อย่างที่รู้กันดีว่ารูปแบบการเดินทางในกรุงโตเกียว และแทบทุกพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นนิยมใช้ระบบราง หรือรถไฟ เพื่อความสะดวก ไม่ต้องเผชิญกับปัญหารถติด แถมรถไฟของที่นี่ยังตรงเวลาแบบสุด ๆ ไปเลย แต่ปัญหาที่หลายคนกังวลใจมากนั่นคือการดูแผนที่รถไฟโตเกียว เพราะถ้าลองกางออกมาแล้วจะเห็นหลากสี หลายเส้นทางตีกันมั่วไปหมด จึงขอแนะนำวิธีที่จะช่วยให้ดูแล้วไม่หลง (หรือหลงน้อยที่สุด) แค่กางแผนที่ JR Pass โตเกียว ออกมาแล้วไปกันเลย
ตามที่เกริ่นเอาไว้ว่าจริง ๆ ถ้ากางแผนที่ JR Pass โตเกียว หรือแผนที่รถไฟโตเกียวฉบับไหน ๆ ออกมาก็ตามต้องเกิดอาการสับสนและงงกันเป็นไก่ตาแตกกับข้อมูลเส้นทางมหาศาล เส้นนั้นตัดเส้นนี้ สายไหนผ่านสถานีใดบ้าง แค่คิดก็ถึงกับมึน อย่างไรก็ตามอย่าพึ่งตกใจเพราะเบื้องต้นหากอธิบายแบบเข้าใจง่ายให้ลองแยกกลุ่มบริษัท หรือผู้ให้บริการออกก่อน โดยแยกออกได้ 3 เจ้า ดังนี้
นอกนั้นก็จะเป็นสายยิบย่อยของผู้ให้บริการเจ้าอื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อไปจนทั่วเมืองและออกไปนอกเมืองโตเกียว ซึ่งเมื่อถามว่าวิธีสังเกตสายรถไฟบนแผนที่รถไฟโตเกียวต้องทำอย่างไร? คำตอบแบบบ้าน ๆ ก็คือให้ดูที่สีของเส้นทางรถไฟเป็นหลัก รวมถึงชื่อสายที่จะมีการระบุบริษัทผู้ให้บริการเอาไว้ด้วย
อย่างไรก็ตามอาจต้องสร้างความเข้าใจเพิ่มเติมอีกนิดคือ บางบริษัทก็เลือกใช้สีที่ซ้ำกันกับอีกบริษัท ทางที่ดีหากกังวลว่าเวลาเดินทางจริงแล้วจะหลงอาจมีการจำชื่อสาย โลโก้ เอาไว้ด้วยก็ดี เผื่อต้องถามคนแถวนั้นแล้วไม่เกิดความสับสนนั่นเอง
เมื่อเข้าใจข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนที่ JR Pass โตเกียว และแผนที่รถไฟคร่าว ๆ กันแล้ว คราวนี้ก็ขอแนะนำเทคนิคที่จะช่วยให้การใช้งานแผนที่ของทุกคนไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ไม่หลงทางจนเสียเวลา หรืออย่างน้อยถ้าหลงจริงก็ยังหาเส้นทางไปต่อได้อย่างถูกต้อง
ลำดับแรกหากคุณกางแผนที่รถไฟในโตเกียวออกมาแล้วต้องรู้ว่าตนเองจะเดินทางจากสถานีต้นทางแห่งใดไปยังสถานีปลายทางไหน จากนั้นสังเกตเส้นทางว่ามีรถไฟสายไหนผ่านบ้าง เช่น JR, Toei, Tokyo Metro กรณีต้องเปลี่ยนสถานีอย่าดูที่จุดตัด แต่ให้สังเกตจุดเชื่อมต่อว่าต้องลงสถานีใดแล้วไปต่อสายไหน
ความโชคดีของคนในยุคนี้หากคุณเดินทางไปเที่ยวโตเกียวครั้งแรก หรือเกิดความสับสน แนะนำให้พกอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วเปิดแอป GPS ต่าง ๆ เพื่อดูวิธีเดินทางกันได้เลย ซึ่งแอปยอดฮิตคงหนีไม่พ้น Google Maps แค่คลิกเปิดเลือกวิธีเดินทางโดยรถไฟจากจุดที่คุณอยู่ก็สามารถเดินทางไปยังปลายทางได้อย่างง่ายดายแล้ว แต่ทางที่ดีก็เช็ควิธีดูแผนที่ JR Pass โตเกียว เอาไว้บ้าง เผื่อสงสัยจะได้ถามคนอื่นได้อย่างถูกต้อง
