ทัวร์อิหร่าน เมืองเมืองอิหร่าน Spectacular Persia 8 Days (Fri)

กรุงเตหะราน-วิหารแว้งค์-สะพานคาจู-สะพาน 33 โค้ง-อิสฟาฮาน-พระราชวังเชเฮล โซตุน-มัสยิดเสาโยก-จัตุรัสนัค เอ ฌะฮาน-จัตุรัสอิหม่าม-มัสยิดชีคห์ ลอทฟอลลาห์-พระราชวังอาลี คาปู-พาซาร์การ์ด-สุสานของพระเจ้าไซรัส-เมืองโบราณเปอร์เซโปลิส-สุสานฮาเฟซ-ป้อมคาริม ข่าน-วากีลบาซาร์-สุเหร่าสีชมพู-พระราชวังโกเลสตาน-Sa’Ad Abad Palace-พระราชวังเนียวาราน

  • จำนวนวัน
    8 วัน 6 คืน
  • ที่พัก
  • สายการบิน
    W5
  • ประเทศอิหร่าน
    TWP-DRIFT_002
  • เริ่มต้น
    ฿59,900

ช่วงเวลาเดินทาง

  • อา
  • พฤ

กรุงเตหะราน-วิหารแว้งค์-สะพานคาจู-สะพาน 33 โค้ง-อิสฟาฮาน-พระราชวังเชเฮล โซตุน-มัสยิดเสาโยก-จัตุรัสนัค เอ ฌะฮาน-จัตุรัสอิหม่าม-มัสยิดชีคห์ ลอทฟอลลาห์-พระราชวังอาลี คาปู-พาซาร์การ์ด-สุสานของพระเจ้าไซรัส-เมืองโบราณเปอร์เซโปลิส-สุสานฮาเฟซ-ป้อมคาริม ข่าน-วากีลบาซาร์-สุเหร่าสีชมพู-พระราชวังโกเลสตาน-Sa’Ad Abad Palace-พระราชวังเนียวาราน

รายละเอียดทัวร์

เดินทาง 8 วัน 6 คืน

DAY 1:  สนามบินสุวรรณภูมิ-กรุงเตหะราน

18.00 น.  ท่านผู้โดยสารโปรดทราบขอ ให้ทุกท่านรวมตัวกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ณ จุด ๆ นี้ พวกเราชาว Drift จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านเอกสารการเดินทางและสัมภาระการเดินทางของท่านให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

21.30 น. ขณะนี้เราพร้อมแล้ว ที่จะพาทุกท่านสู่ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดย Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 050 ขอให้ทุกท่านรัดเข็มขัดนิรภัยด้วยค่ะ

DAY 2: กรุงเตหะราน-อิสฟาฮาน

01:30น. ถึงแล้ว...ท่าอากาศยานกรุงเตหะราน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียบร้อย และเพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจะนำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบิน เมห์ราบัด เป็นสนามบินสำหรับใช้เดินทางเส้นทางการบินภายในประเทศ

07:30น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสฟาฮาน โดย Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 4533

08:40น. เดินทางถึง สนามบิน เมืองอิสฟาฮาน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และรับสัมภาระเรียบร้อย จากนั้นพาทุกท่านเข้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เช้า นำท่านเข้าชม วิหารแว้งค์ Vank Church ที่ตั้งอยู่ในชุมชนของชาวอาร์เมเนียน ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวอาร์เมเนียนที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1655 ในรูปแบบผสมผสานศิลปะของยุโรป และของเปอร์เซีย

เที่ยง  รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร

อิ่มท้องแล้ว…นำทุกท่าน Shopping ซื้อของฝากบริเวณ วิหารแว้งค์ Vank Church

จากนั้นพาทุกท่านไปเดินเล่นที่ สะพานคาจู (Khaju bridge) เป็นสะพานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 2 (Shah Abbas II) พาดผ่านแม่น้ำ Zayandeh ยาวประมาณ 132 เมตร กว้าง 12 เมตร มี 2 ชั้น สวยงามตามแบบศิลปะเปอร์เซียแท้ๆ ซุ้มโค้งประตูก็ประดับประดาด้วยกระเบื้องชิ้นเล็กๆ และ สะพาน 33 โค้ง  (33 Arches bridge) สะพานสามสิบสามแห่งอิสฟาฮาน สร้างขึ้นในสมัยอับบาสที่ 1 แห่งราชวงศ์ซาฟาวิดในปี 1602 และเป็นผลงานชิ้นเอกที่มีชื่อเสียงที่สุดในการออกแบบและการก่อสร้างสะพานจำนวนมากในเวลานั้น

