ญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่หลายๆ คนอยากจะใช้เวลาวันหยุดเพื่อไปท่องเที่ยวสักครั้ง และแน่นอนว่าจะต้องมีการจองตั๋วไปญี่ปุ่น ซึ่งก็มีให้เราเลือกทั้งเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินต่อ ถ้าหากเลือกเป็นเที่ยวบินตรงก็จะใช้เวลาเดินทางเร็วกว่าและมีราคาแพงกว่า ในขณะที่เที่ยวบินต่อก็จะมีราคาประหยัดกว่า แต่ก็ใช้เวลาเดินทางนานกว่าด้วยเช่นกันเนื่องจากต้องมีการแวะพักเครื่องในระหว่างเดินทางนั่นเอง แต่ถ้าอยากได้ความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยมในการเดินทางพร้อมการบินตรงที่รวดเร็วยิ่งกว่าก็ขอแนะนำให้จองตั๋วไปญี่ปุ่นกับการบินไทยกันค่ะ ซึ่งในวันนี้เราก็มีตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นการบินไทยมาแนะนำกันค่ะว่ามีแบบไหนบ้างที่เหมาะกับคุณ
ตั๋วเครื่องบินมีแบบไหนบ้าง
1. ชั้นเฟิร์สคลาส (First class: อักษรย่อ F Class)
เป็นชั้นที่มีบริการพิเศษหรูหรามากที่สุด โดยทั่วไปแล้วก็มักจะอยู่หลังห้องนักบิน มีพื้นที่กว้างขวางและเป็นส่วนตัว เก้าอี้นั่งมีขนาดใหญ่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ความบันเทิง และบริการอาหารพิเศษมากมาย สามารถนำสัมภาระติดตัวไปได้ประมาณ 40 กิโลกรัม และก็เป็นที่นั่งชั้นที่มีราคาแพงที่สุดด้วยเช่นกัน โดยรหัสที่ใช้ในการออกตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสก็มีดังนี้
- R ใช้ในเครื่องบินประเภทความเร็วเหนือเสียง (Supersonic)
- P (First Class Premium): ชั้นหนึ่งบริการพิเศษ
- F (First Class): ชั้นหนึ่ง
- A (First Class Discounted): ชั้นหนึ่งราคาพิเศษ
2. ชั้นธุรกิจ (Business Class: อักษรย่อ C Class)
เป็นชั้นรองลงมาจากเฟิร์สคลาส ซึ่งที่นั่งก็จะอยู่ถัดมาจากชั้นเฟิร์สคลาสด้วยเช่นกัน การบริการและขนาดของที่นั่งก็จะไม่พิเศษเท่ากับชั้นเฟิร์สคลาส แต่ก็มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการด้วยเช่นกัน สามารถนำสัมภาระติดตัวไปได้ประมาณ 30 กิโลกรัม ราคาของที่นั่งก็จะอยู่ในระดับปานกลาง โดยรหัสที่ใช้ในการออกตั๋วชั้นธุรกิจก็มีดังนี้
- J (Business Class Premium): ชั้นธุรกิจบริการพิเศษ
- C (Business Class): ชั้นธุรกิจ
- D, I, Z (Businees Class Discounted): ชั้นธุรกิจราคาพิเศษ
3. ชั้นประหยัด (Economy Class: อักษรย่อ Y Class)
เป็นชั้นที่นั่งธรรมดาที่ผู้โดยสารนิยมเลือกใช้เพราะมีราคาไม่แพง ซึ่งชั้นประหยัดนี้ก็จะอยู่บริเวณตรงส่วนกลางของเครื่องบินนับตั้งแต่ส่วนปีกไปจนถึงส่วนหาง เก้าอี้ที่มีขนาดเล็กปรับเอียงได้อย่างเดียวไม่สามารถปรับนอนราบได้ จึงเป็นชั้นที่มีจำนวนที่นั่งมากที่สุด ทางด้านบริการก็จะมีอาหารและเครื่องดื่มแบบธรรมดาให้ตามปกติ สามารถนำสัมภาระติดตัวไปได้ประมาณ 20 กิโลกรัม โดยรหัสที่ใช้ในการออกตั๋วชั้นประหยัดก็มีดังนี้
- S, Y (Economy Class): ชั้นประหยัด
- B, II, K, L, M, T, Q, V, X (Economy Class Discounted): ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
4. ชั้นประหยัดพรีเมี่ยม (Premium Economy Class: อักษรย่อ W Class)
เป็นชั้นประหยัดที่อัพเกรดขึ้นมาเล็กน้อยโดยมีความกว้างของเก้าอี้เทียบเท่ากับในชั้นธุรกิจแต่ไม่สามารถปรับนอนราบได้ บริการต่าง ๆ ก็จะเหมือนกับชั้นประหยัดโดยทั่วไป และมีค่าโดยสารแพงกว่าชั้นประหยัดตามปกติ
