ไม่ว่าจะนาฬิกาหรูหรือนาฬิกาคุณภาพเยี่ยม ใครๆ ก็มักจะนึกถึงนาฬิกาสวิส เป็นลำดับแรก แต่เพราะอะไรที่ทำให้นาฬิกา swiss made กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเที่ยงตรงและความหรูหรา และกลายเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลก ชื่อเสียงและมาตรฐานของ นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ เหล่านี้ไม่ได้มากันง่ายๆ แต่อย่างใด เพียงแต่ความเชื่อมั่นในตราสินค้า swiss made เท่านั้นที่ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนนั้นมีความน่าเชื่อถือและมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องซื้อนาฬิกาสวิส
![นาฬิกาสวิส Image1]()
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่หลายคนยอมเก็บเงินหลักแสนเพื่อซื้อหานาฬิกาสวิสรุ่นลิมิเต็ดหรือรุ่นหายาก แต่คนทั่วไปก็ยังมีข้อสงสัยว่าทำไมนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ จึงถูกมองว่าเหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด ดังนั้นลองมาหาคำตอบกันเลย
นาฬิกาสวิสเป็นงานคราฟต์ที่หายากยิ่ง
นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ มีคุณภาพที่แตกต่าง โดยเฉพาะในส่วนของกลไกนาฬิกา เช่น การใช้เกียร์โลหะ การใช้หมุดที่ทำจากวัสดุพิเศษที่มีความแข็งแรง ดังนั้นหากเทียบกับนาฬิกาทั่วไปที่มักใช้ชิ้นส่วนพลาสติก ก็ย่อมทำแบรนด์สวิสมีความคงทนแข็งแรงกว่ามากมาย นอกจากนี้เรื่องของความพิถีพิถันที่เรียกว่างานฝีมือ งานคราฟต์ หรืองานแฮนด์เมดเป็นส่วนสำคัญในการผลิต เพราะนาฬิกาสวิสแต่ละเรือนนั้นไม่ได้ใช้เครื่องจักรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นงานฝีมือที่ประณีต ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับเฉพาะแต่ละแบรนด์ กำลังการผลิตก็ไม่เยอะ ทำให้ราคาพุ่งสูงและยังหาซื้อได้ยากด้วยเช่นกัน
ผลิตจากวัสดุเหล็กกล้า 316L
เมื่อความไว้ใจของเหล่าผู้ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ จึงคงคุณค่าและคุณภาพไว้สม่ำเสมอไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปก็ตาม นาฬิกาสวิสส่วนมากนั้นเลือกที่จะใช้เหล็กกล้า 316L ในการผลิตนาฬิกา โดยเหล็กชนิดนี้เป็นเหล็กกล้าเกรดสูงที่แข็งแรงและทนทานมาก ที่สำคัญทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่าวัสดุทั่วไป ดังนั้นหากใครเลือกใช้นาฬิกาสวิสก็เปรียบเสมือนว่าคุณจะได้ใช้นาฬิกาที่ทนทานต่อการใช้งานมาก สึกหรอยาก ดังนั้นแม้ราคาจะสูงแต่มันก็จะอยู่คู่กับเราไปตราบนานเท่านาน
หน้าปัดนาฬิกาคงทนต่อการขีดข่วน
นาฬิกาที่เป็น swiss made ส่วนใหญ่มักจะใช้คริสตัลแซฟไฟร์เป็นหน้าปัด ซึ่งคุณสมบัติของวัสดุคริสตัลแซฟไฟร์นั้นก็ดีในแง่ความแข็งแรง เพราะเป็นวัสดุที่มีความทนทานและมีความแข็งสูง ทำให้บริเวณหน้าปัดของนาฬิกาที่ใช้วัสดุชนิดนี้ ทนต่อการขีดข่วนได้มาก แม้จะโดนกุญแจรถขูดโดยไม่ตั้งใจก็ยังไม่เกิดรอยได้ง่ายๆ ในขณะเดียวกันมีนาฬิกาหลายแบรนด์ที่พยายามลอกเลียนแบบ แต่ลดต้นทุนโดยใช้แร่คริสตัลชุบแข็งซึ่งมีราคาถูกกว่า แต่ผลก็คือ หน้าปัดไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร ดังนั้นใช้ไปเรื่อยๆ หน้าปัดก็อาจจะมีรอยขีดข่วนมากวนใจ
ข้อบังคับที่เข้มงวดเป็นตัวควบคุมคุณภาพ ในปี 2560 ได้มีการออกกฎระเบียบใหม่ว่านาฬิกาที่เป็น “swiss made” จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้ เช่น ต้นทุนการผลิต 60% ต้องเกิดขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์ การออกแบบทางเทคนิคและการเคลื่อนไหวของนาฬิกาต้องได้รับการพัฒนาในสวิตฯ กฎระเบียบใหม่เหล่านี้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และก็ทำคนรักนาฬิกาตัดสินใจเลือกซื้อ นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ เป็นลำดับต้นๆ นั่นเอง
