10 เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ เสริมโชค หน้าที่การงาน และความรัก Cover Page

ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากมายแล้ว ยังเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างวัด และศาลเจ้าที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรม และมีประวัติที่น่าสนใจ ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะไปกราบไหว้ขอพรแล้ว หนึ่งในของศักดิ์สิทธิ์ที่บรรดานักท่องเที่ยว สายมู รู้จักกันดีก็คือเครื่องรางญี่ปุ่น หรือ โอะมะโมะริ (Omamori) นั่นเองค่ะ และสำหรับใครที่กำลังตามหาเครื่องรางของญี่ปุ่นที่ช่วยเสริมโชคในเรื่องหน้าที่การงาน และความรักกันอยู่ พลาดไม่ได้กับ เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากเครื่องรางญี่ปุ่นที่มาจากวัดหรือศาลเจ้าอื่น ๆ ตรงที่มีการปักลายดอกเบญจมาศไว้บนถุงผ้าเครื่องรางทุกชิ้น และนอกจากนี้ที่ศาลเจ้าเมจิยังมีเครื่องรางอีกหลายชนิดให้สายมูได้บูชากันกลับไปอีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะไปดูรายละเอียดของเครื่องรางต่างๆ เรามาทำความรู้จักประวัติของศาลเจ้าเมจิกันสักนิดนะคะ  

 

ยาวไปอยากเลือกอ่าน
+
ประวัติศาลเจ้าเมจิ
แหล่งท่องเที่ยวภายในศาลเจ้าเมจิ
เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ
เวลาเปิด-ปิดศาลเจ้า
การเดินทางมาศาลเจ้าเมจิ

ประวัติศาลเจ้าเมจิ

 

เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ Image1

 

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1915 เพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji) และ พระราชินีโชเก็น (Empress Shoken) ตัวศาลเจ้าตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว ในย่านฮาราจุคุ ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Harajuku ด้วยความเชื่อว่าจักรพรรดิเป็นประมุขของศาสนาซึ่งสืบสายเลือดมาจากเทพเจ้า ภายหลังจากจักรพรรดิเมจิได้เสียชีวิตลง ประชาชนที่เคารพศรัทธาในองค์จักรพรรดิจึงร่วมแรงร่วมใจกันริเริ่มโครงการก่อสร้างศาลเจ้าเมจิขึ้น เพื่อใช้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่เคารพและระลึกถึงองค์จักรพรรดิในฐานะเทพเจ้า แต่ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ได้ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพขององค์จักรพรรดิแต่อย่างใด แต่พระศพขององค์จักรพรรดิเมจิอยู่ที่สุสานหลวงฟุชิมิ โมโมะยามะ (Fushimi-momoyama) เคียงคู่กับสุสานหลวงพระราชินีโชเก็น ที่เกียวโต

การสร้างศาลเจ้าเมจิเป็นงานก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่อลังการ เพราะต้องใช้การออกแบบและก่อสร้างโดยช่างฝีมือชั้นยอดของประเทศญี่ปุ่น โดยนำต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้ในก่อสร้างมาจากเมืองคิโซ (Kiso) จังหวัดนากาโน่ (Nagano) และเมืองอาลีซาน (Alishan) ประเทศไต้หวัน ชาวญี่ปุ่นได้ร่วมกันนำต้นไม้จากทั่วประเทศญี่ปุ่นส่งมาปลูกบริเวณโดยรอบศาลเจ้าเมจิ จำนวนมากถึง 100,000 ต้น เต็มเนื้อที่ 430 ไร่ จนในปัจจุบันต้นไม้เหล่านี้กลายเป็นพื้นที่ป่าที่ให้บรรยากาศร่มรื่นกลายเป็นป่ากลางเมืองโตเกียว การก่อสร้างศาลเจ้าเมจิเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ.1920 ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ศาลเจ้าเมจิได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบของสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากสงครามสิ้นสุดลงจึงมีการสร้างบูรณะศาลเจ้าเมจิขึ้นอีกครั้งจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1958

 

แหล่งท่องเที่ยวภายในศาลเจ้าเมจิ

 

เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ Image2

 

