เมื่อพูดถึงเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในสัญลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยกันดีต้องยกให้กับ “ปราสาทโอซาก้า” หรือ Osaka Castle ที่มีความงดงามและยังคงสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนทุกครั้ง จึงอยากพาทุกคนมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้กันแบบทุกซอกทุกมุม พร้อมแนะนำวิธีเดินทางอันแสนง่ายดาย หากได้มีโอกาสสัมผัสด้วยตนเองจะต้องหลงรักและอยากกลับไปซ้ำอีกหลายรอบแน่นอน
ประวัติศาสตร์ของปราสาทโอซาก้า
จุดน่าสนใจของปราสาทโอซาก้า ห้ามพลาด
ช่วงเวลาเปิด-ปิด
ค่าเข้าชม
วิธีเดินทางไปยังปราสาทโอซาก้า
ประวัติศาสตร์ของปราสาทโอซาก้า
ปราสาทโอซาก้า มีแนวคิดให้ถูกก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1583 บริเวณวัดอิชิยามะฮงกัน โดย โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่รวมญี่ปุ่นเข้าเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งมีแปลนคล้ายกับปราสาทอาซูจิ แต่เมื่อดำเนินการสร้างด้วยเวลาทั้งสิ้น 10 ปี (เริ่มสร้างจริงในปี 1585 แล้วเสร็จปี 1597) ในที่สุดก็สำเร็จลุล่วงโดยมีหอคอยหลักจำนวน 5 ชั้น ด้านล่างเป็นชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น ด้านข้างตกแต่งด้วยการลวดลายใบไม้สีทอง รูปแบบสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณสมัยโทโยโตมิผสานกับยุคสมัยเอโดะ มีความสวยงาม
อย่างไรก็ตามด้วยสมัยก่อนมีการสู้รบเกิดขึ้นมากมายจึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย จนเข้าสู่ช่วงยุคศตวรรษที่ 19 ก็ได้มีการบูรณะให้คงความสวยงามเอาไว้ใกล้เคียงกับแบบดั้งเดิมมากที่สุด โดยการบูรณะครั้งล่าสุดในปี 1995 ทางเทศบาลของโอซาก้าก็มีการปรับเปลี่ยนภายในครั้งใหญ่ด้วยการเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมได้สัมผัสความทันสมัยที่อยู่ในศิลปะงานสถาปัตยกรรมแห่งนี้อย่างใกล้ชิดนั่นเอง
จุดน่าสนใจของปราสาทโอซาก้า ห้ามพลาด
1. จุดชมนิทรรศการภายในปราสาท อย่างที่กล่าวไปว่าปราสาทโอซาก้าแห่งนี้มีความสูงรวมทั้งสิ้น 8 ชั้น ดังนั้นตั้งแต่พื้นที่บริเวณชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 7 คือส่วนของพิพิธภัณฑ์ซึ่งได้มีการรวมเอาข้อมูล ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวอันน่าสนใจของปราสาทแห่งนี้ไว้แบบครบครันโดยเฉพาะในช่วงยุคสมัยของ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ในฐานะของผู้ริเริ่มให้มีการก่อสร้างปราสาทแห่งนี้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ช่วยรวมประเทศญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกันจนเป็นปึกแผ่นมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อเดินไปทีละชั้นก็จะพบกับนิทรรศการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโมเดลจำลองในช่วงที่มีการบูรณะปราสาท ชุดเกราะและดาบโบราณ ไปจนถึงหุ่นจำลองภาพสงครามในอดีต ทั้งนี้อาจมีบางจุดที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาเหมาะสมของการแสดงงาน
2. จุดชมวิวชั้น 8 ของตัวปราสาท หลังจากเดินสุดที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์แล้ว คราวนี้เมื่อขึ้นไปบนชั้น 8 ก็จะพบกับจุดชมวิวของปราสาท ทิวทัศน์ที่ทุกคนได้สัมผัสคือเมืองโอซาก้าแบบสุดลูกหูลูกตา และยังเห็นมุมมองด้านล่างที่อยู่ใกล้เคียงกับตัวปราสาทบนระดับความสูง 50 เมตร แต่สำหรับใครที่เหนื่อยกับการเดิน อยากขึ้นไปชมวิวทันทีภายในก็มีลิฟต์ให้บริการด้วย ไม่ต้องห่วงเลย
