พาเที่ยว สะพานแว่นตา | Nijubashi Bridge สะพานสู่พระราชวัง Cover Page

หากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวโตเกียวและมาเยือนพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) แล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาด Nijubashi Bridge หรือที่หลายคนคุ้นหูกันนาม “สะพานแว่นตา” ซึ่งเป็นจุดสำคัญในใช้เป็นสะพานข้ามจากลานหน้าพระราชวัง (Kokyo Gaien) ไปยังพระราชวังอิมพีเรียล ทอดตัวเหนือคูน้ำอย่างสวยงาม และหนึ่งในความโดดเด่นของสะพานแห่งนี้ก็คือด้านล่างเป็นรูปวงกลมเมื่อสะท้อนกับเงาน้ำแล้วก็จะคล้ายแว่นตา หรือที่ชาวญี่ปุ่นหลายคนเรียกว่า “เมกะเนะบาชิ” (Meganebashi) นั่นเองค่ะ

 

ทำความรู้จักสะพานแว่นตา Nijubashi Bridge สะพานสู่พระราชวัง

 

สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) Image1

 

สะพานแว่นตา หรือ Nijubashi Bridge เป็นสะพานที่เดิมทีเป็นสะพานไม้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะและใช้ชื่อว่า Nishinomaru Gejobashi และด้วยความที่คูน้ำบริเวณนั้นค่อนข้างลึก ทำให้ต้องมีการสร้างสะพานท้อนซับกันสองชั้นเพื่อเป็นฐานรองรับคานสะพาน จึงได้ชื่อเรียกว่า Nijubashi หรือสะพานคู่ในเวลาต่อมา ในส่วนของด้านหน้าของสะพานแว่นตานี้ก็ทำจากหินแกรนิตก้อนใหญ่เรียงตัวกันได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมตะวันตก จากนั้นในปี 1888 ได้มีการซ่อมแซมเปลี่ยนวัสดุสะพานจากไม้เป็นเหล็กเพื่อเพิ่มความแข็งแรงกว่าเดิม ก่อนจะมีการบูรณะอีกครั้งในปี 1964 เพื่อเพิ่มเทคโนโลยีการกันสนิม และคงรูปลักษณ์นี้มาจนถึงปัจจุบัน  

สำหรับการใช้งานสะพานแว่นตา หรือ Nijubashi Bridge แห่งนี้ปกติไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าได้เสมอไป จะเปิดใช้เฉพาะช่วงที่มีแขกของรัฐญี่ปุ่นเยี่ยมชมพระราชวังอิมพีเรียล หรือช่วงที่มีการจัดพิธีหลวงของราชวงศ์จักรพรรดิญี่ปุ่นเท่านั้น แต่จะมีช่วงพิเศษปีละ 2 ครั้งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมได้ก็คือช่วงเทศกาลปีใหม่ในวันที่ 2 มกราคม และวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิในวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งไม่เพียงแต่จะได้ข้ามสะพานแว่นตาจากด้านหน้าพระราชวังสู่ตัวพระราชวังแล้ว คุณอาจได้เห็นราชวงศ์หลายพระองค์ที่จะยืนอยู่ตรงระเบียงของพระราชวังอีกด้วยค่ะ  

 

ไฮไลท์ที่น่าสนใจเมื่อได้มาเยือนสะพานแว่นตา Nijubashi Bridge

 

สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) Image2

 

พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)

 

สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) Image3

 

ถ้ามีเป้าหมายว่าจะมาเยี่ยมชมสะพานแว่นตา หรือ Nijubashi Bridge แล้วก็ต้องไม่พลาดมาชมความงดงามของพระราชวังอิมพีเรียล ซึ่งเป็นสถานที่ประทับหลักของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ภายในพระราชวังนั้นประกอบไปด้วยพระตำหนักมากมาย รอบด้านรายล้อมไปด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ คูน้ำ อุทยานสวนดอกไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี แนะนำว่าถ้ามาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะพบกับดอกซากุระบานสะพรั่ง กลับกันถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นต้นไม้ที่ใบไม้กำลังจะเปลี่ยนสี  

Location : 1-1 Chiyoda, Chiyoda City, Tokyo 100-8111, Japan

 

สวนตะวันออกพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace East Gardens)

 

สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) Image4

 

อย่างที่บอกว่าไปสวน หรืออุทยานรอบ ๆ พระราชวังอิมพีเรียลนั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสวนตะวันออกแห่งพระราชวังอิมพีเรียลที่มีความกว้างขวางและตกแต่งสวนสไตล์ญี่ปุ่น ภายในไม่เพียงแต่จะมีดอกไม้ที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามแล้ว ยังเต็มไปด้วยซากปรักหักพังอันทรงคุณค่าจากสมัยเอโดะอีกด้วย สำหรับการเข้าชมสวนตะวันออกนี้คุณสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือไม่ต้องเสียเวลาลงทะเบียนล่วงหน้าค่ะ  

