เกโระ ออนเซ็น (Gero Onsen) เมืองออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ ระหว่างเมืองทาคายาม่า และนาโกย่า มักเป็นที่พักระหว่างทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวสองเมืองนี้ โดยเกโรออนเซ็น Gero Onsen นั้นถือเป็นหนึ่งในออนเซ็น ญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี ซึ่งในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น 3 ออนเซ็นในญี่ปุ่นที่ดีที่สุด ร่วมกับอาริมะออนเซ็นในโกเบ และคุซัทสึออนเซ็นในกุนมะเลยทีเดียว โดยได้รับเกียรตริการยกย่องนี้จากฮายาชิ ราซาน นักปราชญ์และนักวิชาการขงจื๊อชื่อดังในสมัยนั้น แต่จะมีความพิเศษเหนือจากออนเซ็นที่อื่นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาทำความรู้จักกับ Gero Onsen ออนเซนที่ญี่ปุ่น ไปพร้อม ๆ กันได้เลย
ทำไมเกโระ ออนเซ็น Gero Onsen ถึงได้รับความนิยม
แหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือน Gero Onsen (เกโระ ออนเซ็น)
ข้อมูลการเดินทางไปยัง Gero Onsen (เกโระ ออนเซ็น)
ทำไมเกโระ ออนเซ็น Gero Onsen ถึงได้รับความนิยม
สำหรับน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุไหลจากมาจากใต้ดินตามธรรมชาติ ถูกเรียกว่า Bijin no Yu ซึ่งแปลว่า น้ำที่สวยงาม ชาวพื้นถิ่นเชื่อกันว่าน้ำเหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวของคนที่ได้ลงไปแช่ไปอาบนั้นมีแต่ความนุ่มลื่นและเรียบเนียน เนื่องจากน้ำพุที่ไหลมานั้นมีอุณหภูมิสูงถึง 84 องศาเซลเซียส มีความใสแจ๋ว กลิ่นหอมจาง ๆ คล้ายสบู่ ทำให้หลายคนที่เลือกมาแช่ออนเซ็นที่ Gero Onsen แห่งนี้หวังว่าจะได้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าแล้ว ยังจะได้ผิวพรรณที่สุขภาพดีกลับไปอีกด้วยนั่นเอง
แหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือน Gero Onsen (เกโระ ออนเซ็น)
แช่ออนเซ็น Gero Onsen
มาถึงแหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดแล้ว ก็ต้องไม่พลาดการแช่ออนเซ็นอย่างแน่นอน! ซึ่งที่ Gero Onsen นั้นมีบริการแช่ออนเซ็นสาธารณะ หรือที่เรียกว่า Rotenburo ไว้ 3 ที่ใหญ่ ๆ ด้วยกันให้คุณได้แช่ออนเซ็นสบาย ๆ พร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามรอบๆ น้ำพุร้อน ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการแช่ออนเซ็นประเภทนี้จะเหมาะกับผู้ที่มาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างคืน แนะนำเข้ารับบริการแช่ออนเซ็นตามเรียวกังที่มีความส่วนตัวจะดีที่สุด ทั้งนี้ถ้าคุณต้องการเข้าใช้บริการแช่ออนเซ็นหลาย ๆ ที่ แนะนำว่าให้ซื้อบัตรผ่านทางที่เรียกว่า Onsen Pass หรือ Yumeguri Tegata ไว้ล่วงหน้าเลย ซึ่งสามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟ จากนั้นก็สามารถใช้เข้าไปแช่ออนเซ็นที่โรงอาบน้ำ หรือที่เรียวกังภายใน Gero Onsen ได้เลย
ขอพรที่วัด Onsenji Temple
