พิเศษ!! อิ่มฟินส์กับเมนูต้นตำรับ สุกี้มองโกล, เป็ดปักกิ่ง พักสบายกับโรงแรมมาตรฐานระดับ 4 ดาว • จตุรัสเทียนอันเหมิน • สวนยวี่หยวนถาน • พระราชวังกู้กง • พระราชวังฤดูร้อน • วัดหลิงกวง • ย่าน SANLITUN STREET • ถนนหวังฝูจิ่ง • เมืองโบราณใต้ดิน • กำแพงเมืองจีนด่านจวียงกวน • SOLANA SHOPPING CENTER
พิเศษ!! อิ่มฟินส์กับเมนูต้นตำรับ สุกี้มองโกล, เป็ดปักกิ่ง พักสบายกับโรงแรมมาตรฐานระดับ 4 ดาว • จตุรัสเทียนอันเหมิน • สวนยวี่หยวนถาน • พระราชวังกู้กง • พระราชวังฤดูร้อน • วัดหลิงกวง • ย่าน SANLITUN STREET • ถนนหวังฝูจิ่ง • เมืองโบราณใต้ดิน • กำแพงเมืองจีนด่านจวียงกวน • SOLANA SHOPPING CENTER
วันแรก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)
16.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 2 แถว C เคาน์เตอร์สายการบินเวียตเจ็ท (VZ) พบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์จากทางบริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ท่านในด้านตั๋วเครื่องบินและสัมภาระในการเดินทาง
19.15 น. นำทุกท่านลัดฟ้าสู่ เมืองปักกิ่งประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่ VZ3718 / ไม่มีอาหารบริการ
วันที่สอง ปักกิ่ง – หอสักการะฟ้าเทียนถาน - จตุรัสเทียนอันเหมิน - พระราชวังกู้กง – ถนนหวังฝูจิ่ง & เมืองโบราณใต้ดิน
01.10 น. เดินทางถึง สนามบินปักกิ่ง ต้าชิง ประเทศจีน (เวลาท้องถิ่นเร็ว กว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง)
จากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระ จากนั้นนำท่านเช็คอินสู่โรงแรมที่พัก
พักที่ :: Holiday Inn Express Hotel หรือ Beijing Jinglin Hotel หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ( 1 )
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของมหานครปักกิ่ง หนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่มีอายุกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ แห่งราชวงศ์หมิง ค.ศ.1420 เพื่อใช้ประกอบพิธีบวงสรวงต่อสวรรค์ตามคติความเชื่อของจีนโบราณ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน บนพื้นที่กว้างขวางโอ่อ่า 2.7 ล้านตารางเมตร หรือ 1,668.75 ไร่ (ใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้ามถึง 4 เท่า) ตัวหอสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ความสูง 3 ชั้น ตั้งบนฐานหินหยกขาว มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 32.5 เมตร และสูง 38 เมตร โดยไม่ได้ใช้ตะปูในการก่อสร้างแม้แต่ตัวเดียว เดิมใช้เป็นสถานที่ในการทำพิธีบวงสรวงขอให้ฝนตกตามฤดูกาล และให้ได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ประชาชน หอสักการะฟ้าเทียนถานคงอยู่มาจนถึงช่วงค.ศ. 1918 หลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการปกครองครั้งใหญ่ หอฟ้าเทียนถานได้กลายไปเป็นสวนสาธารณะที่ต้อนรับประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 1998
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square protests) จัตุรัสใจกลางเมืองของกรุงปักกิ่ง นับเป็นสถานที่สำคัญเชิงประวัติศาสตร์ที่มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น เดิมมีชื่อว่า “เฉิงเทียนเหมิน” ซึ่งมีความหมายว่า “น้อมรับบัญชาจากสวรรค์” โดยตั้งชื่อตามพลับพลาเทียนอันเหมินที่อยู่ทางเหนือสุดของจัตุรัส ซึ่งสร้างขึ้นในปีที่ 15 ของจักรพรรดิหย่งเล่อ แห่งราชวงศ์หมิง เมื่อปี ค.ศ. 1417 เป็นประตูใหญ่ของเขตพระราชวัง เบื้องหลังหอประตูนี้คือพระราชวังต้องห้าม (กู้กง) จัตุรัสแห่งนี้มีความยาวตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ 880 เมตร ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก 500 เมตร มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งสิ้น 440,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้คนได้มากถึงหนึ่งล้านคน ภายในและโดยรอบจัตุรัสมีสถานที่สำคัญมากมาย ทั้งอนุสาวรีย์วีรชน มหาศาลาประชาชน อนุสรณ์สถานประธานเหมา พิพิธภัณฑ์การรถไฟจีน และประตูเจิ้งหยางเหมิน
