เมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งนอกจากการได้ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่งดงาม หรือชื่นชมธรรมชาติอันแสนสวยงามแล้ว เราอยากแนะนำให้ลองลิ้มชิมรสชาติของอาหารในเมืองนั้นๆ ด้วย เพื่อจะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารรวมถึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ และสำหรับใครที่กำลังจะไปเที่ยวออสเตรีย เรามี 10 เมนูอาหารออสเตรียที่มาแล้วต้องชิมให้ได้มาแนะนำกันค่ะ จะมีเมนุไหนน่าลองบ้างนั้นตามมาดูกันได้เลย
Wiener Schnitzel หรือเนื้อชุบแป้งทอง และบางทีก็รู้จักกันในชื่อสเต็กเวียนนาค่ะ อาหารออสเตรียเมนูนี้ถือเป็นอาหารประจำชาติออสเตรียเลยก็ว่าได้ ซึ่ง Schnitzel โดยทั่วไปนั้น จะทำจากเนื้ออะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ไก่,ไก่งวง,แกะ หมู,เนื้อกวาง หรือเนื้อวัว แต่ Wiener Schnitzel ที่เป็นตำรับเวียนนาแท้ ๆ ตามที่กำกับอยู่ในชื่อเมนู ต้องเป็นเนื้อลูกวัวเท่านั้นค่ะ อาหารจานนี้จะใช้เนื้อลูกวัวแล่บางปรุงรสด้วยการหมักเกลือพริกและไทย ชุบด้วยแป้ง ไข่ เกล็ดขนมปัง แล้วทอดจนเป็นสีเหลืองทองสวย เสิร์ฟพร้อมสลัด หรือ เลมอนและมันฝรั่งค่ะ
ถึงแม้เมนูนี้จะมีคำแปลตรงตัวว่าชีสตับ แต่อาหารออสเตรียจานนี้ไม่มีส่วนผสมจากทั้งตับและชีเลยค่ะ เลบาเคเซ่อเป็นเนื้อสัตว์บดปรุงรสทำเป็นรูปแบบก้อนเหมือนมีทโลฟ เนื้อสัมผัสมีความคล้ายคลึงกับโบโลนญ่า โดยมีส่วนผสมจากเนื้อวัว เนื้อหมู เบคอน และหอมหัวใหญ่ เมื่อจะรับประทานก็จะสไลซ์ออกมาเป็นแผ่น ๆ ชีสตับสามารถทานได้หลายแบบและนำมาเป็นส่วนประกอบของเมนูต่างๆ ได้ เช่นแซนด์วิช, ทานพร้อมขนมปังเนื้อแข็งปาดด้วยมัสตาร์ดรสเผ็ด หรือหั่นชิ้นหนาๆ นำไปทอดหรืออบ และเสิร์ฟในลักษณะของอาหารจานร้อนค่ะ
อาหารออสเตรียลำดับต่อไปคือ คาสนูเดิล์น (Kasnudeln) มีความหมายว่าพาสต้าชีส เพราะว่าคาสนูเดิล์นเป็นการนำแป้งพาสต้ามาสอดไส้ด้วยมันฝรั่งผสมชีสหรืออาจจะเลือกใส่แค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อสอดไส้ ปิดขอบแป้งเรียบร้อย หน้าตาคาสนูเดิล์นจะเหมือนเกี๊ยวซ่าตัวเล็ก ๆ แล้วจึงนำลงต้มให้แป้งสุกตักขึ้นแล้วทาเนย โปรยเบคอนทอดกรอบชิ้นเล็ก ๆ ให้ทั่ว และยกเสิร์ฟตอนร้อนๆ ส่วนชีสที่นิยมสอดไส้ในคาสนูเดิล์นนั้นมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นควาร์ก คอทเทจชีส หรือครีมชีส เมนูนี้บางที่ก็เรียกว่าพาสต้าคารินเทียน (Kärntner Kasnydeln / Carinthia Noodles) เนื่องจากมีต้นกำเนิดจากรัฐคารินเทียนและมีความเป็นมายาวนานเกือบ 300 ปีเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติออสเตรียที่ไม่ควรพลาด
