อยากได้บรรยากาศธรรมชาติแบบสวิตฯ แต่ก็ยังต้องการสีสันแบบปารีส แนะนำให้มาเที่ยวเมืองในอิตาลี เพราะจะได้ทั้งฟีลและบรรยากาศที่เป็นการผสมผสาน ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในเมือง อิตาลีนั้นดีต่อใจเป็นอย่างมาก ประหยัดกว่าเมืองดังๆ ในยุโรปพอสมควร ดังนั้นหากความต้องการของคุณเป็นแบบข้างต้น แนะนำให้เริ่มลงมือลุยหาข้อมูลเมืองในอิตาลีที่เหมาะกับการไปเยือนในช่วงการลาพักร้อนของคุณเลยดีกว่า
แนะนำ 11 เมืองน่าเที่ยวในประเทศอิตาลี
โรม (Rome)
ชอบศิลปะ วัฒนธรรม และอยากเจาะเวลาหาอดีต แนะนำเมืองในอิตาลียอดนิยมอย่างกรุงโรม เพราะถือเป็นเมืองที่มีครบทุกสิ่งอย่าง เมืองหลวงแห่งนี้มีซากประวัติศาสตร์ที่งดงามกระจัดกระจายไปทั่วเมือง สถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงและควรค่าต่อการเยี่ยมชมมีหลายแห่ง อาทิเช่น The Colosseum, Pantheon, The Roman Forum, Vatican City และ Trevi Fountain
เวนิส (Venice)
เมือง อิตาลีแห่งความฝันอย่างเวนิสเป็นเมืองที่ใครๆ ก็ประทับใจและตกหลุมรัก เพราะมีทั้งสายน้ำไหลเย็นให้คุณได้ล่องเรือชมความงามจากบริเวณแกรนด์คาแนล หรือจะเดินเที่ยวลัดเลาะตามตรอกซอกซอยเมืองเก่าที่สวยงามซึ่งเป็นที่ตั้งของจัตุรัสเซนต์มาร์ค พระราชวังดอดจ์ สะพานริอัลโต และแลนด์มาร์กอีกมากมายหลายแห่งก็ทำให้คุณเที่ยวได้หมดวันอย่างไม่รู้ตัว
ฟลอเรนซ์ (Florence)
ถือเป็นเมืองในอิตาลีที่เป็นหัวใจสำคัญของแคว้นทัสคานี เพราะเต็มไปด้วยงานศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา มีผลงานชิ้นเอกของไมเคิลแองเจโลและเลโอนาร์โด ดา วินชี รวมถึง Galleria dell'Accademia ที่รอให้คุณตื่นตาตื่นใจกับรูปปั้นของ David และชมการกำเนิดของเวนิสโดย Botticelli ใน Uffizi Gallery รับรองว่าคุณจะอิ่มเอมในบรรยากาศสุดคลาสสิคอย่างแน่นอน
เวโรนา (Verona)
หากเอ่ยถึงโรมิโอและจูเลียต คงหนีไม่พ้นเมืองสวยๆ แสนโรแมนติกอย่างเวโรนาอย่างแน่นอน แม้เมือง อิตาลีจะมีอยู่มากมายขนาดไหน แต่ก็ไม่มีที่ไหนเหมือนเวโรนาเลยสักแห่ง ไม่ว่าจะไปเยือนระเบียงบ้านของจูเลียต แวะชมสนามกีฬาเวโรนา ถ่ายรูปสุดชิคที่สะพานยุคกลางอันเก่าแก่ของปอนเต สกาลิกาโร ก็ทำให้คุณมีความสุขได้อย่างเต็มวันกับเมืองสวยๆ แห่งนี้
ปาแลร์โม (Palermo)
อยากแวะชมชายฝั่งสวยๆ แนะนำให้ไปเมือง อิตาลีที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ แถมยังเป็นเมืองหลวงของซิซิลีที่อีกด้วย ปาแลร์โมจะทำให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย และบรรยากาศที่แตกต่างจากอิตาลีทางตอนเหนืออย่างสิ้นเชิง เพราะมีผู้คนและตลาดที่พลุกพล่านพร้อมด้วยมอเตอร์ไซค์มากมาย จึงทำให้เมืองนี้มีกลิ่นอายของแอฟริกาเหนืออย่างแท้จริง
มิลาน (Milan)
