ล่องเรือกอนโดล่า พาชมความสวยงามของเมืองเวนิสประเทศอิตาลี

แน่นอนว่าหากได้ไปเที่ยวอิตาลีที่เมืองเวนิสกันทั้งที กิจกรรมยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดเลยนั่นก็คือการล่องเรือกอนโดล่านั่นเอง เพื่อดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกภายในเมืองเวนิส พร้อมกับเสียงเพลงโอเปร่าจากคนพายเรือในช่องทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญของเมือง ก็คือคลองเวนิส หรือที่เรียกว่า Grand Canal เส้นทางน้ำซึ่งแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา รายล้อมไปด้วยอาคารและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความงดงาม แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองเมืองชาวเวนิสซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญของยุโรปมาตั้งแต่ในอดีต รวมไปถึงความมั่งคั่งของชาวเวนิสที่ต่างก็พากันแข่งขันสร้างอาคารบ้านเรือนให้มีความสวยงามหรูหรา เพื่อโอ้อวดให้เห็นถึงความมั่งคั่งนั่นเอง หากใครกำลังสนใจที่จะไปล่องเรือกอนโดล่าที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี วันนี้เราก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการล่องเรือกอนโดล่ามาฝากกันค่ะ

ทำความรู้จักกับเรือกอนโดล่า (Gondola)  

เรือกอนโดล่า (Gondola) เป็นเรือพายแบบดั้งเดิมของชาวเวนิส ซึ่งถูกออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพของทะเลสาบเวนิส ใช้การขับเคลื่อนในลักษณะของเรือแจวโดยใช้แรงงานคน โดยจะใช้ไม้พายที่ไม่ได้ผูกไว้กับตัวเรือทำการพายเรือในลักษณะกรรเชียงเพื่อให้เรือเคลื่อนที่ไปและทำหน้าที่เป็นหางเสือของเรืออีกด้วย  

เอกลักษณ์ของเรือกอนโดล่าก็คือหัวท้ายเรือที่ไม่สมมาตรกัน เป็นการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เรือสามารถเคลื่อนที่ได้ดียิ่งขึ้น เรือกอนโดล่ามีความยาวสูงสุดอยู่ที่ 11 เมตร กว้าง 1.60 เมตร น้ำหนัก 350 กิโลกรัม ทำขึ้นด้วยมือโดยใช้ไม้ถึง 8 ชนิดมาประกอบเข้าด้วยกันด้วยชิ้นส่วนทั้งหมด 280 ชิ้น โดยเรือกอนโดล่าก็ถูกใช้เป็นพาหนะหลักในการคมนาคมขนส่ง และเป็นยานพาหนะทางน้ำที่พบมากที่สุดในเมืองเวนิสมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ ซึ่งในปัจจุบันเรือกอนโดล่าก็ถูกจัดระเบียบและจะต้องมีใบอนุญาต เพื่อทำการต้อนรับนักท่องเที่ยวและใช้เป็นยานพาหนะสำหรับสัญจรทางน้ำ จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวนิสกันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง  

ประวัติความเป็นมาของคลองเวนิสและเรือกอนโดล่า 

ในช่วงที่ผู้คนย้ายถิ่นฐานเข้ามายังพื้นที่ปลอดภัยบริเวณ Venetian Lagoon เพื่อลี้ภัยสงครามจากการรุกรานของฝรั่งเศส จึงทำให้คลองเวนิสกลายเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่สำคัญและกลายเป็นท่าเรือในการค้าขาย และทำให้เมืองเวนิสนั้นกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าสำคัญของยุโรปที่มีความรุ่งเรืองเฟื่องฟูมาอย่างยาวนานนับศตวรรษ มีพ่อค้าเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อทำการค้าขาย นั่นจึงทำให้สองฝั่งของคลองเวนิสนั้นเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่พักอาศัยและโกดังเก็บของสำหรับพ่อค้า พระราชวัง อาคารบ้านเรือน โบสถ์และวิหาร ซึ่งพาหนะสำคัญที่ใช้สำหรับการโดยสารและเคลื่อนย้ายสินค้าเข้ามายังเมืองเวนิส ก็คือเรือกอนโดล่านั่นเอง

สำหรับเรือกอนโดล่านั้นมีอยู่ในเวนิสมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 โดยได้รับการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1094 เป็นของขวัญจาก Doge (Duke) Vitale Faliero ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นบิดาของเรือกอนโดล่า แรกเริ่มเดิมทีใช้เป็นยานพาหนะสุดหรูสำหรับผู้มั่งคั่งในเวนิส จนมาถึงช่วงศตวรรษที่ 17 ก็มีเรือกอนโดล่าอยู่ถึงกว่า 9,000 คันในเวนิส ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญว่าทุกบ้านควรมีเรือกอนโดล่าเอาไว้ใช้งาน จึงได้อนุญาตให้ทุกบ้านมีเรือกอนโดล่าไม่เฉพาะเพียงแค่คนรวยเท่านั้น แต่ก็ออกกฎหมายให้เรือกอนโดล่าทั้งหมดทาสีดำ เพื่อป้องกันการโอ้อวดแสดงความหรูหราฟุ่มเฟือย

