ข้อมูลพื้นฐานประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะที่อยู่ในเอเชียตะวันออก ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีเกาะหลักทั้งหมด 5 เกาะได้แก่ ฮอกไกโด, ฮอนชู, ชิโกกุ, คิวชู และโอกินาว่า เมืองหลวงคือกรุงโตเกียวซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่ตั้งของญี่ปุ่นเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนแห่งไฟซึ่งเกิดการปะทุของภูเขาไฟและมีแผ่นดินไหวหลายครั้ง ดังนั้นเราจึงเห็นข่าวอยู่เป็นระยะว่าที่ญี่ปุ่นมักมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้น อีกทั้งยังคงมีภูเขาไฟที่ยังคงมีพลังงานปะทุอยู่ ซึ่งภูเขาไฟที่สำคัญและรู้จักกันไปทั่วโลกอย่างภูเขาไฟฟูจินั้น ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีโอกาสการปะทุต่ำ โดยครั้งสุดท้ายที่ภูเขาไฟฟูจิระเบิดคือในยุคเอโดะในปี ค.ศ. 1707 โน่นเลยค่ะ ปัจจุบันภูเขาไฟฟูจิจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นและกลายเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการประกาศโดยองค์การยูเนสโก
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 11 ของโลกและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรหนาแน่น เป็นผู้นำระดับโลกในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ มีบทบาทสำคัญในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งยังเป็นประเทศมหาอำนาจทางวัฒนธรรมพี่มีการเผยแพร่ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรมด้านอาหาร ดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์ โดยเฉพาะมังงะ อนิเมะ และวิดีโอเกม ที่โด่งดังและได้รับความนิยมไปทั่วโลก
สิ่งพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินที่ใช้และพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่เราต้องพกไป โดยเราต้องลองดูอัตราแลกเงินว่าช่วงไหนราคาดี ก็ให้แลกเตรียมเอาไว้ก่อนได้เลย รวมไปถึงพวกอุปกรณ์เสริมที่ต้องใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าและมือถือด้วย
ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง สกุลเงิน : ญี่ปุ่นใช้สกุลเงินเป็นเงินเยน (¥) คำนวณเป็นเงินไทยง่าย ๆ คือเอาเงินบาทคูณ 3 เข้าไปก็จะได้เป็นค่าเงินเยนญี่ปุ่นแบบคร่าว ๆ กันแล้วค่ะ ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง การแลกเงิน : ต้องบอกว่าญี่ปุ่นนั้นเป็นสังคมเงินสด และจะรับแค่เงินเยนเท่านั้น ดังนั้นการเตรียมตัวไปญี่ปุ่นควรพกเงินสดติดตัวไปให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายประจำวัน โดยสามารถแลกเงินเยนจากประเทศไทยเข้ามาในญี่ปุ่นได้ ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง หากพกเงินเกิน 1,000,000 เยน ต้องทำการแจ้งกับศุลกากรทั้งตอนเข้าและออก ว่าเราพกเงินเป็นจำนวนมากกว่า 1,000,000 เยน เข้าหรือออกญี่ปุ่นด้วย ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง สามารถแลกเงินได้ที่ไหนบ้าง? : เราสามารถเตรียมตัวไปญี่ปุ่นด้วยการแลกเงินเยนได้ตั้งแต่อยู่ที่ไทย ส่วนใหญ่ที่แลกเงินก็จะเป็นเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคาร ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่ได้รับอนุญาต ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง สามารถใช้เป็นบัตรเครดิตที่ออกโดยสถาบันการเงินระหว่างประเทศในการรูดซื้อสินค้าหรือกดเงินที่ตู้ก็ได้ โดยบัตร VISA จะเป็นบัตรที่ได้รับการยอมรับกันมากที่สุด โดยแนะนำให้ไปที่ตู้ ATM ของ Japan Post Bank ค่ะ ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ธนบัตรญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ 1,000 เยน, 2,000 เยน, 5,000 เยน, 10,000 เยน ส่วนเหรียญจะมีตั้งแต่ 1 เยน, 5 เยน, 10 เยน, 50 เยน, 100 เยน, 500 เยน ถ้าหากซื้อของตามร้านใหญ่ ๆ ทั่วไปสามารถใช้แบงค์ใหญ่จ่ายเงินได้ตามปกติ แต่ถ้าหากซื้อของตามร้านเล็ก ๆ ริมทางจะไม่รับแบงค์ใหญ่ ดังนั้นจึงควรพกกระเป๋าใส่เศษเหรียญเตรียมตัวไปญี่ปุ่นกันด้วย จะได้ซื้อของสะดวกขึ้น ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง แรงดันไฟฟ้าของญี่ปุ่นกับไทยไม่เท่ากัน จำเป็นต้องใช้ตัวปรับค่าไฟฟ้าเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เสียหาย หรือเช็คที่อุปกรณ์ว่ามี INPUT:100-240V คือรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 100 - 240 โวลต์ แปลว่าอุปกรณ์นั้นสามารถนำไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้ ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง อย่าลืมนำหัวแปลงปลั๊กเตรียมตัวไปญี่ปุ่นกันด้วย เพราะปลั๊กไฟที่ญี่ปุ่นจะเป็นแบบรูแบน ๆ ไม่มีรูกลม ๆ แบบปลั๊กบ้านเรา
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
บอกเลยว่าญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มาเที่ยวครั้งเดียวไม่เคยพอ เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ หลายแห่งที่มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งที่คัดเลือกมาแนะนำจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นฮิตๆ ตามเมืองใหญ่ยอดนิยมอย่าง โตเกียว, โอซาก้า, นาโกย่า, ฟุกุโอกะ และเกียวโต ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่ะว่าที่เที่ยวสำหรับการเตรียมตัวไปญี่ปุ่นครั้งแรกมีตรงไหนที่น่าสนใจกันบ้าง
เตรียมตัวไปญี่ปุ่น โตเกียว
จุดเช็คอินแรกที่ห้ามพลาดคือสัญลักษณ์และแลนด์มาร์คของเมืองอย่าง โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) นั่นเองค่ะ หรือจะเลือกชมวิวกันได้ที่โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) ตามมาด้วยวัดสำคัญอย่างวัดโซโจจิ (Zojoji Temple), วัดเซนโซจิหรือวัดอาซากุสะ (Sensoji Temple), ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu Shrine), ศาลเจ้าชิบะไดจิงกู (Shiba Daijingu Shrine), เดินเที่ยวและแวะช้อปปิ้งกันที่ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing), ย่านกินซ่า (Ginza) หาของทะเลสดใหม่กันที่ตลาดปลาปลาสึกิจิ (Tsukiji Outer Market) พักผ่อนหย่อนใจถ่ายรูปสวย ๆ กันได้ที่ สวนอุเอโนะ (Ueno Park), พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace), อุทยานหลวงชินจูกุ (Shinjuku Gyoen National Garden) แวะชมพิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum), พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) เป็นต้น
เตรียมตัวไปญี่ปุ่น โอซาก้า
ศูนย์กลางของญี่ปุ่นตะวันตกที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ เริ่มกันที่สัญลักษณ์ของเมืองอย่างปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) สนุกสนานกันต่อที่สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์เจแปน (Universal Studio Osaka) เช็คอินกันที่ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) กับป้ายไฟกูลิโกะอันโด่งดัง รวมไปถึงย่านช้อปปิ้งอย่างย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และมินามินัมบะ (Minami Namba) และสักการะขอพรกันที่ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha), ศาลเจ้าโอซาก้าเทมมังงุ (Osaka Tenmangu