ขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์ ผ่านหมอกไปเที่ยวเมืองยุโรปที่ Bana Hills

สำหรับใครที่เดินทางไปท่องเที่ยวเวียดนามกันที่เมืองดานัง เชื่อได้เลยว่าส่วนใหญ่ต้องไม่พลาดสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง บานาฮิลล์ (Bana Hills) กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์ ที่ถือได้ว่าเป็นกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ซึ่งถูกจัดให้อยู่ใน 10 อันดับของรถกระเช้าที่น่าประทับใจมากที่สุดในโลกโดย CNN นอกจากนี้กระเช้า บานาฮิลล์ ยังได้รับการบันทึกสถิติโลกโดยกินเนสบุ๊ค แล้วยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติด้วยความสามารถในการรองรับผู้โดยสารสะสมถึงเกือบ 7,000 คนต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ดังนั้นถือได้ว่าการขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวเมืองยุโรปที่ Bana Hills กันค่ะ ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่แสนโด่งดัง พร้อมกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างบานาฮิลล์กันค่ะ 

ทำความรู้จักกับกระเช้า บานาฮิลล์ กระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ระดับโลก 

กระเช้า บานาฮิลล์ ของ SunWorld Ba Na hills เป็นกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่ถูกสร้างและเปิดให้ใช้งานครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2009 เป็นกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่ได้รับการจัดอันดับโดย CNN ให้เป็น 1 ใน 10 ระบบโครงสร้างพื้นฐานของเคเบิ้ลคาร์ที่น่าประทับใจมากที่สุดทั่วโลก และยังได้รับการบันทึกสถิติโลกโดยกินเนสส์บุ๊กอีกหลายรายการ รถกระเช้า บานาฮิลล์ ถูกสร้างขึ้นอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานเทคโนโลยี ออสเตรีย – สวิส โดยบริษัท Doppermayer และ CWA มีการนำเข้าอุปกรณ์จากเยอรมันนี สวิตเซอร์แลนด์ และสวีเดน ดังนั้นระบบเคเบิลคาร์นี้จึงรับประกันความปลอดภัยตามมาตรฐานของ European Cable Car Association อีกทั้งยังมีความคล้ายคลึงกับกระเช้าที่พบได้บริเวณเทือกเขาแอลป์ด้วยเช่นกัน

กระเช้า บานาฮิลล์ เป็นกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่จะพาคุณขึ้นไปสู่บานาฮิลล์ (Ba Na hills) ในเมืองดานัง สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลก โครงสร้างของกระเช้า บานาฮิลล์ มี 22 เสา 94 ห้องโดยสาร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7,000 คน/ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากสถานีต้นทางไปยังสถานีปลายทางประมาณ 15 นาที ที่ความเร็ว 6 เมตรต่อวินาที ดังนั้นการขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์ คือกิจกรรมที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนบานาฮิลล์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่ระดับความสูง 1,487 เมตรจากระดับน้ำทะเล ให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ในมุมสูงแบบพาโนรามา ที่แวดล้อมไปด้วยก้อนเมฆ ภูเขา ป่าไม้ ราวกับกำลังเดินทางไปสู่ดินแดนแห่งเทพนิยายกันเลยทีเดียว

ประวัติความเป็นมาของกระเช้า บานาฮิลล์ 

หลังจากที่ได้มีการบุกเบิกหมู่บ้านพักตากอากาศเก่าของฝรั่งเศสในช่วงยุคอาณานิคม ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาบานา ในช่วงปี 1997-1998 ได้มีการสร้างถนนขึ้นไปยังยอดเขา และได้มีการเริ่มสร้างรถกระเช้าที่มีระยะทาง 1.5 กม. เพื่อใช้เดินทางไปและกลับจากเนินเขา Vong Nguyet ไปยังยอดเขา Ba Na ตั้งแต่ในปี 1999 แต่ทั้งนี้การเดินทางโดยรถยนต์เพื่อไปยังยอดเขาที่มีความสูงถึงกว่า 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ยังไม่ค่อยดึงดูดนักท่องเที่ยวมากนักเนื่องจากค่อนข้างลำบากอยู่พอสมควร นอกจากนี้ยังสามารถเปิดให้รถยนต์วิ่งได้เฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่ไม่มีฝนเพื่อความปลอดภัย ตรงจุดนี้เองทำให้คณะผู้บริหารและผู้นำเมืองในขณะนั้น ได้ตัดสินใจสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นมา เพื่อใช้ขึ้นลงไปยังยอดเขาบานาได้อย่างสะดวก  และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของกระเช้า บานาฮิลล์ นั่นเอง 
ซึ่งกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม แห่งแรกของบานาฮิลล์ ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีความยาวมากกว่า 5 กิโลเมตร ในขณะที่ก่อสร้างก็มีอุปสรรคและความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัญหาสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงที่อันตรายมากที่สุดของที่นี่ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยป่าเขาและความทุรกันดาร อีกทั้งยังขาดแคลนวัสดุ เทคโนโลยี รวมไปถึงสภาพที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการก่อสร้างเท่าไหร่นัก แต่เมื่อสามารถก้าวข้ามผ่านความลำบากและอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ กระเช้า บานาฮิลล์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในที่สุด และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2009  อีกทั้งยังได้เป็นเจ้าของสถิติโลกหลายรายการ กลายเป็นความภาคภูมิใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม แห่งนี้ โดยบุคคลแรกที่ได้เข้าไปนั่งในห้องโดยสารคือ นาย Ho Van Anh หัวหน้าทีมสำรวจและอดีตประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ท่องเที่ยวของ Ba Na-Suoi Mo นั่นเองค่ะ

