ทัวร์ญี่ปุ่น เมืองโตเกียว, ยามานาชิ, ชิสึโอกะ WINTER IS COMING TO TOKYO FUJI DISNEYLAND 5D3N

ดิสนี่ย์แลนด์สวนสนุกแห่งความฝัน - สัมผัสหิมะที่ลานสกีฟูจิเทน - ล่องเรือโจรสลัดชมฟูเขาไฟฟูจิ - ลิ้มรสวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นที่พิพิธภัณฑ์ราเมง - สักการะหลวงพ่อโตคามากุระ วัดโคโตคุอิน - ช้อปปิ้งเต็มอิ่ม Gotemba outlet+ชินจูกุ+โอไดบะ - อิ่มอร่อยเมนูซิกเนเจอร์ขาปูยักษ์ + เซตหมูย่างหินภูเขาไฟ และพิเศษสุดๆ บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยม ROKKASEN + SOFTDRINK

  • จำนวนวัน
    5 วัน 3 คืน
  • ที่พัก
  • สายการบิน
    XJ
  • ประเทศญี่ปุ่น
    TWP-PJ015-NRT
  • เริ่มต้น
    ฿35,999

ช่วงเวลาเดินทาง

  • อา
  • พฤ

ดิสนี่ย์แลนด์สวนสนุกแห่งความฝัน - สัมผัสหิมะที่ลานสกีฟูจิเทน - ล่องเรือโจรสลัดชมฟูเขาไฟฟูจิ - ลิ้มรสวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นที่พิพิธภัณฑ์ราเมง - สักการะหลวงพ่อโตคามากุระ วัดโคโตคุอิน - ช้อปปิ้งเต็มอิ่ม Gotemba outlet+ชินจูกุ+โอไดบะ - อิ่มอร่อยเมนูซิกเนเจอร์ขาปูยักษ์ + เซตหมูย่างหินภูเขาไฟ และพิเศษสุดๆ บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยม ROKKASEN + SOFTDRINK

รายละเอียดทัวร์

เดินทาง 5 วัน 3 คืน

DAY1 กรุงเทพฯ

 

 

20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

23.50 น. ออกเดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ XJ600

>>>รวมค่าอาหารร้อนบนเครื่อง ท่านละ 1 เซต<<<

 

DAY2 สนามบินนาริตะ - วัดอาซากุสะ - พิพิธภัณฑ์ราเมง - คามากุระ - วัดโคโตคุอิน หลวงพ่อโต - Gotemba outlet

 

08.00 น. เดินทางถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชั่วโมง โปรดปรับเวลาในนาฬิกาของท่านให้เป็นเวลาท้องถิ่น)

ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ เวลานั้น และประกาศจากรัฐบาลญี่ปุ่น


สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น

นำท่านเดินทางสู่ วัดเซนโซจิ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดอาซากุสะ เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว มีถนนนากามิเสะ ที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย โดยสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้ก็คือ โคมสีแดงอันใหญ่ยักษ์ตรงประตูคามินาริมงจึงมีอีกชื่อเรียกว่า วัดโคมแดง ด้วยนั่นเอง
 

วัดอาซากุสะขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากที่สุดของเมืองโตเกียว ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่าเมื่อประมาณปี 628 สองพี่น้องได้ออกเรือไปตกปลา และตกรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามทิ้งรูปปั้นกลับลงสู่แม่น้ำเท่าไหร่ก็ตาม รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมก็จะกลับมาหาพวกเขาอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และได้กลายมาเป็นวัดที่ฮอตฮอตอันดับหนึ่งของเมืองโตเกียวอย่างในปัจจุบันนี่เอง

 

รับประทานอาหารเที่ยง ณ พิพิธภัณฑ์ราเมง cashback 1000 เยน
 

*กรณีที่วันที่เดินทางตรงกับวันหยุดของพิพิธภัณฑ์ราเม็งทางบริษัทฯจะนำท่านไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแทน*
 

