หากมีโอกาสได้เยือนเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ คิดวางแผนกันไว้ว่าอยากจะไปเมืองไหนมากที่สุด? แต่หากตอบตามตรงก็ต้องบอกว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ยากเอาการ เพราะสวิตเซอร์แลนด์ เมืองสวยๆ นั้นเพียบ แบบสูสีกันแทบทุกเมืองเลยก็ว่าได้ อีกอย่างต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบเที่ยวสไตล์ไหน เช่น เป็นคนรักธรรมชาติ ชอบหิมะ ก็จะแนะนำว่าควรไปเมืองที่มีเทือกเขาสูงอากาศดีๆ ส่วนคนที่ชอบแสงสีเสียง ก็อาจจะต้องไปโซนเมืองที่มีปาร์ตี้มีคนคึกคักอย่างเมืองซูริคหรือเจนีวา แต่หากคุณยังจินตนาการไม่ถูกว่าเมืองในสวิตเซอร์แลนด์เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวของเราอย่างไร งั้นตามมาดูอินไซด์ไขข้อสงสัยว่าสวิตเซอร์แลนด์ เมืองไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณบ้าง
เมืองในสวิตเซอร์แลนด์เมืองไหนจะเป็นไลฟ์สไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ
Zurich (ซูริค)
สำหรับสายช้อปและสีสันยามค่ำคืน สำหรับคนสายปาร์ตี้และชอบแฮงค์เอาต์สนุกๆ เมืองสวิตเซอร์แลนด์ใหญ่ๆ นั้นบอกเลยว่าเที่ยวได้หมด เพราะหากเป็นเมืองใหญ่ความสนุกสนานและ night life ก็มีให้คุณอย่างแน่นอน อาทิเช่น เมืองดังอย่าง Zurich ซึ่งแม้จะไม่ใช่เมืองหลวง แต่ก็เป็นเมืองใหญ่อารมณ์คล้ายๆ กรุงเทพฯ ที่สำคัญ Zurich ถือเป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านความบันเทิง มีทั้งผับบาร์ไนต์คลับหลากหลายประเภท จะสายแดนซ์หรือสายดริ้งค์ที่นี่ก็มีครบ ส่วนสายช้อปปิ้งบอกเลยว่า เมืองนี้เด็ดมากๆ เพราะไม่ว่าจะช้อปปิ้งของฝากแบบช็อกโกแลต ก็มีร้านอายุร้อยปีให้เราแวะมากมาย ส่วนใครอยากได้กระเป๋า นาฬิกาแบรนด์เนม (นาฬิกาสวิส) แนะนำให้ไปเดินเล่นย่าน Bahnhofstrasse อันโด่งดังก็จะเจอร้านดังๆ รออยู่เพียบ
Zermatt (เซอร์แมท)
สำหรับคนรักกีฬาเอาต์ดอร์และตะลุยหิมะ หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Zermatt เป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่งดงามราวกับเทพนิยาย แต่นอกจากจะสวยแล้ว ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองสกีที่มีเทือกเขา Matterhorn อันโด่งดัง พร้อมกับมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างการเล่นสกี สโนว์บอร์ด โดย Zermatt นั้นจัดเป็นพื้นที่ที่จัดกีฬาฤดูหนาวที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ นอกจากนี้ที่นี่ยังมี Matterhorn Glacier Ride ซึ่งเป็นกระเช้าไฟฟ้า 3S ที่สูงที่สุดในโลก สามารถส่งนักเล่นสกี 2,000 คนต่อชั่วโมงไปยัง Matterhorn Glacier ที่ระดับความสูง 3,883 เมตร ได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถสนุกสนานกับการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด รวมถึงลานสกีสำหรับเด็กๆ ได้ตลอดทั้งปี ด้วยพื้นที่เล่นสกีที่ระดับความสูงระหว่าง 2,500 ถึง 3,900 เมตร ที่สำคัญเราสามารถเล่นกิจกรรมฤดูหนาวได้แบบ 365 วันหรือตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
Grindelwald (กรินเดลวัลด์)
สายชิลชอบธรรมชาติและชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ใครได้ไปสวิตเซอร์แลนด์ เมืองสวิตเซอร์แลนด์นี้เป็นต้องมีตกหลุมรักอย่างแรง แม้จะโสดอยู่ก็ตาม เพราะเมือง Grindelwald จัดว่าเป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่สวยงามและมีธรรมชาติโอบล้อมแทบจะ 360 องศาก็ว่าได้ Grindelwald ตั้งอยู่ที่หุบเขา Lütschen ตัวเมืองเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แบบหมู่บ้าน Swiss Alpine ซึ่งเป็นกระท่อมไม้ที่มีหลังคาจั่วแหลม นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายรูปอีกหลายจุด เช่น บริเวณ North Face ที่เห็นเทือกเขา Eiger อยู่สูงตระหง่านที่ด้านบน ส่วนใครอยากตะลุยหิมะที่นี่ก็มีเนินสกีที่ใช้ร่วมกับ Wengen ได้ หรือใครอยากขึ้นยอดเขาแบบไม่ต้องปีนเอง ที่ Grindelwald ก็มีกระเช้ารับส่งเห็นวิวแบบพาโนรามาอีกด้วย แม้หลายคนชอบคิดว่า Grindelwald เป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์แบบเมืองทางผ่านเพื่อไปยังยอดเขาจุงเฟรา แต่หารู้ไม่ว่าเมืองสวิตเซอร์แลนด์นี้มันสวรรค์ชัดๆ
Bern (เบิร์น)
เจาะเวลาหาอดีตย้อนรำลึกกับเมืองโบราณ คนทั่วไปไม่รู้ว่าเมืองเล็กๆ น่ารักๆ อย่าง Bern นั้นเป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่มีศักดินาเป็นถึงเมืองหลวง แต่เมืองไม่ได้ดูล้ำยุคล้ำสมัย แต่กลับเป็นเมืองที่อนุรักษ์บ้านเรือนอาคารเก่าๆ ไว้เป็นอย่างดี จนได้รับการแต่งตั้งจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกเลยทีเดียว มี Unesco มาการันตีขนาดนี้ต้องมาเยือนให้ได้ เมือง Bern ถือเป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ เมืองเล็กๆ ที่สร้างขึ้นบนสันเขาหินทราย ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ Aare สามด้านที่ไหลผ่านหุบเขา มีสะพานสูงเชื่อมการเดินทาง ทำให้เราสามารถเดินสำรวจรอบเมืองสวิตเซอร์แลนด์สวยๆ ได้ง่ายๆ และมีจุดเช็กอินให้ถ่ายรูปอีกหลายจุด จุดท่องเที่ยวยอดฮิตก็คือ การเดินเลาะแม่น้ำ Aare และเดินเที่ยวในย่าน Old town เพื่อไปเจอกับน้ำพุโบราณ รูปปั้นเก่าแก่ หอคอย และหอนาฬิกาที่มีชื่อเสียง รวมถึงอาจจะแวะไปเยี่ยมชมบ้านไอน์สไตน์ด้วยก็ได้หากมีเวลาพอ
Lugano (ลูกาโน)
สายเที่ยวสวิตฯ แต่อยากได้บรรยากาศอิตาลี อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อนี้กันสักเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่า Lugano จะทำให้คุณตื่นตะลึงกับความงามที่ผสมผสานกันระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี เนื่องจากเมือง Lugano นั้นเป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่อยู่ติดกับชายแดนอิตาลีนั่นเอง ทั้งอาหาร ภาษา รวมไปถึงบรรยากาศก็คล้ายๆ กับ Lake Como ของอิตาลี ผสมกับ Lake Geneva ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองดังยังไงอย่างงั้น ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ เมืองสวิตเซอร์แลนด์นี้เป็นรัฐทางตอนใต้ที่มีภาษาอิตาลีเป็นภาษาราชการอีกด้วย ทะเลสาบแสนจะเงียบสงบอย่าง Lake Lugano นั้นโอบล้อมไปด้วยภูเขา นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นทิวเขาสูงชันหรือเป็นป่าทึบ ซึ่งถือเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวหลายคนจึงนิยมการเดินป่าหรือปีนเขาเพื่อชื่นชมความงามตามธรรมชาติ และหากมีเวลาเหลือ เรายังสามารถนั่งรถไฟเข้าไปยัง Milan ประเทศอิตาลี โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึง Milan แล้ว
Geneva (เจนีวา)
เมืองในสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้นอกจากจะสวยแล้วยังมีความสำคัญระดับโลก เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศมากกว่า 20 แห่ง แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ เรื่องของทัศนียภาพและสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกแหวกแนวไม่ซ้ำใคร เพราะไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหน ก็จะเจอองค์กรดังๆ อย่าง กาชาดสากลและองค์การสหประชาชาติ ซึ่งถูกตกแต่งประดับประดาไว้อย่างสวยงาม สวิตเซอร์แลนด์ เมืองสวิตเซอร์แลนด์นี้ยังมีดีในเรื่องธรรมชาติ ที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบเจนีวา น้ำพุ Jet d'Eau และเทือกเขาแอลป์
