Ginzan Onsen | กินซัง ออนเซ็น หมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ที่ยามากาตะ Cover Page

กินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) เมืองน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัด Yamagata หนึ่งในที่แช่ออนเซ็นในญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ เนื่องจากรายล้อมด้วยธรรมชาติป่าเขาอย่างสวยงาม ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยเรียวกังสไตล์ดั้งเดิมที่เป็นอาคารไม้ตั้งเรียงรายกันอยู่ทั่วบริเวณ ที่สำคัญบรรยากาศโดยรวมนั้นมีความเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศถึงตั้งใจมาเที่ยวออนเซ็น ญี่ปุ่นที่กินซัง ออนเซ็นอย่างล้นหลาม ซึ่งออนเซ็นที่ญี่ปุ่นแห่งนี้จะมีไฮไลต์อะไรที่ห้ามพลาดบ้าง หรือมีข้อมูลเกี่ยวกับกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) อะไรที่ควรรู้บ้างนั้น ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย  

 

ยาวไปอยากเลือกอ่าน
+
ช่วงไหนเหมาะไปเที่ยวกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) มากที่สุด
ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen)
ข้อมูลการเดินทางไปยัง กินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen)

ช่วงไหนเหมาะไปเที่ยวกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) มากที่สุด

 

Ginzan Onsen (กินซัง ออนเซ็น) Image1

 

จริง ๆ แล้วเราสามารถไปเที่ยวกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) ได้ทุกฤดู แต่ในช่วงฤดูหนาวจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เพราะตามท้องถนนของเมืองออนเซ็นญี่ปุ่นแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนตัดกับสีน้ำตาลของอาคารเรียวกังที่ทำจากไม้โบราณ และมีการประดับประดาแสงไฟ แสงตะเกียงส่องระยิบระยับสะท้อนน้ำพุร้อนในบ่ออย่างสวยงาม ที่สำคัญเมื่อร่างกายที่หนาวเหน็บได้สัมผัสกับการแช่ออนเซ็นอุ่น ๆ แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายมากอีกเท่าตัว ทั้งนี้ในช่วงฤดูร้อนก็มีนักท่องเที่ยมประมาณหนึ่งนิยมมาเที่ยวที่นี่ เช่นกัน เนื่องด้วยเมืองออนเซ็นที่ตั้งท่ามกลางอยู่กลางหุบเขา คุณก็จะได้สัมผัสกับอากาศที่มีอุณหภูมิเย็นกว่าปกติ ฉะนั้นถ้าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน แล้วอยากหนีอากาศร้อน ๆ ในเมืองใหญ่ ก็สามารถมาพักผ่อนที่เมืองออนเซ็นแห่งนี้ได้เช่นกัน  

 

ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen)

 

Ginzan Onsen (กินซัง ออนเซ็น) Image2

 

แช่เท้าที่ Warashiyu

 

Ginzan Onsen (กินซัง ออนเซ็น) Image3

 

ไฮไลต์แรกที่คุณจะได้พบเมื่อมาถึงกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) ก็คือ Warashiyu หรือจุดแช่ออนเซ็นเท้าสาธารณะ คุณสามารถแช่เท้าได้โดยไม่ต้องเสียสักเยนเดียว ซึ่งถ้าเดินทางมาเหนื่อยรู้สึกเมื่อยล้า ก็เพียงถอดรองเท้าถอดถุงเท้า แล้วค่อย ๆ หย่อนขาลงไปในบ่อข้างทางนี้ คุณก็จะได้สัมผัสกับน้ำอุ่น ๆ ช่วยผ่อนคลายร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณฝ่าเท้า และสัมผัสได้ว่าผิวบริเวณเท้ามีความนุ่มลื่นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้สปาเท้า หรือจุดแช่ออนเซ็นเท้าแห่งนี้ตั้งอยู่กลางแจ้ง ทำให้อุณหภูมิน้ำในบ่ออาจขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดูได้ เช่น ในฤดูร้อน น้ำในบ่อจะมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง จึงขอแนะนำว่าให้ลองใช้มือทดสอบความอุ่นร้อนของน้ำก่อน แล้วค่อยหย่อนขาลงไป มิเช่นนั้นคุณอาจรู้สึกว่าน้ำในบ่อนั้นร้อนจนทบไม่ไหวได้นั่นเอง  