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารห้องอาหารโรงแรม

พักค้างคืน ณ โรงแรม Abassi Hotel 5* หรือเทียบเท่า

DAY 3:  อิสฟาฮาน

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เริ่มต้นกันที่…พระราชวังเชเฮล โซตุน Chehel Sotun Palace หรือ วัง 40 เสาซึ่งความจริงแล้วมีเสาเพียง 20 ต้นเท่านั้น อีก 20 ต้นคือเสามโนที่มองผ่านเข้ามาทางสระน้ำหน้าพระราชวังจะเป็นเงาในน้ำอีก 20 ต้น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1657 โดยสถาปนิก ชื่อ ชีคห์ บาไฮ ล้อมรอบไปด้วยสวนเขียวชอุ่มดอกไม้ชูช่อสวยงามในฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะดอกกุหลาบที่ห้อยเป็นพวงระย้าส่งกลิ่นหอมชื่นใจ

พระราชวังแห่งนี้สร้างในสมัยชาฮ์ อับบาสที่ 2 แต่ได้มีการออกแบบมาตั้งแต่สมัยชาฮ์อับบาสที่ 1 เพื่อเป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์และบรรดานางสนม ต่อมาใช้เป็นที่ต้อนรับอาคันตุกะหรือแขกเมือง มีสระน้ำขนาดใหญ่ยาว 100 เมตร กว้าง 16 เมตร อยู่ด้านหน้าชมการแกะสลักลวดลายประตู หน้าต่าง ภาพฝาผนังปูนปั้น ชมภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้ตำหนักที่บอกเล่าเรื่องราวราชสำนัก และ ประวัติศาสตร์การทำสงคราม

และ มัสยิดเสาโยก  Menar jonban (shaking minarets)   เป็นมัสยิดที่มองจากภายนอกอันแสนจะธรรมดา   แต่ได้ซ่อนภูมิปัญญาของชาวเปอร์เซียเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง     นั่นก็คือมัสยิดแห่งนี้สามารถยืนยงคงทนถาวรอยู่ได้ถึง 600 กว่าปี ถึงแม้จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง  สักเพียงใดก็ตาม ตัวอาคารมัสยิดไม่เคยได้รับผมกระทบ ไม่เคยมีรอยแตกร้าว หรือเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์สำหรับสถาปนิกสมัยใหม่ที่ยังไม่สามารถไขปริศนาแห่งการออกแบบก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้ได้

เที่ยง  รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย ไปลุยกันต่อที่ จัตุรัสนัค เอ ฌะฮาน Naqsh-E-Jahan จัตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจัตุรัสเทียนอัน    เหมิน มีความกว้าง 165 เมตร และมีความยาวถึง 500 เมตร รวมเนื้อที่ประมาณ 80,000 กว่าตารางเมตร ใหญ่กว่าจัตุรัสแดงในกรุงมอสโคว์ถึง 2 เท่า ในอดีตเป็นสนามแข่งโปโล หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า จัตุรัสอิหม่าม Imam Square นับว่าเป็นอัญมณีแห่งโลกมุสลิมที่ผนวกรวมทั้งแนวความคิด ปรัชญา และสถาปัตยกรรมที่สวยงามเอาไว้ในที่เดียวกัน เช่น มัสยิดอิหม่าม Imam Mosque เป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1612 โดยมียอดโดมสูง 30 เมตร และมีเสามินาเรตที่มีความสูง 40 เมตร

มัสยิดชีคห์ ลอทฟอลลาห์ Sheikh Lotfollah Mosque สร้างโดยชาห์ อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกัน ซึ่งจะใช้เป็นมัสยิดส่วนพระองค์และราชวงศ์เท่านั้นโดยเฉพาะตัวโดม ซึ่งถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศ พระราชวังอาลี คาปู Ali Ghapou Palace ถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 1 โดยมีการสร้างเพิ่มเติมจนมีทั้งหมด 6 ชั้น ตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมโดยช่างฝีมือชั้นยอดจิตรกรชั้นครูในสมัยนั้น พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับและรับรองแขกบ้านแขกเมือง พร้อมกันนี้ชั้นบน สุดยังตกแต่งเป็นห้องสำหรับฟังเพลงและเล่นดนตรี

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น

พักค้างคืน ณ โรงแรม Abassi Hotel 5* หรือเทียบเท่า

DAY 4:  อิสฟาฮาน-พาซาร์การ์ด-ชีราซ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พาทุกท่านนั่งรถโค้ชมุ่งหน้าสู่ เมืองพาซาร์การ์ด Pasargard (ระยะทาง 356 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) เป็นนครหลวงแห่งแรกของชนชาติอิหร่านและของอาณาจักรอาเมเนียน อาณาจักรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย พระเจ้าไซรัสมหาราช และบุตรชาย Cambyses นักท่องเที่ยวจะยังคงได้ชมร่องรอยของกระโจมทหารและอาคารต่าง ๆ เช่น ศาสนสถานแบบเมโสโปเตเมีย

