10 ขนมอินเดีย อร่อยไม่แพ้ขนมชาติอื่น ที่ต้องลองให้ได้สักครั้ง Cover Page

อะไรจะสุขใจเท่าการไปเที่ยวอินเดีย พร้อมชิมขนมอินเดียชื่อดังที่มาจากหลากหลายพื้นที่ บอกเลยว่าสายหวานจะต้องฟินอย่างแน่นอน เพราะขนมจากประเทศอินเดียนั้นมีหลายแบบหลายสไตล์ให้เราได้ลอง แถมมรดกด้านอาหารนั้นก็ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของประเทศอินเดียอีกด้วย ยิ่งหากคุณมีโอกาสได้เดินทางไปยังหลากหลายเมือง โอกาสที่จะได้ชิมขนมประเภทต่างๆ ก็มีมากขึ้น นอกจากนี้อิทธิพลจากชาวโมกุล ชาวอังกฤษ เปอร์เซีย ฝรั่งเศสหรือโปรตุเกสที่เข้ามาอยู่ในอินเดียในยุคอดีต ก็ทำให้ขนมแต่ละอย่างมีกลิ่นอายของรสชาติที่หลากหลาย ดังนั้นบอกเลยว่าทุกที่ที่คุณไป การลิ้มลองขนมในแต่ละท้องถิ่นของสถานที่นั้นจึงถือเป็นประสบการณ์เปิดโลกและช่วยเติมพลังได้อย่างดีเยี่ยม 

 

เปิดโลกใบใหม่กับขนมอินเดียแสนอร่อย 

 

ขนมอินเดีย Image1

 

ขึ้นชื่อว่า ‘ขนม’ แล้วนั้น ส่วนผสมหลักๆ ก็คงหนีไม่พ้นน้ำตาลและรสชาติหวานกลมกล่อม แต่สำหรับขนมจากประเทศอินเดียอาจจะมีข้อแตกต่างจากขนมหวานบ้านเราอยู่เล็กน้อย เพราะโดยทั่วไปขนมอินเดียมักทำด้วยส่วนผสมที่เรียบง่าย เช่น น้ำตาล แป้ง และพืชตระกูลถั่ว แต่จะมีส่วนผสมตระกูลเนย นมและโยเกิร์ตเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นบอกเลยว่ารสชาติและสัมผัสอาจจะแตกต่างจากขนมไทยบ้านเรา แต่ก็ท้าทายให้ลิ้มลองอย่างแน่นอน 

 

พุดดิ้งแคร์รอต อินเดีย (Indian Carrot Pudding)

 

ขนมอินเดีย พุดดิ้งแคร์รอต อินเดีย (Indian Carrot Pudding) Image2

 

แคร์รอต พุดดิ้งเป็นขนมของชาวอินเดียตอนเหนือที่นิยมนำมารับประทานในช่วงเทศกาลดิวาลี โดยเทศกาลนี้มีความสำคัญทางศาสนา เพราะจัดมาเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของความดีที่อยู่เหนือความชั่ว แม้ส่วนผสมจะเรียบง่ายแต่ก็อร่อยจนอยากจะทานอีกครั้งอย่างแน่นอน โดยมีส่วนผสมหลักก็คือ แคร์รอต ถั่ว นม น้ำตาล และเนย ปกติแล้วพุดดิ้งแคร์รอต สามารถเสิร์ฟร้อนหรือเย็นได้ทั้งสองแบบและนิยมรับประทานพร้อมกับซาลาชัย ซึ่งเป็นชาเครื่องเทศอินเดียที่แสนจะหอมกรุ่น 

 

ศรีคัน (Shrikhand)

 

ขนมอินเดีย ศรีคัน (Shrikhand) Image3

 

