สัญลักษณ์ของไต้หวันที่หลายคนต้องนึกถึงเหมือนกันแน่ๆ ต้องยกให้กับ “ตึกไทเป 101” หรือ “Taipei 101” อดีตอาคารที่มีความสูงสุดในโลกอยู่ใจกลางกรุงไทเป ความน่าสนใจของตึกแห่งนี้ไม่ใช่แค่ความใหญ่โต โดดเด่นเป็นสง่าเท่านั้น แต่ยังมีไฮไลต์อีกหลายส่วนที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด จดลิสต์ของคุณในการเดินทางไปเที่ยวไต้หวันครั้งนี้เอาไว้ได้เลย เปิดประสบการณ์มุมมองสวยๆ ในแบบไม่เคยพบเจอมาก่อน
Taipei 101 หรือตึกไทเป 101 เริ่มต้นโครงการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 ก่อนเริ่มต้นลงเสาเข็มจริงในปี ค.ศ. 1999 ใช้เวลาสร้างจนถึงปี ค.ศ. 2004 ทุกอย่างก็เสร็จสมบูรณ์ มีขนาดความสูงรวม 508 เมตร จากจำนวน 101 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น ถูกเรียกชั้น 1-5 ตั้งอยู่บริเวณเขตพิเศษซินอี้ ซึ่งในการตั้งชื่อและจำนวนชั้นนี้ ถูกคิดค้นตามความหมายด้านศาสตร์ตัวเลขเอาไว้อย่างน่าสนใจ โดยเลข 1 ด้านหน้า หมายถึง ความมงคล ขณะที่เลข 01 หมายถึง ระบบดิจิทัล บ่งบอกถึงความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ดังนั้นการมีอาคารสูงระดับนี้จึงบ่งบอกถึงความทันสมัยและอนาคตแห่งการเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจได้อย่างดี
เมื่อคุณเดินทางไปถึงกรุงไทเป ไต้หวัน ไม่ว่ามองจากมุมไหนก็มีโอกาสเห็นตึก Taipei 101 ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งจริงแล้วๆ ยังมีเรื่องน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางไปเยี่ยมเยือนตึกแห่งนี้ด้วยตนเองว่ามีสิ่งใดที่ต้องรู้บ้าง มั่นใจเลยว่าจะทำให้ตื่นเต้นและอยากสัมผัสใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม
อย่างที่รู้กันว่าตึกไทเป 101 แห่งนี้เคยเป็นอาคารสูงสุดในโลกระหว่างปี ค.ศ. 2003 – 2007 การก่อสร้างเป็นความร่วมมือจากไชน่าสตีล หน่วยงานรัฐวิสาหกิจของไต้หวันกับนิปปอนสตีลของทางญี่ปุ่น ดีไซน์ของอาคารถูกออกแบบโดย C. Y. Lee และ C. P. Wang สถาปนิกชาวไต้หวัน จุดเด่นคือจะมีการผสานกันระหว่างเทคโนโลยีตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อลดอันตรายของแรงลม หรือที่เรียกกันว่า Mass Damper (ระบบแดมเปอร์รวม) กับการตกแต่งบริเวณหัวมุมอาคารทั้ง 4 ด้านให้เป็นรูปหัวมังกร ตามความเชื่อจากคำบอกเล่าของซินแสดังที่ระบุว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาย่างกราย
ภายในของตึกไทเป 101 ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่หลายจุดมากๆ ปกติแล้วนักท่องเที่ยวทั่วไปจะนิยมไปเดินช้อปปิ้งบริเวณชั้นใต้ดิน ซึ่งถูกเรียกว่าชั้น 1-5 เพราะจุดนี้จะเป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่ภายใน จัดเต็มกับร้านแบรนด์เนมดังระดับโลก ให้คุณเลือกกันเพลินทั้งวันไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Gucci, Ray Ban, Omega, Dior, Adidas, Rolex และอีกสารพัด งานนี้บอกเลยว่ามีโอกาสหมดเงินหลักหมื่นหลักแสนได้ง่ายมาก