พิพิธภัณฑ์ราเมง (Shin-Yokohama Ramen Museum) เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารโดยเฉพาะแห่งแรก ๆ ของญี่ปุ่นนี้ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 เพื่อนำเสนอเรื่องราวของราเมง (Remen) เอาไว้แบบครบถ้วนความอร่อย ทั้งเนื้อหา และรสชาติ ผ่านพื้นที่ที่แบ่งออกเป็น 3 ชั้น สองโซนหลัก เริ่มจากชั้น 1 พื้นที่แสดงประวัติน่าสนใจต่าง ๆ ของราเมง อาทิ คอลเลกชั่นราเมง ไม่ว่าจะเป็นเส้นราเมง ถ้วยราเมง ช้อนทานราเมง ที่แสดงถึงวิวัฒนาการ คัลเจอร์ และวัฒนธรรมการกินราเมงในแต่ละพื้นที่ได้อย่างน่าสนุก ก่อนไปละลายทรัพย์กันที่ร้านขายของที่ระลึกราเม ย่านราเมง ในพื้นที่ชั้นใต้ดินทั้งสองชั้น (B1/B2) ของตัวพิพิธภัณฑ์ ที่สถาปัตยกรรมทุกอย่างภายใน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ดวงไฟ พื้นทางเดิน โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ล้วนถูกดีไซน์ให้อยู่ในบรรยากาศของเมืองชิตามาชิ (Shitamachi City) ช่วงปี ค.ศ. 1958 ซึ่งเป็นยุคจุดกำเนิดของราเมงนั่นเอง แถมเพิ่มขีดความสุขของคนรักในการทานราเมง ด้วยการนำร้านราเมงชื่อดังจากทั่วทุกสารทิศของประเทศญี่ปุ่น มาเปิดขายภายในย่านราเมงแห่งนี้ แบบหมุนเวียนร้านใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคามากุระ สักการะพระใหญ่(Daibutsu) หรือที่ได้รับการขนานนามว่า “Great Buddha of Kamakura” พระใหญ่แห่งคามาคุระนั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโคโตคุอิน(Kotokuin Temple) นับว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมากๆของเมืองคามาคุระทีเดียวล่ะค่ะ โดยถือเป็นรูปปั้นพระที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นจะเป็นรองก็แค่เพียงพระใหญ่ที่วัดโทไดจิเมืองนาราเท่านั้นเอง เดิมทีหลวงพ่อประดิษฐานอยู่ภายในอาคารวัด แต่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 และ 15 อาคารของวัดหลายส่วนได้ถูกพายุไต้ฝุ่นทำลายลง ทำให้เหลือแต่องค์พระใหญ่ตั้งอยู่โดยไม่ได้สร้างอาคารขึ้นมาครอบใหม่

นำท่านเดินทางสู่ Gotemba premium outlet เอ้าท์เลตแห่งนี้จะมีบรรยากาศแบบเอ้าท์ดอร์ ภายในมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน และศูนย์อาหาร รวมถึงชิงช้าสวรรค์ที่สูง 50 เมตรที่ทำให้เราสามารถชมวิวมุมสูงกันได้แบบเพลินๆ จิรงๆแม้จะบอกว่าพอจะมีสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นแต่ที่นี่ส่วนมากจะเน้นไปที่แบรนด์ต่างประเทศมากกว่า โดยร้านค้าต่างๆ เหล่าานี้ล้วนเป็นของพรีเมี่ยมแบรนด์จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ในครัวเรือน และสินค้าอิเลกทรอนิกส์ แบรนด์ก็จะมีทั้ง Abercrombie & Fitch ,Adidas, Alexander McQueen, Alexander Wang, Anna Sui, Balenciaga, Birkenstock, Burberry, Bvlgari, Cath Kidston, Celine, Columbia Sportswear, Diesel,G-Shock, Gucci, Issey Miyake, Kate Spade New York, Lacoste, Levi’s, Marc Jacobs, Nike, Oakley, Paul Smith, Ralph Lauren, Ray-Ban, Saint Laurent และอื่นๆอีกมากมาย

รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม **พิเศษ! เมนูซิกเนเจอร์บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์**

 

ที่พัก Fuji Onsen Hotel หรือเทียบเท่า

ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นของคนญี่ปุ่น


 

DAY3 ชั้น 5 ภูเขาไฟฟูจิ - ลานสกีฟูจิเทน - หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮัคไค - ล่องเรือโจรสลัด - โตเกียว - ชินจูกุ

 

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
 

ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 หรือ Mt. Fuji 5th Station เป็นทั้งจุดชมวิวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและจุดเริ่มต้นในการเดินเท้าขึ้นไปสู่ยอดภูเขาไฟฟูจิสำหรับบรรดานักปีนเขา ตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิถูกแบ่งออกเป็น 10 สถานี หรือ 10 ระดับตามเส้นทางในการปีนขึ้นไปสู่ยอดเขา เนื่องจากระบบการคมนาคมที่ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ในปัจจุบันรถบัสสามารถวิ่งขึ้นมาได้ถึงบริเวณชั้นที่ 5 ส่งผลให้สถานีนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่สำหรับนักปีนเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่นี่ยังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นมาชมภูเขาไฟฟูจิอย่างใกล้ชิดเต็มตา รวมถึงยังสามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบทั้ง 5 แห่งที่รายล้อมอยู่ได้อีกด้วย

ที่นี่ท่านสามารถเดินขึ้นไปสักการะ ศาลเจ้าโคมิทาเกะ (Komitake Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 937 โดยเชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าที่ดูแลภูเขาไฟฟูจิ และยังคอยดูแลบรรดานักปีนเขา จึงถือเป็นศาลเจ้าหนึ่งที่ได้รับความเคารพอย่างมากในหมู่นักปีนเขา ซึ่งจะแวะเวียนกันมาทำความเคารพศาลเจ้าแห่งนี้ทุกครั้งก่อนที่จะเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Fujiten Snow resort เป็นสกีรีสอร์ตทางตอนเหนือของภูเขาไฟฟูจิ เป็นทำเลที่เยี่ยมสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังและทะเลสาบคาวากุจิอยู่เบื้องล่าง คุณสามารถเล่นสกี สโนว์บอร์ด ลากเลื่อนและเล่นหิมะได้ที่นี่ จุดสนใจของ Fujiten Snow Resort ก็คือภูเขาฟูจิที่สวยงามที่คุณสามารถชมได้ในขณะที่ทำกิจกรรมท่ามกลางหิมะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาไฟฟูจิที่มองเห็นจากระเบียงบ้านชั้น 2F ของ Center House และภูเขาไฟฟูจิที่มองเห็นจากด้านบนสุดของทางลาดลงเนินนั้นดูทรงพลังและความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง (ไม่รวมค่าเช่าอุปกรณ์และชุดสำหรับเล่นสกี)

