เมื่อไปถึงญี่ปุ่นแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือการได้แช่ออนเซ็นฟินๆ ในแหล่งธรรมชาติสวยๆ ค่ะ เพราะออนเซ็นที่ญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของสรรพคุณทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแช่เพื่อบำบัดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ การแช่เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า หรือแม้แต่การแช่เพื่อบำรุงผิวพรรณ ทั้งนี้แหล่งออนเซ็นที่มีชื่อในญี่ปุ่นก็มีมากมายให้เลือกใช้บริการค่ะ แต่ถ้าอยากสัมผัสการแช่ออนเซ็นญี่ปุ่นจริงๆ เราขอแนะนำ 10 สถานที่แช่ออนเซ็นญี่ปุ่นที่มาแล้วต้องประทับใจ
วิธีแช่ออนเซ็นให้เนียนเหมือนคนญี่ปุ่น
ไหนๆ จะมาแช่ออนเซ็นทั้งที เราต้องมีการเตรียมตัวกันก่อนเพื่อจะได้สัมผัสกลิ่นไอของการแช่ออนเซ็นญี่ปุ่นกันอย่างเต็มที่ซึ่งสิ่งสำคัญหลักๆ ของการแช่ออนเซ็นญี่ปุ่นคือการรู้รักษามารยาทและปฏิบัติตามกฏกติกานั่นเองค่ะ
ควรเตรียมตัวให้เรียบร้อยก่อนลงบ่อ ถ้าผมยาว รวบผมให้เรียบร้อย เมื่อเข้าไปถึงออนเซ็นแล้วอย่าจ้องมองร่างกายของคนอื่นค่ะ เพราะเป็นการเสียมารยาทอย่างแรง จากนั้นอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดก่อน ข้อสำคัญไม่สวมเสื้อผ้าหรือชุดว่ายน้ำลงแช่ในบ่อเว้นแต่ว่าจะได้รับอนุญาตแล้ว ส่วนผ้าขนหนูที่เตรียมมาใช้สำหรับวางบนศรีษะค่ะ ห้ามนำลงไปซักในบ่อนะคะ
เมื่อไปถึงบ่ออย่าคุยกันเสียงดัง อย่าพรวดพราดลงบ่อ ให้ค่อยๆ หย่อนตัวลงเบาๆ และไม่ชวนกันเล่นน้ำในบ่อ หรือสาดน้ำใส่กัน และไม่ควรนำอาหาร เครื่องดื่ม และมือถือเข้าไปถ่ายรูปในห้องแช่ออนเซ็น
เมื่อแช่เสร็จแล้วควรเช็ดตัวให้แห้งก่อนออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นเปียก นั่งพักสักครู่ให้ร่างกายปรับอุณภูมิ จากนั้นค่อยอาบน้ำ แต่งตัวและดื่มน้ำเกลือแร่ หรือน้ำเย็นๆ ให้ร่างกายสดชื่นค่ะ
เอาล่ะเมื่อเตรียมพร้อมกันแล้ว เราไปตะลุยออนเซ็นญี่ปุ่นกันเลยค่ะ
1. เบปปุ ออนเซ็น(Beppu Onsen), โออิตะ
ออนเซ็นญี่ปุ่นแห่งแรกเริ่มต้นกันที่เบปปุออนเซน ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ ซึ่งขึ้นชื่อมากเรื่องของออนเซ็นเรียกได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งแช่ออนเซ็นญี่ปุ่น อันดับ 1 ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เปบปุมีแหล่งน้ำแร่มากถึง 8 บ่อ โดยแต่ละบ่อก็จะมีเอกลักษณ์พิเศษแตกต่างกันไป อาทิเช่นบ่อทราย,บ่อไอน้ำ และบ่อโคลน โดยออนเซ็นของที่นี่จะมีความทันสมัย และมีสถานที่ให้เลือกใช้บริการหลากหลายทั้งแบบ indoor และ outdoor ไม่ว่าจะเป็นเรียวกัง โรงอาบน้ำสาธารณะ หรือในโรงแรมที่พักค่ะ ใครที่ได้มีโอกาสมาที่นี่คงต้องลองใช้บริการแช่ออนเซ็นกันสักครั้งนะคะเพราะถ้ามาแล้วไม่ได้แช่ออนเซ็นก็ถือว่ายังมาไม่ถึงเบปปุค่ะ
2. ยุฟุอิน ออนเซ็น(Yufuin Onsen), โออิตะ
ยุฟุอิน ออนเซ็นตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเบปปุมากนัก เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาริมแม่น้ำยุฟุ และเป็นเมืองพักผ่อนยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บรรยากาศดีมีทั้งวิวภูเขา แม่น้ำ และทะเลสายที่ขึ้นชื่ออย่าง ทะเลสาบคินรินโกะ ที่นี่มีที่พักให้เลือกใช้บริการหลายแห่งค่ะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแช่ออนเซ็นที่โรงแรมหรือใช้บริการที่เรียวกังก็ได้ ซึ่งออนเซ็นของที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของการบำบัดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย คลายความเหนื่อยล้า และอาการปวดเกี่ยวกับเส้นประสาท หากใครที่อยากสัมผัสการแช่ออนเซ็นญี่ปุ่น ในบรรยากาศรีสอร์ทเล็ก ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ และแช่ออนเซ็นฟิน ๆ ที่นี่เหมาะมากๆ ค่ะ