นาฬิกาสวิสแบรนด์หรูที่คนรักนาฬิกาต้องมี
![นาฬิกาสวิส Image2]()
Audemars Piguet
![นาฬิกาสวิส Audemars Piguet Image3]()
นาฬิกาแบรนด์หรูที่มีอายุเป็นร้อยปี ก่อตั้งในปี 1875 และเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับนาฬิการุ่น The Royal Oak แบรนด์สวิสแบรนด์นี้ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เก่าแก่และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกาก็ว่าได้ ยิ่งคนดังระดับโลกอย่าง Jay-Z, Justin Bieber และ NBA All-Star เลือกที่จะสวมใส่ก็ทำให้เกิดกระแสวิ่งตามหาแบรนด์นี้อย่างเหลือล้น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ $15,452 ไปจนถึง $368,576 (ราวๆ 12 ล้านกว่าบาทเท่านั้นเอง)
Omega
![นาฬิกาสวิส Omega Image4]()
ชื่อเสียงอันยาวนานของแบรนด์ นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์นี้ ซึ่งมีอายุอานามกว่า 100 ปี โดยก่อตั้งเมื่อปี 1894 แต่มาโด่งดังจากการที่เป็นนาฬิกาเรือนแรกบนดวงจันทร์ โดย Neil Armstrong นักบินอวกาศผู้ได้สวมใส่นาฬิกาเรือนนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับรุ่น Speedmaster ของ Omega ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี นาฬิการุ่นนี้ก็ยังเป็นนาฬิกาที่คนตามหากันอยู่เสมอ เพราะเป็นนาฬิกาสปอร์ต มีระบบกลไกที่ทนทาน ประณีต และล้ำสมัยในทางเทคนิคเป็นอย่างยิ่ง
Patek Philippe
![นาฬิกาสวิส Patek Philippe Image5]()
อีกแบรนด์ที่สุดแสนจะโด่งดัง โดยเฉพาะกับเหล่าเซเลปชาวไทยที่ต้องมีคู่กายกันทุกคน นาฬิกาสวิสแบรนด์นี้โดดเด่นด้วยคุณภาพ เพราะเขาจัดการส่วนประกอบทุกชิ้นแบบงานคราฟต์ล้วนๆ ดังนั้นตัวงานจะมีความละเอียดและประณีตเป็นอย่างมาก ด้วยประวัติของแบรนด์กว่า 200 ปี (ก่อตั้งปี 1839) ก็ทำให้ Patek Philippe ครองใจคนรักนาฬิกาไม่เสื่อมคลาย
Rolex
![นาฬิกาสวิส Rolex Image6]()
แบรนด์หรูแบรนด์นี้น่าจะเป็น นาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ ที่คนไทยรู้จักกันดีมากที่สุด หากเทียบกับแบรนด์ด้านบน อาจจะบอกได้ว่า Rolex เป็นน้องใหม่ในวงการนาฬิกาก็ว่าได้ เพราะก่อตั้งเมื่อปี 1905 แต่ด้วยความที่เอาใจใส่ผู้บริโภค การผลิต Rolex แต่ละเรือนจึงเน้นการใช้งานได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นความเที่ยงตรงที่ Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้ง Rolex ได้ส่งการเคลื่อนไหวของนาฬิกาข้อมือไปยังหอดูดาว Kew-Teddington เพื่อรับรองความเที่ยงตรงของการทำงาน หรือจะเป็นคุณสมบัติการไขลานอัตโนมัติ และตัวเรือนกันน้ำในรุ่น Datejust ก็ทำให้ Rolex ครองใจคนรักนาฬิกาได้อย่างท่วมท้นเลยทีเดียว
[ 10 เมืองในสวิตเซอร์แลนด์น่าเที่ยว ดินแดนสวรรค์แห่งยุโรป ]
นาฬิกาสวิสเป็นนาฬิกาที่โดดเด่นและหรูหราที่สุดในโลก เป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพ ความแม่นยำ และงานฝีมือระดับสูง ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิการายอื่นอาจมีผลิตภัณฑ์ที่เทียบเคียงได้ แต่นาฬิกาสวิสยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับหลาย ๆ คนเนื่องจากชื่อเสียงในด้านคุณภาพและรูปแบบ ไม่ว่าคุณกำลังมองหานาฬิกาคลาสสิกหรือนาฬิกาแฟชั่น นาฬิกาสวิสก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเสมอ เหมาะเป็นของขวัญหรือเป็นของสะสมที่ยอดเยี่ยมสำหรับคอลเลกชันของคุณเอง