ทัวร์ญี่ปุ่น เมืองเกียวโต, โอซาก้า, นารา WINTER IN OSAKA 5D3N

วันที่หนึ่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

21.30 น. พร้อมกันที่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X (XJ) มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและติดแท็คกระเป๋า

วันที่สอง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ – โอซาก้า - ปราสาทโอซาก้า - Kobe Harbor land – Lalaport EXPOCITY – ย่านชินเซไก (อาหาร เที่ยง)
 

00.55 น. ออกเดินทางออกสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบิน AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่  XJ612 (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย)

08.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกา ของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

• สำคัญ!!!  ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจับและปรับ 

พาทุกท่านเดินทางสู่ โอซาก้า Osaka เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น

พาทุกท่าน ถ่ายภาพด้านหน้ากับ ปราสาทโอซาก้า Osaka Castle ชมปราสาทเก่าแก่ของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในสมัยนั้น ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงเสร็จสมบูรณ์ยาวนานกว่า 16 ปี เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ในปัจจุบันปราสาทโอซาก้าก็ยังคงได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่ จนนับว่าเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าปราสาท)

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่1) ปิ้งย่าง Yakiniku

ตะลุยช้อปปิ้งแบบจุใจ เริ่มต้นที่ Kobe Harbor land ย่านท่องเที่ยวติดท่าเรือที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟ JR Kobe และบริเวณท่าเรือโกเบ เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งอย่างมากมาย พิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมน และศูนย์รวมความบันเทิงอื่นๆอีกหลายหลาย รวมทั้งยั้งเป็นจุดที่สามารถชมวิวแลนด์มาร์คที่สำคัญ ซึ่งก็คือ โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน แถมยังมีชิงช้าสวรรค์ใหัได้ถ่ายภาพวิวสวยๆริมน้ำอีกด้วย แนะนำให้ทุกท่านเดินเล่นตามทางเดินริมน้ำเพื่อชื่นชมบรรยากาศแบบโรแมนติคของไฟจากตะเกียงน้ำมัน

พาทุกท่านไปช้อปปิ้งกันต่อที่ Lalaport EXPOCITY มีพื้นที่กว้างขวาง มีร้านค้าอยู่ประมาณ 300 ร้าน มีทั้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ร้านบูติกชั้นนำ ร้านเสื้อผ้ากีฬา และ ร้านค้ากลางแจ้ง ไปจนถึงสถานเสริมความงามและสุขภาพ เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับเด็ก วัยรุ่น รวมไปถึงวัยทำงาน อีกทั้งสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัวมากมาย

และเดินเล่นยามค่ำคืนที่ ย่านชินเซไก Shinsekai ย่านช้อปปิ้งสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า โดยชื่อชินเซไกสามารถแปลตรงๆตัวว่า “โลกใหม่” มีหอคอยซึเทนคาคุที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกนี้ตั้งอยู่ตรงกลางอีกด้วย ย่านนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งและร้านค้ามากมาย รวมถึงร้านอาหารอีกด้วย บริเวณนี้ยังมีถนนแคบๆที่เรียกกันว่า จันจัน โยโกะโชที่เป็นแหล่งรวมร้านกินดื่มสำหรับคนญี่ปุ่น มีอาหารและขนม ให้ท่านลองชิมกันมากมาย

เย็น  อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก: Hotel in Shinsaibashi  / Namba / Dotonburi หรือระดับใกล้เคียงกัน

ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนเดินทาง

หลังเช็คอินโรงแรมแนะนำให้ท่านเดินช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ ย่านช้อปปิ้งขนาดมหึมาระยะทางกว่า 600 เมตร เต็มไปด้วย ร้านเครื่องสำอาง ร้านขายเสื้อผ้า ร้านปลอดภาษี (Duty Free) ร้าน 100 เยน ไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่ก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่

และจุดเด่นคือมี ป้ายไฟกูลิโกะ (Glio LED) ป้ายไฟที่ไม่เพียงบ่งบอกความนิยมของแบรนด์ขนมชื่อดังอย่างกูลิโกะเท่านั้น แต่ยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้าอีกด้วย โดยป้ายไฟกูลิโกะ (Glico LED) นี้ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1953 ตั้งอยู่บริเวณสะพานอิบิซึบาชิ (Ebisubashi Bridge) สะพานเล็กๆที่เชื่อมต่อระหว่าง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) กับย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ย่านการค้ายอดนิยมของโอซาก้า