สถิติโลกของกระเช้า บานาฮิลล์ กระเช้าลอยฟ้า เวียดนามที่ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ก

• กระเช้า บานาฮิลล์ เป็นรถกระเช้าระบบเคเบิ้ลสายเดี่ยวที่ยาวที่สุดในโลก (Longest non-stop single tract cable car) โดยมีความยาว 5,801 เมตร
• เป็นกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่มีระยะทางที่แตกต่างกันระหว่างสถานีต้นทางและปลายทาง หรือระยะจากฐานสู่ยอดมากที่สุดในโลก (Highest ascent by a non-stop single-track cable car) ด้วยความสูงที่ 1,368.93 เมตร 
• เป็นกระเช้าไฟฟ้าไร้จุดแวะพักที่ยาวที่สุดในโลก (Longest non-stop cable) โดยมีความยาวทั้งสิ้น 11,587 เมตร 
• มีสายเคเบิ้ลคาร์ที่หนักที่สุดในโลก (Heaviest cable roll) ด้วยน้ำหนัก 141.24 ตัน 
• ไม่เพียงเท่านี้เพราะว่าสถานีรถกระเช้า บานาฮิลล์ (Bà Nà Hills Station) ยังเป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Largest departure station in Southeast Asia) ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งสันทนาการต่าง ๆ มากมาย และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการเข้ายึดครองของฝรั่งเศสในยุคอาณานิคมกันอีกด้วย

เส้นทางและตารางเดินรถกระเช้า บานาฮิลล์ พร้อมอัตราค่าโดยสาร

ในปัจจุบันรถกระเช้า บานาฮิลล์ มีด้วยกันทั้งหมด 5 สาย ได้แก่ 

• สถานีซั่วโม่ – บานา (Suoi Mo – Ba Na) 
• สถานีเดเบย์ – โมริน (Debay–Morin) 
• สถานีน้ำตกต็อกเตียน – อินโดจีน (Toc Tien Waterfall – L’Indochine) 
• สถานีฮอยอัน – มาร์กเซย (Hoi An – Marseille) 
• สถานีบอร์กโดซ์ – ลูฟร์ (Bordeaux – Louvre)

รถกระเช้าเที่ยวแรกจะเริ่มเวลา 7:30 น. และเที่ยวสุดท้ายเวลาประมาณ  22:00 น.ซึ่งระยะเวลาอาจมีความคลาดเคลื่อนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ สำหรับอัตราค่าโดยสารจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 650,000 ดงเวียดนาม ($29 USD) หรือประมาณ 950 บาทสำหรับชาวต่างชาติ เด็กที่สูง 1-1.3 ม. มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 550,000 ดงเวียดนาม ($24 USD) หรือประมาณ 800 บาท เด็กที่สูงต่ำกว่า 1 เมตรเข้าฟรี ราคานี้เป็นตั๋วรวมการขึ้นกระเช้าแบบไป-กลับ พร้อมกับการเข้าคอมเพล็กซ์รีสอร์ทและสวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค โดยจะใช้เวลาเดินทางทั้งหมดรวมประมาณ 15 นาทีต่อเที่ยว  
ซึ่งในระหว่างการขึ้นกระเช้า คุณจะได้สัมผัสกับการไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ของกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม เพื่อนำคุณขึ้นไปสู่ยอดเขาของบานาฮิลล์ ซึ่งในระหว่างที่อยู่บนกระเช้า ทัศนียภาพเบื้องล่างจะมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้อันเขียวขจี ภูเขา ลำธาร และน้ำตก และยิ่งไต่ระดับความสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ อากาศจะเริ่มเย็นลงตามระดับความสูงทำให้เป็นการรอบด้านและวิวทิวทัศน์เต็มไปด้วยหมอก รถกระเช้าจะวิ่งผ่านกลุ่มหมอกเข้าไปจนทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับกำลังได้ก้าวสู่โลกอีกใบ ซึ่งคุณจะมองเห็นยอดปราสาทยุโรปซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของกระเช้า บานาฮิลล์ อยู่ไกล ๆ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศงดงามราวกับเทพนิยายกันเลยค่ะ 

