อีกไฮไลต์ห้ามพลาดอย่างยิ่งสำหรับใครที่ได้มาเที่ยวยังเมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นนั่นคือ การนั่งรถไฟสายโรแมนติก เกียวโต ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดความอัศจรรย์ชนิดที่ตลอดเส้นทางคุณจะได้ยินคำว่า “สุโค่ย” หรือถ้าชาวไทยก็ “สุดยอด” ไปตลอดจนถึงปลายทางกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าขอพาทุกคนมาทำความรู้จักและสัมผัสกับความงดงามที่เชื่อว่าหาจากรถไฟสายอื่นไม่ได้อย่างแน่นอน
ทำความรู้จักกับรถไฟสายโรแมนติก เกียวโต
ลักษณะของขบวนรถไฟที่ใช้โดยสารบนเส้นทางโรแมนติก
ความงดงามเมื่อได้สัมผัสบนขบวนรถไฟสายโรแมนติก เกียวโต
จุดเด่นของแต่ละสถานีในการนั่งรถไฟสายโรแมนติก เกียวโต
ทำความรู้จักกับรถไฟสายโรแมนติก เกียวโต
รถไฟสายโรแมนติก เกียวโต มีชื่อว่า “รถไฟสายซากาโนะ” (Sagano Romantic Train) ซึ่งคนญี่ปุ่นก็จะเรียกเป็น ซากาโนะ โทรอกโกะ อยู่บริเวณอาราชิยาม่า ถือเป็นรถไฟที่ถูกแยกออกมาจากขบวนเดินทางสายปกติเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงดงามอันแสนแปลกตา แบ่งออกเป็น 4 สถานี ได้แก่ Saga Torokko Station, Arashiyama Torokko Station, Hozukyo Torokko Station และ Kameoka Torokko Station ระยะทางรวมประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ต้นสถานีไปจนถึงสุดสถานีราว 25 นาที ค่าบริการจะอยู่ที่ผู้ใหญ่ 880 เยน และเด็ก 440 เยน ทั้งนี้สามารถจองล่วงหน้าได้ (เฉพาะตู้ปกติ) เพื่อเลือกที่นั่งริมหน้าต่างแล้วจะได้ฟินไปกับบรรยากาศสุดแสนพิเศษ
ลักษณะของขบวนรถไฟที่ใช้โดยสารบนเส้นทางโรแมนติก
สำหรับตัวขบวนรถไฟสายโรแมนติก เกียวโตจะยังคงความมีเสน่ห์ของเรื่องราวในอดีตเอาไว้ด้วยการใช้หัวจักรไอน้ำโบราณที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบัน ตู้โดยสารแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
- ตู้นั่งปกติมีทั้งหมด 4 ตู้ บรรยากาศด้านในบ่งบอกถึงความคลาสสิก สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้จากเคาน์เตอร์จองตั๋ว JR West
- ตู้พิเศษที่หลังคาเป็นแบบใสโล่ง 1 ตู้ สร้างความแปลกตาและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันแสนงดงามของธรรมชาติตลอดเส้นทางการนั่ง แต่จองได้เฉพาะหน้าสถานีเท่านั้น
ความงดงามเมื่อได้สัมผัสบนขบวนรถไฟสายโรแมนติก เกียวโต
หลังจากทำความรู้จักกับขบวนรถไฟกันมาพอสมควรแล้ว คราวนี้ก็ขอพูดถึงความสวยงามตลอด 2 ข้างทางที่คุณจะได้สัมผัสเมื่อโดยสารรถไฟสายโรแมนติก เกียวโตกันบ้าง ตัวรถไฟจะเริ่มออกจากสถานี Saga Torokko Station เลียบไปตามแม่น้ำโฮซุกาวะ ลอดใต้อุโมงค์มืดสนิทเพียงไม่กี่อึดใจเมื่อพ้นอุโมงค์ออกมาสิ่งที่พบเห็นตรงหน้าคือความสวยงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์เอาไว้แบบไม่ต้องแต่งแต้มจินตนาการใด ๆ ทั้งสิ้น