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังกู้กง หรือ พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) เป็นหนึ่งในมรดกโลกแห่งเมืองจีนที่ได้รับการรับรองจาก Unesco แปลตรงตัวตามอักษรจีนว่า “เมืองต้องห้ามสีม่วง” เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 600 ปี ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง โดยอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นพระราชวังหลวงมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง จนถึงราชวงศ์ชิง ในอดีตพระราชวังนี้จะเป็นเขตหวงห้าม ไม่ให้ประชาชนเข้า เพราะภายในเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ นางสนม นางกำนัล ขันที และข้าหลวงที่คอยรับใช้เท่านั้น ปัจจุบันกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในปักกิ่ง พระราชวังต้องห้าม มีห้องอยู่ทั้งหมด 9,999 ห้อง แต่อย่างไรก็ดีมีตำนานเกี่ยวกับจำนวนเลขห้อง โดยแท้จริงแล้วจำนวนเลขห้องของพระราชวังต้องห้าม เกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย ตามประเพณีดั้งเดิมออกแบบไว้จำนวน 9,999.5 ห้อง เพื่อให้เทพหยวนสื่อเทียนจุ้น เท่านั้นที่สามาถเดินทางในห้องที่ 10,000 ได้ นอกจากนี้คำว่า 9,999 เป็นเลขมงคลที่มีความหมายว่า “นิรันดร์” ไฮไลท์สำคัญของสถานที่แห่งนี้ คือ ประตูอู๋ (Meidan Gate) และ พระที่นั่งไท่เหอ (Hall of Supreme Harmory) 1 ใน 3 พระที่นั่งสำคัญที่ใช้ในการประกอบพระราชพิธีต่างๆ เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม ซึ่งสร้างจากไม้ทั้งหลัง ด้านในท้องพระโรงมีขนาดกว้างขวางมาก รวมถึงบัลลังก์มังกรของฮ่องเต้ที่ตั้งอยู่บริเวณตรงกลาง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ( 2 )
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนหวังฝูจิ่ง (Wangfujing) เป็นถนนคนเดินชื่อดังของกรุงปักกิ่งที่กลมกลืนเข้ากับตึกเก่าแก่ที่มีอายุเป็นร้อยปี ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ปัจจุบันถนนหวังฝูจิ่ง เป็นย่านเศรษฐกิจการค้า ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่เป็นศูนย์รวมของร้านค้าแบรนด์เนมและแฟชั่นทันสมัย ทั้งยั้งมี ZARA NIKE NBA ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีร้านอาหารจีนและนานาชาติ ภัตตาคารหรู รวมไปถึงแผงขายอาหารกินเล่น หรืออาหารพิสดารก็สามารถหาทานได้ที่นี่ อาทิ แมงป่อง ปลาดาว ม้าน้ำ ฯลฯ ซึ่งคนจีนเชื่อว่าเป็นอาหารที่บำรุงร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีร้านขาย "ขนมถังหูลู่" ขนมหวานโบราณยอดนิยมของชาวจีนนั่นเอง
• จากนั้นนำท่านสู่ เมืองโบราณใต้ดิน ตี้เซี่ยเฉิง เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของปักกิ่งที่ทางการต้องส่งเสริมและให้ความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์และความยิ่งใหญ่ เดิม “เมืองใต้ดิน” แห่งนี้ เป็นหลุมหลบภัยทางอากาศเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1969 ตามคำสั่งของประธานเหมา หรือเหมาเจ๋อตง อดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของจีน ในยุคของสงครามเย็นระหว่างจีนและอดีตสหภาพโซเวียต โดยใช้แรงงานคนหลายหมื่นคนมีทั้งชาวบ้าน และนักเรียน นักศึกษาในการขุด โดยไม่มีเครื่องจักรช่วยเลย ซึ่งแสดงเป็นภาพให้เห็นที่ผนังอุโมงค์ ใช้เวลานานถึง 10 ปีจึงสร้างเสร็จ ความยาวของอุโมงค์แห่งนี้มากกว่า 30 กิโลเมตร กินเนื้อที่ราว 85 ตารางกิโลเมตร ลึก 8-18 เมตรจากพื้นดิน ภายในสูงราว 3 เมตร อย่างไรก็ตาม เมืองใต้ดินได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งในบางส่วน เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยว เมื่อปี 1980 ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูสุกี้มองโกล ( 3 )
พักที่ :: Holiday Inn Express Hotel หรือ Beijing Jinglin Hotel หรือระดับเทียบเท่า