และไปที่ สุสานของพระเจ้าไซรัส Cyrus Tomb ซึ่งมีความสูงถึง 12 เมตร สร้างด้วยหินขนาดใหญ่วางซ้อนกันเป็นขั้นบันได ภายในสุสานแห่งนี้ประดับประดาอย่างสวยงาม ร่างของกษัตริย์บรรจุอยู่ในหีบศพทองคำ เคียงข้างกับทรัพย์สมบัติมากมาย พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ยังได้เดินทางมาสักการะยังสุสาน  พระเจ้าไซรัสหลายครั้งด้วยกัน จากนั้นนำท่านออกเดินทางต่อสู่ เมืองชีราซ Shiraz (ระยะทาง 127 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) 

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น

บ่าย เราจะไปลุยกันที่ เมืองโบราณเปอร์เซโปลิส  Persepolis ห่างจากตัว เมืองชีราซ  80 กิโลเมตร แนะนำให้ทุกท่านสวมรองเท้าผ้าใบสวมใส่สบาย และควรเตรียมร่มกันแดดไปด้วย เพราะแดดค่อนข้างจัด ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงและเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเปอร์เซีย ตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ สร้างโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราช ประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล

จนถึงรัชสมัยของดาริอุสที่ 3 มหานครแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงต่อเติมมาตลอดระยะเวลา 150 ปี  ลักษณะเป็นป้อมปราการ และมีศูนย์กลางที่ประกอบไปด้วยพระราชวังต่าง ๆ รวมถึงห้องโถงใหญ่ ซึ่งเป็นที่เก็บทรัพย์สมบัติ และสิ่งของมีค่า  ในปี ค.ศ. 331 ก่อนคริสตกาล มหานครแห่งนี้ก็ถูกกองทัพของอเล็กซานเดอร์ มหาราช บุกเข้าทำลายและเผาผลาญจนพินาศ คือร่องรอยความงดงามของสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ โอฬารตระการตา

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น

พักค้างคืน ณ โรงแรม Shiraz Grand Hotel 5*  หรือเทียบเท่า

DAY 5:  ชีราซ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันนี้ที่เมืองชีราซ เราไปกันที่ สุสานฮาเฟซ Hafez tomb เป็นสุสานที่สวยงามของกวีที่ยิ่งใหญ่ชาวเปอร์เซียชื่อ    อาฟิส ว่ากันว่าในบ้านชาวอิหร่านทุกหลังต้องมีหนังสือบทกวีของท่านถูกสร้างขึ้นในสวนใน 1773 ในรัชสมัยของคาริมข่าน Zand Hāfezieh ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำ Rudkhaneye Khoshk ตามฤดูกาลในสวน Musalla  และต่อด้วย สวนอีแรม E-ram garden สวนสวรรค์เป็นสวนเปอร์เซียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องต้นไม้สูง สวนมีอายุมากกว่า 900 ปี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย ต่อกันที่ ป้อมคาริม ข่าน  Karim Khan Fort (ถ่ายรูปด้านนอก) ป้อมนี้คาริมข่านได้สั่งให้สร้างไว้เป็นที่พักอาศัยและเป็นศูนย์กลางการบริหารงานอยู่ที่ใจกลางเมือง ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนป้อม มีกำแพงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน 

ภายในร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพรรณ

และไปช้อปกันต่อที่...วากีลบาซาร์ Vakil Bazaar ไปเลือกซื้อสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นกล่องแกะสลักฝังโมเสคสินค้าที่ทำจากหนัง กระเป๋า หมวก ผ้าลูกไม้ ผลไม้แห้งหลากหลายชนิด ฯลฯ
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

พักค้างคืน ณ โรงแรม Shiraz Grand Hotel 5*  หรือเทียบเท่า

DAY 6:  ชีราซ-เตหะราน

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังประทานอาหารเป็นที่เรียบร้อย จะพาทุกท่านไปเยี่ยมชม สุเหร่าสีชมพู Pink Mosque หรือ Nasir Al Molk Mosque เป็นสุเหร่าที่สำคัญที่สุดของอิหร่านตอนใต้ ได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าที่สวยมาก สร้างสรรค์โดย มีร์ซา ฮาซาน อลี นาซีร์ อัล มอล์ค ในปี ค.ศ. 1876 และเสร็จในปี ค.ศ. 1887 ซึ่งมี ฮัจญ์ โมฮัมหมัด ฮาสซาน เป็นสถาปนิกออกแบบ และ มีร์ซา เรซา เป็นผู้ตกแต่งพวกกระเบื้องต่าง ๆ  และต่อด้วย Ali ibn hamzeh mausoleum จากนั้นออกเดินทางต่อ