Lausanne (โลซาน)
หากคุณกำลังมองหาเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีบรรยากาศย้อนยุค เต็มไปด้วยพื้นที่ประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งในย่านเมืองเก่าและโบสถ์ที่งดงาม ที่เมือง Lausanne แห่งนี้น่าจะเป็นที่เที่ยวที่ดีสำหรับคุณ นอกจากย่าน Old Town ที่งดงามแล้วเมืองนี้ยังเป็นเมืองแห่ง โอลิมปิกอีกด้วย อีกทั้งยังมีประวัติอันยาวนาน ย้อนกลับไปในสมัยชาวเคลต์และโรมันปกครองในอดีตหลายร้อยหลายพันปี ปัจจุบันเมืองสวิตเซอร์แลนด์นี้กลายเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ
Thun (ทูน)
ถือเป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่สุดแสนจะโรแมนติก แม้จะไม่ใช่เมืองใหญ่แต่ก็โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงามอย่างมากมาย เพราะทะเลสาบสวิตเซอร์แลนด์ เมือง Thun นั้นสวยจนทำให้ใครหลายคนต่างก็ตกหลุมรัก ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสกับความงามแบบนี้ก็คือ การล่องเรือในทะเลสาบ Thun นั่นเอง หลังจากล่องเรือเสร็จก็สามารถเดินเที่ยวและชมความงามในย่าน Old Town รวมถึงปราสาท Thun (Schloss Thun) อันโด่งดังได้อีกด้วย
Montreux (มองเทรอส์)
หากเอ่ยถึงเมืองแสนชิลในสวิตเซอร์แลนด์ เมือง Montreux น่าจะติดอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน เพราะด้วยความที่เป็นเมืองสวยๆ ติดทะเลสาบ จนกลายเป็น Riviera ในฝั่งสวิตฯ ซึ่งมีทางเดินที่มีต้นไม้และดอกไม้โอบล้อมตลอดทางของทะเลสาบ จึงทำให้หลายโซนในเมืองนี้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันโดดเด่น จนถึงขนาดมีศิลปินชื่อดังอย่าง Charlie Chaplin ตัดสินใจมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ถึง 25 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีสถานที่โด่งดังอย่างปราสาท Chillon Castle และไร่องุ่นที่เป็นมรดกโลกอีกด้วย
St.Moritz (ซังคท์โมริทซ์)
หากนึกถึงฤดูหนาวและคริสต์มาส ขอยกให้ St.Moritz เป็นเมืองในสวิตเซอร์แลนด์ที่เหมาะกับการฉลองเฉลิมเทศกาลแห่งความสุขในหน้าหนาว เพราะเมือง St. Moritz แห่งนี้มีภูมิอากาศที่มีความหนาวเย็นและมีหิมะตกค่อนข้างเยอะ จนกลายเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาว แถมยังเป็นเมืองที่มีสกีรีสอร์ทที่พิเศษที่สุดในประเทศ โดยมีทางสกียาว 350 กิโลเมตร และมีจุดเริ่มต้นที่ลาดชันที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสด้วยการตกแต่งไฟอย่างสวยงาม รวมถึงตลาดคริสต์มาสและกิจกรรมมากมายในช่วงปลายปีอีกด้วย
สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ที่งดงาม ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก จากทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบในสวิส ไปจนถึงสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองต่างๆ เช่น เบิร์นและโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์มีบางสิ่งที่จะมอบให้กับทุกคน ไม่ว่าคุณกำลังมองหาการผจญภัย การผ่อนคลาย หรือทั้งสองอย่างผสมผสานกัน สวิตเซอร์แลนด์เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาเยือน ด้วยเมืองและกิจกรรมที่หลากหลาย มีบางสิ่งสำหรับทุกคน