ทัวร์ญี่ปุ่น เมืองกิฟุ, เกียวโต, โอซาก้า OSAKA KYOTO GIFU MATSUMOTO 6D4N ซุปตาร์ บ้านน้ำแข็ง II

สักการะ พระใหญ่ไดบุทสึ แห่งเมืองนารา ไฮไลท์!! อลังการไฟล้านดวง ณ หมูบ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ ช้อปปิ้ง ซาคาเอะ ย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองนาโกย่า ชม หมู่บ้านมรดกโลกการันตีโดย UNESCO ณ ชิราคาวาโกะ อลังการ ปราสาทอีกา หรือ ปราสาทมัตสึโมโตะ สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น เรียนรู้พิธีชงชา ณ วัดเฮอัน เยือน วัดคิโยมิสึเดระ วัดน้ำใส สามสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ แห่งเกียวโต ชมความยิ่งใหญ่ ของปราสาทโอซาก้า

  • จำนวนวัน
    6 วัน 4 คืน
  • ที่พัก
  • สายการบิน
    XJ
  • ประเทศญี่ปุ่น
    TWP-XJ052
  • เริ่มต้น
    ฿39,888

ช่วงเวลาเดินทาง

  • อา
  • พฤ

สักการะ พระใหญ่ไดบุทสึ แห่งเมืองนารา ไฮไลท์!! อลังการไฟล้านดวง ณ หมูบ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ ช้อปปิ้ง ซาคาเอะ ย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองนาโกย่า ชม หมู่บ้านมรดกโลกการันตีโดย UNESCO ณ ชิราคาวาโกะ อลังการ ปราสาทอีกา หรือ ปราสาทมัตสึโมโตะ สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น เรียนรู้พิธีชงชา ณ วัดเฮอัน เยือน วัดคิโยมิสึเดระ วัดน้ำใส สามสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ แห่งเกียวโต ชมความยิ่งใหญ่ ของปราสาทโอซาก้า

รายละเอียดทัวร์

เดินทาง 6 วัน 4 คืน

วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ  ประเทศไทย

22.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ F สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

วันที่สอง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น – เมืองโอซาก้า – ปราสาทโอซาก้า (ด้านนอก) – เมืองนารา – วัดโทไดจิ – เมืองนาโกย่า - งานประดับไฟฤดูหนาว  ณ หมู่บ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ

01.15 น. เหินฟ้าสู่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ612

สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3  (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย) 

บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

08.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ

เดินทางสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเมืองโอซาก้ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ทั้งยังมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) และ คุชิคัตสึ

เดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (ด้านนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูน้ำ และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก ความงดงามของปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนและชมตลอดทั้งปี

13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)

เดินทางสู่ เมืองนารา (Nara) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของราชวงศ์ยามาโต้ (300-600) เมืองหลวงเก่าแก่แห่งนี้มีวัดและศาลเจ้ามากมายซึ่งบางแห่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรกดโลก

นำท่านสู่ วัดโทไดจิ (Todaiji) วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุทสึ (Daibutsu of Nara) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 752 เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศและมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในยุคนั้น เพื่อลดบทบาทและอิทธิพลของวัดต่อรัฐบาลลง จึงได้มีการย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังนากาโอกะในปี 784

ภายในเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตหรือ ไดบุทสึเดน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 15 เมตร อีกจุดที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมอย่างมากก็คือ เสาไม้ยักษ์ ซึ่งฐานขนาดรอบเสานี้มีขนาดเท่ากันรูจมูกของหลวงพ่อโต และด้านล่างของเสาจะเป็นช่องขนาดไม่ใหญ่มาก มีความเชื่อว่าหากใครสามารถรอดผ่านช่องนี้ไปได้ก็จะสามารถตรัสรู้ได้ในชาติหน้า

นำท่านสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) เป็นตัวเมืองของจังหวัดไอจิ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์รวมการค้าและการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)

ชม งานประดับไฟฤดูหนาว  ณ หมู่บ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Winter Illumination) เป็นธีมพาร์คสวนดอกไม้ ที่มีทุ่งดอกไม้ให้ชมตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไฮไลท์!!! การประดับไฟขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จะมีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตลอดจนถึงปลายฤดูหนาว (ตุลาคม-มีนาคม) จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมี การแสดงไฟในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์แสงไฟ (Tunnel of Light) หรือ การประดับไฟในน้ำ (Water Illumination) อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอลังการงานประดับไฟที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีมุมให้เก็บภาพประทับใจกลับไปอย่างมากมาย 

เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย

พักที่ The B Nagoya  หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่สาม  อิสระกิจกรรมฤดูหนาว บนลานสกีเมืองกุโจ จังหวัดกิฟุ - หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ – เมืองทาคายามะ -  ถนนซันมาจิซูจิ - เมืองมัตสึโมโตะ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ลานสกีเมืองกุโจ จังหวัดกิฟุ อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมฤดูหนาว บนลานสกีหิมะขาวโพลนกว้างสุดลูกหูลูกตา ท่านสามารถเช่าชุดอุปกรณ์สกีสำหรับถ่ายรูปหรือเล่นสกีทั้งถาดเลื่อน (Sled Snow board) หรือ กิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย (ราคาไม่รวมค่ากิจกรรม – ค่าเช่าอุปกรณ์ต่างๆ) 

  • หมายเหตุ กรณีที่หิมะไม่หนาฟูมากพอที่จะเล่นสกีได้ในช่วงต้นฤดูกาลเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยในปีนั้นๆ สงวนสิทธิ์ ปรับโปรแกรมไปเที่ยวในตัวเมืองกุโจฮาจิมังแทน โดยไกด์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมและแจ้งลูกค้าหน้างานเอง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)

จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เมืองที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีรูปร่างแปลกตาติดอันดับ The most beautiful village in Japan และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

ไฮไลท์!! หมู่บ้านแบบกัชโชสึคุริ เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คำว่า กัชโช  มีความหมายว่า พนมมือ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ต่อมา ในปีค.ศ. 1995 องค์กรยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้ชิราคาวาโกะเป็นมรดกโลก

จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองทาคายามะ (Takayama) จังหวัดกิฟุ เมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและธารน้ำใสจำนวนมาก อบอวลไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

อิสระให้ท่านเดินเล่น ถนนซันมาจิซูจิ (Sanmachi-Suji Street) ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ลิตเติ้ลเกียวโต หรือ เกียวโตน้อย เป็นย่านเมืองเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งอารยธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีในอดีตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์ บ้านเรือน, ร้านค้า, คาเฟ่และโรงสาเก สร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ และยังคงบรรยากาศแบบสมัยเอโดะไว้ นอกจากนี้ยังมี วัด, ศาลเจ้า, สะพานและตลาดเช้าที่คึกคักเต็มไปด้วยผู้คน ตัวเมืองสวยสะอาด ทันสมัย และมีสภาพธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัดนากาโนะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) 

เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย

พักที่  Alpico Plaza Hotel หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่สี่ ปราสาทมัตสึโมโตะ – ไร่วาซาบิไดโอะ – เมืองนาราอิ - เมืองนาโกย่า - ช้อปปิ้งย่านซาคาเอะ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

นำท่านเข้าชม ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) เป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 5 ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ เป็นปราสาทที่สร้างอยู่บนพื้นที่ราบ มีเอกลักษณ์ตรงที่มีหอคอยและป้อมปืนเชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารหลัก และเนื่องจากผนังปราสาทมีสีดำและปีกด้านต่างๆ ของปราสาทแผ่กางออกเหมือนปีกนก เลยมีชื่อเรียกว่า คาราซุโจ ที่แปลว่า ปราสาทอีกา

สำหรับข้างในตัวปราสาทมีขั้นบันไดสูงชันและเพดานที่ไม่สูงมาก บริเวณทางเดินจัดแสดงวัสดุเครื่องใช้ทางประวัติศาสตร์ เช่น ชุดเกราะซามูไรสมัยเซ็นโกกุ, ปืนคาบศิลาและอาวุธที่เคยใช้สู้รบในสมัยก่อน หน้าต่างเป็นหน้าต่างไม้แคบๆ มีช่องสำหรับยิงปืนและยิงลูกธนู ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นและเมืองมัตสึโมโตะได้จากชั้นบนสุดของปราสาทแห่งนี้

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)

