การเดินทางด้วยรถไฟในประเทศญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ค่อนข้างสะดวกรวดเร็ว และตรงเวลา เพราะระบบรถไฟญี่ปุ่นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทั่วถึงทุกภูมิภาค ยิ่งในยุคปัจจุบันมีรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen Train) หรือที่เราเรียกกันเล่น ๆ ว่า “รถไฟหัวกระสุน” (Bullet Train) ซึ่งสามารถทำความเร็วได้ถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิ่งทำให้การเดินทางถึงที่หมายไวไม่ต่างสมญานามของมันเลย ระบบรถไฟฟ้าญี่ปุ่นไม่ได้พัฒนาเฉพาะความรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังพัฒนาความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารเพื่อรองรับการใช้บริการที่มากขึ้นตามลำดับ
กำเนิดรถไฟหัวกระสุน : Shinkansen
เส้นทางเดินรถ Shinkansen
การเลือกที่นั่งในShinkansen
การซื้อตั๋ว Shinkansen
กำเนิดรถไฟหัวกระสุน : Shinkansen
รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) เดิมชื่อว่า “Tokaido Shinkansen” แปลว่า รถไฟสายใหม่ เดิมประเทศญี่ปุ่นมีการใช้รถไฟมาก่อนจะมีรถไฟชินคันเซ็นอยู่แล้ว การพัฒนารถไฟด้วยการออกแบบให้รถไฟมีความเร็วสูงเกิดขึ้นอย่างจริงจังภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อประเทศญี่ปุ่นต้องการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจให้ทัดเทียมชาติตะวันตก ซึ่งในการพัฒนาดังกล่าวย่อมต้องการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์การขยายตัวทางการขนส่งสินค้า และผู้คนที่มีจำนวนมากขึ้น Shinkansen จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานั้นในการทำหน้าที่เชื่อมต่อเส้นทางระยะไกลให้รวดเร็วเพื่อประหยัดเวลามากขึ้น
รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen Train) “ฮิคาริ” หมายเลข 1 และ 2 เริ่มใช้ในประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกช่วงที่มีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1964 โดยเปิดเส้นทางแรก คือ สายโตเกียว – โอซาก้า ด้วยความเร็วเริ่มต้นที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงครองตำแหน่งรถไฟที่เร็วที่สุดในโลกในเวลานั้น และค่อย ๆ พัฒนาเส้นทางเพิ่มเติมขึ้นเรื่อย ๆ จนในปัจจุบันมีเส้นทางรถไฟชินคันเซ็นอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ส่วนในเรื่องของความเร็วของ Shinkansen Trainนั้น ก็ได้ทำให้เส้นทางโตเกียว – โอซาก้าที่เคยใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงครึ่ง เหลือเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น และยังมีการพัฒนาความเร็วอย่างต่อเนื่อง
เส้นทางเดินรถ Shinkansen
รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen Train) แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามลักษณะการจอดตามสถานีต่าง ๆ ดังนี้
- โนโซมิ (Nozomi) จะจอดเฉพาะสถานีหลัก ๆ เท่านั้น เช่น ชินากาวะ (Shinagawa) ชินโยโกฮามา (Shin-Yokohama) นาโกย่า (Nagoya) เกียวโต (Kyoto) และ ชินโอซาก้า (Shin-Osaka) เป็นต้น
- ฮิคาริ (Hikari) จะจอดในสถานีหลักเหมือนกับโนโซมิ แต่จะจอดในสถานีย่อยเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง
- โคดามะ (Kodama) จะจอดในทุก ๆ สถานีตลอดเส้นทาง
ส่วนเส้นทางการวิ่งของรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen Train) ที่ให้บริการทั้งหมด 9 สายทั่วประเทศญี่ปุ่น ได้แก่
