พาเดินตลาดหลวงพระบาง ชมสินค้าและอาหารพื้นเมืองของชาวลาว

จุดเด่นของหลวงพระบางหากจะพูดว่าคือตลาดหลวงพระบางก็คงไม่ผิดนัก เพราะที่นี่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และธรรมชาติอันสงบ เพราะแม้จะมีพื้นที่กว่า 100 ไร่ แต่หลวงพระบางกลับอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม มีธารน้ำใสสะอาด และภูเขาโอบล้อมเอาไว้ พร้อมทุ่งนาขั้นบันไดที่ช่วยเสริมทัศนียภาพของหลวงพระบางให้น่ามอง เพราะอาชีพการทำนาถือเป็นรากฐานของเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทำให้เมืองนี้ถูกอนุรักษ์ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศลาว โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปะและหัตถกรรมดั้งเดิมที่สืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน นอกจากผลิตผลทางเกษตรกรรมที่สดใหม่จากท้องนา และฟาร์มที่อยู่รอบเมืองแล้ว วิถีการใช้ชีวิตของผู้คนที่นี่ที่ยังคงเนิบช้า ดูไม่เร่งร้อนเหมือนกับโลกภาพนอก ล้วนก่อให้เกิดเสน่ห์อันน่าหลงใหลของหลวงพระบางขึ้น และคงไม่มีที่ใดเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับชีวิตของผู้คนได้ดีไปกว่าตลาดหลวงพระบางอีกแล้ว

โดยตลาดหลวงพระบางนั้น สามารถแบ่งตามช่วงเวลาที่เปิดให้บริการได้ ดังนี้

ตลาดหลวงพระบางยามเช้า 

เป็นตลาดหลวงพระบางที่มีเสน่ห์มาก เพราะสามารถสะท้อนภาพวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวหลวงพระบางได้อย่างชัดเจน เพราะชาวหลวงพระบางนั้นขึ้นชื่อเรื่องการอนุรักษ์รักษารูปแบบวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ตลาดหลวงพระบางในยามเช้านั้นเปรียบได้กับซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ของชาวเมือง ที่นี่จึงกลายแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะทั้งชาวพื้นเมือง และนักท่องเที่ยวต่างนิยมแวะมาเยี่ยมซื้อหาสินค้าพื้นเมือง หรือเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบางในยามเช้าด้วยการตักบาตรทำบุญกับคณะสงฆ์อีกด้วย และนอกจากตลาดหลวงพระบางแห่งนี้จะเปรียบเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของชาวหลวงพระบางแล้ว ตลาดแห่งนี้ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย

ตลาดหลวงพระบางยามเช้าคือตลาดสดในรูปแบบดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศลาว ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งที่ได้รับความนิยม อย่างพระธาตุพูสี พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง สินค้าส่วนมากของตลาดหลวงพระบางในยามเช้าคือผัก ผลไม้ ขนมพื้นบ้าน และข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ถือเป็นตลาดของคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสินค้าหัตถกรรมแบบชาวลาวจำหน่าย โดยเฉพาะผ้าซิ่นซึ่งเป็นเครื่องนุ่งห่มที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชาวลาว ถือเป็นสินค้ายอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบซื้อหากลับไปเป็นของฝาก ดังนั้นภาพวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของตลาดหลวงพระบางซึ่งเป็นภาพที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน จึงเป็นเสน่ห์ที่ลึกซึ้งของเมืองมรดกโลกแห่งนี้

การเดินทางจากไปตลาดหลวงพระบางในยามเช้า หากนักท่องเที่ยวพักในโรงแรมใจกลางเมืองก็สามารถ เดินเท้ามาได้เลย เนื่องจากตัวตลาดเช้าตั้งขนานกับถนนสีสว่างวงศ์ ข้างโรงแรมรามายนะ และวัดใหม่สุวันนะพูมาราม หรือใจกลางหลวงพระบางเลย โดยตลาดเช้าจะเริ่มเปิดเวลาประมาณ 05.00 น. - 10.00 น. ช่วงสายผู้ที่อยู่ในตลาดหลวงพระบางส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยว เพราะชาวลาวเมื่อจับจ่ายซื้อของเรียบร้อยแล้วก็จะรีบเดินกลับบ้านกันทันที

ตลาดมืดหลวงพระบาง หรือตลาดหลวงพระบางตอนกลางคืน

นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมออกมาหาซื้ออาหารมื้อเย็นราคาไม่แพง และของฝากที่น่าสนใจกันมาก ตัวตลาดตั้งบนถนนข้าวเหนียวที่เริ่มต้นตั้งแต่วัดใหม่สุวรรณภูมารามบนถนนศรีสว่างวงศ์ต่อเนื่องไปตามใจกลางเมือง และสิ้นสุดบริเวณพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง (พระราชวังเดิม) มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 1 กิโลเมตร เปิดช่วงเวลา 17:00 น. - 23:00 น. โดยช่วงเวลานี้ถนนสายนี้ แปรเป็นตลาดหลวงพระบางช่วงกลางคืนที่มีแผงร้านค้าวางเรียงรายกว่า 500 แผง แต่ละร้านจะมีร่มสีน้ำเงินและสีแดงสลับกันไป เพราะทั้ง 2 สีเป็นสีประจำธงชาติของประเทศลาวการจัดวางร้านค้าจะแบ่งเป็น 2 โซนหลัก คือโซนสำหรับขายของที่ระลึก และโซนขายอาหารพื้นเมือง ของที่ระลึกของที่นี้มีทั้งผ้าทอลายพื้นเมือง สินค้าศิลปหัตถกรรม เสื้อยืดหรือภาพวาดที่มีสัญลักษณ์ของหลวงพระบาง และยังโชว์การปักภาพ และทำสร้อยข้อมือให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย การเดินทางเพื่อไปยังตลาดหลวงพระบางในช่วงกลางคืนนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้ามาจากที่พักใจกลางเมืองหลวงพระบางได้สะดวก โดยช่วงที่มีความคึกคักเป็นพิเศษคือช่วง 20.00 น. เป็นต้นไป

แม้ว่าจะดูเป็นสถานที่ธรรมดา แต่ตลาดหลวงพระบางนั้นกลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนชื่นชอบ เพราะตลาดหลวงพระบางนั้นผู้คนต่างดำเนินชีวิตภายใต้วิถีธรรมชาติอันเงียบสงบ แต่ทว่ากลับคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามที่ผูกพันกับพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง ภาพชาวหลวงพระบางจับจ่ายซื้อของใช้ที่จำเป็นจากตลาดหลวงพระบางแล้วออกตักบาตรพระสงฆ์คงเป็นภาพที่คุ้นตาของนักท่องเที่ยวหลายคน ส่วนในช่วงกลางคืนก็มีตลาดหลวงพระบางให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายซื้อของฝาก หรือของอร่อยๆ แบบพื้นเมืองของชาวหลวงพระบางได้อย่างสบาย เพราะอากาศไม่ร้อนมาก แต่เพราะเมืองนี้ค่อนข้างเงียบสงบมาก อาจไม่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีมากนัก แต่หากท่านชื่นชอบที่จะได้ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความเนิบช้า พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ รับรองเลยว่าหลวงพระบางจะสามารถตอบโจทย์ของท่านได้อย่างแน่นอน