สำหรับการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องบอกว่ามีสนามบินญี่ปุ่นอยู่หลายแห่งที่กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ ๆ และมีเที่ยวบินเดินทางจากประเทศไทยไปยังสนามบินในญี่ปุ่นหลายแห่ง ซึ่งสนามบินที่ญี่ปุ่นที่ถือได้ว่าเป็นสนามบินหลักของประเทศญี่ปุ่น ก็คือสนามบินนาริตะ (Narita International Airport) นั่นเองค่ะ ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสนามบินนาริตะ สนามบินที่เป็นประตูสู่ประเทศญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ
สนามบินนาริตะหรือท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ใช้อักษรย่อว่า NRT เป็นหนึ่งในสองสนามบินนานาชาติที่ให้บริการในเขตมหานครโตเกียว ตั้งอยู่ภายในเมืองนาริตะของจังหวัดชิบะ ห่างจากใจกลางกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันออกประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นสนามบินที่มีความพลุกพล่านมากที่สุดในญี่ปุ่นทั้งในแง่ของปริมาณผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งที่นี่ได้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีผู้มาใช้บริการมากเป็นอันดับ 10 ของโลก มีรันเวย์หลักยาว 4,000 เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นรันเวย์ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นร่วมกับรันเวย์ของสนามบินนานาชาติคันไซในโอซาก้า โดยสนามบินนาริตะทำหน้าที่เป็นสนามบินศูนย์กลางระหว่างประเทศหลักของสายการบิน Japan Airlines, All Nippon Airways และ Nippon Cargo Airlines รวมไปถึงศูนย์กลางสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง Jetstar Japan และ Peach
เป็นอาคารผู้โดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แบ่งออกเป็นอาคารกลางที่มีปีก 2 ด้านทางทิศเหนือและทิศใต้ มีรถรับส่งให้บริการฟรีระหว่างอาคารผู้โดยสาร โดยแบ่งออกเป็น สายสีน้ำเงิน ให้บริการระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1, 2 และ 3 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 21.30 น. ทุก ๆ 15 นาที และสายสีเขียว ให้บริการระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 ตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 23:30 น. ทุก ๆ 10-20 นาที
ตัวอาคารผู้โดยสาร 1 แบ่งออกได้เป็น 6 ชั้น ชั้นใต้ดินเป็นที่ตั้งของสถานีสนามบินนาริตะ ให้บริการรถไฟสาย JR และ Keisei มีบริการแลกเปลี่ยนเงินตรา, สถานพยาบาล, ตู้ขายของอัตโนมัติ และอื่น ๆ ชั้นที่ 1 สำหรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เป็นที่ตั้งของศุลกากร, การรับสัมภาระ, ร้านค้า, เคาน์เตอร์เช่ารถ, บริการเช่าโทรศัพท์มือถือและ Wi-Fi, แลกเปลี่ยนเงินตรา, การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม, ที่เก็บสัมภาระ, การเข้าถึงการขนส่งภาคพื้นดิน เช่น รถประจำทางและแท็กซี่ ชั้นที่ 2 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเช่นกัน มีศูนย์บริการช่วยเหลือ, เคาน์เตอร์ลงทะเบียนอัตโนมัติ, และบันไดเลื่อนไปยังอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศที่ชั้น 4