วันที่สาม วัดหลิงกวง - บัวหิมะ - กำแพงเมืองจีนด่านจวียงกวน – SOLANA SHOPPING CENTER
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ( 4 )
• จากนั้นนำท่านสู่ วัดหลิงกวง ศูนย์กลางแห่งศรัทธาในกรุงปักกิ่ง เป็นวัดพุทธเก่าแก่แก่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี ตั้งอยู่บนเชิงเขาทางทิศตะวันออกของเทือกเขาด้านตะวันตกของกรุงปักกิ่ง เริ่มก่อสร้างขึ้นในรัชสมัยต้าสี่แห่งราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 766-779) วัดหลิงกวงมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั้งในเมืองจีนและจากต่างประเทศ ในปี ค.ศ. 1983 วัดหลิงกวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดพุทธสำคัญในพื้นที่วัฒนธรรมจีนฮั่นโดยคณะรัฐมนตรีจีน ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของคณะสงฆ์ซึ่งพุทธสมาคมจีนมอบหมายแต่งตั้ง พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่วัดหลิงกวง ประดิษฐานอยู่ภายในพระสถูปทองคำประดับอัญมณี องค์พระเขี้ยวแก้วมีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว เชื่อกันว่าบุคคลต่าง ๆ มองเห็นองค์พระเขี้ยวแก้ว มีสีต่างกันไป บ้างเห็นเป็นสีขาวล้วน บ้างเห็นเป็นสีทอง บ้างเห็นเป็นสีขาวหม่น ซึ่งเป็นไปตามกรรม ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ( 5 )
• จากนั้นนำท่านสู่ ร้านบัวหิมะ สมุนไพรจีนที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองชาวจีนมายาวนาน ซึ่งบัวหิมะมีสรรพคุณรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ผื่น แมลงสัตว์กัดต่อย บำรุงผิว ซึ่งเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ทั้งแผนโบราณและแผนปัจจุบัน
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) หรือ “กำแพงหมื่นลี้” ตำนานความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของจีน ตั้งอยู่บนพรมแดนทางตอนเหนือของประเทศจีน เริ่มต้นสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน (ราวปี พ.ศ. 322-337 หรือ 221-206 ปีก่อนคริสตกาล) เมื่อปี ค.ศ. 1987 หรือ พ.ศ. 2530 องค์การ UNESCO ได้บันทึกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือของชาวจีน กว่า 1 ล้านชีวิต โดยใช้วัสดุก่อสร้างที่หาได้ในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งมีตั้งแต่ดิน ดินเหนียว กรวด หิน ไม้ หินอ่อน หินแกรนิต โคลน เป็นต้น ต่อมาสำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ว่านักโบราณคดีได้ตรวจวัดความยาวของสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือ “กำแพงเมืองจีน” อย่างเป็นทางการนานร่วม 5 ปี ตั้งแต่ 2008-2012 และพบว่ายาวกว่าที่บันทึกไว้เดิมกว่า 2 เท่า หรือ 21,196.18 กิโลเมตร จากเดิม 8,850 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ กำแพงเมืองจีนจัดเป็นกำแพงที่ยาวและใหญ่ที่สุดในบรรดากำแพงต่างๆที่มีอยู่ทั่วโลก
• จากนั้นนำท่านสู่ SOLANA SHOPPING CENTER เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีขนาดใหญ่มีการออกแบบอาคารที่ผสมผสานกับสไตล์ยุโรป มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยไว้อย่างครบครัน เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงยังมีหลากหลายแบรนด์ดังให้ช้อปปิ้งอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูเป็ดปักกิ่ง ( 6 )
พักที่ :: Holiday Inn Express Hotel หรือ Beijing Jinglin Hotel หรือระดับเทียบเท่า
วันที่สี่ วัดลามะยงเหอกง - ร้านหยก – พระราชวังฤดูร้อน - ย่าน Sanlitun - ปักกิ่ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ( 7 )