มักจะเสิร์ฟในระหว่างงานแต่งงาน แต่แม้ไม่มีโอกาสไปงานแต่งงานตามแบบฉบับชาวอินเดีย เราก็สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารอินเดียบางแห่ง ขนมศรีคันเป็นขนมคลาสสิกที่มาจากรัฐคุชราตและมหาราษฏระของอินเดีย ปรุงด้วยโยเกิร์ตที่สะเด็ดน้ำจนหมด ใส่หญ้าฝรั่น กระวาน นม และน้ำตาล ซึ่งเมื่อผสมรวมกันจะดีงามต่อใจ เพราะมีรสที่หอมหวาน กลมกล่อม แต่หากอยากให้อร่อยยิ่งขึ้น แนะนำให้ลองใส่ถั่วพิสตาชิโอสับเพิ่มลงไป 

 

แมงโกฮาลวา (Mango Halwa) หรือบางทีก็เรียกขนมอินเดียจานนี้ว่าแมงโกเชียร่า (Mango Sheera)

 

ขนมอินเดีย แมงโกฮาลวา (Mango Halwa) Image4

 

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าส่วนผสมหลักคือ มะม่วง ดังนั้นจึงเป็นขนมที่ทำจากเนื้อมะม่วงผสมแป้ง เนยใส และน้ำตาล นอกจากนี้ยังใส่กระวาน ถั่ว และวานิลลาให้มีกลิ่นและรสชาติที่กลมกล่อมอีกด้วย แมงโกฮาลวาจะมีเนื้อสัมผัสที่ละลายในปากและมอบรสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี นิยมเสิร์ฟร้อนหรืออุ่น 

 

ลาดูมะพร้าวอบ (Toasted Coconut Ladoo)

 

ขนมอินเดีย ลาดูมะพร้าวอบ (Toasted Coconut Ladoo) Image5

 

หากไม่มีเวลาบินลัดฟ้าไปอินเดีย เราก็สามารถลองทำขนมอินเดียเมนูนี้ได้ไม่ยาก เพราะใช้ส่วนผสมเพียง 4 อย่างและใช้เวลา 20 นาที ก็ทานได้แล้ว โดยส่วนผสมหลักคือ กะทิ มะพร้าวขูด นม และน้ำตาล จากนั้นก็เพียงปิ้งมะพร้าวขูดแล้วคลุกกับกะทิและเครื่องปรุง ปล่อยให้เย็น ปั้นเป็นลูกกลมๆ จากนั้นก็รับประทานได้เลย คุณก็จะได้ลิ้มรสชาติของมะพร้าวและความกรุบกรอบที่หอมอร่อย 

 

มัยซอร์ปาค (Mysore Pak)

 

ขนมอินเดีย มัยซอร์ปาค (Mysore Pak) Image6

 

ของหวานทางตอนใต้ของอินเดียอย่างมัยซอร์ปาคมีต้นกำเนิดมาจากพระราชวัง Mysore Palace ซึ่งชื่อเหมือนขนมชนิดนี้เลย โดยพระราชวังแห่งนี้ทั้งใหญ่และสวยงามมากๆ ดังนั้นขนมแสนอร่อยก็คงความพิถีพิถันได้อย่างงดงามไม่แพ้กัน มัยซอร์ปาคจะผ่านการแช่เนยและปรุงแต่งด้วยน้ำตาลและกระวาน ให้เนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างคล้ายกับคุกกี้เนยที่มีรสชาตินุ่มละมุนลิ้น 

 

พูลัน โพลิ (Puran Poli)

 

ขนมอินเดีย พูลัน โพลิ (Puran Poli) Image7

 

เป็นขนมปังสอดไส้หวานที่แสนจะกลมกล่อม โดยทั่วไปขนมอินเดียเมนูนี้มักจะทำในช่วงเทศกาลสำคัญของอินเดียเช่น Holi, Diwali และ Bail Pola โดยโพลิ (Poli) จะเป็นขนมปังแผ่นเรียบที่ทำจากแป้งโฮลวีต ในขณะที่พูลัน (puran) ก็คือไส้ที่มีถั่วเลนทิล น้ำตาลโตนด กระวาน หญ้าฝรั่น และลูกจันทน์เทศ มักจะเสิร์ฟพร้อมกับหญ้าฝรั่นและนมผสมกระวาน 