วัดพุทธที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ต้องเดินขึ้นบันไดหินกว่า 173 ขั้นเพื่อไปขอพรพระยาคุชิ เนียวไร (Yakushi Nyorai) พระพุทธรูปแห่งการรักษาโรค ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฟื้นฟูการไหลของน้ำในเมืองเกโระนี้หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่ออดีตกาล ผู้คนที่มีปัญหาอาการเจ็บป่วยเรื้อรังเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันภายในวัดก็มีอ่างน้ำร้อนสำหรับแช่เท้าหรือที่เรียกว่า Momiji Footbath อยู่ด้วย ซึ่งถ้าเดินเท้าขึ้นมาเหนื่อย ๆ ก็สามารถแวะพักแช่เท้าได้เช่นกัน และนอกจากจะเป็นวัดที่เหมาะกับการขอพรด้านสุขภาพแล้ว ด้วยความที่ตั้งอยู่บนเนเขาสูง หลายคนก็มักจะเพลิดเพลินไปกับวิวเมือง Gero Onsen ได้อย่างเต็มที่ และยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รับรองว่าวิวที่คุณได้เห็นจะสวยงามไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน
แช่เท้าไปเรื่อย ๆ ตามจุด Ashi-yu
หากเดินทางมาเหนื่อย ๆ จนรู้สึกปวดเท้าต้องการหาที่นั่งพักผ่อนให้สบายเท้ามากยิ่งขึ้นนั้น ที่ Gero Onsen แห่งนี้ก็มีบ่อแช่เท้าหรือ Ashi-yu กระจายอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถมานั่งแช่เท้ากันได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายสักเยนเดียว ซึ่งในแต่ละจุดก็จะมีธีมที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นบ่อแช่เท้ารูปปั้นกบบริเวณถนนหลักของ Gero Onsen บ่อแช่เท้าเทพเจ้าโชคลาภทั้ง 7 ที่ Sarubobo Golden โดยมีการออกแบบเป็นเรือสีทองบรรจุตัว Sarubobo หรือลิงตัวสีแดงที่แต่งกายเป็นเทพเจ้าโชคลาภทั้ง 7 หรือจะเป็นบ่อแช่เท้าสไตล์ยุโรปที่ชื่อ Venus ตกแต่งด้วยประติกรรมเทพีวีนัสอย่างสวยงาม เป็นต้น
เที่ยวชมหมู่บ้านโบราณ Gero Onsen Gassho Mura
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง หรือ Open-air Museum ที่จัดแสดงภูมิทัศน์สื่อถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน และข้าวของที่ใช้ในสมัยเอโดะ เช่น เครื่องมือทางการเกษตรดั้งเดิม เครื่องจักรสานสำหรับผลิตผ้าไหม ทั้งยังโดดเด่นด้วยบ้านหลังคาสูงชันคล้ายฟาร์มเฮ้าส์สมัยโบราณ หรือบ้านทรงกัชโชสึคุริที่คล้ายคลึงกับบ้านที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ รวมถึงยังมีไฮไลต์เด่น ๆ ในหมู่บ้านอีกมากมายให้ได้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็น กังหันน้ำขนาดใหญ่ ศาลเจ้าสุนัข (Komainu) บ่อปลาคารพนิชิกิ (Nishikigoi) นอกจากนี้หมู่บ้านแห่งนี้ยังเปิดโอกาสให้คุณได้ลองวาดภาพบนกระดาษญี่ปุ่นที่ใช้ในสมัยก่อน ปั้นและละเลงภาพสวย ๆ ลงบนเครื่องปั้นดินเผาอีกด้วย
เยี่ยมชม Gero Onsen Museum
พิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงประวัติออนเซ็นของเมืองเกโระ ออนเซ็นไว้อย่างละเอียด รวมถึงมีการจัดแสดงตัวอย่างน้ำพุร้อนทั่วประเทศญี่ปุ่นไว้จำนวนหนึ่งด้วย รวมถึงจัดเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการแช่น้ำพุร้อนไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เกลืออาบน้ำ ออนเซ็นทามาโกะ ท่อน้ำ ซึ่งของบางชิ้นก็มีอายุเก่าแก่นับร้อยปีย้อนไปจนถึงสมัยเอโดะเลยทีเดียว และถ้าเดินทางมาเหนื่อย ๆ บริเวณเฉลียงของพิพิธภัณฑ์ก็มีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้าไว้บริการ นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีการจำลองวิธีกำเนิดน้ำพุร้อนอีกด้วย