Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) ขนมหวานสุดอร่อย สัญชาติตุรกี Cover Page

ตุรกี นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ทัศนียภาพที่สวยงาม  และอาหารประจำชาติที่มีเสน่ห์แล้ว Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์)  ขนมหวานแสนอร่อย ก็ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ ได้รับความนิยมจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก  ซึ่งหากใครได้มาเยือนตุรกี โดยเฉพาะสายขนมหวานต้องบอกเลยว่าพลาดไม่ได้ที่จะต้องลองชิมสักครั้ง และในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมา และความพิเศษของเจ้าขนม Turkish Delight กันค่ะ  

 

ยาวไปอยากเลือกอ่าน
+
ขนม Turkish Delight และประวัติความเป็นมา
ลักษณะพิเศษของขนม Turkish Delight
ขนม Turkish Delight หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง

ขนม Turkish Delight และประวัติความเป็นมา

 

Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) Image1

 

ขนม Turkish Delight หรือที่ชาวตุรกีจะเรียกอีกชื่อว่า โลคุม (Lokum) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋า มีหลายรสชาติให้เลือก ซึ่งขนมชนิดนี้มีรสชาติที่หวานมาก ๆ จนมีคำพังเพยที่ว่า “Eat sugar and speak sweety  ทานน้ำตาล แล้วจะพูดแต่คำหวานๆ”  ซึ่งสะท้อนวิถีการกินของผู้คนในแถบภูมิภาคสองทวีป คือยุโรปตะวันออก และเอเชียตะวันตก ที่นิยมทานหวานอย่างมาก อย่างไรก็ตามถึงแม้ชาวตุรกีจะชอบทานหวาน แต่ทว่าน้ำตาลเพิ่งถูกนำเข้ามาใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารในตุรกีเมื่อปลายศตวรรษที่ 18  โดยก่อนหน้านั้นชาวตุรกีจะใช้ความหวานจากน้ำผึ้ง และกากน้ำเชื่อมขององุ่น (Pekmez) เป็นวัตถุดิบปรุงรสในอาหารแทนค่ะ  

เมื่อน้ำตาลเข้ามาเป็นวัตถุดิบความหวานในสมัยของอาณาจักรออตโตมัน จึงเป็นที่มาของการกำเนิดขนมหวาน Turkish Delight นี้ขึ้น โดยท่านสุลต่านแห่งอาณาจักรออตโตมันต้องการเอาใจภรรยา จึงสั่งให้พ่อครัว แม่ครัวทั้งหลายในพระราชวังทดลองทำขนมหวานแสนอร่อยโดยนำน้ำเชื่อมผสมกับถั่วแบบต่างๆ พร้อมกับผลไม้แห้ง คนให้เข้ากันกับ mastic หรือยางไม้ของอาหรับ ซึ่งหลังจากทดลองกับส่วนผสมหลายรูปแบบจนในที่สุด นายฮาซิ เบอเกียร์ (Haci Bekir) หัวหน้าพ่อครัวประจำพระราชสำนัก ได้สูตรขนมหวานสีชมพูสำเร็จ และกลายเป็นขนมหวานยอดฮิตภายในวังเป็นต้นมา ซึ่งขนมหวานสีชมพูนี้มีชื่อเป็นภาษาอาหรับว่า “Rahat Al-halkum” มีความหมายว่า “คล่องคอ” ต่อมานักเดินทางชาวอังกฤษได้เดินทางมายังตุรกี ได้ชิมขนมหวานชนิดนี้เป็นครั้งแรก และเกิดความชื่นชอบอย่างมากจึงตั้งชื่อขนมนี้เป็นภาษาอังกฤษว่า “Turkish Delight” นั่นเอง หลังจากนั้นนายฮาชิ เบอเกียร์ได้เปิดร้านขนมเป็นของตัวเองในเมืองอิสตันบูลในปี ค.ศ. 1777 และได้นำสูตรขนมหวานนี้ไปทำขายจนขายดิบ ขายดี และมีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน 

 

ลักษณะพิเศษของขนม Turkish Delight

 

Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) Image2

 