3. สวนปราสาทโอซาก้า ความพิเศษของสวนแห่งนี้คือถ้าเป็นในช่วงปลายเดือนมีนาคมจะสวยงามไปด้วยดอกบ๊วยที่ออกบานสะพรั่ง ส่วนในเดือนเมษายนช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จัดไปกับความสวยของดอกซากุระ ที่สำคัญยังมีวิวคลองรอบปราสาทและได้ถ่ายรูปสวย ๆ ที่มีฉากหลังอันแสดงถึงความยิ่งใหญ่อีกต่างหาก
4. สวนญี่ปุ่นนิชิโนมารุ สวนที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนปราสาท ซึ่งสามารถมองเห็นวิวอันแสนงดงามได้ไม่ต่างกัน มากไปกว่านั้นยังเป็นจุดชมดอกไม้ผลิอีกแห่งของชาวเมืองโอซาก้าอีกต่างหาก ความเป็นธรรมชาติและสวยงามนี้ถึงกับได้รับเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของประเทศ มีดอกบ๊วยและดอกซากุระบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิด้วยเช่นกัน
5. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า อยู่ใกล้เคียงกับตัวปราสาท ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสศึกษาถึงประวัติศาสตร์ของเมืองแห่งนี้และเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกัน อาคารสุดทันสมัยซึ่งย้ายมาจากจุดเดิม แต่ก็ยังคงให้อรรถรสและบรรยากาศในการเข้าชมไม่ต่างกันเท่าใดนัก ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็กมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย 400 เยน ต่ำกว่ามัธยมต้นเข้าชมฟรี
ช่วงเวลาเปิด-ปิด
ตามปกติแล้วนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปราสาทโอซาก้า ในช่วงวันปกติทางปราสาทจะเปิดให้เข้าชมระหว่าง 09.00 น. – 17.00 น. ถ้าเป็นช่วงวันหยุดยาว Golden Week (ปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม) เปิดเวลา 09.00 น. – 18.00 น. ส่วนในช่วงดอกซากุระบาน (ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน) จะเปิดนานเป็นพิเศษคือระหว่างเวลา 09.00 น. – 19.00 น. อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม - วันที่ 1 มกราคม ของทุกปีตัวปราสาทจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
ค่าเข้าชม
สำหรับค่าเข้าชมปราสาทโอซาก้า จะแบ่งออกเป็นการเข้าชมปกติผู้ใหญ่ท่านละ 600 เยน ส่วนเด็กที่อายุต่ำ 15 ปีเข้าชมฟรี
วิธีเดินทางไปยังปราสาทโอซาก้า
ด้วยความเป็นจุดแลนด์มาร์คของเมืองโอซาก้า บวกกับความใหญ่โตของพื้นที่ทำให้ที่แห่งนี้มีสถานีรถไฟอยู่แวดล้อมโดยรอบหลายสถานีมาก ๆ ซึ่งขอแนะนำดังนี้
สถานี Morinomiya Station สามารถใช้บริการรถไฟสาย Chuo Line, Nagahoritsurumiryokuchi Line และ Osaka Loop Line สถานี Ōsakajōkōen Station สามารถใช้บริการรถไฟสาย Osaka Loop Line สถานี Osaka Business Park Station สามารถใช้บริการรถไฟสาย Nagahoritsurumiryokuchi Line สถานี Osakajokitazume Station สามารถใช้บริการรถไฟสาย JR Touzai-Gakkentoshi Line สถานี Temmabashi Station สามารถใช้บริการรถไฟสาย Keihan Main Line, Nakanoshima Line, และ Tanimachi Line สถานี Tanimachiyonchome Station สามารถใช้บริการรถไฟสาย Chuo Line และ Tanimachi Line ได้รับความนิยมมากสุดเพราะอยู่ใกล้ประตูใหญ่โอเทะมง Otemon Gate จากสถานีอีกประมาณ 500 เมตร ก็ถึงทางเข้าด้านหน้าทันที