หลายคนที่ได้ไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นคงทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นมี เครื่องรางญี่ปุ่น ที่เรียกว่า “โอะมาโมริ” ซึ่งเครื่องรางเปรียบเสมือนที่สถิตของเทพเจ้า เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตามความเชื่อว่าพลังของเครื่องรางเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ครอบครองเครื่องรางให้ประสบกับสิ่งดี และช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะกับคนในประเทศญี่ปุ่นซึ่งผู้คนต้องแข่งขันในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน และการต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง การมีเครื่องรางเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจดูจะเป็นการตอบโจทย์ในเรื่องความมั่นคงทางจิตวิญญาณได้เป็นอย่างดี และเครื่องรางของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป คือ เครื่องรางของวัดอาซากุสะ หรือเครื่องรางวัดเซ็นโซจินั่นเอง
วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) เป็นวัดในพุทธศาสนาอยู่ในย่านอาซากุสะของเมืองหลวงโตเกียว โดยตามตำนานกล่าวกันว่ามี 2 พี่น้องชาวประมง พบองค์เจ้าแม่กวนอิมที่แม่น้ำซูมิดะ (Sumida) และพยายามจะนำไปคืนไว้ที่แม่น้ำ แต่ก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นเพราะองค์เจ้าแม่กวนอิมก็กลับมาอยู่กับชาวประมงโดยตลอด จนพี่น้องชาวประมงและชาวบ้านได้ร่วมกันก่อสร้างวัดอาซากุสะขึ้นในปี ค.ศ.645 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมเพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองวัดเซ็นโซจิได้รับความเสียหาย แต่ต่อมาก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่จนสวยงามอย่างในปัจจุบัน
นักท่องเที่ยวมักเรียกวัดอาซากุสะว่า “วัดโคมแดง” เพราะในวัดมีการแขวนโคมแดงขนาดใหญ่ไว้บริเวณประตูคามินาริมง (Kaminarimon) จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัดนี้ไปแล้ว และบริเวณทั้งสองข้างของโคมแดงยังมีปติมากรรม 2 ทวารบาลผู้รักษาประตู คือ “ฟูจิน” เทพเจ้าแห่งสายลม และ “ไรจิน” เทพเจ้าแห่งสายฟ้า ผู้ทำหน้าที่พิทักษ์เส้นทางให้กับผู้แสวงบุญที่จะเข้าไปนมัสการพระโพธิสัตว์คันนน (Kannon Bosatsu) หรือเจ้าแม่กวนอิมซึ่งอยู่ภายในวิหาร บริเวณกลางวัดยังมีกระถางธูปใหญ่ที่เชื่อกันว่าใครได้สูดควันจากกระถางธูปจะได้รับโชคดี นอกจากนี้ ทางวัดยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวทำบุญด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง ทำนายดวงชะตาด้วยการเสี่ยงเซียมซี และที่พลาดไม่ได้ คือ บูชาเครื่องรางจากวัดอาซากุสะ หรือเครื่องรางวัดเซ็นโซจินั่นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำ 10 เครื่องรางของวัดอาซากุสะที่สายมูไม่มีไม่ได้แล้ว
10 เครื่องรางจากวัดอาซากุสะ - วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ที่สายมูไม่ควรพลาด!
1. เครื่องรางวัดอาซากุสะ เหรียญ 5 เยน
เครื่องรางวัดอาซากุสะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และพบเห็นได้ทั่วไป คือ เหรียญ 5 เยน ซึ่งเป็นเครื่องรางที่เสริมเรื่องความโชคดี ตามความเชื่อว่ารูตรงกลางเหรียญ 5 เยน จะพัดพาเอาความโชคร้ายทั้งปวงออกไปจากชีวิตของผู้ที่พกพาเครื่องรางชนิดนี้ โดยมีการแนะนำกันว่าก่อนนำเหรียญไปใช้ควรนำเหรียญไปล้างน้ำมนต์ที่วัดก่อน ความเชื่อเช่นนี้คงเปรียบเสมือนการปลุกเสกให้เหรียญมีพลังแห่งการนำโชค นักท่องเที่ยวที่อยากมีโชคดีอย่าลืมหาไว้บูชากันด้วย
2. เครื่องรางวัดอาซากุสะ สีชมพู
เครื่องรางสีชมพูถือเป็นเครื่องรางด้านความรัก ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงผ้าไหมขนาดเล็กสีชมพู มีเชือกรูดปิดบริเวณปากถุง เครื่องรางชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมดวงด้านความรักไม่ว่าจะเป็นรักแรกพบ หรือมีคนรักอยู่แล้วแต่ต้องการให้ความรักยั่งยืนยาวนาน รวมไปถึงเสริมความมีเสน่ห์น่าสนใจสำหรับผู้ที่พบเห็น เครื่องรางสีชมพูจึงเป็นเครื่องรางวัดเซ็นโซจิที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนโสด และคนที่มีคนรักอยู่แล้วต่างก็อยากได้มาบูชาเพื่อให้ความรักสมหวัง และมั่นคง ที่สำคัญคนที่เคยพกเครื่องรางสีชมพูจากวัดอาซากุสะต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า “เห็นผลทันตาจริง ๆ”
3. เครื่องรางวัดอาซากุสะ สีเหลืองทอง