เส้นทางกระเช้า บานาฮิลล์  

• สถานีซั่วโม่ – บานา (Suoi Mo – Ba Na) มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าสาย Mo Stream–Ba Na เป็นสถานีเส้นทางกระเช้า บานาฮิลล์ ยอดนิยมกันเลยค่ะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวที่บานาฮิลล์ เพราะเป็นเส้นทางกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่จะพาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในบานาฮิลล์ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัด Linh Ung อันโด่งดัง หรือ Le Jardin D'Amour สวนสไตล์ฝรั่งเศส และห้องเก็บไวน์โบราณ 
• สถานีเดเบย์ – โมริน (Debay–Morin) เป็นสถานีกระเช้าที่ให้คุณขึ้นต่อมาจากสถานี Suoi Mo – Ba Na เพื่อขึ้นไปยังรีสอร์ทคอมเพล็กซ์และสวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค (Fantasy park) 
• สถานีน้ำตกต็อกเตียน – อินโดจีน (Toc Tien Waterfall – L’Indochine) เป็นสายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนั่งกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม กินลมชมวิวกันแบบชิล ๆ เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ได้รับการบันทึกสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดทั้ง 4 รายการนั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สลิงสายเดียวที่ยาวที่สุด, ระดับความสูงระหว่างสถานีมากที่สุด, สายเคเบิ้ลที่ยาวที่สุด และสายเคเบิลที่หนักที่สุดในโลก ซึ่งเส้นทางนี้จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที ด้วยระยะทาง 5,801 เมตร และข้ามผ่านน้ำตก Toc Tien ที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง 
• สถานีฮอยอัน – มาร์กเซย (Hoi An – Marseille) เป็นสถานีที่จะพาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของบานาฮิลล์อย่าง “สะพานมือเวียดนาม (Golden Bridge Vietnam)” กันค่ะ  
• สถานีบอร์กโดซ์ – ลูฟร์ (Bordeaux – Louvre) เป็นสถานีที่ให้คุณได้ขึ้นต่อจากสถานี Hoi An – Marseille ตรงไปยังหมู่บ้านฝรั่งเศสที่งดงามราวกับหลุดไปอยู่ในฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 19 กันเลยทีเดียว

สถานที่ต่าง ๆ ภายในบานาฮิลล์ (Ba Na Hills) ที่ไม่ควรพลาด 

1. หมู่บ้านฝรั่งเศส (French Village) 

หมู่บ้านฝรั่งเศสแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนบานาฮิลล์กันเลยค่ะ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 19 อันเงียบสงบและงดงาม แวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญสุดแสนคลาสสิคซึ่งต้องมีในหมู่บ้านฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น จัตุรัส, โบสถ์, เมือง, หมู่บ้านเก่า, โรงแรมขนาดเล็ก เรียกได้ว่าเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมีโรงแรม 4 ดาวที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Accor Hotel อย่างโรงแรมเมอร์เคียว บานาฮิลส์ เฟรนช์ วิลเลจ ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ฝรั่งเศสขนานแท้ไว้คอยให้บริการกันอีกด้วย 

Location : An Son Hoa Son Commune, Hòa Vang, Da Nang 550000, Vietnam

2. สวนดอกไม้เลอ จาร์แดง ดามูร์ Le Jardin d'Amour (Garden of Love)

สวนแห่งความรักหรือ สวน Le Jardin d'Amour เป็นสวนสไตล์ฝรั่งเศสบนเนื้อที่กว่า 21,000 ตารางเมตร ทางด้านทิศตะวันออกของภูเขาบานา สวนแห่งนี้ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความแตกต่างกัน 9 แบบ สื่อความหมายออกเป็น 9 อย่าง ได้แก่ Suoi Mo Garden (La rivière de rêve), สวนแห่งความลับ (Le jardin des Secrets), สวนอีเดน (Le jardin d'Eden), สวนแห่งความคิด (Le Jardin au Vu), สวนแห่งความทรงจำ (Le Jardin de memory), สวนแห่งคู่รัก (Le jardin des epoux), The Mythical Garden, สวนศักดิ์สิทธิ์ (Le bois d'Amourr) และลานเถาวัลย์ (Le jardin de vignes) เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดเมื่อขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์ มายังยอดเขาบานาฮิลล์กันค่ะ 