สำหรับสายเนื้อเราขอแนะนำให้ลองชิมโรสต์บีฟ (Roast Beef) สไตล์ออสเตรียที่เรียกว่าซวีเบลโคสบรอทอึน (Zwiebelrostbraten) กันค่ะ อาหารออสเตรียเมนูนี้เลือกใช้เนื้อวัวส่วนเซอร์ลอยน์ที่เป็นเนื้อจากส่วนของสันนอกหรือเนื้อสะโพกด้านบนซึ่งเป็นส่วนที่มีมันแทรกอยู่ในเนื้อ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย โรยหน้าด้วยหอมหัวใหญ่ที่ผัดจนเป็นสีน้ำตาลปรุงรสด้วยปาปริก้าแล้วเข้าอบจนเนื้อเซอร์ลอยนุ่มชุ่มน้ำซอสที่ได้จากการอบ อาหารออสเตรียเมนูนี้นิยมทานคู่กับมันอบหรือมันอบทาเนยพาร์สลีย์ ซึ่งรับรองได้ว่าทั้งความกลมกล่อมและความนุ่มอร่อยต้องถูกใจคนรักเนื้ออย่างแน่นอนค่ะ
หากคุณรู้สึกหิวระหว่างวันและมองหารอาหารออสเตรียที่ทานง่ายและรสชาติอร่อย เราขอแนะนำอาหารประจำชาติออสเตรียอย่างแซนด์วิชเปิดหน้าสไตล์เวียนนา หรือ แคสเนียฟสกี (Trześniewski) ที่ประกอบด้วยขนมปังแผ่นเดี่ยวปาดหน้าด้วยสเปรดไข่ ที่ทำจากไข่ที่ต้มด้วยกรรมวิธีลับจนได้ไข่ต้มแสนอร่อยผสมมายองเนส แล้วนำสเปรดไข่ขั้นต้นนี้มาผสมผสานกับวัตถุดิบหลากหลาย จนได้สเปรดไข่ให้เลือกรับประทานถึง 23 ชนิด ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นสายมังสวิรัติหรือสายรักเนื้อ อยากชิมรสชาติแบบละมุนหรือรสชาติเผ็ดถึงใจก็มีให้เลือกทุกแบบค่ะ แต่ถ้าหากเลือกไม่ถูกล่ะก็จะลองสเปรดแบบดั้งเดิมอย่างสเปรดไข่ใส่ปลาเฮอริ่ง หรือเบคอนและไข่ก็อร่อยเช่นกันค่ะ
ชุฟนูเดิล์น Schupfnudeln หรือ Fingernudeln เป็นอาหารออสเตรียที่เป็นของกินเล่นที่เราไม่อยากให้คุณพลาดค่ะ ตัวแป้งของชุฟนูเดิล์นนั้นทำจากมันฝรั่งต้มสุกบดผสมกับผงแป้ง ปรุงรสด้วยเกลือและเครื่องเทศ แล้วนำมาปั้นให้เป็นรูปร่างและขนาดคล้าย ๆ นิ้ว จึงได้ชื่อว่าพาสต้านิ้วมือ จากนั้นนำแป้งที่ปั้นเสร็จเรียบร้อย ไปต้มจนสุก ก่อนนำไปจี่กับเนยจนหอมและกรอบนอกนุ่มใน จะทานเปล่า ๆ แบบนี้ หรือทานคู่กับเซาเออร์เคราท์ (Sauerkraut) ที่เป็นกะหล่ำปลีซอยดองสมุนไพร มีรสชาติเปรี้ยวเค็มก็อร่อยลงตัวค่ะ และนอกจากชุฟนูเดิล์นจะเป็นอาหารทานเล่นแล้ว ยังใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเมนูอื่นได้อีกด้วย
อาหารประจำชาติออสเตรียอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด คือเนื้อตุ๋นตำรับเวียนนา หรือ ทาเฟลชปิทซฺ (Tafelspitz) ค่ะ เมนูนี้จะเสิร์ฟเนื้อลูกวัวตุ๋นที่เคี่ยวจนเนื้อทั้งชิ้นนุ่มมาหั่นเป็นชิ้นหนา ๆ เสิร์ฟในน้ำซุปสีใสรสชาติอร่อยที่ปรุงรสด้วยผัก เครื่องเทศ และสมุนไพรอีกหลายชนิด รวมถึงกระดูกวัวและเคี่ยวด้วยไฟอ่อนเป็นเวลาหลายชั่วโมง เสิร์ฟพร้อมกับแอปเปิ้ลสับละเอียดและฮอร์สราดิชสดขูด และนิยมทานคู่กับซุปครีมผักโขมและมันฝรั่งผัดเนย เรียกได้ว่าเป็นอาหารออสเตรียที่รสชาติอร่อยน่าลิ้มลองจริงๆ ค่ะ