Shrine), เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติโอซาก้า (National art museum), พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ (Orbi Osaka), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) เดินเล่นย่านแฟชั่นสุดชิคอย่างหมู่บ้านอเมริกา (America Mura) ชมความงดงามของธรรมชาติและสวนสวย ๆ กันที่ สวนอนุสรณ์งานเอ็กซ์โป 70 (Expo ’70 Commemorative Park), สวนสาธารณะนาโนะชิมะ (Nakanoshima Park) แวะชมตึกอูเมดะสกาย(Umeda Sky Building) และห้ามพลาดนั่งชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel) สถานที่ชมวิวสุดโรแมนติกซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าวโอซาก้า
เตรียมตัวไปญี่ปุ่น นาโกย่า
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชูบุ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองนี้ได้แก่ ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับสวนสนุกธีมพาร์ค จิบลิ พาร์ค (Ghibli Park), Legoland Japan Resort, Nagashima Spaland ชมดอกไม้สวย ๆ กันที่สวนดอกไม้นะบะนะ โนะ ซาโตะ(Nabana no Sato) ชมธรรมชาติอันแสนงดงามที่หุบเขา Korankei เยี่ยมชมสวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ฮิงาชิยามา (Higashiyama Zoo & Botanical Garden), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sea Life Nagoya, ตื่นตาตื่นสายแล้วได้ความรู้ไปกับพิพิธภัณฑ์ Toyota Factory Tour and Museums, พิพิธภัณฑ์การรถไฟญี่ปุ่น SCMAGLEV and Railway Park, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Nagoya City Science Museum แวะเช็คอินกันที่แลนด์มาร์คใจกลางเมืองอย่างอาคารโอเอซิส 21 (Oasis 21) และแวะช้อปปิ้งกันที่ Osu Shopping Arcade
เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชูและเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายให้ได้เที่ยวกันจนคุ้มอย่างแน่นอน เริ่มต้นกันด้วยจุดแลนด์มาร์คของเมืองอย่าง ฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower), ปราสาทฟุกุโอกะ (Fukuoka Castle), ชมอุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่สวนคาวาชิ ฟูจิ (Kawachi Fuji Garden) ชมความงดงามของดอกไม้หลากสีสันที่สวนริมทะเลอุมิโนะนาคามิจิ (Uminonakamichi Seaside Park) พักผ่อนหย่อนใจกันที่สวนโอโฮริ (Ohori Park) ไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine), ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine), วัดโทโชจิ (Tochoji Temple), วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟุกุโอกะ (Fukuoka Art Museum), พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู (Kyushu National Museum), พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลทีมแล็บ ฟอเรสต์ ฟุกุโอกะ (TeamLab Forest Fukuoka) ขอพรเรื่องความรักและชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสุดแสนโรแมนติกกันที่หินคู่แต่งงาน ซากุระอิ ฟุตะมิกะอุระ (Sakurai Futamigaura) ช้อปปิ้งที่ Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA และแวะไปหาน้องแมวกันได้ที่เกาะแมว Ainoshima Island
เตรียมตัวไปญี่ปุ่น เกียวโต
เมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่มากมาย ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นวัดและศาลเจ้านั่นเองค่ะ ซึ่งแต่ละที่ก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป เริ่มต้นกันที่ศาลเจ้าจิ้งจอก Fushimi Inari Shrine, ศาลเจ้าเฮอัน(Heian Shrine), วัดทองหรือวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji), วัดน้ำใสหรือวัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera Temple), วัดเรียวอันจิหรือวัดสวนหิน (Ryoanji Temple), ชมป่าไผ่ที่วัดเทนริวจิ (Tenryuji), วัดโคเคเดระหรือวัดสวนมอส(Kokedera Moss Temple), วัดเจ้าแม่กวนอิมพันมือหรือวัดซันจูซันเก็นโด (Sanjusangendo Temple), วัดกินคะคุจิหรือวัดเงิน (Ginkakuji Temple) เดินเล่นกันที่ถนนโบราณย่านฮิกาชิยาม่า(Higashiyama) เยี่ยมชมเกอิชากันที่ย่านกิออน (Gion) และเดินเล่นชิล ๆ หาของกินอร่อย ๆ และสัมผัสความคึกคักในยามค่ำคืนกันที่ย่านริมน้ำพอนโตโชะ (Pontocho)
นอกจากเมืองใหญ่ ๆ ข้างต้นบอกเลยว่าญี่ปุ่นนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและเมืองที่น่าสนใจอีกมากมาย สำหรับการเตรียมตัวไปญี่ปุ่นครั้งแรกและครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นโรงหมักเบียร์คิริน (Kirin Beer Village) ในโยโกฮาม่า เมืองเฮียวโงะ (Hyogo) อันเป็นที่ตั้งของปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ เยี่ยมชมหมู่บ้านชิราคาวะโกะ (Shirakawago) ที่เมืองทาคายาม่า (Takayama) แวะหาน้องกวางกันที่เมืองนารา (Nara) ท่องเที่ยวธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรที่เมืองคารุอิซาวา (Karuizawa) สนุกสนานตื่นตาตื่นใจไปกับธีมปาร์คสไตล์ฮอลแลนด์ เฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch) ที่เมืองนางาซากิ (Nagasaki) สกีรีสอร์ทและเทศกาลหิมะที่ซัปโปโร เป็นต้น อย่างที่บอกเลยค่ะว่ามาญี่ปุ่นแค่รอบเดียวเที่ยวกันไม่พออย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องหาเวลามาเที่ยวซ้ำกันให้ได้
ของกินที่ห้ามพลาด
ถึงแม้ว่าอาหารญี่ปุ่นจะสามารถหากินกันได้ใกล้บ้านแค่หน้าปากซอย แต่การไปกินเมนูต้นฉบับแบบออริจินอลที่ญี่ปุ่นยังไงก็ฟินกว่าเห็น ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ก็อย่าลืมเตรียมงบและเตรียมท้องไปตะลุยกินกันค่ะ โดยเฉพาะซูชิ ปลาดิบ และอาหารทะเลที่มากันแบบสด ๆ จากทะเลไม่ผ่านการแช่แข็ง รับรองได้ว่าอร่อยจนสายรุ้งออกปากกันไปเลย ส่วนเมนูขึ้นชื่ออื่น ๆ ที่ไม่อยากให้พลาดคือโซบะ เมนูที่เรียกได้ว่าเป็นจิตวิญญาณแห่งโตเกียวไปเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเทมปุระ, พิซซ่าญี่ปุ่น, ราเมน, อุด้ง, ไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นยากิโทริ, สุกี้ยากี้, ข้าวหน้าแกงกะหรี่, ข้าวหน้าปลาไหล, ทาโกะยากิ, หมูทอดทงคัตสึ, ปิ้งย่างยากินิคุ, ปูและมันปู, ไก่คาราโอเกะ, ข้าวหน้าเนื้อ, ข้าวปั้นญี่ปุ่น, ยากิโซบะ, โคร็อกเกะ, ผลไม้ตามฤดูกาล, เกี๊ยวซ่า, บะหมี่เย็น, ไข่หอยเม่น, ข้าวหน้าไข่ดิบ ส่วนของขนมและของหวานที่ไม่อยากให้พลาดก็ได้แก่ เครปญี่ปุ่น, ขนมโมจิ, ขนมดังโงะ, เมล่อนปัง, โมจิหยดน้ำ, ไดฟูกุ, Nama Chocolate, ขนมข้าวเกรียบเซมเบ้, ขนมปลาไทยากิ, ไอศครีมแบบ Soft Cream สำหรับเครื่องดื่มแน่นอนว่าไปญี่ปุ่นทั้งทีต้องลองดื่มชาเขียวต้นตำรับกันให้ได้สักครั้ง รวมไปถึงชาข้าวบาร์เลย์ เมล่อนโซดา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่น สาเก, เบียร์, เหล้าบ๊วย หรืออาจจะมองหาเครื่องดื่มที่น่าสนใจตามตู้อัตโนมัติกันดูก็ได้ บอกได้เลยว่ามีเพียบ
ช็อปปิ้งและของฝาก