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดลามะ (Lama Temple) หรือที่มีอีกชื่อเรียกว่า “ยงเหอกง” แปลเป็นไทยว่า “พระตำหนักยงเหอ” สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1694 เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม 4 สายหลักแห่งชนชาติจีน คือชนชาติฮั่น แมนจู มองโกล และทิเบต ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เดิมวัดลามะแห่งนี้เป็นสถานที่เพื่อใช้เป็นที่ประทับให้แก่ จักรพรรดิยงเจิ้ง พระราชโอรสองค์ที่ 4 ของจักรพรรดิคังซี ฮ่องเต้ลำดับที่ 4 แห่งราชวงศ์ชิง ในสมัยที่ท่านยังทรงพระเยาว์ ในช่วงกลางถึงปลายราชวงศ์ชิง วัดลามะถือเป็นวัดพุทธศาสนาแบบทิเบตที่เรืองอำนาจสุดในประเทศจีน ต่อมาเมื่อองค์ชายสี่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ จึงย้ายเข้าไปประทับในพระราชวังต้องห้าม (กู้กง) พระองค์จึงได้เปลี่ยนสถานที่แห่งนี้เป็นที่ประทับพักผ่อนอิริยาบถชั่วคราวที่อยู่ภายนอกวัง หลังจากที่จักรพรรดิยงเจิ้ง เสด็จสวรรคตไปในปี ค.ศ.1735 ฮ่องเต้เฉียนหลงที่เป็นพระราชโอรสก็ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อ กระทั่งในปี ค.ศ.1744 พระองค์ทรงได้ยกบริเวณพื้นที่พระตำหนักทั้งหมดให้แก่พระภิกษุชาวทิเบต และเปลี่ยนชื่อที่นี่เป็น “วัดลามะ” อย่างที่เราเรียกกันในปัจจุบัน
• จากนั้นนำท่านสู่ ร้านหยก อัญมณีที่ชาวจีนยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ ความใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และความมีสติปัญญา ทั้งยังมีความเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย โชคลาภ และอายุยืน ดังนั้น ชาวจีนจึงนิยมใช้หยกเป็นเครื่องประดับและเครื่องใช้ต่างๆ และมักพกหยกติดตัวไว้เสมอ
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อวี้เหอหยวน หรือ พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) เป็นพระราชอุทยานหลวงที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ ปี.ค.ศ.1998 เริ่มก่อสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1153 โดยจักรพรรดิไห่หลิงอ๋องแห่งราชวงศ์จิน หลังย้ายราชธานีมาอยู่ที่ต้าตูหรือปักกิ่งในปัจจุบัน ต่อมาใช้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานฤดูร้อนในช่วงราชวงศ์หยวน กระทั่งถึงในรัชกาลของจักรพรรดิเฉียนหลง แห่งราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ.1749 พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้มีการสร้างสวนชิงอีขึ้น (ชื่อเดิมของพระราชวังฤดูร้อน) เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติให้แก่ “ฉงชิ่งหวงไท่โฮ่ว” หรือ “จักรพรรดินีเสี้ยวเซิ่งเซี่ยน” พระราชมารดาของเฉียนหลงฮ่องเต้ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในช่วงเวลานั้นมีการขุดลอกคูคลองและปรับปรุงสิ่งก่อสร้างบริเวณภูเขาและทะเลสาบครั้งใหญ่ มีการขุดขยายขนาดสระที่มีอยู่แล้วเดิมที ให้มีขนาดกว้างขึ้นและเอาดินที่ได้จากการขุดขยายทะเลสาบนี้ไปถมเป็นภูเขาสำหรับสร้างพระตำหนัก แม้พระราชวังฤดูร้อนจะเคยได้รับความเสียหายหลายครั้ง จากเหตุการณ์รุกรานและสงครามกับชาติตะวันตกตลอดในสมัยช่วงราชวงศ์ชิง แต่ก็ได้รับการบูรณะอยู่เสมอมาจนถึงปัจจุบัน
• จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ SANLITUN STREET ย่านซานหลี่ถุนหรือสยามสแควร์ปักกิ่ง เป็นย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารเก๋ๆ และแหล่งสถานบันเทิงยามค่ำคืน โดยมีร้านอาหารจีนสุดหรูที่เสิร์ฟเป็ดย่างหนังกรอบ บิสโตรนานาชาติ และคาเฟ่ขนมหวานที่เสิร์ฟเมนูสไตล์ยุโรป รวมถึงร้านขนาดเล็กที่เสิร์ฟเมนูเส้นและซาลาเปาไส้หมูให้กับนักท่องราตรีที่มารวมตัวกันอย่างล้นหลามในบาร์คาราโอเกะ ค็อกเทลเลาจน์ และแดนซ์คลับแสนครึกครื้นภายในย่าน ทั้งยังมีห้าง Taikoo Li ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าแฟรนไชส์จากทั่วโลกและประติมากรรมกลางแจ้งแนวร่วมสมัย
*** อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ***
*** กรุณาตรงต่อเวลานัดหมาย เพื่อเดินทางสู่สนามบิน***
วันที่ห้า กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)
02.15 น. ออกเดินทางกลับโดย สายการบิน Vietjet Air (VZ) เที่ยวบินที่ VZ3719
06.10 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
ช่วงเวลา | ผู้ใหญ่ |