ชั้นที่ 3 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ อาคารเทียบเครื่องบิน (Satellites) 1-4 ที่เชื่อมต่อด้วยกันทั้งหมด เป็นพื้นที่สำหรับขั้นตอนต่อไปหลังจากเช็คอินของผู้โดยสารที่มาจากชั้น 4 และเป็นที่ตั้งของจุดตรวจรักษาความปลอดภัย จุดตรวจหนังสือเดินทาง Duty Free Areas รวมไปถึงร้านค้า, บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา, ร้านอาหาร และอื่น ๆ บริเวณชั้น 4 เป็นล็อบบี้ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศและพื้นที่เช็คอิน มีห้างสรรพสินค้าสนามบิน, ร้านค้า duty free, ตู้เก็บสัมภาระ, จุดบริการอินเทอร์เน็ต, ตู้จดหมาย, สถานรับเลี้ยงเด็ก, ห้องน้ำ, เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์, พื้นที่สูบบุหรี่, จุดนัดพบ, เก้าอี้นวด และอื่น ๆ ในส่วนของชั้นที่ 5 เป็นดาดฟ้าชมวิวซึ่งตั้งอยู่ในอาคารส่วนกลาง เป็นที่ตั้งของร้านค้าและบริการอื่น ๆ อย่างเช่น Sky Food Court และ Airport Mall ที่มีทั้งร้านค้าและพื้นที่สำหรับเด็กเอาไว้ให้บริการ
เป็นอาคารที่รองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ ประกอบไปด้วยอาคารหลักและอาคารเทียบเครื่องบิน (Satellites) ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับอาคารผู้โดยสารหลัก มีบริการรถรับส่งฟรีระหว่างอาคารผู้โดยสาร โดยแบ่งออกเป็นสายสีน้ำเงิน ให้บริการระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1, 2 และ 3 ตั้งแต่เวลา 07:00 น. ถึง 21:30 น. ทุก ๆ 15 นาที สายสีเขียว ให้บริการระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 ตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 22:30 น. ทุกๆ 10-20 นาที สายสีส้ม ให้บริการระหว่างอาคารผู้โดยสาร 2 และ 3 ตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 23:20 น. ทุก 3 ถึง 5 นาที
ตัวอาคารผู้โดยสาร 2 สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ชั้น ชั้นใต้ดินเป็นที่ตั้งของสถานี Airport Terminal 2 ที่นำไปสู่สถานีรถไฟและที่จอดรถ มีคาเฟ่, จุดแลกเปลี่ยนเงินตรา, โรงแรมสัตว์เลี้ยง และบริการเช่าโทรศัพท์มือถือ ชั้น 1 คือพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าและจุดรับกระเป๋า สามารถเข้าถึงบริการรถบัสและแท็กซี่รวมไปถึงทางเดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร 3 ได้ นอกจากนี้ยังมี North Wait Area ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารที่มีเที่ยวบินตอนเช้าให้สามารถพักผ่อนกันได้ที่บริเวณนี้ โดยมีเคาน์เตอร์เช่า Wi-Fi บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา ร้านกาแฟ และร้านค้าต่าง ๆ สำหรับชั้น 2 จะเป็นบริเวณที่ไปยังที่จอดรถโซน P2 และ P3
ชั้นที่ 3 เป็นส่วนของผู้โดยสารขาออก ให้บริการเช็คอิน จุดคัดกรองความปลอดภัย ตรวจหนังสือเดินทาง ตู้เอทีเอ็ม บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา บริการห่อสัมภาระ บริการเช่า Wi-Fi ศูนย์บริการผู้โดยสาร และอื่น ๆ ซึ่งเมื่อผ่านจุดคัดกรองความปลอดภัยแล้วผู้โดยสารสามารถเข้าสู่แหล่งช้อปปิ้งและร้านค้าปลอดภาษีได้ ชั้นที่ 4 เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าสนามบินซึ่งมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า และอื่นๆอีกมากมาย
มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Budget terminal หรือ low-cost terminal เป็นอาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ ประกอบด้วยอาคาร 2 หลัง ได้แก่ อาคารหลักและอาคารเทียบเครื่องบิน (Satellites) มีบริการรับส่งฟรีระหว่างอาคารผู้โดยสาร สายสีน้ำเงิน ให้บริการระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1, 2 และ 3 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 21.30 น. ทุก ๆ 15 นาที สายสีส้ม ให้บริการระหว่างอาคารผู้โดยสาร 2 และ 3 ตั้งแต่เวลา 04:30 น. ถึง 23:20 น. ทุก 3 ถึง 5 นาที