วันที่สาม อิสระท่องเที่ยวที่ Universal Studios Japan (อาหาร เช้า)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่2)

พาทุกท่าน เปิดประสบการ์ณการนั่งรถไฟเที่ยวในญี่ปุ่น เดินทางสู่ Universal Studios Japan พาทุกท่านมาอัพเดทเครื่องเล่นใหม่ Super Nintendo World และโซนอื่นๆอีกมากมาย Universal Studios Japan เป็นสวนสนุกระดับโลกที่ได้รับการจัดอันดับจาก TripAdvisor ให้เป็นสวนสนุกที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน และยังติดอันดับที่ 4 ของลิสต์สวนสนุกระดับโลกที่ห้ามพลาดอีกด้วย

Universal Studios Japan หรือเรียกสั้นๆว่า USJ เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2001 และได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาแล้วกว่า 100 ล้านคน สำหรับในปี 2022 แบ่งเป็น 10 โซนด้วยกัน ทำให้สวนสนุกมีความหลากหลายและพร้อมต้อนรับทุกเพศทุกวัย

• SUPER NINTENDO WORLD™ สัมผัสโลกแห่งมาริโอ้เก็บเห็ดในตำนาน ด้านในโซนนี้ มีเครื่องเล่นใหญ่สองอย่างคือ Mario Cart กับ Yoshi's Adventure และระหว่างทางจะมีมินิเกมสำหรับเด็กๆ ให้เล่นตลอด เช่น ยิงปืนเลเซอร์สะสมแต้ม ชู้ตบาสเก็ตบอลเก็บคะแนน ฯลฯ และยังมีร้านอาหารและร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าของ Super Nintendo World โดยเฉพาะอีกด้วย (ถังป๊อบคอร์น แบบ limited ก็มีขายเฉพาะในโซนนี้เท่านั้น)
• THE WIZARDING WORLD OF HARRY POTTER™ จากภาพยนตร์ชื่อดังของโลกพ่อมดแม่มด แฮรรี่พอตเตอร์ พื้นที่อันงดงามที่สร้างโลกแห่งเรื่องราว Harry Potter ขึ้นมาใหม่ใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ทั้งปราสาท Hogwarts หมู่บ้านพ่อมดแห่ง Hogsmeade และ รถจักรไอน้ำ รวมถึงเครื่องเล่นและร้านค้าสำหรับเวทมนตร์ศาสตร์
• Minion Park รวมพลเหล่ามินเนี่ยน เพลิดเพลินกับขนมธีมมินเนี่ยนแสนอร่อย แช้อปปิงสินค้ามินเนี่ยนแสนน่ารัก
• Universal Wonderland บริเวณนี้เป็นบ้านของเอลโม่ สนูปปี้ คิตตี้ และเหล่าตัวละครน่ารักอื่นๆที่เป็นที่นิยมทั่วโลก 5. Hollywood พบกับเครื่องเล่นสุดระทึก รถไฟเหาะที่ราวกับบินอยู่บนท้องฟ้า
• New York บริเวณนี้มีถนนในนิวยอร์กช่วงทศวรรษที่ 1930 ค้นพบสถานที่สำคัญแห่งยุคสมัยตั้งแต่ 5th Avenue ไปจนถึง Delancey Street แฟนหนังทุกประเภทจะเพลิดเพลินสำรวจแหล่งกำเนิดของความบันเทิงด้วยไปกับการเดินเล่นไปตามถนนและตรอกซอกซอยจากภาพยนตร์ชื่อดัง
• San Francisco สร้างจากเมืองท่าอันดับ 1 ของอเมริกา เช่น Fisherman's Wharf และไชน่าทาวน์ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ ทำให้บริเวณนี้มีกลิ่นอายของทะเลเช่นเดียวกับเมืองท่าที่แท้จริง สัมผัสประสบการณ์เมืองซานฟรานซิสโกที่มีชีวิตชีวา ลิ้มลองรสชาติของซานฟรานซิสโกด้วยอาหารแคลิฟอร์เนียจากห้องอาหารสุดเก๋
• Jurassic Park พบกับไดโนเสาร์ขนาดมหึมาที่ฟื้นคืนชีพที่ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ทุกท่านได้ทัวร์แม่น้ำที่และลึกเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์
• Amity Village คุ้นตาด้วยฉากของ JAWS หนังระทึกขวัญในตำนาน ด้วยความน่าสะพรึงกลัวของฉลามกินคนในเมืองนี้ Amity สำรวจเสน่ห์ของหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ผ่อนคลายด้วยของว่างและไอศกรีมในหมู่บ้านชายทะเล
• WaterWorld ชมการแสดงทางน้ำที่โลดโผน สมจริงจนทำให้ท่านกลั้นหายใจตั้งแต่ต้นจนจบ (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าบัตร USJ และค่ารถไฟสำหรับเดินทาง)
  • ราคาบัตรค่าเข้า Universal Studios Japan โปรดตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งก่อนการสั่งซื้อ
    • ราคาบัตร ผู้ใหญ่ อายุ 12 ปีขึ้นไป ราคาเริ่มต้นท่านละ 2,800บาท
    • ราคาบัตร เด็ก อายุ 4-11 ปี ราคาเริ่มต้นท่านละ 1,800 บาท
    • ราคาบัตร เด็ก อายุ 0-3 ขวบ เข้าฟรี