ไส้กรอกเวียนนาเป็นอาหารท้องถิ่น และปฺนอาหารประจำชาติออสเตรียที่ขึ้นชื่อ โดยลักษณะของไส้กรอกเวียนนาจะเป็นท่อนผอมยาว มีส่วนผสมจากเนื้อหมูผสมเนื้อวัวปรุงรสแล้วยัดลงไส้แกะ และส่วนใหญ่จะเป็นไส้กรอกรมควัน รสชาติจะคล้ายๆ กับไส้กรอกแดงบ้านเราแต่กรุบกรอบและอร่อยกว่า ทานคู่กับมัสตาร์ดหรือซอสมะเขือเทศค่ะ หรือหากใครอยากทานในรูปแบบฮอทดอกสไตล์เวียนนาก็ต้องบอกว่าอร่อยไม่แพ้กัน สำหรับเมนูอาหารออสเตรียจานนี้หาทานได้ไม่ยากเพราะมีขายอยู่ทั่วไป ทั้งตามร้านอาหารหรือร้านอาหารที่เป็นแบบร้านแบบตู้ขายอาหารริมทางค่ะ
มาร์ทีนี่กานสฺเป็นอาหารออสเตรียที่ทำจากห่านทั้งตัว ยัดใส้ด้วยเครื่องปรุงที่มีเกาลัดและลูกพลัมแห้งเป็นส่วนประกอบหลัก นำเข้าเตาย่างจนหนังห่านกรอบเป็นสีน้ำตาลสวยแล้วราดด้วยน้ำปรุงจากไขมันห่านและน้ำจากเครื่องปรุงที่ออกมาระหว่างการย่าง เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำม่วงหวานและเซมเมลคะเนิลเดล (Semmelknödel) ที่เป็นแป้งต้มทรงกลมจากขนมปังเชมเมล หรือทอฟเฟิลเคลส์เซ่น (Kartoffelklößen) ที่มีลักษณะเป็นแป้งต้มทรงกลมทำจากมันฝรั่ง อาหารออสเตรียเมนูนี้เป็นอาหารประจำเทศกาล จึงจะมีให้รับประทานเพียงปีละหนคือช่วงเทศกาลวันนักบุญมาร์ตินตอนต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
เคสชแพทเซ่อเป็นเมนูที่เห็นในแวบแรกคุณอาจจะมีความสงสัยว่านี่คือแมคแอนด์ชีสหรือเปล่านะ แต่อาหารออสเตรียจานนี้มีความเป็นมายาวนานกว่าแมคแอนด์ชีสมากเลยค่ะ แป้งที่ลักษณะคล้ายมักโรนีเรียกว่าชแพทเซ่อ ทำมาจากแป้งเนื้อค่อนข้างเหลวผสมเครื่องเทศกลิ่นหอมหลายอย่างลงไป นำมาหยอดผ่านแม่พิมพ์แบบรู ๆ ให้แป้งชแพทเซ่อไหลลงรูลงไปในน้ำต้มเดือด ชแพทเซ่อที่ต้มจนสุกแล้วจะนำมาผัดกับเนยโรยหน้าด้วยชีสขูดที่มีรสชาติละมุน กลิ่นไม่แรงและละลายง่ายอย่างเอมเมนทัลหรือกรุยแยร์ นำเข้าเตาอบจนชีสละลาย แล้วจึงโรยหน้าด้วยหอมหัวใหญ่ที่ผัดจนเป็นสีน้ำตาล (Caramelized Onion) และต้นหอมฝรั่งซอย เมนูอาหารประจำชาติออสเตรียจานนี้ต้องกินคู่กับเบียร์ จะเข้ากันเป็นที่สุดค่ะ
[ 10 ของฝาก ออสเตรีย ที่ควรค่ากับการซื้อฝากคนทางบ้าน ]
ทั้งหมดนี้คือ 10 เมนูอาหารออสเตรีย และอาหารประจำชาติออสเตรียที่เมื่อมาถึงออสเตรียแล้วต้องลองชิมกันสักครั้งค่ะว่ารสชาติต้นตำรับนั้นเป็นอย่างไร เพราะบางเมนูอาจจะหาทานในบ้านเราได้แต่รสชาติอาจจะไม่เหมือนกัน และบางเมนูอาจจะดูไม่คุ้นตาแต่การได้ลองชิมอาหารประจำชาติหรืออาหารท้องถิ่นของประเทศที่เราไปเยือนถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ต้องลองสักครั้งค่ะ
