กินฟินๆ ไปกับ 12 เมนูอาหารอินเดียแสนอร่อยที่หาทานง่ายทั่วประเทศ!
ด้วยความกว้างใหญ่ของประเทศจึงทำให้มีเมนูอาหารอินเดียแสนอร่อยมากมายจนไปเที่ยวอินเดียแค่ทริปเดียวก็คงแวะชิมไม่หมด ยิ่งใครมีเวลาเที่ยวน้อย โอกากสในการแวะลองอาหารใหม่ๆ ก็ยิ่งมีน้อย ดังนั้นเราจึงขอลิสต์ 12 เมนูเด็ดโดนใจที่หารับประทานง่ายแสนง่ายเพราะมีจำหน่ายทั่วประเทศอินเดียดังนี้
1. Chicken Makhani (ไก่เนย)
หากนึกถึงเมนูอาหารอินเดียชื่อดังแสนอร่อยก็คงหนีไม่พ้น ‘ไก่เนย’ อย่างแน่นอน แม้ชื่อจะดูเหมือนอาหารฝรั่ง แต่แท้จริงแล้ว จานนี้ปรุงออกมาแล้วจะมีหน้าตาเหมือนแกงไก่ เพราะทำมาจากไก่เนื้อนุ่มปรุงในซอสมะเขือเทศรสเผ็ด อาจจะย่างหรือผัดให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม ในส่วนของน้ำแกงกะหรี่จะใส่หัวหอม เนย และครีมในซอสมะเขือเทศเนื้อเนียน
2. Chicken Tikka Masala (ไก่ทิกก้ามาซาล่า)
ถือเป็นเมนูอาหารอินเดียที่แสนจะโด่งดังไปทั่วโลก โดยสูตรทั่วไปนั้นจะนำไก่ไปหมักโยเกิร์ตปรุงด้วยซอสมะเขือเทศรสเผ็ด แม้ว่าอาหารจานนี้ไม่ได้ถูกคิดขึ้นในอินเดีย แต่มีการนำสูตรไปประยุกต์โดยชาวอังกฤษ จนกลายเป็นเมนูเด็ดที่ปัจจุบันในร้านอาหารอินเดียก็มักจะมีเมนูนี้เป็นอาหารยอดนิยมแทบทุกร้าน
3. Saag Paneer (แซก ปาเนียร์)
ชื่อไม่คุ้นแต่ก็ถือว่าเป็นเมนูอาหารอินเดียแสอร่อยอีกจาน โดยอาหารประจำชาติอินเดียเลิศรสจานนี้จะเป็นอาหารมังสวิรัติ โดยเมนูนี้จะมีหน้าตาคล้ายๆ แกงเขียวหวานและชีสทอดกรอบ ส่วนผสมหลักจะเป็นผักโขมปรุงกับชีสเนื้อนุ่มที่ยังไม่สุกดี แนะนำให้ทานคู่กับมัสตาร์ดและแป้งนานจะเข้ากันมากๆ
4. Tandoori Chicken (ไก่ทันดูรี)
ต้องบอกว่าเมนูไก่ถือเป็นเมนูอาหารอินเดียยอดฮิต เพราะเมนูดังๆ นั้นมักจะทำมาจากไก่แทบทั้งนั้น เมนูนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากอินเดียเหนือ โดยใช้ไก่ย่างปรุงด้วยโยเกิร์ตและเครื่องเทศ และที่เรียกว่า ‘ทันดูรี’ ก็เพราะมีชื่อมาจากประเภทของเตาดินเผาทรงกระบอกที่เรียกว่าเตาทันดูร์นั่นเอง
5. Masala Dosa (แพนเค้กอินเดีย)
อาหารประจำชาติอินเดียเมนูนี้ดูคล้ายกับแพนเค้ก แต่แท้จริงแล้วเรียกว่ามาซาล่า โดซา โดยอาหารอินเดียเมนูนี้มาจากอินเดียตอนใต้ หน้าตาจะเป็นแพนเค้กแผ่นบางๆ ซึ่งทำมาจากแป้งข้าวหมัก โดยจะเสิร์ฟพร้อมชัทนีย์หรือใส่ไส้ด้านในด้วยมันฝรั่งปรุงรส
6. Naan (นาน)
เวลาไปทานอาหารอินเดีย เรามักจะเห็นเจ้าแป้งแผ่นบางๆ วางคู่กับเมนูอาหารอื่นๆ ซึ่งแท้จริงนั้นก็คือ ‘นาน’ หรือแป้งขนมปังนั่นเอง ปกติจะเสิร์ฟนานพร้อมอาหารทุกมื้อ ขนมปังนานเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของความเหนียวและกรอบพร้อมเนยและกระเทียม เพื่อเติมเต็มรสชาติให้อาหารอินเดียจานอื่นๆ ให้อร่อยยิ่งขึ้น
7. Mutter Paneer (มาตาร์ ปาเนียร์)