จากนั้นเดินทางสู่ ไร่วาซาบิไดโอะ (Daio Wasabi Farm) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ไร่วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สัมผัสขั้นตอนการผลิต ที่ทางไร่พิถีพิถันมากๆ กว่าจะได้เจ้าวาซาบิส่งตรงมาถึงผู้บริโภคได้ ไร่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสายไร่ที่ใครได้ลองมาต้องติดอกติดใจ ด้วยทำเลที่ตั้งการที่ทางไร่ใช้น้ำบริสุทธิ์จากลำธารที่ไหลมาจากเทือกเขาทางทิศเหนือ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกคือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม

ภายในนอกจากไร่วาซาบิแล้ว ยังมีร้านขายของ และร้านอาหารเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากวาซาบิอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวาซาบิสด วาซาบิดอง โซบะวาซาบิ แกงกะหรี่วาซาบิ ไส้กรอกวาซาบิ น้ำสลัดรสวาซาบิ เบียร์ที่ทำจากวาซาบิ น้ำวาซาบิ ไอศกรีมรสวาซาบิ ช็อกโกแลตรสวาซาบิ และอื่นๆอีกมากมาย

นำท่านสู่เมือง เมืองนาราอิ (Narai Juku) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในแถบหุบเขาคิโซะ จังหวัดนากาโน่ เป็นย่านเมืองเก่าสมัยเอโดะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทางระหว่างเกียวโตกับเอโดะ บนเส้นทางนากะเซนโดะ ผู้คนผ่านไปมาสองเมืองนี้ ก็จะต้องผ่านเมืองนาราอิ จนทำให้กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในหุบเขาคิโซะ เสน่ห์ของที่นี่คือ บ้านเมืองเก่าสีดำตั้งเรียงรายสองข้างทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร โดยมีวิวฉากหลังเป็นหุบขคิโซะ

ไฮไลท์!!! สะพานคิโซะโอฮาชิ เป็นสะพานที่อยู่เหนือแม่น้ำนาราอิ ซึ่งอยู่คู่ขนานกับถนนสายหลักในเมือง ที่นี่นับว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดของประเทศญี่ปุ่นที่สร้างในช่วงปี 1990 เป็นสะพานที่สวยงาม

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับ เมืองนาโกย่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)

เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย

พักที่ The B Nagoya  หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

หลังเช็คอินเข้าโรงแรม อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้ง ย่านซาคาเอะ (Sakae) เป็นย่านธุรกิจการค้า โดยเฉพาะแหล่งราตรี เช่น คลับและบาร์ มีห้างสรรพสินค้ามัตสึซาคายะ หรือ เมืองใต้ดิน (Central Park) แหล่งรวมแฟชั่นและร้านค้าสุดเก๋มากมาย เช่น ร้านเสื้อผ้า, ร้านของใช้กระจุกกระจิก, ร้านซาลอนความงาม เป็นต้น

แฟนๆไอดอลญี่ปุ่น ห้ามพลาด ต้องมาเยือนห้างสรรพสินค้าซันไชน์ ซาคาเอะ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางแหล่งรวมความบันเทิงมากมาย ที่มี Grand Canyon ฮอลล์จัดคอนเสิร์ตศิลปินไอดอลและยังเป็นคาเฟ่ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของ “ชิงช้าสวรรค์ Sky Boat” แลนด์มาร์คของย่านนี้อีกด้วย อิสระเพลิดเพลินย่านนี้ตามอัธยาศัย (โรงแรมไม่ไกลจากเล่นช้อปปิ้ง ลูกค้าสามารถเดินช้อปปิ้งได้โดยไม่มีรถบริการ)

วันที่ห้า  เมืองนาโกย่า - เมืองเกียวโต - ศาลเจ้าเฮอัน – พิธีชงชาญี่ปุ่น - วัดคิโยมิสึเดระ – ย่านฮิกาชิยาม่า – เมืองโอซาก้า – ช้อปปิ้งเอ็กซ์โปซิตี้ - ช้อปปิ้งย่านชินไซบาชิ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

นำท่านสู่ ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงจักรพรรดิคามมุและจักรพรรดิ์โคเมอิ ผู้ที่มีความสำคัญต่อเมืองเกียวโตอย่างมาก เนื่องจากเป็นจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายของเกียวโต โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในยุคเฮอัน โดยเฉพาะเสาและประคูโทริอิยักษ์สีแดงที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด มีสีแดงสดใสมองเห็นมาแต่ไกล

ไฮไลท์!!! จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Japanese tea ceremony หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)