สำหรับตำแหน่งที่นั่งบนเครื่องบินโดยทั่วไปแล้วก็จะแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ก็คือที่นั่งริมหน้าต่างและที่นั่งริมทางเดิน ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งยอดนิยมเพราะสามารถชมวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบและชอบชมวิว แต่ข้อเสียก็คือถ้าหากอยากลุกไปเข้าห้องน้ำก็จะต้องผ่านที่นั่งของผู้โดยสารตรงตำแหน่งริมทางเดินซึ่งก็อาจเป็นการรบกวนผู้อื่นได้ ส่วนที่นั่งริมทางเดินข้อดีก็คือลุกนั่งสะดวก แต่ข้อเสียก็คือไม่ค่อยสงบเพราะมักจะมีคนเดินผ่านไปมาอยู่ตลอดนั่นเองค่ะ
เที่ยวบินไปญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการของสายการบินไทย
สำหรับการจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นสายการบินไทยจะเป็นเที่ยวบินตรงไปยังสนามบินเมืองจุดหมายปลายทาง ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 6 แห่งด้วยกันดังนี้
- ตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น โตเกียว (TYO) เราสามารถจองตั๋วไปญี่ปุ่นจากกรุงเทพฯ สู่จุดหมายปลายทางกรุงโตเกียวได้ทั้งหมด 2 สนามบินด้วยกันก็คือ สนามบินนานาชาตินาริตะ (NRT) อยู่ห่างจากใจกลางกรุงโตเกียวประมาณ 60 กิโลเมตร และสนามบินฮาเนดะ (HND) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว
- ตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น โอซาก้า (KIX) สามารถจองตั๋วไปญี่ปุ่นจุดหมายปลายทางโอซาก้า บินตรงสู่สนามบินนานาชาติคันไซ สนามบินลอยน้ำบนเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นเองแห่งแรกในโลกแห่งภูมิภาคคันไซ ซึ่งสามารถเลือกเดินทางได้ทั้งจากกรุงเทพฯ และเกาะสมุย
- ตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น นาโกย่า (NGO) สามารถจองตั๋วไปญี่ปุ่นบินตรงสู่จุดหมายปลายทางนานาชาติชูบุ เซ็นแทร์ (สนามบิน Central Japan) ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) ได้ทั้งจากกรุงเทพและเกาะสมุย
- ตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ (FUK) สามารถจองตั๋วไปญี่ปุ่นบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังสนามบินฟุกุโอกะของภูมิภาคคิวชูทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสนามบินแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางเมืองฟุกุโอกะ โดยอยู่ห่างจากสถานีรถไฟหลักเพียงแค่ 3 กิโลเมตร
- ตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น เซนได (SDJ) สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต สู่สนามบินนานาชาติเซ็นได ในจังหวัดมิยางิ ที่สามารถให้เราได้เลือกท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุกันก่อนและสามารถเที่ยวฮอกไกโดต่อได้เลย
- ตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น ซัปโปโร (CTS) สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ จุดหมายปลายทางสนามบินนิวชิโตเสะ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคฮอกไกโดทางเหนือของญี่ปุ่น อยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
และทั้งหมดที่เรานำมาฝากกันวันนี้คือเส้นทางการบินของการบินไทย สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันค่ะ ซึ่งก็มีทั้งแบบบินตรงและแบบเที่ยวบินต่อขึ้นอยู่กับเมืองปลายทางที่เราจะไป ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทัวร์ญี่ปุ่น การบินไทยค่ะ