ด้วยเส้นทางรถไฟที่พาดผ่านทุกพื้นที่ของกรุงโตเกียวจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากอยากเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวตามแผนที่รถไฟโตเกียว แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีก็มีแหล่งยอดฮิตมาแนะนำ บอกเลยต้องประทับใจและอยากไปเติมเต็มอรรถรสให้กับตนเองแน่นอน
ขอบอกว่าใครมาโตเกียวแล้วเน้นเดินทางด้วยรถไฟ นี่คือศูนย์กลางที่ไม่ควรพลาด ด้วยมีรถไฟและจุดเชื่อมต่อกันหลายสายมาก ซึ่งใครมาที่นี่จะแวะสวนอูเอโนะเพื่อชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สักการะขอพรที่วัดเบนเทนโดะ (Bentendo Temple) ศาลเจ้าโกโจเท็น (Gojoten Shrine) หรือรอบ ๆ ก็ยังมีโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของใช้ ของที่ระลึกต่าง ๆ อีกเพียบ หรือจะเดินไปตลาดอาเมโยโกะก็ไม่มีปัญหา ลงสถานีอูเอโนะแล้วสนุกกันได้เลย
สำหรับสายเกม ฟิกเกอร์ ของเล่น หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทั้งมือ 1 และมือ 2 ต้องไม่พลาดกับการเดินทางมายังย่านอากิฮาบาระแห่งนี้ เพราะถือเป็นศูนย์รวมความทันสมัยและไฮเทคเอาไว้แบบครบครัน แถมยังมีร้านขนม คาเฟ่ และร้านอาหารแสนอร่อยได้ลองลิ้มชิมรสกันอีกต่างหาก เดินทางง่ายมีรถไฟหลายสายลงที่สถานีอากิฮาบาระชิล
อีกหนึ่งย่านสำคัญและเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักช้อปปิ้ง ไปดูความสับสนวุ่นวายของ 5 แยกชิบูย่า รวมถึงช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม เครื่องสำอาง ของใช้ทั่วไป ของฝากต่าง ๆ ไปจนถึงร้านอาหารชื่อดังและร้านสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ อีกนับไม่ถ้วน ใช้เวลาทั้งวันเที่ยวย่านนี้กันเพลิน กางแผนที่รถไฟโตเกียวแล้วนั่งมาลงสถานีชิบูย่ากันเลย ซึ่งใครจะเดินต่ออีกนิดเพื่อไปแถวคาบูกิโชเพื่อดื่มด่ำกับแสงสี สัมผัสบรรยากาศอันแสนครึกครื้นก็ลงได้ที่สถานีนี้เช่นกัน
อีกแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับคนที่อยากเปิดประสบการณ์เดินทางด้วยรถไฟ ลองกางแผนที่ JR Pass โตเกียว จากนั้นจิ้มปักหมุดไปยังสถานี Meiji Jingumae กันเลย ขอบอกว่ามาเที่ยวที่นี่จะได้แบ่งออกเป็น 2 พาร์ท คือ ความคึกคักของถนนสายแฟชั่นที่เหล่าวัยรุ่นจะออกมาเดินเที่ยวเล่น แต่งคอสเพลย์กันเต็มอัตรา หรือจะแวะไปศาลเจ้าเมจิ ป่ากลางเมืองใหญ่ มีความสงบร่มรื่นก็ตามสะดวก