ภายในศาลเจ้าเมจินอกจากมีเครื่องรางที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก 2 แห่ง คือ Meiji Shrine Inner Garden และ Meiji Jingu Museum

  1. Meiji Shrine Inner Garden คือ สวนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความต้นไม้ร่มรื่นที่เกิดจากการปลูกไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างศาลเจ้าเมจิ บริเวณด้านในมีบ่อปลาสวยงามและสวนดอกไม้ โดยเฉพาะดอกไอริสที่จะบานในช่วงฤดูร้อน ประมาณต้นเดือนมิถุนายนซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนและชื่นชมความงามของธรรมชาติเป็นจำนวนมาก 
     
  2. Meiji Jingu Museum คือ พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ภายในศาลเจ้าเมจิ ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิเมจิ และราชินีโชเก็น  

ศาลเจ้าเมจิ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องเครื่องรางแล้ว ยังเป็นสถานที่คนญี่ปุ่นมักจะใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานอีกด้วย เพราะเป็นสถานที่ที่ใกล้ชิดกับเทพเจ้า มีความสงบ บรรยากาศร่มรื่นสวยงาม และดูเป็นทางการ นอกจากนี้ ในช่วงปีใหม่หรือวันสำคัญทางศาสนาจะมีชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจำนวนมาก คราวนี้เราลองมาดูกันซิว่าศาลเจ้าเมจิมีเครื่องรางที่น่าสนใจอะไรบ้าง  

 

เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ

 

เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ Image3

 

เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ นี้ นอกจากจะได้รับความเชื่อความศรัทธาจากคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ยังแตกต่างจากเครื่องรางของญี่ปุ่นทั่วไป เพราะมีการปักลวดลายดอกเบญจมาศที่มีความสวยงาม และออกแบบมาอย่างลงตัวบนเครื่องรางทุกชิ้น

  1. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (ชัยชนะ) เครื่องรางชิ้นนี้เป็นถุงผ้าไหมสีทองปักตัวอักษรดิ้นสีทอง ด้านในบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้าเมจิ ถือเป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยให้ผู้ครอบครองประสบความสำเร็จ มีชัยชนะ ถุงเครื่องรางมีสายเชือกยาวสีขาว สามารถคล้องกระเป๋าหรือเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ได้   
     
  2. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (การทำงาน) เครื่องรางชิ้นนี้เป็นถุงผ้าสีฟ้าอ่อนทรง 6 เหลี่ยม ปักตัวอักษรด้วยดิ้นงดงาม ด้านในบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้า เป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยให้ผู้ครอบครองประสบผลสำเร็จด้านการทำงาน การทำธุรกิจ มีสายเชือกยาวสีขาวใช้คล้องกระเป๋าหรือเก็บในกระเป๋าสตางค์ได้ 
     
  3. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (ป้องกันภัยอันตราย) เป็นถุงผ้าไหมสีขาวปักดิ้นทอง เรียบหรู ด้านในถุงบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้า เป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย หรือป้องกันอันตรายให้กับผู้ครอบครอง ใช้เก็บในกระเป๋าสตางค์ 
     
  4. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (โชคดี) ถุงผ้าสีทองทรงสี่เหลี่ยม ด้านในถุงบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้า เป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยให้ผู้ครอบครองประสบกับโชคดี มีโชคลาภ มีสายเชือกสำหรับห้อยกระเป๋า ห้อยโทรศัพท์ หรือเก็บในกระเป๋าสตางค์ได้ 
     
  5. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (แคล้วคลาดปลอดภัย) เครื่องรางชิ้นนี้เป็นถุงผ้าสีเขียว ปักตัวอักษรด้วยดิ้นสีทอง ด้านในบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้าเมจิ เป็นเครื่องรางที่ช่วยให้ผู้ครอบครองปลอดภัยในการเดินทาง มีสายเชือกยาวสีขาวใช้คล้องกระเป๋า ใส่ในกระเป๋าสตางค์ หรือเก็บไว้ในรถยนต์ 
     
