อะไรจะสุขใจเท่าการไปเที่ยวอินเดีย พร้อมชิมขนมอินเดียชื่อดังที่มาจากหลากหลายพื้นที่ บอกเลยว่าสายหวานจะต้องฟินอย่างแน่นอน เพราะขนมจากประเทศอินเดียนั้นมีหลายแบบหลายสไตล์ให้เราได้ลอง แถมมรดกด้านอาหารนั้นก็ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของประเทศอินเดียอีกด้วย ยิ่งหากคุณมีโอกาสได้เดินทางไปยังหลากหลายเมือง โอกาสที่จะได้ชิมขนมประเภทต่างๆ ก็มีมากขึ้น นอกจากนี้อิทธิพลจากชาวโมกุล ชาวอังกฤษ เปอร์เซีย ฝรั่งเศสหรือโปรตุเกสที่เข้ามาอยู่ในอินเดียในยุคอดีต ก็ทำให้ขนมแต่ละอย่างมีกลิ่นอายของรสชาติที่หลากหลาย ดังนั้นบอกเลยว่าทุกที่ที่คุณไป การลิ้มลองขนมในแต่ละท้องถิ่นของสถานที่นั้นจึงถือเป็นประสบการณ์เปิดโลกและช่วยเติมพลังได้อย่างดีเยี่ยม
เปิดโลกใบใหม่กับขนมอินเดียแสนอร่อย
![ขนมอินเดีย Image1]()
ขึ้นชื่อว่า ‘ขนม’ แล้วนั้น ส่วนผสมหลักๆ ก็คงหนีไม่พ้นน้ำตาลและรสชาติหวานกลมกล่อม แต่สำหรับขนมจากประเทศอินเดียอาจจะมีข้อแตกต่างจากขนมหวานบ้านเราอยู่เล็กน้อย เพราะโดยทั่วไปขนมอินเดียมักทำด้วยส่วนผสมที่เรียบง่าย เช่น น้ำตาล แป้ง และพืชตระกูลถั่ว แต่จะมีส่วนผสมตระกูลเนย นมและโยเกิร์ตเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นบอกเลยว่ารสชาติและสัมผัสอาจจะแตกต่างจากขนมไทยบ้านเรา แต่ก็ท้าทายให้ลิ้มลองอย่างแน่นอน
พุดดิ้งแคร์รอต อินเดีย (Indian Carrot Pudding)
![ขนมอินเดีย พุดดิ้งแคร์รอต อินเดีย (Indian Carrot Pudding) Image2]()
แคร์รอต พุดดิ้งเป็นขนมของชาวอินเดียตอนเหนือที่นิยมนำมารับประทานในช่วงเทศกาลดิวาลี โดยเทศกาลนี้มีความสำคัญทางศาสนา เพราะจัดมาเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของความดีที่อยู่เหนือความชั่ว แม้ส่วนผสมจะเรียบง่ายแต่ก็อร่อยจนอยากจะทานอีกครั้งอย่างแน่นอน โดยมีส่วนผสมหลักก็คือ แคร์รอต ถั่ว นม น้ำตาล และเนย ปกติแล้วพุดดิ้งแคร์รอต สามารถเสิร์ฟร้อนหรือเย็นได้ทั้งสองแบบและนิยมรับประทานพร้อมกับซาลาชัย ซึ่งเป็นชาเครื่องเทศอินเดียที่แสนจะหอมกรุ่น
ศรีคัน (Shrikhand)
![ขนมอินเดีย ศรีคัน (Shrikhand) Image3]()
มักจะเสิร์ฟในระหว่างงานแต่งงาน แต่แม้ไม่มีโอกาสไปงานแต่งงานตามแบบฉบับชาวอินเดีย เราก็สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารอินเดียบางแห่ง ขนมศรีคันเป็นขนมคลาสสิกที่มาจากรัฐคุชราตและมหาราษฏระของอินเดีย ปรุงด้วยโยเกิร์ตที่สะเด็ดน้ำจนหมด ใส่หญ้าฝรั่น กระวาน นม และน้ำตาล ซึ่งเมื่อผสมรวมกันจะดีงามต่อใจ เพราะมีรสที่หอมหวาน กลมกล่อม แต่หากอยากให้อร่อยยิ่งขึ้น แนะนำให้ลองใส่ถั่วพิสตาชิโอสับเพิ่มลงไป