 

แช่ออนเซ็นที่ Public Bath Shirogane-yu

 

Ginzan Onsen (กินซัง ออนเซ็น) Image4

 

สำหรับใครที่ต้องการแช่ออนเซ็นแบบประหยัดงบ ไม่ต้องเข้าพักที่เรียวกังหรู ๆ ที่กินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) นั้นก็มีที่แช่ออนเซ็นสาธารณะให้บริการเช่นกัน ซึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นที่ Public Bath Shirogane-yu อาคารสามเหลี่ยมโดดเด่นที่เป็นผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมของสถาปนิกชื่อดังอย่าง Kenho Kuma ภายในมีความกว้างขวางประมาณหนึ่ง แบ่งเป็น 2 ชั้น โดยชั้น 1 เป็นที่แช่ออนเซ็นสำหรับสุภาพบุรุษ และชั้น 2 เป็นที่แช่ออนเซ็นสำหรับสุภาพสตรี โดยแต่ละห้องนั้นสามารถรองรับผู้เข้าใช้บริการได้มากถึง 4-5 คน พร้อมกัน และสามารถมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชมวิวขณะแช่ออนเซ็นได้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการแช่ออนเซ็นที่นี่จะเริ่มต้นที่ 200 เยน สำหรับเด็ก และ 500 เยนสำหรับผู้ใหญ่  

 

ทานขนมปังแกงกะหรี่ที่ Haikara-san Street

 

Ginzan Onsen (กินซัง ออนเซ็น) Image5

 

นอกเหนือไปจากการแช่ออนเซ็นให้สบายตัวแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่ก็คือการเดินเล่นหาของกินที่ Haikara-san Street ซึ่งจะมีร้านค้าร้านอาหารให้คุณได้เข้าไปลิ้มลองมากมาย แต่อาหารที่โดดเด่นที่สุดก็จะเป็นขนมปังแกงกะหรี่ทำจากข้าวสาลี Nebarigoshi ข้าวท้องถิ่นของจังหวัดยามากะตะ โดยจะเป็นขนมปังสอดไส้แกงกะหรี่รสชาติเผ็ดพอเหมาะ ไปทอดกรอบจนสุก ให้สัมผัสกรอกนอกนุ่มในละลายนปากคล้ายทานขนมโมจิ เรียกได้ว่าเป็นสตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่เพียงแต่จะมีรสชาติที่อร่อย อิ่มท้องแล้ว ยังมาในราคาที่ประหยัดเงินในกระเป๋าเพียง 210 เยนเท่านั้นอีกด้วย แนะนำว่าให้มาเดินถนนเส้นนี้ในช่วงเช้านะ เพราะถ้ามาสายหน่อยขนมปังแกงกะหรี่จะขายดี และหมดเร็วมาก ๆ  

 

ชมความสวยงามของ Shirogane-no-Taki Falls

 

Ginzan Onsen (กินซัง ออนเซ็น) Image6

 