 

จาเลบี (Jalebi)

 

ขนมอินเดีย จาเลบี (Jalebi) Image8

 

ถือเป็นขนมอินเดียที่ได้รับความนิยมในฐานะสตรีทฟู้ดชื่อดัง นอกจากนี้ยังมักจะนำไปใช้ในงานแต่งงานและงานเฉลิมฉลองอีกด้วย จาเลบีเป็นของหวานที่โดดเด่นเพราะมีรูปร่างเป็นเกลียวแปลกตาไม่เหมือนขนมทั่วไป ทำจากแป้งและน้ำเชื่อม ดังนั้นจะให้รสกรุบกรอบและฉ่ำในเวลาเดียวกัน และเนื่องจากเป็นสตรีทฟู้ดจึงหาทานได้ง่ายมากๆ 

 

ชาฮี ตุครา (Shahi Tukra) 

 

ขนมอินเดีย ชาฮี ตุครา (Shahi Tukra) Image9

 

เป็นขนมอินเดียจากเมืองไฮเดอราบาด (Hyderabadi) ถือเป็นขนมแบบคลาสสิกจากราชวงศ์เลยทีเดียว โดยปกติจะนำขนมปังแผ่นไปทอดในน้ำมันเนยจนกรอบ แล้วราดด้วยครีมราบรีที่ปรุงรสแล้ว ซึ่งทำง่ายๆ เพียงใช้นมข้นหวาน ผสมนมสด น้ำตาล และหญ้าฝรั่นแล้วนำไปต้มบนไฟปานกลาง จากนั้นขูดกระวานและผสมให้เข้ากัน  

 

กุลฟี (Kulfi)

 

ขนมอินเดีย กุลฟี (Kulfi) Image10

 

เป็นขนมอินเดียที่เหมาะกับวันที่มีอากาศร้อนเป็นอย่างยิ่ง เพราะชาวอินเดียมักจะทานกุลฟีกันในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากกุลฟีเป็นเหมือนกับไอศกรีม เพียงแต่จะมีรสชาติที่แตกต่างกันและมีเนื้อสัมผัสที่แน่นกว่า โดยส่วนผสมจะเป็นครีมสดและแป้งข้าวโพด เพื่อรสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมมากขึ้นจึงผสมนมข้นหวาน ถั่ว และกระวานเพิ่มเติม จากนั้นก็นำไปใส่แม่พิมพ์และแช่ช่องฟรีซ แค่นี้ก็ได้ลิ้มลองไอศกรีมแสนอร่อยแล้ว

 

คีร์ (Kheer)

 

ขนมอินเดีย คีร์ (Kheer) Image11

 

คีร์เป็นหนึ่งในพุดดิ้งอินเดียที่แสนจะโด่งดัง วิธีทำก็คือ หุงข้าวกับนมและน้ำตาล ตกแต่งด้วยหญ้าฝรั่น กระวาน ผลไม้แห้ง ถั่ว และส่วนผสมท้องถิ่นอีกเล็กน้อย โดยเมนูคีร์ถือเป็นพุดดิ้งนมอินเดียที่แตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค เช่น ในอินเดียตอนใต้จะใช้วุ้นเส้นแทนข้าว และเรียกอีกชื่อว่าเซวิยัน (Seviyan) 

 

หากอยากซึมซับความเป็นอินเดียอย่างเจาะลึก การลองชิมขนมและอาหารอินเดียแบบออริจินัลถือเป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เราเข้าใจในวัฒนธรรมและประเพณีของอินเดีย อาหารอินเดียหาทานง่ายมาก เพราะมีสตรีทฟู้ดอยู่แทบทุกหัวมุมถนน แต่บอกไว้ก่อนว่าอาหารและขนมอินเดียจะมีรสชาติค่อนข้างเข้มข้น เช่น หวานก็หวานจัด เค็มก็เค็มจัด ดังนั้นทานแต่พอเหมาะพอดีก็จะทำให้คุณอิ่มท้องแบบสุขภาพดี 

Powered by