กรรมวิธีการทำขนมหวาน Turkish Delight ในอดีตจะใช้แป้ง และน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลัก และเพิ่มรสชาติด้วยส่วนผสมอย่างอื่นเข้าไปด้วย เช่น ส้ม, มะนาว, มิ้นต์, ชินนามอน และถั่วชนิดต่างๆ เป็นต้น แต่ปัจจุบันมีการปรับสูตรแป้งขนมให้มีความเหนียวนุ่มมากยิ่งขึ้น และเพิ่มส่วนผสมเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย และแปลกใหม่มากขึ้น เช่น น้ำกุหลาบ, เฮเซลนัท, วอลนัท, ถั่วพิสทาซิโอ, น้ำทับทิม, หญ้าฝรั่น, แมคคาเดเมีย, วอลนัท, อัลมอนด์ และรสผลไม้ (สตรอว์เบอร์รี่, ส้ม, เชอร์รี่ และเลมอน) เป็นต้น จากนั้นปั้นแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมคลุกกับน้ำตาลไอซิ่ง ครีมทาร์ทาร์ และมะพร้าวฝอยอบแห้ง พร้อมกับหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดเล็กๆ วางบนจานพร้อมรับประทาน 

สำหรับขนมหวาน Turkish Delight จะไม่นิยมทานเปล่า เพราะให้รสชาติที่หวานมากเกินไปจนไม่อร่อย แต่จะนิยมทานคู่กับชา หรือกาแฟรสเข้มๆ เพื่อให้ความเข้มของชากาแฟเกลี่ยรสชาติของขนมให้หวานน้อยลง เพิ่มความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ในส่วนรสชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ กลิ่นกุหลาบ เพราะให้ความหอมหวานอย่างลงตัวเสมือนทานกลีบกุหลาบลงไปด้วยนั่นเอง 

 

ขนม Turkish Delight หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง

 

Turkish Delight (เตอร์กิช ดีไลท์) Image3

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากทานขนมหวานเตอร์กิช ดีไลท์ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปในประเทศตุรกี ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลายร้าน โดยเฉพาะในตลาดเครื่องเทศอย่าง Spice Bazaar ตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเมืองอิสตันบลู ที่ไม่ได้มีแค่เครื่องเทศจำหน่ายเท่านั้นแต่ยังมีขนมหวาน เตอร์กิช ดีไลท์ หลากหลายรสชาติให้เลือกอีกด้วย โดยมีวางจำหน่ายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะขายแบบชั่งกิโลที่ได้เห็นสีของเนื้อขนม และได้ชิมรสชาติของขนมก่อนซื้ออีกด้วย หรือแบบอยู่ในแพ็คเกจที่สวยงาม เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก และของขวัญได้ และที่สำคัญราคาของขนมเตอร์กิช ดีไลท์ ในตลาดแห่งนี้ไม่แพงอีกด้วย 

แต่ถ้าใครอยากทานขนมเตอร์กิช ดีไลท์จากร้านต้นตำรับต้องไปที่ร้านของเจ้าของขนมเลยค่ะที่ร้าน Ali Muhiddin | Haci Bekir ร้านขนมเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 200 ปี ซึ่งปัจจุบันยังเปิดขายอยู่โดยทายาทของนายฮาซิ เบอเกียร์ (Haci Bekir) รุ่นล่าสุดนั่นเอง โดยร้านนี้จะตั้งอยู่บนถนน Hamidiye Caddesi เมืองอิสตันบลู ประเทศตุรกี หรือถ้าไม่สะดวกในการเดินทางสามารถสั่งซื้อได้ทางออนไลน์ที่ www.hacibekir.com ถึงราคาของขนมจะสูงกว่าร้านทั่วไปในตลาด แต่ความอร่อยจากร้านต้นตำรับนั้นรับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน  

 

[ 10 อาหาร ตุรกี ขึ้นชื่อและเป็นอาหารประชาติตุรกี ที่ไม่ควรพลาด ]

 

และทั้งหมดนี้คือประวัติความเป็นมาของขนมหวานแสนอร่อย Turkish Delight ขนมหวานชื่อดังระดับโลกสัญชาติตุรกี ซึ่งปัจจุบันนิยมซื้อเป็นของฝาก และของขวัญมอบให้กับคนสำคัญในช่วงเวลาอันแสนพิเศษ ด้วยรสชาติที่มีให้เลือกมากกว่า 10 รสชาติ และแพ็คเกจที่สวยงามจึงทำให้เป็นหนึ่งในบรรดาของฝากที่ใครไปทัวร์ตุรกีจะต้องมีติดไม้ติดมือกลับมาฝากทางบ้านกันอย่างแน่นอน 

Powered by