รูปแบบของเรือกอนโดล่าในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต โดยเรือกอนโดล่าที่ใช้ล่องเรือเวนิส ก็จะเลียนแบบรูปทรงของเรือในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ด้วยการทาภายนอกสีดำและตกแต่งภายในที่มีความหรูหรา ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีเรือกอนโดล่าอยู่ประมาณ 400 คันให้เช่า โดยมีค่าบริการเหมาลำอยู่ที่ประมาณ 80 ยูโร สำหรับเวลาประมาณ 30 นาที  

จุดหมายปลายทางที่แนะนำสำหรับการล่องเรือกอนโดล่า  

สำหรับใครที่มีเวลาท่องเที่ยวจำกัดแต่ต้องการเก็บประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการล่องเรือเวนิส จุดหมายปลายทางที่แนะนำก็ได้แก่ การล่องเรือกอนโดล่าไปยังสะพานถอนหายใจ Bridge of Sighs แห่งเวนิส หรือเลือกล่องเรือกอนโดล่าแบบส่วนตัวไปตามคลองเวนิส เพื่อชมบรรยากาศสองฟากฝั่งอย่างเต็มอิ่ม โดยจะผ่านสถานที่ยอดนิยมของเมือง ไม่ว่าจะเป็น Fenice Opera House, St. Mark's Squareและ Punta Della Dogana เป็นต้น นอกจากนี้ก็แนะนำให้ล่องเรือกอนโดล่าไปยังสะพาน Rialto ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดในคลองเวนิส หรืออาจจะเลือกเป็นการล่องเรือกอนโดล่าส่วนตัวในตอนกลางคืน เพื่อสัมผัสกับค่ำคืนสุดแสนโรแมนติกและเงียบสงบ แสงไฟที่ระยิบระยับตามสองฟากฝั่งคลอง เต็มไปด้วยดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนของเวนิสกันก็ได้  

เคล็ดลับแนะนำสำหรับการล่องเรือกอนโดล่า

• การล่องเรือกอนโดล่าจะไม่อนุญาตให้นำเอากระเป๋าสัมภาระขึ้นมาบนเรือ ดังนั้นถ้าหากวางแผนจะล่องเรือเพื่อเที่ยวชมเมืองเวนิส ก็แนะนำให้เอากระเป๋าเดินทางไปเก็บไว้ที่พักกันก่อน
• การล่องเรือกอนโดล่าจะมีจุดขึ้นเรือและจุดที่ลงเรือแตกต่างกัน ซึ่งหรืออาจจะจอดอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามจากที่เราขึ้นมาก็ได้ ซึ่งก็อาจจะมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ ดังนั้นแนะนำให้พกเอกสารประจำตัวเอาไว้ให้พร้อม  
• ลองหาเวลาไปล่องเรือเวนิสกันในช่วง Low season จะได้บรรยากาศที่เงียบสงบมากขึ้น ผู้คนและนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก ไม่ต้องรอคิวเข้าสถานที่ท่องเที่ยวหรือขึ้นเรือนาน ทำให้สามารถท่องเที่ยวได้สบายมากขึ้น  
• ควรเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง แนะนำให้พกเสื้อกันลมหรือร่มติดไปด้วย เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีฝนตกขึ้นมาในขณะที่กำลังล่องเรือเวนิสกันก็ได้    

ดังนั้นใครที่กำลังวางแผนล่องเรือเวนิส เพื่อเที่ยวชมความงามและบรรยากาศสุดโรแมนติกของเมืองเวนิส ถ้าไม่อยากจ่ายแพงกว่าก็แนะนำให้ล่องเรือกันเป็นกลุ่ม เพื่อที่จะได้หารค่าใช้จ่ายกันได้ โดยสามารถนั่งได้ครั้งละ 6 คน ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น แต่ถ้าหากอยากจะโรแมนติกกับคู่รักก็คงต้องยอมจ่ายแพงกันสักหน่อย และถ้าหากอยากล่องเรือเวนิสในยามค่ำคืน อย่าลืมเช็คดูว่าเรือกอนโดล่าเที่ยวสุดท้ายนั้นหมดตอนกี่โมง จะได้ไม่พลาดบรรยากาศของเมืองเวนิสในยามค่ำคืนที่สวยงามน่าประทับใจกันค่ะ