อย่างที่บอกไปว่ากินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) เป็นที่แช่ออนเซ็นที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาธรรมชาติอันร่มรื่น ซึ่งในด้านหลังของเมืองก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกสูง 22 เมตรอย่างน้ำตก Shirogane-no-Taki Falls ที่มีความพิเศษคือ เวลาที่น้ำตกไหลลงมาจากด้านบนสู่เบื้องล่างนั้น น้ำจะแยกออกเป็นสองสายด้วยกัน โดยด้านหนึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลเชี่ยวไหลแรงจนเกิดฟองลงมา ส่วนอีกด้านจะเป็นสายน้ำเอื่อย ๆ ซึ่งใครที่ได้ไปเห็นกับตาก็จะรู้สึกทึ่งในธรรมชาตินี้เป็นอย่างมาก โดยคุณสามารถชมวิวอันน่าทึ่งนี้ได้จากหอสังเกตการณ์ริมฝั่ง สำหรับการมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้สามารถมาได้ทุกฤดูเลย เพราะคุณจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในช่วงฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ น้ำตกแห่งนี้ก็จะถูกห้อมล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวขจี กลับกันถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เหล่านี้ก็จะกลายเป็นสีแดงเพลิงสลับเหลืองสดใส หรือถ้าเป็นฤดูหนาวก็อาจมีหิมะขาวโพลนเกาะตามกิ่งไม้สีน้ำตาลที่มองแล้วเข้ากันได้อย่างลงตัว  

 

ข้อมูลการเดินทางไปยัง กินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen)

 

Ginzan Onsen (กินซัง ออนเซ็น) Image7

 

การเดินทางไปยังกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) นิยมเดินทาง 3 วิธีด้วยกัน คือ วิธีที่สะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงเล็กน้อยก็คือการโดยสารเครื่องบินมาลงที่สนามบิน Yamagata จากนั้นนั่งรถบัสมายัง Ginzan Onsen ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประม๊า 70-90 นาทีเท่านั้น หรือจะเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างการนั่งรถไฟชินคันเซ็น แนะนำขึ้นที่สถานีต้นทางโตเกียว ขบวน JR Yamagata Shinkansen (Tsubasa) ปลายทางเป็นสถานี JR Oishida ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 3 นาที จากนั้นต่อด้วยการขึ้นรถบัสยังกินซัง ออนเซ็นใช้ระยะเวลาประมาณ 40 นาที ซึ่งรถบัสที่ให้บริการจากสถานี JR Oishida นั้นจะมีเพียง 5 เที่ยวต่อวันเท่านั้น ฉะนั้นก่อนเดินทางควรตรวจสอบตารางเวลาล่วงหน้าทุกครั้ง  

ส่วนอีกหนึ่งวิธีก็คือการนั่งรถบัสด่วนที่อาจมีขั้นตอนการเดินทางซับซ้อน และใช้ระยะเวลานานกว่า กลับกันก็ประหยัดกว่านั่งรถไฟได้เกือบเท่าตัว โดยจะเริ่มจากขึ้นรถบัสบริเวณทางออก Yaesu ที่สถานีโตเกียวเพื่อมุ่งหน้ามายังสถานี Sendai ซึ่งจะใช้ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง จากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนมาขึ้นรถบัส Yamako หรือ สาย Tokkyu 48 Liner เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Shinjo สำหรับเส้นทางนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที  ก่อนที่สุดท้ายจะลงที่ป้าย Obanazawa Machiaijo เพื่อขึ้นรถบัส Obanazawa City Bus มายังกินซัง ออนเซ็นซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 35-45 นาที และเพื่อให้ไปถึงเรียวกังที่จองไว้เร็วที่สุด และสะดวกสบายที่สุดนั้น ก็ขอแนะนำให้ตรวจสอบกับเรียวกังที่จองไว้ว่ามีบริการรับ-ส่งฟรีจากสถานี JR Oishida หรือไม่

 

และทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen) ว่าเหมาะไปเที่ยวช่วงฤดูไหน มีไฮไลต์เด็ด ๆ อะไรที่ห้ามพลาด รวมถึงสามารถเดินทางไปยังกินซัง ออนเซ็นได้ด้วยวิธีใดบ้างที่เรานำมาฝากในวันนี้  เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในออนเซ็นของประเทศญี่ปุ่นที่น่าไป Checkin  มาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? ถ้ามีแพลนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อไหร่ ก็อย่าลืมปักหมุดมาที่ Ginzan Onsen แห่งนี้นะ รับรองว่าจะได้รับประสบการณ์การแช่ออนเซ็นที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน  

Powered by