เมนูอาหารอินเดียจานนี้ถือเป็นแกงอินเดียยอดนิยม ทำจากถั่วลันเตาและชีส สูตรเด็ดนี้มาจากอาหารอินเดียตอนเหนือ ซึ่งอาจจะมีการปรุงในแบบที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเมนูโฮมเมดอาหารประจำชาติอินเดียประจำบ้านของชาวอินเดีย ปรุงด้วยถั่ว และพาเนียร์ (paneer) ซึ่งเป็นคอทเทจชีสของอินเดีย นอกจากนี้ยังใส่เครื่องเทศหลายอย่างเช่น เมล็ดยี่หร่า ผงขมิ้น ผงพริกแดง
8. Rogan Josh (โรกัน จอร์ช) หรือแกงกะหรี่เนื้อ
โดยเมนูนี้เป็นอาหารหลักของแคว้นแคชเมียร์ ทางอินเดียตอนเหนือ ประกอบด้วยเนื้อแกะตุ๋นกับน้ำเกรวี่ โดยทั่วไปแล้วเชฟชาวอินเดียจะทำน้ำเกรวี่นี้จากหัวหอมสีน้ำตาลที่ผสมกับโยเกิร์ต กระเทียม ขิง และเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม ความเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างก็คือ สีแดงสดของน้ำแกง ซึ่งใช้พริกแห้งแคชเมียร์มาปรุง
9. Lassi's (ลาสซี่)
ถือเป็นอาหารประจำชาติอินเดียของหวานที่แก้เผ็ดแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี เมนูอาหารอินเดียอย่างลาสซี่ถือเป็นของขึ้นชื่อและหาทานได้ตามสตรีทฟู้ดทั่วไป ลาสซี่เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากโยเกิร์ตซึ่งมักจะใช้เครื่องเทศและบางครั้งผลไม้เป็นส่วนผสมหลัก เช่น มะม่วงหรือกระวานก็ถือเป็นส่วนผสมยอดนิยม นอกจากนี้บางร้านอาจจะใส่นมและเกลือให้รสชาติเข้มข้นขึ้นอีกด้วย
10. Gulab Jamun (กุลับจามุน)
ติดอันดับขนมอินเดียยอดนิยม เพราะถือเป็นขนมที่เป็นอาหารประจำชาติอินเดียสุดคลาสสิก ซึ่งเป็นดาวเด่นของงานเฉลิมฉลองในอินเดียมากมาย กุลับจามุนมีหน้าตาคล้ายมินิโดนัททอด โดยทำจากนมและจุ่มในน้ำเชื่อมหวานเพื่อให้นุ่มละลายในปาก หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายขนมอินเดียหรือแม้แต่ร้านขายของชำในอินเดียก็มีวางขาย
11. Samosa (ซาโมซ่า)
เชื่อว่าเมนูอินเดียเมนูนี้หลายคนอาจจะเคยลองกันมาแล้ว เพราะหาทานได้ง่ายมาก แม้แต่ในเมืองไทยบ้านเราก็มีขาย โดยซาโมซ่านั้นเป็นขนมที่อร่อยเคี้ยวเพลิน กรรมวิธีทำจะใช้มันฝรั่งผสมกับเครื่องเทศ หัวหอม ถั่วลันเตา และถั่วเลนทิล จากนั้นอาจจะใส่ไส้เป็นเนื้อแกะบด เนื้อบด หรือไก่บด แล้วนำไปทอดหรืออบให้มีสีเหลืองทองน่ารับประทาน
12. Raita (ไรตา)
เมื่อเรากินอาหารที่เผ็ดร้อนและมันกันมาเยอะ ดังนั้นก็ต้องหาทางขับความร้อนเหล่านี้ออกจากร่างกาย โดยเมนูอาหารอินเดียสูตรเด็ดที่จะแนะนำนั้นก็คือ ไรตา ซึ่งก็เป็นโยเกิร์ตและซอสสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องการระบายและขับถ่าย สามารถใช้จิ้มทานกับนานเสริมความอร่อยได้อีกด้วย
เมนูอาหารอินเดียอร่อยเด็ดแบ่งตามภูมิภาค
เมนูอาหารอินเดียจากแคว้นปัญจาบและอินเดียเหนือ (Punjab and North India)
ภาคเหนือและแคว้นปัญจาบของอินเดียมีอากาศเย็นสบาย ดังนั้นเมนูอาหารอินเดียเด็ดๆ ในภาคเหนือจึงมีความพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตทางการเกษตรออกดอกผลได้มากมายมหาศาล ดังนั้นหากอยากชิมอาหารจานเด็ดจากภาคเหนือ แนะนำให้มาเที่ยวโซนนี้ในฤดูหนาวก็จะฟินที่สุด