3. กินซัง ออนเซ็น(Ginzan Onsen), ยามากาตะ
กินซังออนเซ็นหมู่บ้านออนเซ็นญี่ปุ่นโบราณกลางหุบเขาที่มีอายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ในเมืองโอบานาซาวะ (Obanazawa) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ที่นี่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของออนเซ็นญี่ปุ่นในเรื่องของทัศนียภาพที่สวยงาม โอบล้อมด้วยภูเขาและมีแม่น้ำไหลผ่านกลางหมู่บ้าน โดยออนเซ็นของที่นี่จะเป็นแบบเรียวกังสไตล์ดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นอาคารไม้สูง3-4 ชั้น กับผนังปูนสีขาวสะอาด ให้ฟีลของความสงบได้เป็นอย่างดี กลางคืนของที่นี่ต้องบอกว่าสวยงามมากเพราะเรียวกังทุกแห่งจะเปิดไฟจากตะเกียง ยิ่งในช่วงหน้าหนาวมีหิมะด้วยแล้วต้องบอกเลยว่าที่นี่มีบรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆ และนอกจากเรียวกังสำหรับแช่ตัวแล้วที่ยังมีห้องอาบน้ำสาธารณะอีกสองแห่ง และ บ่อแช่เท้าฟรีที่เรียกว่า Ashi-yu อยู่รอบๆ หมู่บ้านอีกด้วย ซึ่งสรรพคุณของกินซัง ออนเซ็นนั้นสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนัง โรคหลอดเลือดแข็งตัวและแผลต่างๆ อาทิเช่นแผลจากการถูกไฟไหม้ แผลจากการถูกของมีคมบาด เป็นต้น
4. นิวโตออนเซ็น(Nyuto Onsen), อาคิตะ
นิวโตะ ออนเซ็นเป็นออนเซ็นญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของเขตอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต(Towada-Hachimantai) เมืองเซ็มโบะคุ จังหวัดอาคิตะ ที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานกว่า ร้อย ๆ ปี เรียวกังของที่นี่จะมีสไตล์แบบดั้งเดิม และโดดเด่นด้วยออนเซ็นสีขาวขุ่นเหมือนสีน้ำนม จนได้ชื่อว่าเป็นออนเซ็นน้ำนมนั่นเอง ที่นี่ประกอบด้วยออนเซ็น7 แห่ง ที่มีสรรพคุณแตกต่างกันไป โดยสรรพคุณหลักๆ ช่วยในเรื่องของการรักษาโรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้ รวมไปถึงเกี่ยวกับเส้นเลือดอุดตันอีกด้วย ใครที่อยากลองแช่ออนเซ็นญี่ปุ่นท่ามกลางธรรมชาติ นิวโตออนเซ็นก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีค่ะ
5. ฮาโกเน่ ออนเซ็น(Hakone Onsen), คานางาวะ
พูดถึงออนเซ็นญี่ปุ่น แล้วคงจะต้องมีชื่อของฮาโกเน่ ออนเซ็นอยู่ด้วย เพราะที่นี่เป็นแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ ซึ่งไม่ไกลจากโตเกียว ทำให้การเดินทางไปฮาโกเน่ สะดวกมากๆ แถมทัศนียภาพสวยงามสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และจากที่นี่เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย ที่นี่มีบ่อออนเซ็นอยู่หลายแห่ง และมีน้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณแตกต่างกันถึง 20 ชนิด ทำให้แช่ออนเซ็นญี่ปุ่น ที่ฮาโกเน่มีความหลากหลายให้เลือกและเป็นพิกัดออนเซ็นญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
6. โดโกะ ออนเซ็น(Dogo Onsen), เอฮิเมะ
ไปต่อกันที่โดโกะออนเซ็นใน จังหวัดเอฮิเมะ ค่ะ ที่นี่เป็นออนเซ็นญี่ปุ่น ที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นออนเซ็นแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ได้ถูกจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ ว่ากันว่าน้ำพุร้อนของที่นี่เกิดจากตำนานนกกระสาสีขาวได้รับบาดเจ็บ และลงแช่ออนเซ็นทำให้อาการดีขึ้นและหายในที่สุด ชาวบ้านจึงพากันมาแช่บ้างและเกิดเป็นโดโกะออนเซ็นในที่สุด ซึ่งสรรพคุณของออนเซ็นที่นี่โดดเด่นในเรื่องบำรุงผิวพรรณ คลายกล้ามเนื้อ และรักษาโรคผิวหนังค่ะ
7. คุซัทสึ ออนเซ็น(Kusatsu Onsen), กุมมะ