แมงโกฮาลวา (Mango Halwa) หรือบางทีก็เรียกขนมอินเดียจานนี้ว่าแมงโกเชียร่า (Mango Sheera)
![ขนมอินเดีย แมงโกฮาลวา (Mango Halwa) Image4]()
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าส่วนผสมหลักคือ มะม่วง ดังนั้นจึงเป็นขนมที่ทำจากเนื้อมะม่วงผสมแป้ง เนยใส และน้ำตาล นอกจากนี้ยังใส่กระวาน ถั่ว และวานิลลาให้มีกลิ่นและรสชาติที่กลมกล่อมอีกด้วย แมงโกฮาลวาจะมีเนื้อสัมผัสที่ละลายในปากและมอบรสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี นิยมเสิร์ฟร้อนหรืออุ่น
ลาดูมะพร้าวอบ (Toasted Coconut Ladoo)
![ขนมอินเดีย ลาดูมะพร้าวอบ (Toasted Coconut Ladoo) Image5]()
หากไม่มีเวลาบินลัดฟ้าไปอินเดีย เราก็สามารถลองทำขนมอินเดียเมนูนี้ได้ไม่ยาก เพราะใช้ส่วนผสมเพียง 4 อย่างและใช้เวลา 20 นาที ก็ทานได้แล้ว โดยส่วนผสมหลักคือ กะทิ มะพร้าวขูด นม และน้ำตาล จากนั้นก็เพียงปิ้งมะพร้าวขูดแล้วคลุกกับกะทิและเครื่องปรุง ปล่อยให้เย็น ปั้นเป็นลูกกลมๆ จากนั้นก็รับประทานได้เลย คุณก็จะได้ลิ้มรสชาติของมะพร้าวและความกรุบกรอบที่หอมอร่อย
มัยซอร์ปาค (Mysore Pak)
![ขนมอินเดีย มัยซอร์ปาค (Mysore Pak) Image6]()
ของหวานทางตอนใต้ของอินเดียอย่างมัยซอร์ปาคมีต้นกำเนิดมาจากพระราชวัง Mysore Palace ซึ่งชื่อเหมือนขนมชนิดนี้เลย โดยพระราชวังแห่งนี้ทั้งใหญ่และสวยงามมากๆ ดังนั้นขนมแสนอร่อยก็คงความพิถีพิถันได้อย่างงดงามไม่แพ้กัน มัยซอร์ปาคจะผ่านการแช่เนยและปรุงแต่งด้วยน้ำตาลและกระวาน ให้เนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างคล้ายกับคุกกี้เนยที่มีรสชาตินุ่มละมุนลิ้น
พูลัน โพลิ (Puran Poli)
![ขนมอินเดีย พูลัน โพลิ (Puran Poli) Image7]()
เป็นขนมปังสอดไส้หวานที่แสนจะกลมกล่อม โดยทั่วไปขนมอินเดียเมนูนี้มักจะทำในช่วงเทศกาลสำคัญของอินเดียเช่น Holi, Diwali และ Bail Pola โดยโพลิ (Poli) จะเป็นขนมปังแผ่นเรียบที่ทำจากแป้งโฮลวีต ในขณะที่พูลัน (puran) ก็คือไส้ที่มีถั่วเลนทิล น้ำตาลโตนด กระวาน หญ้าฝรั่น และลูกจันทน์เทศ มักจะเสิร์ฟพร้อมกับหญ้าฝรั่นและนมผสมกระวาน
จาเลบี (Jalebi)