1. Sarson Da Saag (ซาร์สัน ดา ซาก)
เมนูอาหารอินเดียสุดคลาสสิกที่มีแค่ในฤดูหนาวอย่าง Sarson Da Saag ถือเป็นเมนูทรงคุณค่า เพราะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม เช่น ผักโขม ใบบัวบก หัวหอม มะเขือเทศ และเครื่องเทศ ซึ่งนำมาผสมจนได้น้ำเกรวี่เนื้อครีมแสนอร่อย นิยมทานคู่กับ Makke Ki Roti พร้อมด้วยน้ำตาลโตนดและเนยขาว
2. Dal Makhani (ดาล มักนี)
แม้จะเป็นอาหารเก่าแก่ที่มีมายาวนานหลายศตวรรษแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นเมนูอาหารอินเดียยอดนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย เป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องพิถีพิถันเพราะใช้การเคี่ยวเป็นเวลานาน ส่วนผสมที่โดดเด่นคือถั่วเลนทิลสีดำและถั่วไต มีการผสมผสานกับเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม รวมถึงเนยและครีมที่เข้มข้นซึ่งช่วยทำให้ Dal Makhani มีรสชาติอร่อยมากขึ้น
3. Aloo mutter (อาลู มัตเตอร์)
นักท่องเที่ยวที่เป็นวีแกน แนะนำให้ลิ้มลองเมนูอาหารอินเดียอย่าง Aloo mutter เพราะเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติอินเดียที่ไร้เนื้อสัตว์ยอดนิยม โดยส่วนผสมหลักจะเป็นมันฝรั่งและถั่วลันเตา ปรุงในน้ำเกรวี่ครีมมะเขือเทศเข้มข้น ถือเป็นเมนูอาหารอินเดียที่มักจะทำทานในช่วงฤดูหนาว
4. Rajma (ราชมา)
ถือเป็นอีกหนึ่งจานเด็ดสำหรับคนที่เป็นวีแกน เพราะ Rajma เป็นอาหารมังสวิรัติและอาหารประจำชาติอินเดียที่นิยมรับประทานกันในภาคเหนือ เมนูอาหารอินเดียชนิดนี้ประกอบด้วยถั่วแดง เครื่องเทศอินเดีย และมักผสมกับ Masala (มาซาลา) ปกติคนอินเดียมักจะทานเมนู Rajma พร้อมข้าวสวยร้อนๆ
5. Chole bhature (โชเล บาตูเร)
ด้วยส่วนผสมที่ทานคู่กันได้อย่างลงตัวจากถั่วชิกพีสีขาวรสเผ็ดและขนมปังชุบแป้งทอด จึงทำให้เมนูนี้เป็นอาหารประจำชาติอินเดียยอดนิยม แต่เอาเข้าจริงๆ ความอร่อยของ Chole bhature ก็ทำให้เมนูยอดฮิตนี้มีแต่คนทำขายดังนั้นจึงหาซื้อกินได้ง่ายทั่วประเทศอินเดีย
เมนูอาหารอินเดียภาคใต้ (South India)
ด้วยความที่ภาคใต้ของอินเดียมีอากาศร้อนชื้นและทุกรัฐอยู่ติดชายฝั่งทะเล จึงทำให้พื้นที่นี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผักผลไม้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้อาหารประจำชาติอินเดียในภูมิภาคนี้ถือเป็นอาหารอินเดียที่ร้อนแรงที่สุดเพราะเน้นเครื่องเทศเป็นหลัก
1. Dosa (โดซ่า)
เป็นเมนูอาหารอินเดียทางตอนใต้ที่มีลักษณะคล้ายเครปบาง ๆ ตัวแป้งทำจากข้าวหมักและแป้งถั่วเลนทิล ซึ่งให้ฟีลแบบเครปกรอบอันยักษ์ มักจะทานเป็นอาหารเช้า ส่วน Dosa ที่คนนิยมทานมากที่สุดก็คือ Masala Dosa (มาซาลาโดซา) ซึ่งเป็นเครปรสเผ็ดที่ใส่มันฝรั่งบด ให้รสชาติที่แซ่บและเผ็ดร้อน
2. Appam (อัปปัม)