นำท่านสู่ วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera) แปลเป็นภาษาไทยว่า วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.778 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง

ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมดแต่ที่น่าสนใจ ได้แก่ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ เสาดังกล่าวประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น สร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อาคารไม้หลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต

จากนั้น นำท่านเดินเท้า เพื่อชม ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ซึ่งเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญน่าชมของเกียวโตให้บรรยากาศแบบดั้งเดิม แลนด์มาร์คที่โดดเด่นของย่านนี้ เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ 5 ชั้น สูง 46 เมตรที่สามารถมองเห็นได้เกือบจากทุกมุมของย่านนี้ แลนด์มาร์คสวยๆ อีกแห่งที่พลาดการถ่ายรูปไม่ได้ คือ เนินนิเนนซากะ (Ninenzaka) และเนินซันเนนซากะ (Sannenzaka) ซึ่งเป็นเนินบันไดที่ปูด้วยแผ่นหินตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านไม้

16.30 น. อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้ง ณ เอ็กซ์โปซิตี้ (Expo City) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที) ศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่จัดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1970 มีเนื้อที่ทั้งหมดราวๆ 172,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่แห่งนี้มีแหล่งความบันเทิงมากมาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ fusing the enjoyment of playing, learning, and discovering ท่านสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งช้อปปิ้ง กินข้าว หรือแม้แต่ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย

เอ็กซ์โปซิตี้ ได้แบ่งออกเป็น 8 โซนด้วยกัน ดังนี้

  • NIFREL พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ในรูปแบบการนำเสนองานศิลปะ และยังให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด
  • Osaka English Village ชุมชนสำหรับคนรักภาษาอังกฤษ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองต่าง ๆ จากทั่วทั้งอเมริกา
  • Pokemon Expogym สวนสนุกของโปเกมอนแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณหลงใหลและผจญภัยไปกับการ์ตูนตัวโปรด
  • Orbi สถานที่แห่งการเรียนรู้ธรรมชาติ
    5. Entertainmentfield สวนสนุกภายใต้คอนเซ็ปต์ Shaun the Sheep ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูน
  • 109 Cinemas Osaka-Expocity โรงภาพยนตร์สุดทันสมัย
  • ANIPO สวนสนุกสุดน่ารัก ภายในมีชิงช้าสวรรค์ Redhorse Osaka wheel ซึ่งเป็นชิงช้าที่มีความสูงมากถึง 120 เมตร 
  • Lalaport Expocity แหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน พร้อมทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย

18.45 น. จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้

ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)  ย่านบันเทิงยามค่ำคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิ 

ไฮไลท์!!! ใครๆ ก็เช็คอิน ถ่ายภาพคู่ ป้ายกูลิโกะแมน หรือ ป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขนและลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ ทาโกยากิ อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง Original Taste รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย

ที่พัก ibis Styles Osaka Namba หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่หก ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

09.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ613

13.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**

ช่วงเวลาเดินทาง

ช่วงเวลาผู้ใหญ่

เงื่อนไขทัวร์

  • สภาพอากาศเป็นเพียงการพยากรณ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรเช็คในใบนัดหมายอีกครั้ง
  • ปล. ไม่มีราคาเด็ก เนื่องจากเป็นราคาพิเศษ / Infant เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีราคา 6,000 บาท/ม่าน
  • ราคานี้ไม่รวมค่าทิปท่านละ  1,500 บาท/ท่าน/ทริป
  • สำหรับลูกค้าท่านที่ไม่เอาตั๋วเครื่องบิน  (JOINLAND) หักออกจากราคาทัวร์ 7,900 บาท/ท่าน
  • ท่านใดมีไฟล์ทบินภายในประเทศต่อ รบกวนจองเป็นสายการบินแอร์เอเชียเท่านั้น
  • ทั้งนี้หากสายการบินไฟล์ทอินเตอร์เกิดเที่ยวบินล่าช้า ทางบริษัทจะรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายเฉพาะสายการบินภายในประเทศที่เป็นสายการบินเครือเดียวกันกับไฟล์ทอินเตอร์ และรบกวนแจ้งพนักงานขายล่วงหน้าก่อนทำการซื้อตั๋วภายในประเทศทุกครั้ง  เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

โปรแกรมทัวร์ใกล้เคียง

Powered by