รีวิว คลองเวนิส พาล่องเรือชมศิลปะอันงดงาม แห่งประเทศอิตาลี

ยาวไปอยากเลือกอ่าน

ทำความรู้จักกับคลองเวนิส Grand Canal (Venice)

คลองเวนิส มีชื่อเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า Canal Grande ซึ่งในอดีตเรียกคลองแห่งนี้ว่า กานาลัซโซ (Canalazzo) เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส เมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้น Veneto อีกด้วย โดยคลองเวนิสก็จะเริ่มจากลุ่มน้ำ Saint Mark ไปจนถึงทะเลสาบใกล้สถานีรถไฟ Santa Lucia มีลักษณะเป็นตัว S กลับด้านขนาดใหญ่พาดผ่านบริเวณใจกลางเมือง แยกเมืองออกเป็น 2 ส่วน โดยมีความยาวรวม 3.8 กิโลเมตร มีความกว้างตั้งแต่ 30 ถึง 90 เมตร และมีความลึกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร

บริเวณริมสองฝั่งของก็จะเรียงรายไปด้วยอาคารมากกว่า 170 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาในช่วงตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถึง 18 ที่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งและศิลปะอันงดงามในยุคสาธารณรัฐเวนิสเรืองอำนาจ ซึ่งในยุคนั้นครอบครัวชาวเวนิสที่ผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายต่างก็แข่งขันกัน เพื่อสร้างอาคารสถานที่รวมไปถึงวังให้มีความงดงามเพื่อโอ้อวดความมั่งคั่งกันนั่นเอง ซึ่งการจราจรส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเดินทางไหลไปตามเส้นทางของคลองมากกว่าการข้ามคลอง นั่นจึงทำให้มีสะพานข้าม Venice Canal เพียงแห่งเดียวมาจนถึงศตวรรษที่ 19 ก็คือ สะพาน Rialto Bridge โดยในปัจจุบันก็มีสะพานสำหรับข้ามคลองเพิ่มมาอีก 3 แห่งได้แก่ Ponte degli Scalzi, Ponte dell'Accademia และ Ponte della Costituzione นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้บริการเรือข้ามฟากได้หลายจุด รวมไปถึงการล่องเรือท้องถิ่นที่เรียกว่า เรือกอนโดล่า (Gondola) เพื่อชมความงามบริเวณสองฝั่งคลองได้อีกด้วย

ประวัติความเป็นมาของคลองเวนิส

Venice Canal เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สำคัญที่สุดของเมืองเวนิส มีลักษณะรูปทรงแบนตัว S กลับด้านขนาดใหญ่ คลองแห่งนี้แบ่งแยกเมืองเวนิสออกเป็น 2 ส่วน จากการศึกษาพบว่าในช่วงแรกนั้นมีขนาดของคลองกว้างกว่าในปัจจุบัน และเมื่อเวลาผ่านไปคลองก็จะมีลักษณะที่แคบลงมาเรื่อย ๆ ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้นมีการสันนิษฐานว่าคลองเวนิสนั้นมีการไหลไปตามแม่น้ำโบราณ ซึ่งอาจจะเป็นคลองสาขาแห่งหนึ่งของแม่น้ำเบรนตาที่ไหลลงสู่ทะเลสาบบริเวณ Venetian Lagoon อันเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนพื้นที่ในช่วงก่อนยุคโรมัน จากนั้นก็เริ่มมีประชากรเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การปกครองของโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ แต่จากการพยายามยึดครองของฝรั่งเศส จึงทำให้ผู้คนอพยพย้ายถิ่นฐานเข้าไปยังใจกลางของเวเนเซียลากูนที่ปลอดภัยกว่า ซึ่งในช่วงนั้นคลองเวนิสก็เริ่มเฟื่องฟูและกลายเป็นท่าเรือสำคัญในการค้าขาย จนกลายเป็นศูนย์กลางของการค้าขายของชาวเวนิส

 และเมื่อเวลาผ่านไป ความมั่งคั่งของเมืองเวนิสก็เติบโตมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นตลาดค้าขายที่สำคัญที่สุดในยุโรปนานนับศตวรรษ เต็มไปด้วยเรือสินค้าจนทำให้เมืองเวนิสกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดังนั้นบริเวณสองฝั่งของคลองจึงเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่า “Fondachi” ซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยและโกดังสินค้าสำหรับพ่อค้าจำนวนมาก ที่มาทำการค้าขายจากทั่วทุกมุมโลก โดยในปัจจุบัน Venice Canal ก็ยังคงเป็นคลองที่มีความสำคัญและคึกคักมากที่สุดในเวนิส และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยุโรปยอดนิยมแห่งหนึ่งอีกด้วย

กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจบริเวณคลองเวนิส

กิจกรรมยอดฮิตเมื่อมาเที่ยวคลองเวนิส ก็คือการล่องเรือกอนโดล่า (Gondola) เพื่อชมวิวทิวทัศน์สองฟากฝั่งคลองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะอันงดงาม นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองท้องถิ่นกันตลอดทั้งปี โดยกิจกรรมสำคัญก็ได้แก่ "Regata Storica" เป็นการแข่งเรือเวนิสที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จัดขึ้นในอาทิตย์แรกของเดือนกันยายน ซึ่งในช่วงนี้ก็จะเต็มไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวหลายพันคนบริเวณสองฝั่งคลองที่คอยชมการแข่งขัน นำโดยขบวนแห่ทางประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า "Corteo Storico" เพื่อรำลึกถึงราชินีแห่งไซปรัส Catherine Cornaro โดยจะใช้เรือกอนโดล่าที่มีการประดับตกแต่งรวมไปถึงคนในเรือที่จะแต่งกายด้วยชุดในสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งนอกจากจะมีการแข่งพายเรือเพื่อเข้าเส้นชัยแล้ว ก็ยังมีการนำเอาเรือกอนโดล่ามาประกวดความสวยงามกันอีกด้วย

อีกหนึ่งงานสำคัญบริเวณคลองเวนิสก็ได้แก่ เทศกาลคาร์นิวัล Rowing Club's Carnival ซึ่งมีรากฐานมาตั้งแต่ในสมัยกรีกและโรมัน เริ่มขึ้นในวัน Boxing Day ก็คือวันที่ 26 ธันวาคม ภายในงานก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริงด้วยบรรยากาศรวมไปถึงการแต่งกายในศตวรรษที่ 18 รวมไปถึงการแต่งกายแปลก ๆ และการสวมหน้ากาก นอกจากนี้ก็ยังมีเทศกาล Sensa ซึ่งเป็นงานประเพณีของชาวเวนิสมาตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 11 รวมไปถึงเทศกาล Redentore ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของกาฬโรค โรคระบาดร้ายแรงในปี 1576 ที่ได้คร่าชีวิตของชาวเวนิสไปถึงกว่า 1 ใน 3 เลยทีเดียว สำหรับกิจการอื่นๆที่น่าสนใจก็อย่างเช่นการเที่ยวชมจิตรกรรมฝาผนังแบบเวนิส หรือจะเลือกปิคนิคบนเรือพร้อมดนตรีและอาหารอีกมากมายก็ได้

ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจบริเวณสองฝั่ง Venice Canal ก็มีอยู่อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น St. Mark's Square, St Mark's Basilica, Palazzi Barbaro, Ca' Rezzonico, Ca' d'Oro, Palazzo Dario, Ca' Foscari, Palazzo Barbarigo, Palazzo Venier dei Leoni และโบสถ์ริมคลอง Santa Maria della Salute เป็นต้น รวมไปถึงสะพานข้ามคลองทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ สะพาน Rialto Bridge, สะพาน Ponte degli Scalzi, สะพาน Ponte dell'Accademia และ สะพาน Ponte della Costituzione

สำหรับใครที่กำลังวางแผนมาท่องเที่ยว Venice Canal กันอยู่ ถ้าหากต้องการล่องเรือกอนโดล่าเพื่อชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งคลอง ก็จะมีค่าบริการคิดเป็นต่อลำ ในช่วงกลางวันอยู่ที่ 80 ยูโร และช่วงกลางคืน 100 ยูโร โดยสามารถนั่งได้ละไม่เกิน 6 คน โดยสามารถเลือกขึ้นได้จากหลาย ๆ จุด หรือถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศการล่องเรือแต่ไม่อยากจ่ายแพงกว่า ก็อาจจะเลือกเป็นการนั่งเรือข้ามฟากดูก็ได้ โดยคิดราคาอยู่ที่ 2 ยูโรต่อคน แต่ถ้าหากเป็นการเลือกเที่ยวกับบริษัททัวร์ ก็แนะนำให้ลองหาแพ็คเกจท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมล่องเรือกอนโดล่า จะได้ไม่ต้องไปหาขึ้นเรือกันเองให้ยุ่งยากค่ะ