เมนูแพนเค้กแบบอินเดีย ถือเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติอินเดียที่มีต้นกำเนิดจากอินเดียตอนใต้ โดยตัวแป้งแพนเค้กจะทำจากแป้งข้าวหมักและกะทิ นิยมทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารเย็น โดยมักจะทานคู่กับแกงเผ็ดหรือพวกสตูว์เนื้อแกะ ซึ่งเสริมความอร่อยได้เป็นอย่างดี
3. Pongal (ปองกาล)
คนอินเดียบางคนก็เรียกว่า Huggi (ฮักกิ) ทำจากข้าวผสมกับนมต้มและน้ำตาล มักเติมเครื่องเทศเพื่อให้รสเผ็ดอร่อย ชาวอินเดียใต้มักจะทาน Pongal ในมื้ออาหารเช้า นอกจากนี้หากเราไปเที่ยวอินเดียตรงกับช่วงเทศกาล เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นเมนูอาหารอินเดียอย่าง Chakarai Pongal ที่จะมีเฉพาะในช่วงพิธีทางศาสนาเท่านั้น
4. Idli (อิดลี)
เค้กข้าวนึ่งจานนี้เป็นอาหารประจำชาติอินเดียที่ทำจากข้าวหมักและถั่วเลนทิล หลังจากนึ่งแล้วก็จะได้แป้งที่ฟูนุ่มเหมือนขนมไหว้พระจันทร์เลยทีเดียว มีรสชาติค่อนข้างเผ็ด มักจะทานในมื้อเช้า โดยส่วนใหญ่นิยมทานพร้อมกับผักกวางตุ้งและชัทนีย์ซึ่งเติมความสดชื่นให้กับมื้อเช้าได้มากยิ่งขึ้น
เมนูอาหารอินเดียจากราชสถาน (Rajasthan)
เนื่องจากพื้นที่ในราชสถานเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้ง จึงทำให้เกิดเมนูอาหารอินเดียในรูปแบบที่แปลกใหม่แตกต่างจากภูมิภาคอื่น โดยเน้นที่การเก็บรักษาได้หลายวัน นอกจากนี้ยังมีการใช้น้ำมันและพริกแดงเพื่อช่วยในการถนอมอาหาร แต่บอกเลยว่าอาหารแต่ละเมนูของราชสถานนั้นโอชะและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
1. Dal baati churma (ดัลบาตี ชูร์มา)
อาหารอินเดียจานนี้ถือเป็นเมนูเด็ดสุดคลาสสิก และถือเป็นอาหารประจำชาติอินเดียเลยทีเดียว เมนูเด็ดเมนูนี้ทำจากแป้งสาลี เกลือ เนยใส และเครื่องเทศที่หลากหลาย นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังสามารถเก็บรักษาได้ยาวนานอีกด้วย มักจะกินพร้อมๆ กับ Dal (แกงถั่ว) เพื่อเพิ่มความอร่อย
2. Papad ki subzi (ปาปัด คี ซับซี)
เมนูสุดพิเศษนี้สามารถปรุงได้ไม่ยาก เพราะใช้ส่วนผสมพื้นบ้านที่มีให้รับประทานแม้จะเป็นฤดูแล้ง โดยส่วนผสมหลักได้แก่ ขมิ้น ผักชี โยเกิร์ต ผงพริก ซึ่งให้ความนัวและมอบรสชาติที่ชวนน้ำลายสอ มักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
3. Gatte ki subzi (กาตเต กิ ซับซี)
เป็นอาหารประจำชาติอินเดียที่ไม่ต้องพึ่งฟ้าฝนและผักสด แต่ก็ยังอร่อยได้ เพราะอาหารจานนี้เป็นแกงที่ไม่ต้องใช้ผักเยอะ มีรสชาติออกเปรี้ยวเพราะมักจะใส่มะเขือเทศ บัตเตอร์มิลก์ และเครื่องเทศ เสริมความอร่อยด้วยการทานคู่กับโรตี
4. Laal maans (ลาลมาน)
อาหารอินเดียในราชสถานนั้นมีเมนูที่เน้นโปรตีนอย่าง Laal maans ซึ่งอร่อยมากๆ มีความหมายว่าเนื้อแดง ซึ่งโดยเมนูนี้มักจะใช้เนื้อหมูป่าหรือเนื้อกวางในการปรุง โดยจะมีน้ำแกงที่เผ็ดร้อนกลมกล่อม ซึ่งปรุงด้วยไฟอ่อนในซอสเผ็ดของพริกแดง กระเทียม หัวหอมหั่นบาง ๆ และเต้าหู้