12:00-13:30 เราจะพาทุกท่านเดินทางสู้เมืองเตหะราน โดยสายการบิน Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 1088

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย ไปกันที่ พระราชวังโกเลสตาน Golestan Palace หรือ วังสวนกุหลาบ วังที่ต้องมา เป็นวังเก่าแก่ย้อนไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาฟาวิด เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16  มีร่องรอยสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลืออยู่ คือ ป้อมสูง Citadel ที่เอาไว้สำหรับส่องดูข้าศึก และสถานอาบน้ำแบบเติร์ก ตัวอาคารเป็นแบบตะวันตก ที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนั้นมีการสร้างเพิ่มเติมเข้ามาสมัยกษัตริย์ราชวงศ์รองสุดท้ายของเปอร์เซีย คือ ราชวงศ์คาจาร์ กษัตริย์นัสเซอร์ อัล-ดิน ชาห์ ได้เสด็จเยือนยุโรปแล้วเห็นความเจริญ และความสวยงามทางสถาปัตยกรรม แล้วเกิดความประทับจิตรประทับใจจึงนำศิลปะยุโรป เข้ามาผสมกับวิถีชีวิตของชาวอิหร่าน ดังเช่น ตำหนักแบบนีโอคลาสสิคของยุโรปจากนั้นไปช้อปปิ้ง หาซื้อของฝากของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย เตหะราน บาร์ซาร์ Tehran Bazaar

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

พักค้างคืน ณ โรงแรม Espinas palace Hotel*  หรือเทียบเท่า

DAY 7: เตหะราน-กรุงเทพ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันสุดท้ายเราจะไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับตำหนัก Sa’Ad Abad Palace ในสถานที่นี้ประกอบไปด้วย ตำหนักถึง 7 ตำหนักด้วยกัน มีเนื้อที่กว้างใหญ่ประมาณ 410 เฮกต้าร์ แต่ละที่ก็สวยงามตามท้องเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำหนักเขียวและตำหนักขาวในอดีต ตำหนักขาว  White Palace เป็นที่ประทับของกษัตริย์ชาร์ ปาห์ลาวี กษัตริย์องค์สุดท้ายก่อนถูกโคไมนีปฏิวัติ และเป็นที่เก็บสะสมของมีค่ามากมาย อาทิเช่น พรมเปอร์เซียที่มีชื่อเสียง เครื่องประดับต่าง ๆ และเครื่องปั้นดินเผา และ ตำหนักเขียว  Green Palace ซึ่งสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป โดยใช้หินอ่อนสีเขียว ภายในประดับด้วย สถาปัตยกรรมกระจกที่งดงามตระการตาอย่างมาก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย ไปต่อกันที่ พระราชวังเนียวาราน Niavaran Palace ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเตหะรานสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์คาจาร์ Qajar Dynasty สร้างในสวนที่มีความสวยงาม บนเนื้อที่กว่า 11 เฮกเตอร์ พระราชวังแห่งนี้เป็นของกษัตริย์ ชาห์ หรือพระเจ้าโมฮัมหมัด เรซาปาห์เลวี แห่งราชวงศ์ปาห์เลวี ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของอิหร่าน ซึ่งใช้เป็นที่ประทับร่วมกับครอบครัว ก่อนที่จะถูกปฏิวัติโดยอะยาตุลเลาะห์โคไมนี

16:00 ออกเดินทาง สู่ สนามบินระหว่างทางมีบริการ snack box สำหรับมือค่ำ โบกมือ บ๊าย บาย เตหะราน...แล้วพบกัน กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 051

DAY 8: กรุงเทพมหานคร

07.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดีภาพ พร้อมความประทับใจ

ช่วงเวลาเดินทาง

ช่วงเวลาผู้ใหญ่

เงื่อนไขทัวร์

อัตราค่าบริการ โปรแกรม ไฮไลท์ อิหร่าน 8 วัน

  • ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ หรือ เด็ก 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน  ราคาท่านละ   59,900.- บาท   
    • ในกรณีต้องการพักห้องเดี่ยว ราคาท่านละ  10,000.-          บาท   
  • เด็ก ต่ำกว่า 12 ปี (เสริมเตียง-พักกับผู้ใหญ่อีก 2 ท่าน) ราคาท่านละ  56,900.- บาท 
  • เด็ก อายุ 7-12 ปี ไม่เสริมเตียง-พักกับผู้ใหญ่อีก 2 ท่าน) ราคาท่านละ  53,900.- บาท
    • ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 65)