เป็นกิจกรรมที่พลาดกันไม่ได้อยู่แล้วสำหรับการช็อปปิ้งและซื้อของฝาก ดังนั้นการเตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ก็ต้องมองหาแหล่งช้อปปิ้งในใจและเตรียมงบไว้ช้อปกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งฮิต ๆ ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในโตเกียวนั่นล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นย่านชินจุกุ (Shinjuku), ฮาราจูกุ (Harajuku), ชิบูย่า (Shibuya), โอโมเตะซันโด (Omotesando), กินซ่า (Ginza) เป็นต้น สำหรับของฝากยอดฮิตที่นิยมซื้อกลับกันมาเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกขนมขบเคี้ยวและของกระจุกกระจิกน่ารัก ๆ เช่นเครื่องรางจากศาลเจ้า, แมวกวัก, ตุ๊กตาดารุมะ, ขนมคิทแคท, ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับชาเขียว, ราเมนสำเร็จรูป, ผลไม้ตามฤดูกาล, ขนมป๊อกกี้, ของที่ระลึกจากสวนสนุก, แก้วสตาร์บัคลวดลายเฉพาะของญี่ปุ่น, รองเท้า Onitsuka, สินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอนิเมชั่นหรือเกม, ของดีประจำท้องถิ่น, ทาโร่ชีส, คุกกี้วนิลา Shiroi Koibito, รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ต่าง ๆ
เอกสารสำคัญต่าง ๆ
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำการยกเว้นวีซ่าให้กับคนไทยสำหรับผู้ที่เดินทางและพำนักในญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน โดยเอกสารสำคัญต่าง ๆ สำหรับการเตรียมตัวไปญี่ปุ่น และไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ฉบับปี 2023 ที่ต้องใช้ก็มีดังนี้ค่ะ
ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง อย่างแรกเลยคือเอกสารรับรองการรับวัคซีน Covid -19 ครบ 3 เข็มค่ะ ซึ่งวัคซีนจะต้องเป็นยี่ห้อที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรอง สามารถเข้าญี่ปุ่นได้เลยโดยที่ไม่ต้องตรวจ PCR และกักตัวเมื่อไปถึงญี่ปุ่น ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 ผู้ที่เตรียมตัวไปญี่ปุ่นสามารถลงทะเบียนข้อมูลของผู้เดินทางเอาไว้ล่วงหน้าในเว็บไซต์ Visit Japan Web ได้ที่ https://www.vjw.digital.go.jp เพื่อแจ้งข้อมูลสำหรับการเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยข้อมูลไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้างที่ต้องใช้ก็จะมี ข้อมูลการฉีดวัคซีนเพื่อยกเว้นการกักตัว ข้อมูลตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) และพิธีการศุลกากร (Ddeclaration) ซึ่งเมื่อเรากรอกข้อมูลลงทะเบียนเตรียมตัวไปญี่ปุ่นเสร็จแล้ว เราก็จะได้ QR Code มาเอาไว้แสดงตอนเข้าประเทศญี่ปุ่น จะทำให้ขั้นตอนในการเข้าญี่ปุ่นที่สนามบินมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยไม่ต้องเตรียมหรือกรอกเอกสารที่เป็นกระดาษอีก ส่วนเอกสารอื่น ๆ ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ก็จะเป็นพวกเอกสารที่ต้องพกกันอยู่แล้วเวลาไปเมืองนอกและเตรียมตัวไปญี่ปุ่น ได้แก่ พาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน เอกสารการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่สำคัญคือแนะนำให้ซื้อประกันภัยการเดินทางที่สามารถครอบคลุมการรักษา Covid-19 เตรียมตัวไปญี่ปุ่นเอาไว้ด้วยค่ะ เวลาเกิดเหตุอะไรจะได้อุ่นใจ เพราะค่าโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่นนั้นแพงเอาเรื่องกันเลยเชียว
ของใช้ส่วนตัว
ของใช้ส่วนตัวเมื่อไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง ในการเตรียมตัวไปญี่ปุ่นหลัก ๆ เลยก็จะมีเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับฤดูกาล ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้างที่ขาดไม่ได้คือพวกเสื้อแจ็คเก็ตกันลม เสื้อโค้ทกันหนาวสักตัว อุปกรณ์กันฝน รองเท้าสำหรับใส่เดินโดยเฉพาะ ซิมการ์ดและPocket Wi-fi สำหรับต่ออินเตอร์เน็ต ส่วนข้าวของส่วนตัวอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมตัวไปญี่ปุ่นก็ได้แก่ Power Bank, ยาประจำตัวและใบสั่งยาจากแพทย์, ยาทั่ว ๆ ไป เช่น ยาแก้ปวด, ยาแก้ท้องเสีย, ยาแก้หวัด, ยาคลายกล้ามเนื้อ, ยาดมยาหม่อง, ยาแก้แพ้, พลาสเตอร์ปิดแผล แต่ทั้งนี้ลองเช็คดูก่อนว่ายาที่เราจะเตรียมตัวไปญี่ปุ่นนั้นสามารถนำเข้าประเทศญี่ปุ่นได้หรือไม่ และที่สำคัญคือควรพกเจลล้างมือหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยเตรียมตัวไปญี่ปุ่นกันให้พร้อม