เมนูอาหารอินเดียจากกัว (Goa)
กัวเป็นรัฐที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของอินเดีย แถมก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 450 ปีที่แล้ว กัวก็เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส ดังนั้นนอกจากจะได้ชิมอาหารทะเลสดๆ ใหม่ที่แสนอร่อยแล้ว การผสานของวัฒนธรรมจากอิทธิพลของโปรตุเกสก็ทำให้เมนูอาหารอินเดียจากกัวนั้นมีรสชาติที่โดดเด่นเฉพาะตัว
1. Arroz e Chouriço (อาฮอร์ซ เอ โชริโซะ)
เมนูนี้มีชื่อไม่เหมือนอาหารอินเดียแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้ว Arroz e Chouriço เป็นอาหารโปรตุเกสและสเปน นอกจากนี้อิทธิพลของศิลปะการทำอาหารแบบอินเดียก็ทำให้เมนูนี้มีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น โดยวัตถุดิบหลักจะเป็นเนื้อหมูซึ่งจะนำมาทำเป็นไส้กรอก ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู กระเทียม พริกขี้หนู และเครื่องเทศ เช่น ขมิ้น ยี่หร่า ขิง และอบเชย ทำให้มีรสจัดจ้าน มักจะทานคู่กับข้าวร้อนๆ ก็เพิ่มความอร่อยได้อย่างมากมาย
2. Ros Omelet (ไข่เจียวกุหลาบ)
หากอยากลิ้มลองอาหารแนวสตรีทฟู้ด ขอแนะนำเมนูอาหารประจำชาติอินเดียในแถบกัวอย่าง Ros Omelet ซึ่งจริงๆ ก็คือ ไข่เจียวกรอบนุ่ม แต่ Ros Omelet ไม่ได้เป็นไข่เจียวธรรมดาแบบที่เราเห็นทั่วไป เพราะเมนูนี้เขาเติมความเด็ดด้วยแกงกะหรี่ไก่ร้อนๆ ซึ่งมีกลิ่นหอมเย้ายวน และนิยมทานคู่กับขนมปังท้องถิ่นซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี
3. Vindaloo (วินดาลู)
ถือเป็นอาหารอินเดียยอดนิยมในกัวที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกสมาอย่างมากมาย ดังนั้นบอกได้เลยว่า Vindaloo หรือเมนูแกงกะหรี่จากกัวถือเป็นอาหารประจำชาติอินเดียที่อร่อยกลมกล่อมอย่าบอกใคร โดยชาวกัวจะแทนที่ไวน์ด้วยการใช้น้ำส้มสายชู จากนั้นเพิ่มเนื้อสัตว์เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ กุ้ง หรือไก่ มักจะใส่ผักและเต้าหู้ รวมถึงเพิ่มเครื่องเทศอันเป็นเอกลักษณ์จากกัวโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยสร้างความเป็นน่ารับประทานให้กับเมนูนี้มากยิ่งขึ้น
4. Beef Assado (อัสซาโดเนื้อ)
อยากเน้นโปรตีนเพื่อให้อยู่ท้องแถมยังอร่อย ต้องอาหารอินเดียรสเด็ดที่ได้อิทธิพลจากประเทศโปรตุเกสอย่าง Beef Assado เมนูนี้มักจะใช้เนื้อหมูหรือเนื้อวัว และด้วยกรรมวิธีในการทำที่พิถีพิถัน เราจึงจะได้ชิมเนื้อที่นุ่มและอร่อย ส่วนใหญ่มักจะทานสำหรับโอกาสพิเศษ เช่นการเฉลิมฉลองของครอบครัว ดังนั้นหากมีเพื่อนอยู่ที่กัวและได้ชิมเมนูนี้ ก็เปรียบเสมือนว่าคุณกำลังได้ทานอาหารประจำชาติอินเดียอย่างแท้จริง
เมนูอาหารอินเดียจากเบงกอล (Bengal)