สายแฟสายช้อปจะต้องไม่พลาดเมืองมิลาน เพราะมิลานถือเป็นเมืองในอิตาลีที่เป็นศูนย์รวมของแฟชั่นระดับโลก แถมยังเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจของประเทศก็ว่าได้ เมืองมิลานเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอิตาลี จึงเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นเมือง อิตาลีที่มีศิลปะที่แสนจะโด่งดังอย่าง The Last Supper ของ Leonardo Da Vinci ที่จัดแสดงอยู่ที่ Santa Maria Delle Grazie และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ การเยี่ยมชม Duomo มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เนเปิลส์ (Naples)
คนเลิฟพิซซ่าต้องไม่พลาดเมืองในอิตาลีอย่างเนเปิลส์เป็นอันขาด เพราะถือเป็นต้นกำเนิดพิซซ่า อิตาลี หน้าอร่อยๆ อย่างมาการิต้า นอกจากนี้ยังเป็นทางผ่านของชายฝั่งอามาลฟีอีกด้วย แนะนำให้แวะพักในเนเปิลส์ก่อนจะเดินทางต่อ เพื่อลองลิ้มชิมรสพิซซ่าที่ดีที่สุดในโลกได้ที่เมืองนี้
เซียนนา (Sienna)
เมืองเซียนนาเป็นเมือง อิตาลีที่งดงามในแคว้นทัสคานี เป็นที่ตั้งของธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และยังมีความสวยงามที่น่าค้นหา เช่น การปีนขึ้นไปบนยอด Torre del Mangia เพื่อชมทัศนียภาพอันตระการตาจากหอคอยสูง 85 เมตรที่มหาวิหารเซียนา หรือเอนหลังและผ่อนคลายที่คาเฟ่กับอาหารจากแคว้นทัสคานีแสนอร่อย
เมืองชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast Towns)
ไม่ว่าจะมาเยือนเมืองในอิตาลีอย่างอัลมาฟีสักกี่ครั้งก็ยังตกหลุมรักได้ตลอดเวลา เพราะเมืองนี้งดงามราวกับภาพวาด แนะนำให้เริ่มต้นจากเมืองซอร์เรนโต และหากมีเวลาคุณก็สามารถไปสำรวจเมืองเนเปิลส์และปอมเปอีได้ ใครที่วางแผนมาฮันนีมูนแนะนำให้เล็งเมืองนี้ไว้ได้เลย
ชิงเคว แตร์เร (Cinque Terre)
ประกอบด้วย 5 หมู่บ้านที่งดงามจนแทบจะหยุดหายใจซึ่งได้แก่ Monterosso al Mare, Corniglia, Riomaggiore, Manarola, Vernazza La Spezia ตัวเมืองจะให้บรรยากาศคล้ายกับชายฝั่งอามาลฟี แต่มีขนาดเล็กกว่า มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เงียบสงบและถือเป็นเมืองในอิตาลีที่อยู่ในท็อปลิสต์อย่างแน่นอน
มาเตรา (Matera)
เมืองเล็กๆ ที่สวยงาม ใครจะไปคิดว่าเมืองไซส์มินิจะสวยได้ขนาดนี้ เมืองในอิตาลีแห่งนี้ถือเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี 2019 และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยมีประวัติย้อนหลังไปถึง 7,000 ปีก่อนคริสตกาล มาเตราตั้งอยู่ในบาซิลิกาตาทางตอนใต้ของอิตาลี โดดเด่นด้วยบ้านหินสีขาว ที่เรียกว่า Sassi Di Matera สวยงามและเก่าแก่จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ยอมรับเลยว่าไม่ว่าจะไปเยือนเมืองไหนก็สวยไปหมด จนบางทีก็ตัดสินใจไม่ถูกเลยทีเดียว ดังนั้นจะให้ดีการมาเที่ยวอิตาลีควรต้องมาซ้ำเป็นครั้งที่สองและครั้งที่สาม และที่สำคัญแนะนำให้วางแผนการเดินทางให้ดีๆ หลีกเลี่ยงช่วงที่อากาศแปรปรวน รวมไปถึงช่วงไฮซีซั่นที่คนแออัดและที่พักมีราคาสูง หากทำได้ดังนี้การมาเยือนอิตาลีของคุณก็ถือเป็นการมอบรางวัลที่ล้ำค่าให้กับตนเองได้อย่างแน่นอน