**หากลานสกีฟูจิเทนมีปริมาณหิมะไม่เพียงพอ บริษัทจะพาท่านไปที่ลานสกี Fujiyama Snow Resort Yeti (Snow Town Yeti) แทน

Oshino Hakkai (忍野八海) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า หมู่บ้านน้ำใส นั้นตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ ในเขตพื้นที่เดียวกันกับทะเลสาบทั้ง 5 ที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิเอาไว้นั่นเอง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิจึงนิยมเดินทางมาที่หมู่บ้านน้ำใสแห่งนี้ด้วย ที่นี่มีความสวยงามในระดับที่ว่าได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางธรรมชาติในปีค.ศ. 1934 และได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ทางน้ำที่งดงามร้อยอันดับในปี ค.ศ. 1985 อีกด้วยที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เล่าขานกันมาว่าแต่เดิมเป็นพื้นที่ของทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทำให้ทะเลสาบเหล่านั้นมีการเหือดแห้งไปตามธรรมชาติเมื่อเวลากว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา และสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือบ่อน้ำทั้ง 8 บ่อที่บรรจุน้ำที่ใสสมชื่อหมู่บ้านเอาไว้เต็มเปี่ยม ซึ่งน้ำใสในบ่อทั้ง 8 นี้คือน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟในช่วงฤดูร้อน ไหลผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนรวมกับแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้น้ำนั้นใสแจ๋วอย่างที่เราเห็น คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าน้ำใน 8 บ่อนี้ไม่ใช่แค่น้ำที่ใสสะอาดและเย็นฉ่ำเท่านั้น แต่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่หากใครได้ดื่มกินจะมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถวักน้ำจากในบ่อขึ้นมาดื่มได้ หรือถ้าหากอยากเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกหรือของฝากก็สามารถซื้อขวดจากร้านค้าบริเวณนั้นแล้วกรอกน้ำไส่ขวดกลับไปได้

รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร เมนูหมูย่างหินภูเขาไฟ

 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู ฮาโกเน่ ล่องเรือโจรสลัดที่ทะเลสาบอาชิ (ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 40 นาที) ทะเลสาบอาชิโนโกะนั้นเกิดขึ้นหลังจากการประทุของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อ 3,000 ปีก่อน ที่นี่ท่านจะได้ล่องเรือรับลมเย็นๆ ในวันที่อากาศดีจะมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ เป็นภาพที่สวยงามเกินบรรยาย

เดินทางสู่ กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง


นำท่านเดินทางสู่ ชินจูกุ ย่านช้อปปิ้ง ของกิน สถานที่เที่ยว ที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น อิสระเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารเย็น พิเศษ บุฟเฟ่ต์อาหารเย็นสุดพรีเมี่ยม ROKKASEN +SOFT DRINK

ที่พัก Tokyo Prince Hotel, Shinjuku prince hotel หรือเทียบเท่า

DAY4 ดิสนีย์แลนด์ (รวมค่าเข้า) - โอไดบะ - นาริตะ

 

 

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านออกเดินทางไปยัง Tokyo Disneyland โดยรถโค้ชปรับอากาศ

โตเกียวดิสนีย์แลนด์(Tokyo Disneyland) นับว่าเป็นสวนสนุกอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ความนิยมของที่นี่นั้นดูได้จากการเป็นสวนสนุกที่มีนักท่องเที่ยวต่อปีเกือบ 20 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและยังมากเป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย โตเกียวดิสนีย์แลนด์นั้นถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทผลิตภาพยนตร์การ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ เปิดให้บริการในปี 1983 ซึ่งเป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยธีมหลัก 7 ธีม ได้แก่ World Bazaar ตั้งอยู่ประตูทางเข้าหลักที่ไปยังพาร์ค เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เรียงรายไปด้วยร้านค้า และร้านอาหาร พื้นที่แห่งนี้ออกแบบคล้ายยุคศตวรรษที่ 20 ของอเมริกา

 

Tomorrow land ออกแบบเป็นพื้นที่นอกโลก และเทคโนโลยีต่างๆจากโลกอนาคต มีจุดที่น่าสนใจได้แก่ Space Mountain, Star Tours และ Buzz Lightyear’s AstroBlasters. Toontown เป็นย่านชานเมืองที่อยู่อาศัยของชาวตัวละครดิสนีย์ คุณจะได้เข้าสำรวจบ้านของมิกกี้เม้าส์ ลงเล่นบนเรือเป็ดโดนัลดั๊ก บ้านต้นไม้ของชิปและเดลล์ และมีเครื่องเล่นรถไฟเหาะขนาดเล็กเหมาะสำหรับเด็กเล็ก