Location : 1-1 Chiyoda, Chiyoda City, Tokyo 100-8111, Japan

 

อนุสาวรีย์ ซามูไร คูซูโนกิ มาซาชิเงะ (Kusunoki Masashige Statue)  

 

สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) Image5

 

ช่วงด้านหน้าของสวนลานหน้าพระราชวังจะมีรูปปั้นทองสำริดของ Kusunoki Masashige ตั้งตระหง่านอยู่ สำหรับ Kusunoki Masashige นั้นถือเป็นซามูไรคนสำคัญในช่วงสมัยจักรพรรดิโกะไดโงะ มีชื่อเสียงในด้านความจงรักภักดีต่อสถาบันจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งอนุสาวรีย์แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่สำคัญที่สุดในโตเกียวนอกเหนือจากอนุสาวรีย์ของ Saigo Takamori และอนุสาวรีย์ของ Omura Masujiro  

Location : 1-1 Kokyogaien, Chiyoda City, Tokyo 101-0002, Japan

 

ลานน้ำพุวาดากูระ (Wadakura Fountain Park)

 

สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) Image6

 

ไกลออกมาจากสะพานแว่นตาเล็กน้อย หรือทางตะวันออกของพระราชวังอิมพีเรียลคุณจะพบกับลานน้ำพุวาดากูระ หรือ Wadakura Fountain Park ซึ่งน้ำพุแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1961 เพื่อเฉลิมฉลองพิธีอภิเษกสมรสของอดีตจักรพรรดิอะกิโฮโตะ ก่อนจะมีการปรับปรุงในปี 1993 เนื่องในโอกาสวันอภิเษกสมรสของจักรพรรดินารูฮิโตะ และเปิดให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าชมในปี 1995 สำหรับการออกแบบน้ำพุนั้นมีความทันสมัยตามธีม Continuity & New Development ซึ่งสามารถเข้าชมได้ทั้งตอนกลางวัน และตอนกลางคืนโดยตอนกลางคืนจะมีการแสดงน้ำพุประกอบแสงสีที่สวยงามอีกด้วย  

Location : 3-1 Kokyogaien, Chiyoda City, Tokyo 100-0002, Japan

 

พิพิธภัณฑ์ของสะสมในพระองค์ (Sannomaru Shozokan)

 

สะพานแว่นตา (Nijubashi Bridge) Image7

 

สำหรับใครที่เป็นสายชื่นชอบประวัติศาสตร์ ราชวงศ์จักรพรรดิญี่ปุ่น หรือผลงานศิลปะโบราณเราขอแนะนำว่าถ้าเดินชมสะพานแว่นตาหรือ Nijubashi Bridge เรียบร้อยแล้ว เดินต่อเข้ามายังฝั่งสวนตะวันออกก็จะพบกับ Sannomaru Shozokan หรือพิพิธภัณฑ์ของสะสมในพระองค์ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมของสะสมในสมเด็จพระจักรพรรดิและราชวงศ์ญี่ปุ่นที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่ปี 1989 ที่ราชวงศ์ญี่ปุ่นได้บริจาคสมบัติกว่า 6,000 ชิ้นให้แก่รัฐบาลญี่ปุ่น จนถึงปัจจุบันนี้ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีผลงาน หรือสมบัติราชวงศ์ญี่ปุ่นกว่า 9,500 ชิ้นเลยทีเดียว  

Location : Japan, 〒100-0100 Tokyo, Chiyoda City, Chiyoda, 1−1 皇居東御苑

 

เรียกได้ว่าสะพานแว่นตา หรือ Nijubashi Bridge แห่งนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเช็กอินเมื่อมาเยือนโตเกียวไม่น้อยเลยทีเดียว และยังรวมไปถึงสถานที่ละแวกนั้นที่มีความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป และถ้าคุณสนใจที่จะมาเช็กอินที่สะพานแว่นตาแห่งนี้ก็สามารถเข้าชมได้ทุกวันทุกเวลา โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่แสงแดดจะสะท้อนตัวสะพาน Nijubashi Bridge ในคูน้ำจนออกมาเป็นรูปแว่นตาได้พอดิบพอดี ในส่วนของการเดินทางมายังสะพานแว่นตานั้นก็สามารถมาได้หลายทาง เช่น นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สายสีเขียวแล้วลงสถานี Nijubashimae ทางออก 6 หรือจะนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote แล้วลงสถานี Tokyo ทางออก Marunouchi Central ก็ได้เช่นกันค่ะ  

Powered by