ภูมิภาคเบงกอลตั้งอยู่บนแอ่งดินดอนสามเหลี่ยมของปากแม่น้ำที่ใหญ่และอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีจุดบรรจบของแม่น้ำคงคาและพรหมบุตร ด้วยความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำและภูเขาจึงทำให้พื้นที่แห่งนี้เหมาะแก่การเกษตรอย่างการปลูกข้าว นอกจากนี้การอยู่ใกล้กับทะเลและแม่น้ำก็ทำให้เบงกอลมีทั้งปลาน้ำจืดและปลาน้ำเค็มมากมาย ซึ่งทำให้เกิดเมนูอาหารอินเดียเด็ดๆ ที่น่าลิ้มลอง
1. Macher Jhol (แกงปลาเบงกอล)
สำหรับใครที่อยากชิมเมนูอาหารอินเดียที่ทำจากปลาก็ไม่ควรพลาดเมนูนี้เป็นอันขาด โดยปลาที่นิยมนำมาทำอาหารประจำชาติอินเดียเมนูนี้ก็คือ ปลาฮิลซาหรืออิลิชซึ่งเป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายกับปลาแซลมอน แม้จะมีก้างเล็กๆ ค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีเนื้อนุ่มและอร่อยมาก
2. Lau Patai Pabda Paturi (ปลานึ่งห่อใบมะระ)
ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารอินเดียที่ทำจากปลาที่อุดมไปด้วยโปรตีนและความอร่อย โดยปลาที่ใช้จะเป็นปลาดุกอินเดียที่จับได้สดๆ ใหม่ จากนั้นจะปรุงกลิ่นให้หอมหวนด้วยการใส่ใบผักชีสด ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับสำคัญ จากนั้นใช้ตำลึงห่อหรือทาให้ทั่วปลาแล้วจึงนำไปนึ่งในด้วยไฟอ่อน รับรองเลยว่าแค่ได้กลิ่นก็อยากจะลิ้มลองอาหารประจำชาติอินเดียเมนูนี้แล้ว
3. Calcutta Biryani (ข้าวหมกแกะเบงกอล)
ข้าวหมกบริยานี่ (Biryani) ถือเป็นเมนูขึ้นแท่นระดับโลกของอินเดีย แต่ Calcutta Biryani นั้นมีความพิเศษตรงที่รสชาติที่โดดเด่น มีความเข้มข้นและเข้าเนื้อมากๆ ยิ่งบวกกับเนื้อแกะที่ปรุงจนชุ่มฉ่ำซึ่งต่างจากข้าวหมกสูตรธรรมดาที่เราเห็นกันทั่วไป และด้วยความเข้มข้นจากเครื่องปรุงชั้นเลิศจึงทำให้เราสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องเคียงเลยก็ได้ เนื่องจากสูตรนี้เขาปรุงมาอย่างดีเยี่ยมอยู่แล้ว
4. Ilish Paturi (ฮิลซาปรุงในใบตอง)
หากเห็นเมนูที่หน้าตาคล้ายห่อหมก อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าอินเดียก็มีห่อหมกแบบไทยๆ ขายด้วย เพราะเมนู Ilish Paturi มีสูตรลับสูตรเด็ดเฉพาะตัวไม่เหมือนของบ้านเราอย่างแน่นอน ทีเด็ดของเมนู Ilish Paturi จะเป็นการใช้วัตถุดิบเบงกอลสามอย่าง ได้แก่ ปลาฮิลซา ต้นกล้วยและมัสตาร์ด โดยปิดท้ายด้วยการห่อด้วยใบตองแล้วปรุงบนกระทะร้อนด้วยน้ำมันเล็กน้อย แค่นี้ก็ได้ห่อหมกสไตล์อินเดียแสนอร่อยแล้ว
การได้ลิ้มลองอาหารของดินแดนภารตะแห่งนี้นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังทำให้เราได้เที่ยวประเทศอินเดียได้อย่างครบรสอีกด้วย เพราะนอกจากจะได้ชิมอาหารตามแบบดั้งเดิมและต้นตำรับที่หาทานได้เพียงที่นี่แห่งเดียว การลิ้มลองรสชาติแปลกใหม่ก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีอันงดงามของประเทศอินเดียซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านการทำอาหารรสเลิศด้วยเช่นกัน