- สายซันโย ชินคันเซ็น (Sanyo Shinkansen) ต้นทาง ชินโอซาก้า (Shin Osaka) ปลายทาง ฮากาตะ (Hakata)
- สายคิวชู ชินคันเซ็น (Kyushu Shinkansen) ต้นทาง ฮากาตะ (Hakata) ปลายทาง คาโงะชิมะซูโอ (Kagoshima chuo)
- สายโฮะกุริกุ ชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen) ต้นทาง คานาซาวะ (Kanazawa) ปลายทาง โตเกียว (Tokyo)
- สายนิชิ คิวชู ชินคันเซ็น (Nishi Kyushu Shinkansen) ต้นทาง ทะเคะโอะอนเซ็น (Takeo-onsen ) ปลายทาง นางาซากิ (Nagasaki)
- สายโจเอะสึ ชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) ต้นทาง ทากาซากิ (Takasaki) ปลายทาง นีงาตะ (Niigata)
- สายโทโฮะกุ ชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) ต้นทาง โอมิยะ (Omiya) ปลายทาง นะซุชิโอบะระ (Nasushiobara)
- สายโทไกโด ชินคันเซ็น (Tokaido Shinkansen) ต้นทาง โตเกียว (Tokyo) ปลายทาง ชินโอซาก้า (Shin Osaka)
- สายยามากาตะ ชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) ต้นทาง โตเกียว (Tokyo) ปลายทาง ยามากาตะ (Yamagata)
- สายฮอกไกโด ชินคันเซ็น (Hokkaido Shinkansen) ต้นทาง ชินอาโอโมริ (Shin-Aomori) ปลายทาง ชิน-ฮาโกดาเตะ-โฮกุโตะ (Shin-Hakodate-Hokuto)
การเลือกที่นั่งในShinkansen
แม้การเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นจะถึงที่หมายด้วยความรวดเร็วเท่ากัน แต่ความสะดวกสบายที่ผู้โดยสารจะได้รับในระหว่างเดินทางมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทที่นั่งที่ได้เลือกไว้ ซึ่งรถไฟชินคันเซ็นมีที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทั้งหมด 4 ประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีราคาที่แตกต่างกันตามลำดับการบริการที่ผู้โดยสารจะได้รับ
- Unreserved Seat แบบไม่ได้สำรองที่นั่งล่วงหน้า คือ ผู้โดยสารขึ้นไปหาที่นั่งบนรถไฟโดยไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า ข้อดี คือ ราคาถูกสุด ข้อเสีย คือ ต้องไปวัดดวงหาที่นั่งเอาเอง ถ้ามีผู้โดยสารจำนวนมากอาจจะไม่ได้นั่ง
- Reserved Seat แบบสำรองที่นั่งล่วงหน้า ข้อดี คือ ผู้โดยสารมีที่นั่งแน่นอนไม่ต้องลุ้น ข้อเสีย คือ ราคาจะแพงกว่าแบบ Unreserved Seat
- Green Car seats เทียบได้กับที่นั่งชั้น business ที่มีความสะดวกสบาย ขนาดที่นั่งกว้างกว่า 2 แบบแรกและปรับเอนนอนได้ มีบริการเครื่องดื่ม เหมาะกับการเดินทางในเส้นทางไกล ข้อเสีย คือ ราคาจะแพงกว่า 2 แบบที่กล่าวมาแล้ว
- Gran Class เทียบได้กับที่นั่งชั้น First Class ที่นั่งปรับเอนนอนได้มากกว่า มีบริการอาหารเครื่องดื่ม สาเก ผ้าห่ม ผ้าปิดตา แต่จะมีเฉพาะในรถไฟสาย Hokkaido Shinkansen, Tohoku Shinkansen และ Hokuriku Shinkansen เท่านั้น ข้อเสีย คือ ราคาแพงกว่าแบบอื่น ๆ
การซื้อตั๋ว Shinkansen
ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วรถไฟชินคันเซ็นได้ โดยผ่านช่องทาง ดังนี้
ซื้อตั๋วโดยสารผ่านตู้อัตโนมัติซึ่งมีอยู่ตามสถานีรถไฟที่มีรถไฟชินคันเซ็น โดยมีขั้นตอนการซื้อตั๋ว ดังนี้
- เลือกภาษาอังกฤษ และประเภทที่นั่ง
- เลือกตั๋วโดยสารรถไฟชินคันเซ็น และเลือกเส้นทาง
- เลือกสถานีต้นทาง ระบุวันที่ จำนวนผู้โดยสาร เลือกชนิดตั๋วเที่ยวเดียว หรือไป-กลับ
- เลือกระหว่างบัตรขึ้นรถไฟและบัตรรถไฟด่วนพิเศษ หรือ เฉพาะบัตรรถไฟด่วนพิเศษ
- ยืนยันการซื้อตั๋ว
