ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เทศกาลที่ทุกประเทศทั่วโลกพร้อมใจกันเฉลิมฉลอง แม้จะต่างไทม์โซนต่างเวลาแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาในการจัดงานเคาท์ดาวน์ตามไทม์โซนของตัวเอง ซึ่งงานเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญระดับโลกที่ผู้คนมากมายติดตามรับชมผ่านหน้าจอ ด้วยมนต์ขลังของวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของ “พิธีตีระฆังต้อนรับปีใหม่” และจุดแลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์ที่ญี่ปุ่น ที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยพากันเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่วมเคาท์ดาวน์ถึงประเทศญี่ปุ่น ต่างเต็มไปด้วยเสน่ห์และความสนุกสนานท่ามกลางอากาศหนาวๆ และแสงสีสุดอลังการ เราจึงชวนคุณมาร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ กับ 7 จุด เคาท์ดาวน์ทั่วญี่ปุ่น ที่รับรองว่าประทับใจไม่รู้ลืม
แนะนำ 7 สถานที่เคาท์ดาวน์ในประเทศญี่ปุ่น เทศกาลยิ่งใหญ่สุดอลังการ
1. โตเกียว ทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
ถ้าอยากไปเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นที่แรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงและเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกพากันเดินทางมา เคาท์ดาวน์ที่ญี่ปุ่น ก็คือ โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) แลนด์มาร์คใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โตเกียวทาวเวอร์จะได้รับการประดับประดาด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม รอบๆ มีการแสดงดนตรีคอยสร้างบรรยากาศสนุกสนาน เริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงเวลาเคาท์ดาวน์ ที่ทุกคนจะมารวมตัวนับถอยหลังไปพร้อมๆ กัน
2. ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Scramble Crossing)
ชิบูย่า ศูนย์กลางแฟชั่นและช้อปปิ้งของหนุ่มสาวชาวโตเกียว และยังเป็นแหล่งที่ตั้งของร้านอาหารและสถานบันเทิงต่างๆ ทำให้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนแทบจะตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นในทุกๆ ปี ชิบูย่าจะมีความคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วโลกมากกว่า 100,000 คนเพื่อเฉลิมฉลองและร่วมเคาท์ดาวน์ ไปพร้อมกับชาวญี่ปุ่น ทำให้ร้านรวงต่างๆ โดยรอบพากันจัดตกแต่งประดับประดาร้านค้าอย่างสวยงาม
ซึ่งจุดที่คึกคักที่สุดคือบริเวณห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Scramble Crossing) ทางแยกขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าสถานี Shibuya ที่เป็นที่จดจำด้วยทางม้าลายและตึกสูงที่มีจอโฆษณาขนาดยักษ์ ซึ่งทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจะไปรวมตัวกันและทักทายอวยพรกันที่นั่น ในขณะที่อาคารต่างๆ จะมีการจัดเคาท์ดาวน์ ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้นับถอยหลังเพื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่พร้อมกัน ถ้าใครชอบบรรยากาศความคึกคักและแสงสียามราตรี ชิบูย่าก็เป็นอีกจุดที่น่าไปรับบรรยากาศของการเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่น
3. วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple)
ถ้าใครเบื่อแสงสีเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่น อยากสัมผัสมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นล่ะก็ แนะนำให้ไปที่ วัดเซนโซจิ แต่คนไทยมักรู้จักกันในชื่อ วัดโคมแดง หรือ วัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple) วัดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ ซึ่งวัดจะเปิดให้คนเข้าไปไหว้ตลอดทั้งคืน โดยผู้คนจะพากันไปรวมตัวอย่างเนืองแน่น ตั้งแต่ประมาณ 2 ทุ่ม เพื่อเข้าแถวรอโยนเหรียญอธิฐานขอพร และความคึกคักนี้ยังรวมไปถึงร้านขายของสองข้างถนนนากามิเซะที่ตั้งเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก
ไฮไลท์สำคัญคือ “พิธีตีระฆังต้อนรับปีใหม่” (Joya no kane : 除夜の鐘) โดยจะเป็นการตีระฆังจำนวน 108 ครั้ง ซึ่งชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า ภายในตัวเราจะมีปีศาจอยู่ทั้งหมด 108 ตัว ที่คอยทำให้เราต้องพบเจอเรื่องยากลำบากในชีวิต การตีระฆังทั้งหมด 108 ครั้ง จะช่วยขับไล่ปีศาจร้ายและสิ่งอัปมงคลเหล่านี้ให้หมดไป โดยการตีระฆังจะเริ่มขึ้นในคืนวันที่ 31 ธันวาคม โดยจะตีเป็นจำนวน 107 ครั้ง และครั้งที่ 108 จะถูกตีในวันที่ 1 มกราคม เพื่อเป็นสัญญานของการเริ่มต้นศักราชใหม่ ซึ่งพิธีนี้จัดขึ้นในวันสุดท้ายของปีภายในวัดต่างๆ ทั่วประเทศและเสียงระฆังยังจัดเป็นการนับเคาท์ดาวน์ สำหรับชาวญี่ปุ่นไปในตัว
4. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ปราสาทโอซาก้า 1 ใน 3 ปราสาทที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นและยังเป็นแลนด์มาร์กของเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของแถบคันไซ เป็นอีกแห่งที่จัดงานเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นได้น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ที่อื่น ซึ่งมีทั้งการประดับตกแต่งไฟตามจุดต่างๆ ของปราสาทและยังมีการแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตา แต่งานนี้จะต้องซื้อบัตรล่วงหน้าเพื่อเข้าชม (สนนราคาประมาณ 2,100 – 7,500 เยน)
5. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan)
งานเคาท์ดาวน์ที่ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ เจแปน หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า USJ (Universal Studios Japan) ถือได้ว่าเป็นอีเวนต์เคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่หนึ่ง ซึ่งตั๋วเข้างานมักจะถูกจำหน่ายหมดไปอย่างรวดเร็ว โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคมและสิ้นสุดลงเวลา 21.00น. ของวันที่ 1 มกราคม รวมทั้งหมด 26 ชั่วโมงที่จะให้คุณได้ใช้เวลาเฉลิมฉลองไปกับเหล่าตัวการ์ตูนและคาแรคเตอร์ต่างๆ ภายในสวนสนุกแห่งนี้ โดยจะมีการแสดงโชว์ต่างๆ ขบวนพาเหรด เครื่องเล่นแสนสนุก และที่ไม่ควรพลาดคือ การรอชมโชว์ที่มีเฉพาะยามค่ำคืนรวมถึงพลุและดอกไม้ไฟสุดตระการตาบนท้องฟ้าที่จะถูกจุดขึ้นหลังจากสิ้นสุดการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ นับเป็นงานเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นที่คุ้มค่าจุใจที่คนรักสวนสนุกไม่ควรพลาด
6. วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)
วัดคิโยมิซุ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองมรดกโลก เกียวโต ที่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมไปไหว้พระของพรเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเป็นจุดเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยอยากไปเยือนสักครั้ง ซึ่งในวันที่ 31 ธันวาคม ไปจนถึง วันที่ 1 มกราคม วัดคิโยมิซุจะเปิดให้บริการตลอดทั้งวันทั้งคืน เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวได้เข้าไปขอพรและเสี่ยงเซียมซี
7. สนามสกี โอะคุระยะมะ จัมป์ สเตเดียม (Okurayama Ski Jump Stadium)
สนามสกี โอะคุระยะมะ จัมป์ สเตเดียม ตั้งอยู่ทางตะวันตกของซัปโปโร ดินแดนเหนือสุดของญี่ปุ่น และเป็นสถานที่เล่นสกียอดฮิตของคนญี่ปุ่น และเป็นจุดเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นที่หลายคนอยากไปเยือน แต่ถ้าหากเดินทางด้วยรถสาธารณะจะค่อยข้างลำบากเล็กน้อย เพราะรถบัสจะมีจำนวนรถไม่มากและอาจต้องใช้เวลาคอยนาน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกเดินทางด้วยรถส่วนตัวหรือมากับทัวร์ซึ่งสะดวกสบายกว่า
โดยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปเล่นสกีและเข้าร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ซึ่งถูกจัดขึ้นที่ สนามสกี โอะคุระยะมะ จัมป์ สเตเดียม ภายในงานจะมีกิจกรรรมมากมายให้เข้าชม และต้องขึ้นไปชมวิวซัปโปโรยามค่ำคืนบนยอดเขาที่สูงกว่า 300 เมตร ซึ่งงดงามไม่แพ้ตอนกลางวัน ปิดท้ายด้วยการแสดงดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นในเวลาเที่ยงคืนหลังการเคาท์ดาวน์ ซึ่งถึงเป็นจุดเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นที่ทำให้ใครหลายคนประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว
แม้ว่าการเคาท์ดาวน์ จะไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นัก โดยมากจะอยู่บ้านกับครอบครัวหรือรวมตัวกันตามวัดต่างๆ เพื่อขอพร แต่งานเคาท์ดาวน์ญี่ปุ่นก็เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่และน่าประทับใจไม่แพ้ที่อื่น ดูได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่พากันหลั่งไหลเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศเคาท์ดาวน์ที่ญี่ปุ่นที่สนุกสนานท่ามกลางอากาศเย็นๆ และหลังจากเคาท์ดาวน์กันเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมทานข้าวกล่องพิเศษในวันแรกของปีเพื่อเป็นสัญญาณการเริ่มต้นปีใหม่อย่างมีความสุขกันด้วยนะคะ