![ขนมอินเดีย จาเลบี (Jalebi) Image8]()
ถือเป็นขนมอินเดียที่ได้รับความนิยมในฐานะสตรีทฟู้ดชื่อดัง นอกจากนี้ยังมักจะนำไปใช้ในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอีกด้วย จาเลบีเป็นของหวานที่โดดเด่นเพราะมีรูปร่างเป็นเกลียวแปลกตาไม่เหมือนขนมทั่วไป ทำจากแป้งและน้ำเชื่อม ดังนั้นจะให้รสกรุบกรอบและฉ่ำในเวลาเดียวกัน และเนื่องจากเป็นสตรีทฟู้ดจึงหาทานได้ง่ายมากๆ
ชาฮี ตุครา (Shahi Tukra)
![ขนมอินเดีย ชาฮี ตุครา (Shahi Tukra) Image9]()
เป็นขนมอินเดียจากเมืองไฮเดอราบาด (Hyderabadi) ถือเป็นขนมแบบคลาสสิกจากราชวงศ์เลยทีเดียว โดยปกติจะนำขนมปังแผ่นไปทอดในน้ำมันเนยจนกรอบ แล้วราดด้วยครีมราบรีที่ปรุงรสแล้ว ซึ่งทำง่ายๆ เพียงใช้นมข้นหวาน ผสมนมสด น้ำตาล และหญ้าฝรั่นแล้วนำไปต้มบนไฟปานกลาง จากนั้นขูดกระวานและผสมให้เข้ากัน
กุลฟี (Kulfi)
![ขนมอินเดีย กุลฟี (Kulfi) Image10]()
เป็นขนมอินเดียที่เหมาะกับวันที่มีอากาศร้อนเป็นอย่างยิ่ง เพราะชาวอินเดียมักจะทานกุลฟีกันในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากกุลฟีเป็นเหมือนกับไอศกรีม เพียงแต่จะมีรสชาติที่แตกต่างกันและมีเนื้อสัมผัสที่แน่นกว่า โดยส่วนผสมจะเป็นครีมสดและแป้งข้าวโพด เพื่อรสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมมากขึ้นจึงผสมนมข้นหวาน ถั่ว และกระวานเพิ่มเติม จากนั้นก็นำไปใส่แม่พิมพ์และแช่ช่องฟรีซ แค่นี้ก็ได้ลิ้มลองไอศกรีมแสนอร่อยแล้ว
คีร์ (Kheer)
![ขนมอินเดีย คีร์ (Kheer) Image11]()
คีร์เป็นหนึ่งในพุดดิ้งอินเดียที่แสนจะโด่งดัง วิธีทำก็คือ หุงข้าวกับนมและน้ำตาล ตกแต่งด้วยหญ้าฝรั่น กระวาน ผลไม้แห้ง ถั่ว และส่วนผสมท้องถิ่นอีกเล็กน้อย โดยเมนูคีร์ถือเป็นพุดดิ้งนมอินเดียที่แตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค เช่น ในอินเดียตอนใต้จะใช้วุ้นเส้นแทนข้าว และเรียกอีกชื่อว่าเซวิยัน (Seviyan)
หากอยากซึมซับความเป็นอินเดียอย่างเจาะลึก การลองชิมขนมและอาหารอินเดียแบบออริจินัลถือเป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เราเข้าใจในวัฒนธรรมและประเพณีของอินเดีย อาหารอินเดียหาทานง่ายมาก เพราะมีสตรีทฟู้ดอยู่แทบทุกหัวมุมถนน แต่บอกไว้ก่อนว่าอาหารและขนมอินเดียจะมีรสชาติค่อนข้างเข้มข้น เช่น หวานก็หวานจัด เค็มก็เค็มจัด ดังนั้นทานแต่พอเหมาะพอดีก็จะทำให้คุณอิ่มท้องแบบสุขภาพดี