วันนี้เราจะพาคุณมาเที่ยวเกาะในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเกาะญี่ปุ่นหลักอย่างเกาะฮอนชู (Honshu) กันค่ะ เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประชากรอยู่อาศัยมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ภูมิภาค ประกอบไปด้วยภูมิภาคโทโฮคุ ภูมิภาคคันโต ภูมิภาคชูบุ ภูมิภาคคันไซ และภูมิภาคชูโกกุ เกาะฮอนชูเป็นที่ตั้งของมหานครโตเกียวและเมืองสำคัญต่าง ๆ เช่น เกียวโต นารา คามาคุระ นาโกย่า โอซาก้า โกเบ และฮิโรชิม่า เป็นต้น นอกจากจะเป็นเกาะหลักที่มีความสำคัญของญี่ปุ่นแล้ว เมืองต่าง ๆ ที่อยู่บนเกาะฮอนชูยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งวันนี้เราก็ได้ทำการคัดเลือก 10 เมืองน่าเที่ยวของเกาะฮอนชู (Honshu) มาฝากกันค่ะ มาดูกันได้เลยว่ามีเมืองไหนที่น่าไปเที่ยวกันบ้าง
1. โตเกียว (Tokyo)
เมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่บริเวณส่วนหัวของอ่าวโตเกียวในภูมิภาคคันโต บริเวณชายฝั่งตอนกลางของของเกาะฮอนชู (Honshu) ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การปกครอง รวมไปถึงจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น โดยเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกและได้รับการจัดประเภทให้เป็นเมืองระดับ Alpha+ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมความเจริญและเต็มไปด้วยผู้คน อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower), วัดโซโจจิ (Zojoji Temple), ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu Shrine), วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple), พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว(Tokyo National Museum), พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace), แยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) เป็นต้น
2. ฟุกุชิมะ (Fukushima)
เมืองหลวงของจังหวัดฟุกุชิมะ ประตูสู่ภูมิภาคโทคุซึ่งเป็นพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู (Honshu) ที่เมืองนี้มีออนเซ็นอยู่หลายแห่งในเขตชานเมือง เป็นที่ตั้งของสนามแข่งม้าฟุกุชิมะ ซึ่งเป็นสนามแข่งม้าของสมาคมการแข่งรถแห่งญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคโทคุ พื้นที่เมืองส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดบริเวณแอ่งฟุกุชิมะ ภูเขาอาซึมะ และภูเขาอาดาทาระ ถึงแม้ว่าเมืองฟุกุชิมะจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวหลักของจังหวัดฟุกุชิมะ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น สวนฮานามิยามะ (Hanamiyama), เทือกเขาอาซูมะ (Azuma Mountains), ทาคายุออนเซ็น (Takayu Onsen), สนามม้าฟุกุชิมะ (Fukushima Racecourse), เส้นทางบันได-อาซูมะ สกายไลน์ (Bandai Azuma Skyline), พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima Prefectural Museum of Art) เป็นต้น
3. ไซตามะ (Saitama)
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดไซตามะ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโตของเกาะฮอนชู ในเขตปริมณฑลของมหานครโตเกียว โดยอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวออกไปทางเหนือประมาณ 30 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์รถไฟ (Railway Museum), พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะ (Omiya Bonsai Art Museum), พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่จังหวัดไซตะมะ (MOMAS), พิพิธภัณฑ์เมืองไซตามะ (Saitama City Museum), ศาลเจ้าฮิคาวะ (Hikawa Shrine), วัดโซจิอิน (Soji-in Temple), พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาโทเกียคุ (Togyoku Doll Museum) เป็นต้น
4. นีงาตะ (Niigata)
เมืองหลวงของจังหวัดนีงาตะในภูมิภาคชูบุของเกาะฮอนชู เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งตะวันตกของเกาะฮอนชู ตั้งอยู่ริมทะเลญี่ปุ่นใกล้กับเกาะซาโดะโดยมีแม่น้ำชินาโนะซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นไหลผ่าน ทำให้เมืองนีงาตะแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำ เมืองชายทะเลที่มีชื่อเสียงในเรื่องของแหล่งปลูกข้าวรวมไปถึงการผลิตสาเกคุณภาพ และเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ สะพานบันได (Bandai Bridge), พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองนีงาตะ (Niigata City History Museum), ศาลเจ้า Hakusan-jinja, พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมภาคเหนือ (Northern Culture Museum), โรงกลั่นไวน์ Cave d'Occi, ถนนช้อปปิ้งคามิฟุรุมาจิ (Kamifurumachi Shopping Street) เป็นต้น
5. ฮิโรซากิ (Hirosaki)
เมืองท่องเที่ยวและแหล่งปลูกแอปเปิ้ลชื่อดังที่รู้จักกันดีของจังหวัดอาโอโมริในภูมิภาคโทคุ เป็นจังหวัดที่อยู่ทางด้านเหนือสุดบนเกาะฮอนชู ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงทางการเมืองและวัฒนธรรมของภูมิภาคโทคุตอนเหนือ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชื่นชมความงามของประวัติศาสตร์และสัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณีของชาวญี่ปุ่นกันอย่างใกล้ชิด โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจได้แก่ ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle), สวนแอปเปิ้ลแห่งเมืองฮิโรซากิ (Hirosaki City Apple Park), สวนฟูจิตะ (Fujita Memorial Garden), ย่านซามูไรนากาโจ (Nakacho), ย่านเซนลินไก (Zenringai), ภูเขาอิวากิ (Mt.Iwaki) และที่นี่ยังมีถนนสำหรับชมซากุระที่ยาวที่สุดในโลกโดยอยู่ใกล้กับทางตอนใต้ของภูเขาอิวากิ ซึ่งมีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่ริมสองข้างทางถึงกว่า 6,500 ต้น เป็นระยะทางถึงกว่า 20 กิโลเมตรเลยทีเดียว