ช่วงเวลายอดนิยมในการมาเยือนเส้นทางสุดแสนโรแมนติกแห่งนี้มีได้ทั้งช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งคุณจะได้พบกับความงดงามของดอกซากุระที่แข่งกันบานสะพรั่งสีชมพูสดใส ส่วนใครที่ไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็มีโอกาสสัมผัสกับความงดงามไปอีกแบบกับใบไม้เปลี่ยนสีดุจภาพวาดที่ฉาบด้วยสีส้ม แดง เหลือง ซึ่งในระหว่างที่กำลังชมวิวต้นไม้เพลิน ๆ อยู่นั้นยังสามารถพบเห็นวิถีชีวิตทั่วไปของชาวบ้านที่แล่นเรืออยู่ในแม่น้ำโบกมือทักทายกันได้ตลอดทางอีกด้วย
จุดเด่นของแต่ละสถานีในการนั่งรถไฟสายโรแมนติก เกียวโต
อย่างที่บอกไปว่าตลอดเส้นทางของรถไฟสายโรแมนติก เกียวโตแห่งนี้จะแบ่งออกเป็น 4 สถานี ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลือกนั่งกันยาว ๆ ไปจนสุด แต่ใครที่อยากซึมซับบรรยากาศแบบจัดเต็มก็สามารถลงไปเที่ยวชมได้ตามอัธยาศัยซึ่งแต่ละแห่งก็มีไฮไลต์เด็ดห้ามพลาดอยู่ไม่น้อยเลย
1. Saga Torokko Station
เป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายโรแมนติก โตเกียว ปกติแล้วหากตั้งใจเดินทางมาที่นี่ก็ต้องนั่งรถไฟสาย JR Sagano Line มาลงยังสถานี Saga Arashiyama จากนั้นเดินต่อมาอีกเล็กน้อยก็มองเห็นอาคารอิฐสีแดง สามารถซื้อตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางไปชมความงดงามและความโรแมนติกได้เลย รวมถึงยังมีตั๋วล่องเรือแม่น้ำโฮซุกาวะด้วย อย่าลืมถ่ายรูปคู่กับเปียโนและออร์แกนยักษ์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญในการพัฒนางานศิลปะด้านดนตรียุคศตวรรษที่ 19 รวมถึงนิทรรศการแสดงทางรถไฟจำลอง Diorama Kyoto Japan ด้วย
2. Arashiyama Torokko Station
สถานีต่อมาต้องไม่พลาดกับการไปชมวิวอันแสนงดงามของ “เส้นทางสู่ป่าไผ่” นั่งรถลากเพื่อชมความเงียบสงบและอดีตอันแสนรุ่งเรืองของเมืองเกียวโต และความพิเศษคือต้องเดินขั้นบันไดประมาณ 60 ขั้น จากสถานีไปสู่ชานชาลาให้ได้ออกกำลังขากันเล่น ๆ ด้วย
3. Hozukyo Torokko Station
เป็นสถานีที่ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานแขวนข้ามแม่น้ำโฮซุกาวะ สามารถแวะไปถ่ายรูปเก็บความประทับใจ รวมถึงยังเจอเหล่าบรรดาตัวทานูกิที่พร้อมเข้ามาทักทายคุณตั้งแต่ก้าวมาบริเวณชานชาลากันเลยทีเดียว ด้วยอากาศเย็นสบายและทิวทัศน์ดีงามจึงมีเส้นทางเดินป่า รวมถึงทางเดินชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและชมใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วง
4. Kameoka Torokko Station [N1]
สถานีสุดท้าย (สำหรับคนเริ่มต้นจากต้นทาง) จะได้พบกับอดีตที่ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะของเมืองแห่งปราสาทภายใต้การปกครองของ อาเกจิ มิตสึฮิเดะ ซึ่งบริเวณสถานีนี้เป็นจุดขึ้น-ลงเรือล่องแม่น้ำโฮซุกาวะ รวมถึงมีโรงแรมที่พักแบบออนเซ็นอีกต่างหาก ใครที่อยากเปิดประสบการณ์ล่องเรือชมเมืองสวย ๆ ก็ลองซื้อตั๋วเพิ่มเติมจากสถานี Saga Torokko Station ได้เลย รวมถึงยังมีการนั่งรถลากชมเมืองให้ได้เก็บภาพความประทับใจและชมวิถีชีวิตของผู้คนก็ดีงามมาก