- เลือกวิธีการชำระเงิน และหากผู้โดยสารต้องการใบเสร็จ ให้กด receipt แล้วรอรับใบเสร็จ
- เสร็จแล้ว รอรับบัตร
การซื้อตั๋วผ่านระบบออนไลน์ ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วรถไฟชินคันเซ็นผ่านระบบออนไลน์จากนอกประเทศญี่ปุ่นได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/overview/ ค้นหารายละเอียดของตั๋วรถไฟที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วรถไฟธรรมดาทั้งระบบจองที่นั่ง (reserved seat) และ ไม่จองที่นั่ง (unreserved seat) รวมถึงตั๋วรถไฟพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (เช่น JR WEST RAIL PASS) ก็สามารถซื้อจากหน้าเว็บไซต์ได้
- ให้ผู้โดยสารเลือกได้ว่าจะจองจากการเลือกรถไฟ หรือจากสถานีที่เราต้องการขึ้นลง กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ
- ระบบจะขึ้นข้อมูลให้ผู้โดยสารเลือกประเภทที่นั่ง ถ้าเลือกที่นั่งแบบ reserved seat (จองที่นั่ง) จะต้องจ่ายค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น (ตัดเงินในบัตรทันทีที่กดจอง) แต่ถ้าเป็นที่นั่งแบบ Unreserved seat ผู้โดยสารสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายโดยบัตรเครดิตทันที หรือจ่ายที่สถานีรถไฟในภายหลัง
- กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสาร ชื่อ-สกุล E-mail และรหัสประจำตัว 4 หลัก เพื่อใช้ในการรับตั๋ว (ห้ามลืมรหัส)
- หน้าสุดท้าย ผู้โดยสารเลือกว่าจะชำระค่าโดยสารแบบใด หากจองที่นั่งแบบ reserved seat จะต้องจ่ายโดยบัตรเครดิตทันที แต่หากเลือกที่นั่งแบบ Unreserved seat ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตั๋วทันที และหลังจากการจองเสร็จเรียบร้อย ผู้โดยสารจะได้รับอีเมล์ยืนยันการจองสำเร็จ
เมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว สามารถรับตั๋วรถไฟที่จองไว้ได้ที่ตู้ออกตั๋วอัตโนมัติ (Midori Ticket Machine) กรณีต้องการออกตั๋วรถไฟพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (เช่น JR WEST RAIL PASS) ผ่านตู้ออกตั๋วอัตโนมัติ จะสามารถทำได้เฉพาะตู้ที่มีระบบอ่านข้อมูลพาสปอร์ต (JR West Passport Reader) และตั๋วบางชนิดอาจไม่สามารถออกโดยตู้ออกตั๋วอัตโนมัติได้ หากผู้โดยสารมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่สำนักงานจำหน่ายตั๋ว (Midori no madoguchi) เพิ่มเติมได้
การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นด้วยรถไฟรถไฟชินคันเซ็นในปัจจุบัน ทำให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยเหตุผลหลายประการ 1) มีการพัฒนาเส้นทางใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นจนมีเส้นทางเชื่อมต่อไปทั่วทุกภูมิภาค 2) ความเร็วของรถไฟทำให้การเดินรถตรงต่อเวลาก็ช่วยทำให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางได้ค่อนข้างแน่นอน และประหยัดเวลาในการเดินทางได้อย่างมาก 3) ความสะอาดของรถไฟทำให้ผู้โดยสารมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยจากโอกาสในการติดเชื้อโรคต่าง ๆ 4) ความปลอดภัยในการให้บริการแม้จะเป็นรถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูง แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีอุบัติเหตุ หรือการตกราง ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้โดยสารไว้วางใจใช้บริการรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen Train) เสมอมา