ซึ่งคุณอาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าเข้าชม โดยค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะอยู่ที่ 400 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 200 เยน สำหรับเด็ก ซึ่งใครที่สนใจศึกษาประวัติความเป็นมาและเกร็ดความรู้เกี่ยวกับน้ำพุร้อนก็สามารถแวะมาที่พิพิธภัณฑ์ Gero Onsen Museum แห่งนี้ได้ทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.ยกเว้นวันพฤหัสบดี
แวะสักการระศาลเจ้าคาเอรุ Kaeru Jinja
สำหรับคำว่า Gero ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า กบ ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมองไปมุมไหน ๆ ก็จะพบเจอแต่รูปปั้น รูปวาด หรืองานศิลปะต่าง ๆ ที่เป็นรูปกบ และเมื่อมาเยือนออนเซ็นเมืองกบทั้งที ก็ต้องไม่พลาดกับศาลเจ้ารูปปั้นกบ หรือ Kaeru Jinja ซึ่งภายในศาลเจ้าจะมีการประดับประดาไปด้วย “รูปกบ” ไม่ว่าจะเปฌนฝาท่อ บริเวณซุ้มประตูทางเข้าศาลเจ้า บ่อน้ำมนต์ หรือแม้แต่แผ่นเอะมะ (Ema) สำหรับขอพรเทพเจ้า
ข้อมูลการเดินทางไปยัง Gero Onsen (เกโระ ออนเซ็น)
อย่างที่บอกไปว่า Gero Onsen นั้นอยู่ระหว่างเมืองทาคายาม่า และนาโกย่า ทำให้เราสามารถเดินทางได้สะดวกสบายจากทั้งสองเมืองนี้ โดยสามารถเดินทางจากทาคายาม่าได้โดยนั่งรถไฟ JR Hida Limited Express ใช้ระยะเวลาประมาณ 45 นาที หรือถ้าเลือกเดินทางโดยรถไฟท้องถิ่นก็อาจใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนใครที่ต้องการเดินทางจากนาโกย่ามายัง Gero Onsen ก็สามารถขึ้นรถไฟสายเดียวกันกับที่มาจากทาคายาม่าได้ แต่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 90-100 นาที โดยอัตราค่าโดยสารโดยรถไฟนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 990-2,000 เยน ขึ้นอยู่กับประเภทรถไฟที่เลือก
ทั้งนี้ถ้าใครชื่นชอบการนั่งรถบัส หรือต้องการจ่ายในราคาที่ประหยัดกว่าก็สามารถนั่งรถบัสมายัง Gero Onsen ได้เช่นกัน ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 90 นาที และมีรถออกจากทาคายาม่าทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,060 เยนเท่านั้น หรือถ้านั่งรถบัสจากนาโกย่า จะมีรถบัสรอบพิเศษสำหรับผู้ที่ค้างคืนที่ Gero Onsen เท่านั้น โดยจะใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายสำหรับไป-กลับอยู่ที่ 3,700 เยน หรือรอบเดียว 2,800 เยน แต่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง
ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม Gero Onsen ถึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศขนาดนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะได้แช่ออนเซ็นอุ่น ๆ ร้อน ๆ ที่มีคุณภาพสูงช่วยผ่อนคลายร่างกายและดีต่อดูแลสุขภาพแล้ว ยังได้เพลิดเพลินไปกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในบริเวณ Gero Onsen ทั้งเดินชมหมู่บ้าน เข้าร่วม Workshop ปั้นและวาดถ้วยชามเซรามิก ชมธรรมชาติอันสวยงามที่เปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาล รวมไปถึงได้มีโอกาสไหว้พระขอพรเทพเจ้าต่าง ๆ อีกด้วยนั่นเอง