ประเทศเกาหลีใต้นับเป็นอีกประเทศที่คนไทยชอบไปเยือนและท่องเที่ยวกันมาก โดยเฉพาะเกาะเชจูหรือเชจูโดในภาษาเกาหลีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับชาวไทย และชาวเกาหลีใต้ด้วย สาเหตุที่เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็เนื่องมาจากเป็นเกาะที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติอันโดดเด่น มีอากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี และมีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์เพราะภูมิศาสตร์เป็นเกาะที่มีความแตกต่างกับแผ่นดินใหญ่อยู่พอสมควร อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกมากมายหลายแห่ง โดยในที่นี้จะขอรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้ jeju เป็นดั่งสวรรค์บนดิน ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเชจูยอดนิยม
เขาซงซาน อิล ซุง บอง หรือยอดเขาแห่งรุ่งอรุณ (Seongsan Ilchulbong Peak)
เกาะเชจูเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 2 ล้านปีก่อน และปากปล่องภูเขาไฟก็คือยอดเขาลูกนี้นั่นเอง ถือเป็นจุดที่ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยที่สุดของเชจู ตรงกลางของปล่องภูเขาไฟของภูเขาฮาลลาซาน จะมีทะเลสาปอยู่กลางปากปล่อง ความงดงามของสถานที่แห่งนี้ทำให้ที่นี้ได้รับการยอมรับเป็นมรดกของโลกทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวภูเขานี้มีเพียงการเดินเท้า ซึ่งใช้เวลาเดินขึ้นเขาประมาณ 30-45 นาที ทางเดินมีช่วงที่ลาดชันบ้าง แต่โดยรวมไม่ถือว่าลำบากจนเกินไป ดังนั้นสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรนำติดตัวไปด้วยคือน้ำดื่ม ไม้เท้า และหมวก นอกจากนี้ที่เชิงเขาจะมีชายหาดที่จัดการแสดงของเฮียนโย หรือ ผู้หญิงดำน้ำแห่งเกาะเชจู ให้ชมด้วย โดยมีการแสดงเป็นรอบ ๆ และบริเวณลานจอดรถจะเป็นที่ตั้งของวัดให้นักท่องเที่ยวได้แวะไปไหว้สักการะพระโพธิสัตว์เพิ่มความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Seongsan Ilchulbong, Seogwipo-si, South Korea
ไร่ชาโอซุลลอค (O’Sulloc)
ถือเป็นแหล่งปลูกชาเขียวคุณภาพสูงของเกาะเชจู การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้สามารถใช้รสบัสสาธารณะที่มีราคาไม่แพง ที่นี้สวยงามด้วยความเขียวขจีของไร่ชา ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปเยี่ยมชมได้อย่างใกล้ชิด ไปพร้อม ๆ กับเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติและวัฒนธรรมการชงชาของเกาหลี และกระบวนการผลิตชาในแต่ละขั้นตอนจนกลายเป็นสินค้าที่สำคัญของ jeju อย่างในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากชาเขียวให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้ออย่างมากมาย จัดเป็นคาเฟ่ที่บรรยากาศดีมาก เพราะมองไปเห็นไร่ชาเขียวขจี และมีอาหารและเครื่องดื่มจากชาเขียวให้ลิ้มลองหลากหลายชนิด แต่ที่นับว่าขึ้นชื่อมากก็คือไอศกรีมชาเขียว ที่ทั้งหอมกลิ่นชาเขียว หวานน้อย แต่อร่อยเย็นชื่นใจ นอกจากนี้ที่นี้ยังถือเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ Innisfree แบรนด์เครื่องสำอางค์ชื่อดังของเกาหลี จึงมีร้าน Innisfree Jeju House อยู่ภายในพื้นที่ของไร่ชา ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมสินค้า ทำเวิร์คช้อป หรือชื่อเครื่องสำอางจากเกาะเชจูไปเป็นของฝากกันได้อีกด้วย
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : 15 Sinhwayeoksa-ro, Andeok-myeon, Seogwipo-si, Jeju-do, South Korea
Haenyeo Museum แฮนยอ หรือ Haenyeo
หมายถึงนักประดาน้ำหญิงแห่งเกาะเชจูนั่นเอง พวกเธอจะแตกต่างจากชาวประมงผู้ชายเพราะจะลงไปเก็บอาหารทะเลเฉพาะบริเวณรอบ ๆ ชายฝั่งของเกาะเชจูเท่านั้น เหตุผลที่สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา เพราะลม ผู้หญิง และหินลาวา ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเกาะแห่งนี้ โดยเฉพาะผู้หญิงเพราะบนเกาะแห่งนี้มีประชากรผู้หญิงอยู่มากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในอดีตผู้ชายต้องออกไปทำประมงในท้องทะเลห่างไกล ซึ่งเสี่ยงภัยและมีโอกาสล้มตายกันมาก ผู้หญิงบนเกาะเชจูจึงต้องทำหน้าที่ดูแลครอบครัวและจำเป็นต้องหางานง่าย ๆ ทำด้วยการรวมตัวกันทำประมงบริเวณที่ไม่ไกลจากฝั่งมากนัก และใช้อุปกรณ์ในการจับสัตว์น้ำไม่กี่ชนิด กลายเป็นอาชีพที่เรียกกันว่าเฮียนโย ที่ได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ jeju พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงสร้างเป็นเกียรติให้กับพวกเธอ และเพื่อบ่งบอกถึงเรื่องราวของเฮียนโย เพราะนับวันผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ก็จะยิ่งลดน้อยลงเรื่อย ๆ ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : Hado-ri, Gujwa-eup, Jeju-si, Jeju-do, South Korea
