปรุงรสในขั้นตอนการปรุงด้วยเช่นกัน อาหารรัสเซียเมนูนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าสามารถใช้เป็นซุปที่ช่วยรักษาอาการเมาค้าง และนิยมเสิร์ฟพร้อมกับครีมเปรี้ยว

22. ชิ (Shchi, щи)

เมนูนี้เป็นอาหารรัสเซียเมนูซุปแบบดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเป็นเมนูอาหารประจำชาติรัสเซียที่บริโภคกันมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 9 และได้มีการปรับเปลี่ยนส่วนผสมต่าง ๆ ไปตามกาลเวลา โดยในปัจจุบันจะทำมาจากกะหล่ำปลีดองเปรี้ยว, เนื้อสัตว์, เห็ด, แป้ง และเครื่องปรุงรส เดิมทีจะปรุงกะหล่ำปลีและเนื้อสัตว์แยกกัน และใส่ครีมเปรี้ยวหรือ smetana cream เป็นเครื่องปรุง วิธีเสิร์ฟแบบดั้งเดิมจะเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังข้าวไรย์สองสามแผ่นที่ด้านข้าง

23. ปิโรชกี้ (Pirozhki, пирожки)

Pirozhki สามารถแปลตามตัวอักษรได้ว่า “พายน้อย” เป็นหนึ่งในอาหารรัสเซียแนว Street food ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คุณสามารถพบเห็นอาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ได้ทั่วไปตามร้านอาหาร หรือแผงขายอาหารข้างทาง และยังเป็นเมนูที่ชาวรัสเซียนิยมทำกันในครัวเรือน หน้าตาของอาหารรัสเซียเมนูนี้ มีลักษณะเป็นขนมปังรูปวงรีขนาดพกพา สอดไส้ด้วยส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น ผลไม้สด, แยม และคอทเทจชีส สำหรับขนมหวาน หรือใช้เป็นไส้เนื้อสัตว์, ไข่, ผัก, ปลา และข้าว สำหรับอาหารคาว โดยสามารถนำไปอบหรือทอดก็ได้ โดยนิยมรับประทานเป็นของว่างกันค่ะ

24. โกโลบซี่ (Golubtsy, Голубцы)

เมนู Golubtsy ของรัสเซีย คือม้วนกะหล่ำปลียัดไส้เนื้อที่ผสมกับข้าวหรือบัควีท อาหารรัสเซียที่สามารถนำเอาวัตถุดิบต่าง ๆ มายัดไส้กะหล่ำปลีได้ตามชอบ ไม่เพียงแต่ข้าวและเนื้อสัตว์เท่านั้น ชื่อของเมนูนี้หมายถึงนกพิราบตัวน้อย ซึ่งหมายถึงเมนูนกพิราบย่างของชนชั้นสูงในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งคนยากจนไม่สามารถซื้อหามารับประทานกันได้ จึงได้ทำเมนูกะหล่ำปลียัดไส้นี้เลียนแบบขึ้นมานั่นเอง เป็นอาหารประจำชาติรัสเซียที่ได้รับความนิยมกันแทบทุกบ้าน เนื่องจากมีประโยชน์และปรุงได้ไม่ยาก นิยมเสิร์ฟพร้อมครีมเปรี้ยว แล้วราดด้วยหมักซอสมะเขือเทศหอมกรุ่น

25. แชชลิค (Shashlik, шашлы́к)

Shashlik เป็นชื่อของบาร์บีคิวแบบดั้งเดิมของเอเชียกลางและตะวันตก ไม่ใช่เพียงแค่เป็นอาหารรัสเซียอย่างเดียวเท่านั้น เมนูนี้คือเนื้อหมักเสียบไม้ย่าง โดยจะใช้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ นำไปหมัก เช่น เนื้อแกะ, เนื้อวัว หรือเนื้อหมู ขึ้นอยู่กับความชอบของภูมิภาคและศาสนา โดยจะนำเนื้อไปหมักในน้ำส้มสายชู สมุนไพร และเครื่องเทศต่าง ๆ ข้ามคืน ก่อนนำไปย่าง นิยมย่างรวมกับผัก เช่น พริกหยวก, หัวหอม, เห็ด หรือมะเขือเทศ โดยธรรมเนียมแล้วการย่างเนื้อจะเป็นหน้าที่ของผู้ชาย ในขณะที่ผู้หญิงจะคอยหั่นผักและจัดโต๊ะ และนิยมทำเมนูนี้กันเมื่อมีกิจกรรมรอบกองไฟ หรือเมื่อมาชุมนุมกัน จึงทำให้ Shashlik เป็นหนึ่งในอาหารรัสเซียที่ถูกใช้เป็นกิจกรรมของชุมชนกันค่ะ

26. โอลิเวียร์ สลัด (Olivier Salad, Салат Оливье)

อาหารรัสเซียเมนูสลัดที่เต็มไปด้วยส่วนผสมอันหลากหลาย อาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วงปี 1860 ในร้านอาหารมอสโกชื่อดัง “L' Hermitage Olivier” โดยทั่วไปจะทำมาจากผักสับ, เนื้อสัตว์ และมายองเนส ส่วนผสมหลัก ได้แก่ มันฝรั่งหั่นเต๋า, ผัก, ไข่, ไก่ หรือแฮม โดยในปัจจุบันก็ได้มีการประยุกต์นำเอาวัตถุดิบอื่น ๆ ใส่ลงไปด้วย เช่น ถั่วลันเตา, ไก่, แฮม และผักดอง เป็นหนึ่งในเมนูอาหารรัสเซียเรียกน้ำย่อย ที่สำคัญที่สุดในมื้ออาหารสำหรับเฉลิมฉลองของรัสเซีย รวมถึงในประเทศอื่น ๆ ที่เคยเป็นอดีตสหภาพโซเวียต