ข้อควรปฏิบัติเมื่อไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
แต่ละประเทศย่อมมีกฎเกณฑ์สำหรับปฏิบัติที่อาจมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงควรศึกษามารยาททางสังคมและข้อควรปฏิบัติสำหรับประเทศนั้น ๆ กันเสียก่อน จะได้ไม่ไปปล่อยไก่ไกลบ้านกันค่ะ ซึ่งข้อควรปฏิบัติเมื่อเตรียมตัวไปญี่ปุ่นที่ควรทราบโดยทั่ว ๆ ไปก็จะมีดังนี้
เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ทุกอย่างต้องตรงเวลา คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลามาก ดังนั้นพวกระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ จะมาตามเวลาเป๊ะ ๆ ไม่มีเลท หรือถ้าหากนัดกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นเราจะต้องตรงต่อเวลาด้วยเช่นกันเพราะไม่อย่างนั้นถือเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่ง เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ห้ามลัดคิวเด็กขาด บ้านเราอาจจะหยวน ๆ กันได้ แต่ที่ญี่ปุ่นห้ามแซงคิวโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการต่อคิวใด ๆ ก็ตาม เพราะเข้าขั้นผิดกฎหมายกันเลยทีเดียว เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่ต้องสละเก้าอี้ สำหรับสายมีน้ำใจเอื้อเฟื้อชอบสละที่นั่งบนรถโดยสาร ถ้าไปญี่ปุ่นไม่ต้องลุกให้นั่งนะคะ เพราะเค้ามีที่นั่งสำรองให้โดยเฉพาะอยู่แล้ว แล้วคนปกติอย่างเรา ๆ ก็อย่าเผลอไปนั่งตรงที่นั่งสำรองด้วยเช่นกัน ไม่งั้นจะถูกมองแรงแน่ ๆ เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่คุยเสียงดังในที่สาธารณะ โดยเฉพาะในร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า รถสาธารณะ เนื่องจากเป็นการรบกวนคนรอบข้าง โดยเฉพาะการคุยโทรศัพท์ หากจำเป็นจริง ๆ ให้พูดสั้น ๆ ด้วยเสียงที่เบาที่สุดและรีบวางสาย ใครที่ตั้งแจ้งเตือนอะไรไว้เสียงดังควรปิดเสียง หรือถ้าจะเล่นเกม ฟังเพลง ดูนั่นนี่ในโทรศัพท์ก็ควรใส่หูฟังกันให้เรียบร้อย เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่ยืนกลางบันไดเลื่อน ตรงนี้ลองสังเกตดูค่ะว่าบันไดเลื่อนในท้องที่ที่เราไปนั้นเขายืนชิดซ้ายหรือชิดขวากัน แต่ที่แน่ ๆ คืออย่ายืนตรงกลางบันไดเลื่อนเพราะเกะกะขวางทางคนอื่นนั่นเองค่ะ เตรียมตัวไปญี่ปุ่น กินเสียงดังได้ วัฒนธรรมญี่ปุ่นถือว่าการกินเสียงดังนั้นแปลว่าอาหารอร่อย โดยเฉพาะการซดน้ำซุปเสียงดัง ๆ ถือได้ว่าเป็นการส่งเสียงความอร่อยและความพึงพอใจ รับรองว่าพนักงานและเชฟเป็นปลื้มกันอย่างแน่นอน เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ระมัดระวังในการใช้ตะเกียบ ห้ามปักตะเกียบเป็นแนวตั้งลงในถ้วยข้าวหรือส่งต่ออาหารจากตะเกียบด้วยกัน เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ทำกันในพิธีศพและเก็บกระดูก และถ้าต้องการตักอาหารในจานรวมให้ใช้ตะเกียบกลางที่มีอยู่ ถ้าไม่มีให้กลับด้านตะเกียบเป็นอีกฝั่งเพื่อคีบอาหาร อย่าใช้ด้านที่กินเข้าปากไปคีบในจานรวม เตรียมตัวไปญี่ปุ่น แช่ออนเซ็นต้องถอดให้หมด วัฒนธรรมญี่ปุ่นญี่ปุ่นในการแช่ออนเซ็นจะต้องเปลือยกายลงไปแค่ ห้ามใส่เสื้อผ้าหรือนุ่งผ้าเช็ดตัวลงไป