Fantasyland สร้างเป็นสไตล์ภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์แบบคลาสสิค เป็นที่ตั้งของปราสาทของซินเดอเรลล่า และยังมีตัวละครเทพนิยายอื่นๆ เช่น ปีเตอร์แพน สโนว์ไวท์ เมืองเล็กๆของวินนี่เดอะพูห์ เป็นต้น Critter Country เป็นบ้านของกระต่าย Br’er, สุนัขจิ้งจอก Br’er, หมี Br’er และตัวละครอื่นๆจากภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Song of the South” และยังมีเครื่องเล่นล่องเรือแคนูบนแม่น้ำอเมริกาอีกด้วย


Western land สร้างจำลองเมืองชายแดนทางทิศตะวันตกตามแนวแม่น้ำอเมริกา เป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นรถไฟเหาะBig Thunder Mountain และมีเกาะ Tom Sawyer ตั้งอยู่กลางแม่น้ำ ปิดท้ายด้วย


Adventure land สามารถผจญภัยไปกับการล่องเรือเข้าไปในป่า สำรวจบ้านต้นไม้ของครอบครัวสวิส(Swiss Family Treehouse) หรืออาจะนั่งรถไฟสายแม่น้ำตะวนตก และล่องเรือไปกับโจรสลัดในทะเลแคริบเบียน ถ้าแค่เครื่องเล่นตามโซนต่างๆยังไม่จุใจพอเค้าก็ยังมีการตกแต่งโซนต่างๆให้มีความสวยงามตามฤดูกาล และมีการเดินขบวนพาเหรดที่สนุกสนานที่จะมีเหล่าคาเรคเตอร์การ์ตูนสุดปังมาเดินพร้อมองค์ประกอบสุดอลังการให้เราได้ถ่ายรูปกันรัวๆด้วยล่ะค่ะ ยิ่งช่วงเทศกาลสำคัญๆอย่างคริสต์มาสนี่ยิ่งบอกเลยว่าห้ามพลาดช่วงกลางคืนที่จะมีการประดับประดาปราสาทและทั่วบริเวณอย่างงดงามมากเป็นพิเศษอีกด้วย

*อิสระอาหารเที่ยงที่ดิสนีย์แลนด์
 

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ โอไดบะ Odaiba แหล่งชอปปิ้งและความบันเทิงของโตเกียว ถ้าดูจากแผนที่แล้ว Odaiba มีสภาพเป็นเกาะอยู่ที่อ่าวโตเกียว ในสมัยเอโดะ ค.ศ. 1603-1868 เกาะ Odaiba ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ (คำว่า daiba แปลว่าป้อมปราการ) ป้องกันการรุกรานของข้าศึก ต่อมาอีก 100 กว่าปี เกาะ Odaiba ได้ถูกถมเพิ่มเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ตึก สำนักงาน และ ท่าเรือ การถมทะเลในตอนนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในวงการก่อสร้างมาก ในปี ค.ศ.1990 มีโรงแรม และศูนย์การค้ามาเปิดที่ Odaiba และเริ่มมีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ เกิดขึ้นเช่นตึก Fuji TV Building, Telecom Center และ Tokyo Big Sight ตอนนี้ Odaiba เป็นเมืองใหม่ของโตเกียว มีผังเมืองสวยงาม ตึกรูปทรงแปลกตา รถไม่เยอะเหมือนโตเกียว ไม่วุ่นวาย

อิสระรับประทานอาหารเย็น

ที่พัก Narita Hotel หรือเทียบเท่า

DAY5 โรงแรม - สนามบินนาริตะ - กรุงเทพฯ

 

 

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

 

09.15 น. ออกเดินทางจากสนามบินนาริตะ โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ XJ601

>>>รวมค่าอาหารร้อนบนเครื่อง ท่านละ 1 เซต<<<

 

14.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

ช่วงเวลาเดินทาง

ช่วงเวลาผู้ใหญ่

เงื่อนไขทัวร์

*ไม่มีราคาเด็ก 

**ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าทิปไกด์และคนขับรถ 1,200 บาทต่อท่าน (ลูกค้า)

***ไม่รวมค่าวีซ่าและค่าบริการทำวีซ่าVFS (1575 บาท)

โปรแกรมทัวร์ใกล้เคียง

Powered by