27. ปรีนิค (Prianik, Пряник)

อาหารรัสเซียประเภทขนมปังหวานหรือคุกกี้ ที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ช่น อบเชย, ขิง, กระวาน, ลูกจันทน์เทศ, ยี่หร่า และโป๊ยกั๊ก พร้อมด้วยแยมผลไม้ต่าง ๆ และคาราเมลหรือนมข้นหวาน ซึ่งแบบดั้งเดิมจะทำมาจากแป้งข้าวไรย์, น้ำผึ้ง และน้ำผลไม้เบอร์รี่เท่านั้น โดยส่วนผสมของเครื่องเทศถูกเพิ่มเข้ามาภายหลัง ในช่วงศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติรัสเซียที่นิยมเสิร์ฟพร้อมกับชาหรือกาแฟ และรับประทานเป็นอาหารว่างยามบ่ายกันค่ะ

28. วิเนเกรต (Vinegret, Винегрет)

อาหารรัสเซียที่ถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 19 เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติรัสเซียประเภทสลัดที่เก่าแก่ที่สุด และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นเมนูที่นิยมเตรียมเอาไว้สำหรับวันหยุดและงานรื่นเริงต่าง ๆ เช่นงานเฉลิมฉลองวันปีใหม่ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยบีทรูทต้ม, มันฝรั่ง และแครอท รวมกับผักดองหั่นเต๋า, กะหล่ำปลีดอง และหัวหอม ชื่อของสลัดได้มาจากคำว่า vinaigrette ในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงน้ำสลัดที่มีน้ำมัน เนื่องจากแบบดั้งเดิมจะใช้ส่วนผสมของน้ำมัน, น้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว และบางครั้งก็ใช้มัสตาร์ดในน้ำสลัดนั่นเองค่ะ โดยนิยมเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังดำของรัสเซีย หรือเสิร์ฟคู่กับอาหารรัสเซียเมนูเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก หรือปลาเฮอริ่ง เป็นต้น

29. ชาลอตก้า (Sharlotka, Шарлотка)

อาหารรัสเซียเมนูของหวานที่ทำมาจากแอปเปิ้ลซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถเตรียมได้ง่ายและใช้ส่วนผสมเพียงแค่ไม่กี่อย่าง ได้แก่ ไข่, น้ำตาล, แป้ง, เบกกิ้งโซดา และแอปเปิ้ลฝานบาง สามารถใส่น้ำผึ้งหรืออบเชยลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติกันได้ พายแอปเปิ้ลชนิดนี้มีเนื้อสัมผัสที่โปร่งและละเอียดอ่อน และมีแคลอรี่ต่ำมาก จึงไม่แปลกใจเลยที่จะเป็นเมนูของหวานซึ่งได้รับความนิยม โดยเวลาเสิร์ฟจะรอให้เย็นตัวลงก่อน จากนั้นโรยด้วยผงน้ำตาลได้บนแล้วตัดเสิร์ฟเป็นชิ้นค่ะ

30. คิสเซิล (Kissel, Kисель)

ปิดท้ายเมนูอาหารรัสเซียกันที่ซุปผลไม้เพื่อสุขภาพอย่างคิสเซิล (Kissel) กันค่ะ อาหารประจำชาติรัสเซียเมนูนี้ มักถูกเรียกกันว่าเป็นเครื่องดื่มของหวานหรือซุปหวาน โดยมักจะทำมาจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่น โดยนำเอาผลไม้ต่าง ๆ มาบดพร้อมกับน้ำ แล้วเติมแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันฝรั่งลงไปเพื่อให้น้ำซุปมีความข้น สามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนหรือเย็น ขึ้นอยู่กับปริมาณของแป้งที่ใส่ลงไป โดยถ้าหากใส่แป้งผสมลงไปน้อยตัวซุปก็จะมีลักษณะที่เป็นของเหลว ใช้เสิร์ฟเป็นเครื่องดื่มหรือซุปในรูปแบบต่าง ๆ หรือผสมกับผลไม้เพิ่มเติมลงไป แต่ถ้าหากผสมแป้งจนข้นเป็นเนื้อครีม นิยมนำมารับประทานเป็นของหวานเย็น ๆ แล้วราดด้วยครีม หรือรับประทานร่วมกับแพนเค้กและวาฟเฟิล

และทั้งหมดนี้คือ 30 อาหารรัสเซีย อร่อยจัดรัสเซีย ไปรัสเซียทั้งทีต้องลองให้ได้ ถึงแม้ว่าอาหารรัสเซียนั้นอาจจะไม่ได้มีอะไรที่โด่งดังหรือขึ้นชื่อมากมายนัก แต่เมื่อมีโอกาสได้ไปเยือนรัสเซียกันทั้งที ก็อยากให้ลองชิมอาหารประจำชาติรัสเซียเมนูต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงแผ่นดินอันกว้างใหญ่ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของผู้คนกันดูค่ะ ซึ่งนอกจาก 30 เมนูที่เราได้แนะนำกันแล้ว ยังคงมีอาหารรัสเซียเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจ รอให้คุณได้ไปชิมกันถึงที่อีกหลายเมนูเลยล่ะค่ะ