เครื่องรางสีเหลืองทอง ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงผ้าไหมขนาดเล็กสีเหลืองทอง มีเชือกรูดปิดบริเวณปากถุงเป็นเครื่องรางที่ช่วยให้ผู้ครอบครองและอธิษฐานขอพรประสบความสำเร็จสมความปรารถนา ซึ่งเชื่อกันว่าเครื่องรางวัดอาซากุสะ สีเหลืองทองเป็นตัวแทนของเทพเจ้าแห่งวัดอาซากุสะนั่นเอง
4. เครื่องรางวัดอาซากุสะ สีแดง
เครื่องรางสีแดง ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงผ้าไหมขนาดเล็กสีแดง เป็นเครื่องรางที่ช่วยให้ผู้ครอบครองได้อธิษฐานในเรื่องสุขภาพ เชื่อกันว่าคนที่พกเครื่องรางชนิดนี้จะไม่เจ็บป่วยง่าย สุขภาพแข็งแรง จึงเหมาะสำหรับเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุที่ต้องการเสริมในเรื่องสุขภาพ
5. เครื่องรางวัดอาซากุสะ ด้านการเงิน
ถือเป็นเครื่องรางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นค้อนสีทองแบบพวงกุญแจใช้ห้อยกับมือถือได้ หรือใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์เพื่อเป็นเครื่องรางดูดทรัพย์ เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ขาย ผู้ที่อยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ หรือคนที่เงินไม่พอใช้อยากให้เงินทองไหลมาเทมาต้องหามาพกติดตัวกันแล้วหล่ะ
6. เครื่องรางวัดอาซากุสะ เต่าทอง
เครื่องรางรูปเต่าทำด้วยโลหะชุบทองคำ ถือเป็นเครื่องรางวัดเซ็นโซจิที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งโดดเด่นในเรื่องการขอพรให้ผู้ครอบครองมีอายุยืนยาวนาน เหมือนกับเต่าซึ่งเป็นสัตว์ที่อายุยืนที่สุดในโลก และตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ถือว่าเต่านั้นเป็นสัตว์ที่เป็นตัวแทนของความอายุยืน ไม่เพียงแค่เรื่องอายุยืนยาวเท่านั้น คนที่อธิษฐานของพรจากเครื่องรางเต่าทองยังสามารถขอพรในเรื่องสุขภาพแข็งแรง ไร้โรคภัย และความรักที่มั่นคงยืนยาวอีกด้วย
7. เครื่องรางวัดอาซากุสะ เครื่องรางโคมแดง
เครื่องรางโคมแดงมีลักษณะเป็นป้ายผ้าปักเป็นรูปโคมแดงที่เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของวัดเซ็นโซจินั่นเอง เชื่อกันว่าเครื่องรางชนิดนี้จะช่วยในเรื่องการสอบให้ผ่านไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นการสอบในระหว่างเรียน ก็จะได้คะแนนดี หรือสอบสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงานก็จะประสบความสำเร็จผ่านฉลุย
8. เครื่องรางวัดอาซากุสะ ลูกกระพรวนห้อยรถยนต์
เครื่องรางลูกกระพรวนห้อยรถยนต์วัดเซ็นโซจิ ลักษณะเป็นลูกกระพรวนและป้ายไม้สลักภาษาญี่ปุ่น “ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” เหมาะสำหรับแขวนไว้หน้ารถยนต์เพื่อการเดินทางปลอดภัย หรือแขวนประตูร้านค้าเพื่อให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าประสบผลสำเร็จ กิจการรุ่งเรือง
9. เครื่องรางวัดอาซากุสะ แมวกวัก
เครื่องรางแมวกวักเป็นอีกหนึ่งเครื่องรางที่เรามักพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านค้าต่าง ๆ ในประเทศไทยนิยมวางไว้หน้าร้านเพื่อเรียกลูกค้ากันเป็นจำนวนมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ทำการค้าขาย ประกอบธุรกิจ หรืออยากเรียกลูกค้าให้เข้าร้านอย่างต่อเนื่อง
10. เครื่องรางวัดอาซากุสะ ด้านการงาน
เครื่องรางด้านการงาน มีลักษณะเป็นเครื่องรางกระดาษสีทอง มีลวดลายเป็นรูปโคมแดงและประตูคามินาริมงของวัดเซ็นโซจิ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขอพรให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น
สำหรับการจะใช้เครื่องรางส่วนใหญ่ของวัดอาซากุสะ ก็จะมีข้อกำหนดในการบูชาเครื่องรางก่อนการนำไปใช้เพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะเครื่องรางเปรียบเสมือนที่สถิตของเทพเจ้า การพกเครื่องรางควรพกติดตัวหรือเก็บไว้ใกล้ตัวที่พบเห็นได้ง่าย เช่น หน้าบ้าน ในรถยนต์ เพื่อให้เห็นเครื่องรางแล้วระลึกถึงหรืออธิษฐานได้ตลอดเวลา คนญี่ปุ่นยังเชื่อกันอีกว่าเครื่องรางจะมีอายุแค่ประมาณ 1 ปีเท่านั้น เมื่อหมดอายุก็จะเปลี่ยนใหม่ และห้ามแกะดูเครื่องรางที่อยู่ในถุงโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้พลังของเครื่องรางลดลง ส่วนเครื่องรางที่หมดอายุแล้วให้นำกลับไปให้ทางวัดอาซากุสะจัดการได้เลย โดยทางวัดจะมีการเก็บรวบรวมเอาไว้ภายในวัดและจัดการตามความเชื่อทางศาสนา
สำหรับนักท่องเที่ยวสายมู วัดอาซากุสะถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ห้ามพลาด เพราะมีเครื่องรางเสริมดวงที่เรียกได้ว่าครบทุกด้าน ใครอยากจะปังด้านไหน ก็ลองแวะมาเที่ยวชมและมาบูชาเสริมความเฮงกันได้ตามศรัทธาค่ะ