คุซัทสึ ออนเซ็นเป็น 1 ใน 3 ของออนเซ็นญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในจังหวัดกุมมะ (Gumma) ซึ่งที่นี่มีเรียวกังให้เลือกใช้บริการหลายแห่ง คุซัทสึ ออนเซ็นมีบ่อน้ำพุร้อนที่ผุดออกมาเองโดยธรรมชาติ และจะใช้น้ำเก็นเซ็นคาเคนากาชิ หมายถึงน้ำออนเซ็นที่ไม่ผ่านการผสมน้ำเปล่าเพื่อปรับอุณหภูมิใดๆ ดังนั้นจึงมีสรรพคุณในการรักษาร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และนอกจากออนเซ็นแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ อาทิเช่น เล่นหิมะ เล่นสกี ชมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น "ยูโมมิโชว์" หรือจะสวมชุดยูกาตะเดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ ที่ "ยูบะทาเกะ" ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของคุซัทสึ ออนเซ็นก็ฟินไปอีกแบบค่ะ
8. คิโนซาคิ ออนเซ็น(Kinosaki Onsen), เฮียวโงะ
ออนเซ็นญี่ปุ่นลำดับต่อไปคือ คิโนซากิ ออนเซ็นตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ ที่นี่เป็นออนเซ็นเก่าแก่ของญี่ปุ่น มีอายุกว่า 1,300 ปี ซึ่งยังคงอนุรักษ์ความงดงามแบบดั่งเดิม ที่นี่มีออนเซ็นให้แช่ฟิน ๆ กันหลายแห่งค่ะ ทั้งแบบเรียวกังหรือในโรงแรม แต่ถ้าจะให้ฟินสุดๆ ก็ต้องใช้บริการออนเซ็นแบบดั้งเดิมที่มีด้วยกันทั้งหมด 7 บ่อค่ะ โดยสรรพคุณของออนเซ็นที่นี่โดดเด่นในเรื่องของการบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รักษาอาการฟกช้ำ ระบบทางเดินหายใจและระบบประสาท และนอกจากที่นี่จะมีชื่อเสียงด้านออนเซ็นแล้ว อาหารก็อร่อยอีกด้วย โดยเฉพาะ ปูมัตสึบะ ที่มาแล้วต้องไม่พลาดกันนะคะ
9. เกโระ ออนเซ็น(Gero Onsen), กิฟุ
เกโระ ออนเซ็นเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นญี่ปุ่นชื่อดังตั้งอยู่ในเมืองเกโระ จังหวัดกิฟุ ค่ะ ที่นี่มีออนเซ็นให้เลือกแช่กันหลายแห่งมีทั้งแบบห้องอาบน้ำกลางแจ้ง, ในโรงแรมที่พัก, เรียวกัง, ออนเซ็นสาธารณะ และออนเซ็นสำหรับแช่เท้าค่ะ สำหรับเกโระออนเซ็นไม่ได้โด่งดังแค่เรื่อง ออนเซ็นเท่านั้นที่นี่ยังเป็นพิกัดยอดนิยมในการจัดงานอีเว้นท์ตามฤดูกาลอีกด้วย รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอาทิเช่น วัดออนเซนจิ (Onsenji Temple) และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งหมู่บ้านกัสโช (Gassho Village/Gero Onsen Gassho Mura) เป็นต้น ออนเซ็นที่นี่โดดเด่นในเรื่องของน้ำที่บริสุทธิ์ไม่มีการผสมผสาน หรือ ทันจุนเซ็น ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวพรรณ ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกออนเซ็นที่นี่ว่าเป็นออนเซ็นแห่งความงาม หรือ "บิจิน โนะยุ" ที่เมื่อแช่เสร็จผิวพรรณจะเนียนนุ่ม ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อย ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี และมีสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ
10. โนโบริเบทสึ ออนเซ็น(Noboribetsu Onsen), ฮอกไกโด
หากใครได้มาเที่ยวฮอกไกโด ต้องบอกว่าอย่าพลาดออนเซ็นญี่ปุ่น อันดับหนึ่งอย่าง โนโบริเบทสึ ออนเซ็นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya National Park ทำให้ที่นี่มีทัศนียภาพที่สวยงาม และด้วยความที่ อยู่ใกล้กับ หุบเขาจิโงคุดานิ (Jigokudani) หรือ หุบเขานรก ที่มีน้ำพุร้อนที่เดือดและร้อนตลอดเวลา ทำให้โนโบริเบทสึมีน้ำพุร้อนมากถึง 11 ชนิด และมีออนเซ็นเปิดให้บริการมากมาย ซึ่งแต่ละที่ก็ มีสรรพคุณที่แตกต่างกันไป เรียกได้ว่าหากมาที่นี่แล้วสามารถเลือกแช่ออนเซ็นได้หลากหลายตามความต้องการเลยล่ะค่ะ
และนี่คือ 10 ที่แช่ออนเซ็นญี่ปุ่นยอดนิยมที่เรานำมาฝากกันค่ะ ใครที่มีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมวางแผนไปแช่ออนเซ็นกันสักครั้งนะคะ จะเลือกไปแบบค้างสักคืน หรือแบบไปกลับก็ตามสะดวก รับรองเลยว่าจะได้รับประสบการณ์แช่ออนเซ็นญี่ปุ่น ที่น่าประทับใจกลับมากันอย่างแน่นอนค่ะ