Location : XXWV+HQ7, Hoà Phú, Hòa Vang, Đà Nẵng, Vietnam

3. วัด Linh Ung

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปี 2003-2004 เป็น 1 ใน 3 ของวัด Linh Ung ที่มีชื่อเสียงในเมืองดานัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญ ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างก็ต้องแวะเวียนไปสักการะและเยี่ยมชมกันเมื่อมาที่บานาฮิลส์ค่ะ ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเกือบ 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงให้คุณได้มองเห็นทัศนียภาพอันแสนงดงามของเมืองดานังจากมุมสูงได้โดยรอบ โดยมีพระพุทธรูปศากยมุนีสีขาวขนาดใหญ่ที่มีความสูง 27 เมตร ประทับนั่งบนฐานบัวสูง 6 เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปนั่งขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บรรดาสายมูและผู้ที่นับถือศาสนาพุทธบอกเลยว่าไม่ควรพลาดค่ะ

Location : Vườn Lâm Tỳ Ni, Hoàng Sa, Thọ Quang, Sơn Trà, Đà Nẵng, Vietnam

4. สะพานมือเวียดนาม (Golden Bridge Vietnam)

หรือที่เรียกกันว่าสะพานมือทองนั่นเองค่ะ เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โด่งดังไปทั่วโลก และไม่อยากให้พลาดเมื่อมาเที่ยวกันที่บานาฮิลล์ ด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่มีลักษณะเหมือนกับมือยักษ์ กำลังถือสะพานที่ทอดยาวพาดผ่านสรวงสวรรค์ กลายเป็นภาพที่มีความงดงามตระการตาน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ตัวสะพานมีความยาวเกือบ 150 เมตร ทอดยาวโอบล้อมเทือกเขา โดยมีส่วนโค้งทั้งหมด 8 จุด จุดที่ยาวที่สุดอยู่ที่ 21.2 เมตร เป็นสถานที่ซึ่งบอกได้เลยว่าหากไม่มาเช็คอินถือว่ามาไม่ถึงบานาฮิลล์กันเลยค่ะ 

Location : Hòa Ninh, Hòa Vang, Da Nang, Vietnam

5. ปราสาทลูน่า (Luna Castle)

เป็นปราสาทแห่งใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาบนบานาฮิลล์ ตามธีมของเรื่องราวที่ว่าปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนถ้ำของมังกรไฟ ซึ่งเป็นมังกรสายพันธุ์เก่าแก่และลึกลับมากที่สุดของอาณาจักร Moon Kingdom ซึ่งจนถึงทุกวันนี้นักท่องเที่ยวจะยังคงเห็นซากถ้ำของมังกรอยู่ที่ชั้น 1 ของปราสาทกันอีกด้วย ปราสาทลูน่ามีพื้นที่รวมกว่า 38,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 4 ชั้นที่มีธีมแตกต่างกันออกไป ได้แก่ Dragon Den, Powerful Wolf, Erud Owl และ Moon Square ซึ่งบริเวณ Moon Square นั้นมีเวทีขนาด 2000 ที่นั่งไว้สำหรับการจัดแสดงโชว์กันอีกด้วย 

Location : XXVR+6M7, Hoà Phú, Hòa Vang, Đà Nẵng, Vietnam

นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Helios Waterfall, Bar Debay- Wine Cellar, Nghinh Phong Tower, Toc Tien Waterfall, สวนสนุก Fantasy Park,พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง (Wax Museum), รถไฟฟันเฟืองหมายเลข 2 เป็นต้น ดังนั้นถ้าอยากเที่ยวบานาฮิลล์กันแบบฉ่ำ ๆ แนะนำให้เข้าพักที่โรงแรมเมอร์เคียว บานาฮิลส์ เฟรนช์ วิลเลจ (Mercure Danang French Village Bana Hills) ที่หมู่บ้านฝรั่งเศสกันค่ะ

ข้อแนะนำสำหรับการขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์

• เมื่อขึ้นมาบนกระเช้า อากาศด้านบนค่อนข้างเย็นจนถึงหนาว ดังนั้นแนะนำให้สวมใส่เสื้อสเวตเตอร์หรือเสื้อแจ็คเก็ตที่สามารถให้ความอบอุ่นมาด้วยค่ะ 
• สำหรับผู้ที่กลัวความสูงไม่แนะนำให้มองลงไปที่ด้านล่าง 
• ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้สุภาพเมื่อมาเยี่ยมชมสักการะเจ้าแม่กวนอิม ดานัง ไม่ควรแต่งตัวโป๊หรือเสื้อผ้าที่ไม่เป็นทางการมากจนเกินไป เพราะอาจจะถูกมองว่าไม่เป็นการเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กันได้ 
• ไม่สามารถนำอาหารและเครื่องดื่มใด ๆ เข้ามา และไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจกระเป๋าและสัมภาระบริเวณทางเข้าอย่างเข้มงวด โดยสามารถซื้ออาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ภายในบานาฮิลล์เท่านั้น 
• ประตูห้องโดยสารของกระเช้า บานาฮิลล์ จะไประบบปิดเปิดโดยอัตโนมัติ ดังนั้นอย่าพิงหรือวางมือและเท้าเอาไว้ใกล้ประตู 
• หากกระเช้า บานาฮิลล์ มีการหยุดอย่างกะทันหัน อย่าตื่นตกใจ ให้รักษาความสงบเอาไว้และอยู่นิ่งๆกับที่ 
• ราคาค่าตั๋วรถกระเช้า บานาฮิลล์ จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นระยะ ดังนั้นจึงควรเช็คราคาให้ดีก่อน  
• สามารถเดินทางไปเที่ยว บานาฮิลล์ ได้ตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกันยายน อากาศค่อนข้างเย็นสบายและไม่มีฝนตก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเทศกาลต่าง ๆ มากมาย เช่นเทศกาลเบียร์และอาหาร, งานยุโรปแฟร์, เทศกาลฮาโลวีน และเทศกาลฤดูหนาว

การเดินทางไปยัง สถานีกระเช้า บานาฮิลล์

• เดินทางโดยรถประจำทาง มีบริการรถบัสหรือรถโดยสารประจำทางจากตัวเมืองดานังไปยัง สถานีกระเช้า บานาฮิลล์ โดยจะมีรถบัสสาย ดานัง – บานาฮิลส์ วิ่งให้บริการผู้โดยสารระหว่างเวลา 07.30 น. - 08.30 น. ในเมืองดานัง และระหว่างเวลา 14.30 น. - 15.30 น. เท่านั้น หรือจะเลือกจองรถโดยสารสำหรับเดินทางไปยังบานาฮิลล์ ได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. - 18.00 น. กันก็ได้ 
• เดินทางโดยรถยนต์ เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายเหมาะสำหรับใครที่เดินทางกันมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ และต้องการความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาท่องเที่ยว โดยสามารถเลือกเช่ารถได้ตั้งแต่ 4 ที่นั่งไปจนถึงรถตู้ 16 ที่นั่งขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกที่ไปเที่ยว หรือจะเลือกซื้อทัวร์ส่วนตัวกันก็ได้ค่ะ เพราะมีคนขับให้และระหว่างทางยังสามารถแวะพัก แวะเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ กันได้อีกด้วย  
• เดินทางโดยรถจักรยานยนต์ นอกจากบริการเช่ารถยนต์แล้วยังมีบริการเช่ารถจักรยานยนต์กันอีกด้วยค่ะ ซึ่งในตัวเมืองดานังนั้นก็มีบริการให้เช่ารถจักรยานยนต์กันหลายเจ้าเลยทีเดียว เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนหนุ่มสาวหรือผู้ที่ชื่นชอบการแบกเป้เที่ยวผจญภัย นอกจากจะประหยัดแล้วยังทำให้คุณได้มีเวลาท่องเที่ยวกันแบบสบาย ๆ และสัมผัสกับบรรยากาศของเวียดนามกันได้อย่างใกล้ชิด 
• เดินทางโดยรถแท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกสบายแต่ก็มีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งค่าโดยสารไป - กลับโดยรวม อยู่ในระหว่าง 500,000 - 600,000 ดงเวียดนาม หรือประมาณ 750 - 900 บาท ถ้าหากไปกันหลายคนแล้วช่วยกันหารก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไปนัก

ต้องบอกว่าการขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์ เป็นการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า เวียดนาม ที่มีดีกรีระดับโลกกันเลยทีเดียวค่ะ ให้คุณได้เปิดประสบการณ์ขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามายังดินแดนที่งดงามราวเทพนิยาย ตื่นตาตื่นใจไปกับการไต่ระดับความสูง และวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้จากด้านบนเมื่อขึ้นกระเช้า บานาฮิลล์ ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่แสนงดงามและน่าประทับใจไม่รู้ลืมของใครหลาย ๆ คนกันเลยค่ะ