หมู่บ้านซงอับ หรือ Seongeup Folk Village
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฮัลลา เป็นหมู่บ้านพื้นเมืองแบบดั้งเดิมของชาวเกาะเชจูที่รัฐบาลทำการอนุรักษ์เอาไว้ เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีอายุมากกว่า 300 ปีที่ยังมีชาวบ้านใช้อาศัยอยู่จริง ๆ ทำให้อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ สามารถแสดงเอกลักษณ์ของการสร้างบ้านแบบเกาหลีได้เป็นอย่างดี โดยมีองค์ประกอบหลักเป็นดินเหนียวผสมมูลม้า ที่ใช้ยึดก้อนหินก้อนอิฐเข้าด้วยกัน แล้วทำเป็นโครงสร้างของบ้าน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน jeju ที่อาศัยอยู่บนเกาะ และประวัติความเป็นมาต่าง ๆ จากคนในพื้นที่ เช่นกระบวนการหมักผลไม้ท้องถิ่นอย่างโอมีจา และทีนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์เกาหลีหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องแดจังกึมที่ใช้ถ่ายทำในช่วงที่แดจังกึมถูกลงโทษให้มาอยู่บนเกาะเชจูนั่นเอง
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : 30번지 Seongeupjeonguihyeon-ro, Pyoseon-myeon, Seogwipo-si, Jeju-do, South Korea
วัดยักชอนซา หรือ Yakcheonsa Temple
เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน สร้างตรงบริเวณที่มีน้ำแร่ไหลออกมาจากพื้นดิน พื้นที่ของวัดทั้งหมดคือ 3,305 ตารางเมตร ถือเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดของเกาะเชจู สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจของวัดนี้คือพระอุโบสถที่มีความสูงกว่า 30 เมตร ศาลเจ้า และเจดีย์ ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมเกาหลีแบบโบราณ ภายในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่งดงาม 3 องค์ เป็นรูปจำลองขององค์พระพุทธเจ้าใน 3 ช่วงเวลา คืออดีต ปัจจุบัน และอนาคต นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลได้ ภายในบริเวณวัดยังประกอบไปด้วยธรรมศาลาที่สร้างขึ้นในถ้ำมีชื่เรียกว่าคุลบอบดัง, ศาลเจ้าซัมซองกัก, เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ และสวนไม้ดอกไม้ประดับอันสวยงามที่เรียงรายอยู่รอบวัด และทำให้วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดของ jeju
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : 293-28 Ieodo-ro, Seogwipo-si, Jeju-do, South Korea
Teddy Bear Museum
นอกจากพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์แล้ว บนเกาะเชจูยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่ง รวมถึง Teddy Bear Museum ของเกาะเชจูที่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับหมีเท็ดดี้แบร์ที่แรก และมีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ภายในพิพิธภัณฑ์จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ The History เป็นส่วนแสดงประวัติความเป็นมากว่า 100 ปีของหมีเท็ดดี้แบร์ ส่วน The Art เป็นส่วน gallery ที่ใช้จัดแสดงตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์น่ารัก ๆ และอาจมีลักษณะเฉพาะแปลกตากว่าที่อื่นเอาไว้หลายตัว และส่วน Teddy’s Forest ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมตุ๊กตาหมีในรูปของหุ่นปั้นที่จัดแสดงเอาไว้ภายในสวนข้างนอกตัวอาคาร อย่างไรก็ดีการเยี่ยมชมที่นี้มีค่าตั๋วเข้าใช้บริการโดยมีเรทราคาระหว่างผู้ใหญ่ เด็ก และเด็กเล็ก และนักท่องเที่ยวยังสามารถหาซื้อของฝากเป็นหมีเท็ดดี้แบร์ไปฝากคนที่บ้านได้อีกด้วย
พิกัดสถานที่ท่องเที่ยว : 31 Jungmungwangwang-ro110beon-gil, 특별자치도 Seogwipo-si, Jeju-do, South Korea
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ และน่าสนใจบนเกาะเชจู นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้ได้อย่างสะดวกเพราะมีรถบัสให้บริการไปตามสถานที่ต่าง ๆ เหล่านี้อย่างทั่วถึง แต่มีข้อแนะนำว่าสถานที่เหล่านี้จะมีเวลาเปิดทำการ จึงควรตรวจสอบให้ดีก่อนเดินทาง และกรณีท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแนะนำให้พกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย และเนื่องจากสภาพอากาศของ jeju ค่อนข้างแปรปรวนเพราะภูมิศาสตร์มีลักษณะเป็นเกาะ แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันฝน และตรวจสอบสภาพภูมิอากาศให้ดีก่อนออกเดินทางกันด้วยนะ