ตัวอาคารผู้โดยสาร 3 มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นที่ 1 คือชั้นขาเข้าสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ ชั้นที่ 2 เป็นล็อบบี้ขาออกและขาเข้าภายในประเทศ พื้นที่เช็คอิน และพื้นที่ระหว่างรอ ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ และชั้น 4 มีสะพานเชื่อมระหว่างอาคารหลักและอาคารเทียบเครื่องบิน
สนามบินนาริตะมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้กับผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการ ภายในบริเวณอาคารผู้โดยสาร ได้แก่ ศูนย์อาหาร, ร้านค้าปลีก, ห้องรับรอง, เครือข่าย "FreeWiFI-NARITA", การจัดแสดง Event ต่าง ๆ ที่บริเวณชั้น 5 ของอาคารผู้โดยสาร 1, ห้องละหมาดสำหรับอาคารผู้โดยสารทั้ง 3 แห่ง, คลินิกสนามบินในอาคารผู้โดยสาร 1 และอาคารผู้โดยสาร 2, พื้นที่สำหรับเด็กในอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2, บริการแจ้งของสูญหาย, ร้านอาหารและคาเฟ่, ล็อกเกอร์สำหรับเก็บสัมภาระ, พื้นที่สูบบุหรี่ในอาคารผู้โดยสาร 1 และอาคารผู้โดยสาร 2
นอกจากนี้ภายในสนามบินยังมีบริการอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ ร้านค้าและร้านปลอดภาษี, ตู้ ATM, บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา, บริการห่อสัมภาระ, ประกันสำหรับนักท่องเที่ยว, ร้านตัดผมและเสริมสวย, เก้าอี้นวด, ห้องรับรองให้เช่าสำหรับผู้ที่เดินทางเป็นหมู่คณะ, บริการซ่อมแซม, ลอตเตอรี่, โรงแรมสำหรับสัตว์เลี้ยง, ที่ทำการไปรษณีย์, คอมพิวเตอร์พร้อมอินเตอร์เน็ต, ห้องอาบน้ำและห้องพักผ่อน, ร้านขายยา, ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ, สถานรับเลี้ยงเด็ก, รถรับส่งระหว่างอาคารผู้โดยสาร, บริการสำหรับผู้พิการ, ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว, เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์, บริการซักแห้ง, ที่จอดรถ, เครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติ (AED), เช่า Wi-Fi เป็นต้น
บริเวณติดกับอาคารผู้โดยสาร 1 มีโรงแรมของสนามบินได้แก่ Airport Rest House และโรงแรมแคปซูลที่เปิดให้บริการใกล้กับบริเวณอาคารผู้โดยสาร 2 พร้อมแผนกต้อนรับ 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับให้บริการผู้โดยสารที่ต้องต่อเครื่องหรือมีเที่ยวบินในช่วงเช้าตรู่ นอกจากนี้ภายในสนามบินนาริตะทางด้านทิศใต้ ยังมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์การบิน ที่จัดแสดงเครื่องบินหลายลำรวมไปถึงเครื่องบินใบพัดเทอร์โบ NAMC YS-11 และเครื่องบินลูกสูบขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่ง
การเดินทางไปยังสนามบินนาริตะ (Narita International Airport) การเดินทางไปยังสนามบินนาริตะ (Narita International Airport) ก็มีเส้นทางการขนส่งทางบกให้เลือกอย่างหลากหลาย โดยเส้นทางที่นิยมใช้กันคือ รถไฟ JR นาริตะเอ็กซ์เพรส ที่วิ่งจากสนามบินผ่านสายนาริตะไปยังสถานีโตเกียว รถไฟ Keisei ที่ให้บริการระหว่างสนามบินนาริตะและใจกลางกรุงโตเกียว รวมไปถึงตอนเหนือของจังหวัดชิบะ นอกจากนี้ยังมีบริการรถบัส รถแท็กซี่ และมีบริการเฮลิคอปเตอร์เช่าเหมาลำอีกด้วย