  6. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (ร่ำรวย) เป็นถุงผ้าสีเหลืองทองทรงน้ำเต้า ปักด้วยดิ้นสีทอง ด้านในบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้า เป็นเครื่องรางที่ช่วยให้ผู้ครอบครองประสบความร่ำรวย มั่งคั่ง ทำมาค้าขึ้น มีสายเชือกยาวสีขาว คล้องกระเป๋าได้ เก็บในกระเป๋าสตางค์ หรือวางไว้ในร้านค้า 
     
  7. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (การเรียน) เครื่องรางชิ้นนี้เป็นถุงผ้าปักตัวอักษรด้วยดิ้นสีทอง ด้านในบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้า เป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยในการเรียน และการสอบให้ประสบความสำเร็จ มีสายเชือกยาวสีขาวคล้องกระเป๋า เก็บในกระเป๋าสตางค์ หรือในกระเป๋าหนังสือก็ได้ 
     
  8. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (ความรัก) เครื่องรางชุดนี้มี 2 ชิ้น สีชมพูและสีน้ำเงินฟ้า ด้านในถุงบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้า เป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยให้ผู้ครอบครองมีความรักที่สมหวัง เหมาะสำหรับคู่รักและการใช้ชีวิตคู่ พกเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ 
     
  9. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (สุขภาพ) เป็นเครื่องรางถุงสีแดงออกแบบสวยงามแปลกตากว่าที่อื่น ด้านบนจับจีบเรียวขึ้นไป ด้านในถุงบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้า เป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยให้ผู้ครอบครองมีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ ส่งเสริมพลังบวกให้กับชีวิต พกติดตัวไว้ในกระเป๋าสตางค์ 
     
  10. เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ: (ขอพรเรื่องลูก) เป็นเครื่องรางถุงสีชมพู ด้านในบรรจุแผ่นยันต์ของศาลเจ้าเมจิเป็นเครื่องรางนำโชคที่ช่วยในเรื่องเกี่ยวกับลูก เช่น ขอให้มีลูก คลอดลูกอย่างปลอดภัย ลูกมีสุขภาพแข็งแรง ใช้พกไว้ในกระเป๋าสตางค์  

 

เวลาเปิด-ปิดศาลเจ้า

 

เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ Image4

 

  • ศาลเจ้าเมจิเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวันตลอดทั้งปี โดยส่วนที่เป็นตัวศาลเจ้าจะไม่มีค่าเข้าชม ทั้งนี้ เวลาเปิดปิดจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล แต่ส่วนใหญ่ประมาณ 6.00 น.-18.00 น.  
  • Meiji Shrine Inner Garden หรือสวนภายในศาลเจ้า จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น. โดยในส่วนนี้จะมีค่าเข้าชมท่านละ 500 เยน
  • Meiji Jingu Museum หรือพิพิธภัณฑ์เมจิจิงกุ เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ยกเว้นวันพฤหัสบดี) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.30 น. รับผู้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.00 น. และมีค่าเข้าชมท่านละ 1,000 เยน  

 

การเดินทางมาศาลเจ้าเมจิ

 

เครื่องรางศาลเจ้าเมจิ Image5

 

  1. เดินทางโดยรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทร (Tokyo Metro) สายชิโยดะ (Chiyoda Line) และสายฟูกูโตชิง (Fukutoshin Subway Line) ลงที่สถานีเมจิจิงกุ (Meiji-jingu-mae Station) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 7 นาที  
     
  2. เดินทางโดยรถไฟ JR สายยามาโนะเตะ เซ็น (Yamanote-sen) ลงสถานีฮาราจูกุ (Harajuku Station) เดินออกจากทางออกโอโมเตะซันโดะ (Omotesando) มาทางด้านหลังของสถานี จะเห็นเสาโทริอิไม้ขนาดใหญ่อยู่ทางด้านขวา นั่นคือ ทางเดินไปศาลเจ้า

 

ศาลเจ้าเมจินั้น เป็นที่สถิตของเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่ได้ครอบครองเครื่องราง และใช้ด้วยความเคารพ มีความเชื่อและความศรัทธาจะได้รับพรตามที่ขอ  ดังนั้นใครที่มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นและได้มีโอกาสได้ไปแวะไหว้พระขอพรที่วัดหรือศาลเจ้าอย่าลืมบูชาเครื่องรางที่ช่วยเสริมดวงกลับมากันด้วยนะคะ

Powered by