ข้อแนะนำบางประการและต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนการเดินทาง

  • สำหรับห้องพักแบบ 3 ท่าน บางโรงแรมอาจจะมีเป็นเตียงเสริมให้ กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน บริษัทฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเปิดห้องพัก เป็น 2 ห้อง จะสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด สำหรับชั้นท่องเที่ยว ท่านละ 1 ใบ (น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม)
  • กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry (น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม)      

อัตราค่าบริการนี้รวมถึง

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด สายการบิน มาฮาน แอร์  (น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่เกิน 30 กิโลกรัม/ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ, ค่าภาษีประเทศอิหร่าน
  • ค่าวีซ่า ประเทศอิหร่าน (เอกสารที่ใช้ รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 2 รูป, พาสปอร์ตตัวจริง, สำเนาทะเบียนบ้าน, เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้, ในกรณีที่ท่านทำงานให้สแกนนามบัตร)
  • ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงิน 1,000,000.- บาท (ไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่), ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุในโปรแกรม, มีน้ำดื่มบริการ
  • ค่าพาหนะ หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งตามโปรแกรมระบุ
  • มีเจ้าหน้าที่ไกด์คนไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวมถึง

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์, ค่าแฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุ
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, ค่าทิปหัวหน้าทัวร์คนไทย, คนขับรถ, พนักงานบริการ ท่านละ 80 ดอลลาร์ ตลอดการเดินทาง
  • ค่าทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
  • ค่าจัดทำเอกสาร และค่าธรรมเนียมวีซ่าของชาวต่างชาติ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง กรณีเกินกว่าที่สายการบินกำหนด ( 30 กิโลกรัม / ท่าน)
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (หากมีการปรับขึ้น)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ต่าง ๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และ ค่าอาหารที่สั่งมานอกเหนือจากทางเมนูอาหารที่ทางบริษัทฯ จัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

เงื่อนไขการจองทัวร์ โปรแกรม อิหร่าน อายะธรรมเปอร์เซีย 8 วัน

  • การชำระเงิน งวดที่1: สำรองที่นั่งมัดจำท่านละ 20,000.- บาท   ภายใน 3 วันหลังจากทำการจอง
  • งวดที่2: ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด ภายใน 25 วันล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

กรณียกเลิกทัวร์ โปรแกรม อิหร่าน อายะธรรมเปอร์เซีย 8 วัน

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 40 วัน  คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด 
    • (ยกเว้นค่าวีซ่าที่ยื่นและตั๋วเครื่องบินที่ออกล่วงหน้า และกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดเทศกาล เช่น สงกรานต์, วันแรงงานแห่งชาติ, วันหยุดเดือนกรกฎาคม, วันหยุดเดือน ตุลาคม เนื่องจากต้องชำระค่ามัดจำที่พักโดยตรง หรือโดยการชำระผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งไม่อาจขอคืนเงินได้)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 25 วัน  เก็บค่าใช้จ่าย 50%
  • ยกเลิกการเดินทาง 1-24 วัน เก็บเต็มจำนวนของราคาทัวร์ 100%

หมายเหตุ

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 10 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืนในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย จนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณีที่สูญหายสูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ฯลฯ

ตั๋วเครื่องบิน

  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับหากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บ โดยสายการบินเป็นผู้กำหนดซึ่งทางบริษัทฯไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทางถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้วผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น(ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเช่นเชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆยืนยันการเดินทางแน่นอนหากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงานแล้วทัวร์นั้นยกเลิกบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้วหมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ (Twin/Double) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(Triple Room) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมซึ่งมักมีความแตกต่างกันซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการหรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

  • กรุณางดนำของมีคมทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบินเช่นมีดพับกรรไกรตัดเล็บทุกขนาดตะไบเล็บเป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลวอาทิครีมโลชั่นน้ำหอมยาสีฟันเจลสเปรย์และเหล้าเป็นต้นจะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบินจะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุวันเดินทางเที่ยวบินจึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบินคือ 20-30กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หากน้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีความกว้าง ( 9.75นิ้ว ) + ยาว( 21.5นิ้ว ) + สูง ( 18 นิ้ว )
  • ในบางรายการทัวร์ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศน้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตราฐานได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไปไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย

  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง 
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายละเอียดข้างต้นเท่านั้น
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

โปรแกรมทัวร์ใกล้เคียง

Powered by