สำหรับใครที่มีรอยสักต้องเช็คดูด้วยว่าออนเซ็นที่นั่นอนุญาตให้ลงสระได้หรือไม่ เพราะบางที่ก็ไม่อนุญาตนั่นเองค่ะ เตรียมตัวไปญี่ปุ่น อย่าถ่ายรูปคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จริง ๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะนี่ถือเป็นมารยาทสากลที่ควรปฏิบัติไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ซึ่งที่ญี่ปุ่นนั้นมีกฎหมาย พรบ. สิทธิส่วนบุคคลกันด้วย แต่ถ้าหากเป็นการถ่ายวิวมุมกว้าง ๆ ไม่ได้เจาะจง แต่บังเอิญมีคนติดมาอันนี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่ใช้มือเดียวรับของ การรับหรือให้ของในญี่ปุ่นจะต้องถือด้วยสองมือ การใช้มือเดียวถือเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างยิ่ง หรือถ้าหากจ่ายเงินตามร้านค้าต่าง ๆ จะใช้วิธีการวางเงินลงบนฐานเล็กๆที่เตรียมไว้แทนการยื่นให้กับมือโดยตรงค่ะ เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่สั่งน้ำมูกหรือถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ การกระทำแบบนี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นมองว่าคุณเป็นคนหลังเขา ไร้อารยธรรม และดูเป็นคนไม่มีมารยาทเท่าไหร่ด้วยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นในพื้นที่สวนสาธารณะ ห้ามบ้วนหรือถ่มน้ำลายลงเด็ดขาดเพราะผิดกฎหมายญี่ปุ่น โทษมีได้ตั้งแต่ปรับและจำคุกสูงสุด 30 วันเลยทีเดียว เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่ต้องให้ทิป ที่ญี่ปุ่นจะมีค่าเซอร์วิสชาร์จรวมในบิลอาหารอยู่แล้ว หรือถ้านั่งแท็กซี่ก็ไม่ต้องให้เงินเกิน หากมีการวางเศษเหรียญหรือเงินทิ้งเอาไว้พนักงานก็จะวิ่งมาคืนให้อยู่ดี เพราะนึกว่าคุณลืมเงินเอาไว้นั่นเอง เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่ใส่รองเท้าเข้าไปในอาคารสถานที่ต่าง ๆ หากเข้าบ้านคนญี่ปุ่นมารยาทเป็นอันดับแรกที่ต้องทำคือการถอดรองเท้า แล้วเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะในบ้านที่เตรียมเอาไว้แทน ซึ่งตรงนี้รวมไปถึงโรงแรม วัด โรงพยาบาล โรงเรียน หรือแม้แต่ห้องน้ำ ถ้าหากสังเกตเห็นว่ามีรองเท้าแตะสำหรับเปลี่ยน หรือต้องเข้าไปนั่งบนพื้นเสื่อทาคามิ ก็พึงระลึกเอาไว้เลยว่าต้องถอดรองเท้าเท่านั้นค่ะ เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไม่กินไปเดินไป บ้านเราสามารถเดินกินนั่นนี่ในระหว่างเดินเที่ยวกันแบบชิล ๆ ได้ แต่ที่ญี่ปุ่นถือว่าเป็นนิสัยที่ไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ค่ะ ดังนั้นจะมีการจัดโซนสำหรับการยืนหรือนั่งกินเอาไว้ให้ตามที่ต่างๆโดยเฉพาะ เมื่อกินเสร็จแล้วถึงค่อยไปต่อ เตรียมตัวไปญี่ปุ่น ใครเข้าลิฟท์คนแรกคนนั้นต้องกดลิฟท์ ตามมารยาทที่ญี่ปุ่นหากคนที่เข้าลิฟท์เป็นคนแรกจะต้องเป็นคนคอยกดเปิดประตูให้กับคนอื่น ๆ ที่ขึ้นมาด้วยกัน และต้องให้คนอื่น ๆ ที่ขึ้นมาชั้นเดียวกันออกจากลิฟท์ก่อนแล้วตัวเองค่อยออกตาม ไม่มีการแบ่งแยกชายหญิงค่ะ
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการเตรียมตัวไปญี่ปุ่น ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้างฉบับปี 2023 ค่ะ ประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เคยหายไปจากความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย แม้วันหยุดยาวที่คุณจะใช้อาจจะยังไม่ถูกกำหนด แต่การเตรียมตัวไปญี่ปุ่นกับทัวร์ เอาไว้ก่อน ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะถือว่าเป็นการเตรียมพร้อม ถ้ามีวันหยุดเมื่อไหร่ ก็แค่ซื้อทัวร์จัดกระเป๋าแล้วออกเดินทางบินลัดฟ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาหาจัดกระเป๋าให้ยุ่งยากนะคะ