6. ชิซูโอกะ (Shizuoka)
เมืองหลวงของจังหวัดชิซูโอกะในภูมิภาคชูบุของเกาะฮอนชู เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัดรองจากเมืองฮามามัตสึ โดยตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัดซึ่งอยู่ประมาณกึ่งกลางของโตเกียวและนาโกย่า และอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya) ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ จึงทำให้สามารถมองเห็นและชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากที่เมืองนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งจับปลาทูน่าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและขึ้นชื่อในเรื่องของใบชา อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ท่าเรือชิมิสึ (Shimizu Port), หาดมิโฮะ (Miho Beach), ปราสาทซัมปุ (Sumpu Castle), ศาลเจ้าคุโนะซันโทโชกุ (Kunozan Toshogu Shrine), พิพิธภัณฑ์โทไคโด ฮิโรชิเงะ (Tokaido Hiroshige Museum) เป็นต้น
7. เกียวโต (Kyoto)
เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเกียวโต ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซของเกาะฮอนชู เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่น จึงทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะวัดพุทธ ศาลเจ้า พระราชวัง ซึ่งบางแห่งก็ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่ วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) หรือวัดทอง, วัดกินคะคุจิ (Ginkaku-ji) หรือวัดเงิน, วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) หรือวัดน้ำใส, ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine), หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine), ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama), ย่านกิออน (Gion), ป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama Bamboo Forest) เป็นต้น
8. โอซาก้า (Osaka)
เมืองหลวงของโอซาก้าและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่นอีกด้วย ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซของเกาะฮอนชู เมืองโอซาก้าเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นสากลมากที่สุดในญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทข้ามชาติหลายแห่ง เป็นศูนย์กลางทางด้านการวิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติ และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle), ย่านโดทงโบริ (Dotonbori), ตึกอูเมดะ สกาย (Umeda Sky Building), Universal Studios Japan, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan), ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Shrine), ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) เป็นต้น
9. ฮิโรชิมะ (Hiroshima)
เมืองหลวงของจังหวัดฮิโรชิมะและเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุของเกาะฮอนชู (Honshu) ที่นี่เป็นเมืองที่เคยถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทั้งภาครัฐบาล เอกชน และประชาชนของญี่ปุ่น เมืองฮิโรชิมะถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังสงครามและฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง มีบทบาทสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ และมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น สวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ (Peace Memorial Park), ย่านดาวทาวน์ฮิโรชิมะ (Hiroshima Downtown), ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle), สวน Shukkeien Garden, พิพิธภัณฑ์มาสด้า (Mazda Museum) โดมระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Dome) เป็นต้น
10. ทตโตริ (Tottori)
เมืองหลวงของจังหวัดทตโตริซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุของเกาะฮอนชู (Honshu) และเป็นที่ตั้งของเนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes) ซึ่งเป็นระบบเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะฮอนชู บริเวณเนินทรายแห่งนี้ยังมีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการวิจัยเกี่ยวกับการเกษตรในพื้นที่แห้งแล้งของมหาวิทยาลัยทตโตริอีกด้วย ซึ่งนอกจากเนินทรายทตโตริที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังของเมืองแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกได้แก่ ซากปราสาททตโตริ (Tottori Castle Ruins), วัดคันนอนอิน (Kannon-in Temple), พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (Tottori Sand Dunes The Sand Museum), จินปุคาคุ (Jinpukaku Mansion), พิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดทตโตริ (Tottori Prefectural Museum), ศาลเจ้าฮาคุโตะ (Hakuto Shrine) เป็นต้น
ต้องบอกว่านี่เป็นเพียงแค่ 10 เมืองจากทั้งหมด 34 จังหวัดบนเกาะ Honshu เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่นที่เราได้คัดเลือกมาฝากกัน ดังนั้นจึงยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายของเกาะหลักแห่งนี้ที่รอให้คุณได้ท่องเที่ยวกันแบบไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียวค่ะ