อิสระอาหารเที่ยงและเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก: Hotel in Shinsaibashi  / Namba / Dotonburi หรือระดับใกล้เคียงกัน

ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนเดินทาง

วันที่สี่ โอซาก้า - นารา - วัดโทไดจิ - เกียวโต - ศาลเจ้าเฮอัน – ศึกษาพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นที่ Kyoto Shikido Duty free แหล่งช้อปปลอดภาษี – วัดน้ำใสคิโยมิสุเดระ – ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ – รินคู พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท (อาหาร เช้า, เที่ยง)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)

 เดินทางสู่ นารา พาทุกท่านไป สักการะพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น วัดโทไดจิ Todaiji สักการะหลวงพ่อโตไดบุตสึในวิหารไม้ใหญ่ที่สุดในโลก วัดโทไดจิ ความหมายตามตัวอักษรคือ วัดใหญ่แห่งทิศตะวันออก ตั้งอยู่ที่เมืองนารา ภูมิภาคคันไซ ถือเป็นโบราณสถานที่มีความเก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

วัดโทไดจิ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 752 ในช่วงที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมากๆ สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของวัดนี้ คือ วิหารไม้หลังใหญ่ ไดบุตสึเดนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโตไดบุตสึ เป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความสูง 157 ฟุต ความยาว 187 ฟุต แม้ว่าวิหารไม้ที่เห็นในปัจจุบันนี้มีขนาดเพียงแค่ 2 ใน 3 ของวิหารหลังเดิมที่เคยถูกไฟไหม้ไปจากภัยสงคราม แต่ก็ยังคงมีความยิ่งใหญ่จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

บริเวณใกล้เคียงกัน มี สวนกวางนารา Nara deer park บริเวณทางเดินเข้าสู่ประตูใหญ่ของวัดโทไดจิเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย สวนกวางแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1880 เป็นสวนขนาดกว้างใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 660 เฮกตาร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ สนามหญ้า สระน้ำ ศาลเจ้า วัด พิพิธภัณฑ์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งสวนสวยในโซนต่าง ๆ จุดเด่นของสวนนาราที่นักท่องเที่ยวต่างมุ่งมาเที่ยวชมก็คือ ฝูงกวางซีกา (Sika deer) ที่มีมากกว่า 1,200 ตัว

พาทุกท่านเดินทางสู่ เกียวโต เพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม เริ่มต้นที่ถ่ายภาพด้านหน้า ศาลเจ้าเฮอัน Heian Shrine สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1895 เนื่องในโอกาสที่นครเกียวโตมีอายุครบ 1,100 ปี จุดเด่นคือ ด้านหน้าของศาลเจ้ามีประตูโทริอิยักษ์สีแดง เป็นเสาที่โดดเด่นและเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้ชมนิยมมาถ่ายรูปทั้งก่อนเข้าชมศาลเจ้า ตัวศาลเจ้าถอดแบบมาจากพระราชวังอิมพิเรียล แต่ได้ถูกย่อส่วนลง

ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ทาสีแดงสดรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเฮอันซึ่งได้รับอิทธิพลจากจีน มีเจดีย์มังกรฟ้าและเจดีย์พยัคฆ์ขาว ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายและขวา บริเวณด้านหลังของศาลเจ้า จะมีสวนขนาดใหญ่ที่โอบล้อมบริเวณวัด ภายในสวนมีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ บ่อน้ำที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ให้บรรยากาศร่มรื่นย์มากเลยทีเดียว (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าศาลเจ้าเฮอัน)

จากนั้นนำท่านสัมผัสประสบการณ์ พิเศษ พิธีชงชาแบบญี่ปุ่น ให้ท่านได้เรียนรู้วิธีชงชาแบบธรรมเนียมญี่ปุ่น

และท่านสามารถเลือกซื้อชารสชาติต่างๆได้ อีกทั้งยังได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมาย Kyoto Shikido Duty free แหล่งช้อปปลอดภาษี ที่รวบรวมสินค้าราคาพิเศษ และมีชื่อเสียงที่เห็นแล้วต้องรู้ว่ามาจากประเทศญี่ปุ่นแน่นอน เช่น เครื่องสำอาง ครีมบำรุงต่างๆ อาหารเสริม ขนม ชาเขียว และอื่นๆอีกมากมาย

อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้บริการสำหรับนั่งพักผ่อนทานอาหารหรือขนมอีกด้วย สินค้ายอดนิยม ยกตัวอย่างเช่น ครีมของแบรนด์ Karen ทั้งครีมบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้า และครีมกันแดด ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับร้านค้าพรีออเดอร์ในประเทศไทยเช่นกัน โดยเฉพาะ ครีมกันแดดน้ำนม Karen Sunscreen ที่มีเนื้อครีมบางเบา และ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับทุกผิว ทาได้ทั้งผิวหน้าและลำตัว

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4) Japanese set

จากนั้นพาทุกท่านไปที่ วัดคิโยมิสุเดระ Kiyomizu temple หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่า วัดน้ำใส เป็นชื่อในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “น้ำบริสุทธิ์” เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในเกียวโต และได้เป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย นักท่องเที่ยวส่วนมากมาเพื่อสักการะ และ ขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง

และ ย่านฮิกาชิยาม่า Higashiyama อิสระเดินเล่นที่ Higashiyama walking street ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และส่วนมากเปิดเป็นร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารสำหรับผู้มาเยือน ทุกท่านสามารถช้อปปิ้งของที่ระลึกหรือโมจิ ของขึ้นชื่อของสถานที่แห่งนี้ หรือจะเป็นกระดาษซับมัน yojiya ที่มีชื่อเสียงของเกียวโต

เที่ยวชม ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่มากกว่าพันปี สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.711 บนยอดเขา Inariyama หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ศาลเจ้าแดง หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต (Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย ดังนั้นบริเวรศาลเจ้าจึงมีรูปปั้นจิ้งจอกอยู่มากมาย

จากนั้นช้อปปิ้งต่อกันที่ รินคู พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท Rinku Premium Outlets ได้ถูกออกแบบมาโดยได้แรงบัลดาลใจมาจากบรรยากาศท่าเรือตอนใต้ของอเมริกา จำลองเป็นเสมือนเมืองท่าแห่งการช็อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้การแตกแต่งที่ดูหรูหรามีสไตล์และรวบรวมแบรนด์ดังมากถึง 210 ร้าน ครบครันทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่นแบรนด์ Dolce & Gabbana, Armani, Kate Spade New York, Coach, United Arrows,  NIKE, Adidas และ Royal Copenhagen ยังมีมุมให้นั่งพักผ่อนอย่างศูนย์อาหารที่คัดร้านดีร้านอร่อยให้นั่งทานอีกด้วย

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก: Kansai Airport area หรือระดับใกล้เคียงกัน

ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนเดินทาง

วันที่ห้า ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ-ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (อาหาร เช้า)

 

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่5)

เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ ประเทศไทย

09.50 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดย สายการบิน AIR ASIA X (XJ)  เที่ยวบินที่  XJ613 (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย)

13.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