ส่วนจุดอื่นที่นักท่องเทียวจะได้สัมผัสกับความน่าตื่นตาตื่นใจคือ การขึ้นลิฟต์ไปทานอาหาร จิบกาแฟได้บริเวณชั้น 85 ซึ่งเป็นโซนร้านอาหาร แต่ไฮไลต์เด็ดต้องไม่พลาดในการขึ้นไปถึงชั้น 88 เพราะเป็นจุดชมวิวเมืองไทเปมุมสูงแบบ Indoor ใช้บริการกล้องส่องทางไกลได้ โดยรอบจะมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านตามสะดวก เช่น เคสมือถือ, โมเดลตึกไทเป 101, แก้วกาแฟลายตึก, กล่องดนตรีเป็นรูปตึก, Postcard, แสตมป์ สามารถเดินต่อไปถึงชั้น 89 และถ้าคุณขึ้นสู่ชั้น 91 จะเดินออกไปพื้นที่ด้านนอกเพื่อสัมผัสกับวิวแบบ Outdoor ชนิดหาวิวแบบไหนก็ไม่อาจทัดเทียม
ขณะที่ชั้นอื่น ๆ ของตึกแห่งนี้จะแบ่งออกเป็นชั้น 6-8 เป็นห้องควบคุม, ชั้น 9-84 จะเปิดเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า, ชั้น 90 เป็นส่วนของลิฟต์ใช้งาน และชั้น 101 จะเป็นสำนักงานของเหล่าบรรดาพนักงานที่ดูแลอาคาร Taipei 101 แห่งนี้นั่นเอง
ความลับสำคัญอย่างหนึ่งของตึกสูงแห่งกรุงไทเปนี้คือ บริเวณชั้น 87-91 จะมี Tuned Mass Dumper หรือ ลูกตุ้มแดมเปอร์ น้ำหนัก 660 เมตริกตัน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 เมตร ติดตั้งเอาไว้อยู่ หน้าที่สำคัญของลูกตุ้มยักษ์คือ คอยถ่วงน้ำหนักตัวอาคารจากการโดนกระแสลมแรงเข้าปะทะตลอด ปรับสมดุลเพื่อไม่ให้มีอาการโคลงเคลง ไปจนถึงการสร้างความมั่นคงไม่ให้เกิดความเสียหายกรณีมีแผ่นดินไหวด้วย ซึ่งการสร้าง Gimmick อันน่าสนใจอย่างหนึ่งคือ มีดีไซน์มาสคอตในชื่อ Dumper Baby หรือ น้องแดมเปอร์ เป็นสัญลักษณ์และยังสามารถซื้อเป็นของที่ระลึกกลับบ้านได้ด้วย
ปิดท้ายกันด้วยความน่าอัศจรรย์ของ Taipei 101 นั่นคือ ลิฟต์ภายในอาคารแห่งนี้ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด (Guinness Book World Records) ว่ามีความเร็วสูงสุดในโลก ทำเวลาได้ 1,010 เมตร / นาที หรือหากเทียบให้เห็นภาพก็ตกประมาณ 60 กิโลเมตร / ชั่วโมง แถมยังมีระบบป้องกันภัยอย่างดีป้องกันไม่ให้ลิฟต์ตกกรณีมีเหตุฉุกเฉิน หากคุณขึ้นลิฟต์จากชั้น 1 ไปถึงชั้น 89 จะใช้เวลารวมเพียง 37 วินาทีเท่านั้น
[ 10 ที่เที่ยว ไทเป ยอดนิยมที่ควรเก็บให้ครบ เมื่อไปเยือนไต้หวัน ]
นี่คือความพิเศษและเรื่องราวอันน่าสนใจของ Taipei 101 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากอยากไปเห็นกับตาตนเองถึงความยิ่งใหญ่ผ่านการคิดค้นและสร้างสรรค์โดยฝีมือมนุษย์ การเดินทางเองไม่ยุ่งยากสามารถนั่งรถไฟใต้ดิน MRT ลงสถานี Taipei 101/World Trade Center Station ได้เลย ส่วนใครที่จะขึ้นไปยังชั้นชมวิวจะมีค่าใช้จ่ายผู้ใหญ่ 600 TWD เด็ก สูงเกิน 115 เซนติเมตร หรือนักเรียน 540 TWD
