หนึ่งในเมืองยอดนิยมที่หลายคนเลือกเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็คือ นาโกย่า (Nagoya) นั่นเองค่ะ นาโกย่าเป็นเมืองหลักของจังหวัดไอจิ (Aichi) ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) ตอนกลางของเกาะฮอนชู (Honshu) เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และเป็นเมืองที่มีประชากรอยู่อาศัยมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายโดยเฉพาะปราสาท นาโกย่า (Nagoya Castle) สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ชื่อดังอันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งเมืองนาโกย่า และวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักและเที่ยวชมปราสาท นาโกย่า กันค่ะ
ประวัติความเป็นมาของปราสาท นาโกย่า (Nagoya Castle)
ปราสาท นาโกย่า ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นของสมัยเอโดะ สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ 1615 โดยโชกุน โทคุกาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ซึ่งปราสาทนาโกย่านั้นถูกสร้างขึ้นสำหรับโยชินาโอะ บุตรชายคนที่เก้าของโทคุงาวะ อิเอยาสุ นั่นเอง ปราสาทแห่งนี้ประกอบไปด้วยตัวปราสาทหลักที่ประดับประดายอดหลังคาด้วย Kinshachi หรือเครื่องประดับหลังคาปลาเสือสีทองบนยอดหอคอยหลัก พระราชวังฮอมมารุอันเป็นที่พำนักที่หรูหรางดงาม หอสังเกตการณ์ และสวนนิโนะมารุอันกว้างใหญ่ ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินสูงและแข็งแรง มีหอสังเกตการณ์โดยรอบ ตอกย้ำให้เห็นถึงอำนาจและความแข็งแกร่งของตระกูลโทคุกาวะในยุคนั้น ปราสาท นาโกย่ามีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะปราสาทของตระกูล Tokugawa ในอดีต โดยได้มีคำสั่งให้มีการย้ายถิ่นฐานของประชาชนจากเมืองคิโยซุ (Kiyosu) มายังเมืองใหม่นาโกย่าแห่งนี้ จนกลายเป็นที่ตั้งของเมืองนาโกย่าในอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน
ปราสาท นาโกย่า นั้นเป็นปราสาทที่โดดเด่นสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติในปี 1930 โดยมีพระราชวังฮอมมารุซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของปราสาทแห่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติ แต่ที่นี่ก็ถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศในช่วงสงครามเมื่อปี 1945 จากนั้นก็ได้มีการบูรณะหอคอยในปี 1959 และได้เริ่มบูรณะพระราชวังฮอมมารุขึ้นมาใหม่ในปี 2009 จนแล้วเสร็จในปี 2018 และเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าชม
สถานที่สำคัญของปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)
1. พระราชวังฮอมมารุ (Hommaru Palace)
พระราชวังแห่งนี้สร้างเสร็จในปี 1615 ใช้เป็นที่พักอย่างเป็นทางการและเป็นสำนักงานบริหารของตระกูลโอวาริโทคุกาวะ ที่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างปราสาทแห่งแรกที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ พระราชวังแห่งนี้ถูกทำลายจากการโจมตีทางอากาศในช่วงสงครามในปี 1945 และได้รับการสร้างขึ้นใหม่โดยใช้แผนสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะเพื่อให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
2. ปราสาทหลัก (Main Tower Keep)
เป็นปราสาทสูงขนาดใหญ่ที่สร้างแล้วเสร็จในปี 1612 บนยอดของหลังคาประดับประดาด้วย Kinshachi ที่มีลักษณะเป็นปลาเสือสีทอง โดยปลาตัวผู้อยู่ทางด้านเหนือ มีความสูง 2.621 ม. และหนัก 1,272 กก. ในขณะที่ปลาตัวเมียจะอยู่ทางทิศใต้ มีความสูง 2.579 ม. และหนัก 1,215 กก. เกล็ดของปลาทั้งสองหุ้มด้วยทองคำ 18 กะรัต แต่ถูกทำลายลงพร้อมกับตัวปราสาทหลักจากการโจมตีทางอากาศในปี 1945 หลังจากนั้นได้รับการบูรณะด้วยการใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก และได้มีการจำลอง Kinshachi มาให้ดูกันใกล้ ๆ ในปัจจุบันตัวปราสาทหลักก็ยังปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเนื่องจากเป็นอาคารที่มีความเก่าแก่และโครงสร้างที่ไม่ต้านทานต่อแผ่นดินไหว
3. พระราชอุทยานนิโนะมารุ (Ni-no-maru Garden)
เป็นสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ติดกับที่พำนักของขุนนางแห่งปราสาทนาโกย่าในอดีต ได้รับการตกแต่งและดูแลเป็นอย่างดี เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานตามฤดูกาล มีศาลานั่งพัก สวนน้ำตก และสระน้ำที่มีปลาคาร์ฟแหวกว่าย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีกลายเป็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างมาก
4. หอสังเกตการณ์มุมตะวันตกเฉียงใต้ (Seinan-sumi Yagura)
ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1612 ตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของเขตพระราชวัง โครงสร้างภายนอกดูเหมือนสูง 2 ชั้น แต่ภายในมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น เหนือกำแพงหินมีส่วนที่ยื่นออกมาเรียกว่า “Ishi-otoshi” ซึ่งคาดว่าใช้สำหรับโจมตีศัตรู และยังใช้เป็นคลังเก็บอาวุธอีกด้วย
5. หอสังเกตการณ์มุมตะวันออกเฉียงใต้ (Tounan-sumi Yagura)
ถูกสร้างขึ้นในปี 1612 ตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของเขตพระราชวัง ขอสังเกตการณ์แห่งนี้ภายนอกดูเหมือนมี 2 ชั้น แต่ด้านในมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น
6. หอสังเกตการณ์มุมตะวันตกเฉียงเหนือ (Seihoku-sumi Yagura)
หอสังเกตการณ์นี้ตั้งอยู่ที่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของเขตโอฟุเกะ-มารุซึ่งอยู่ทางด้านหลังของพระราชวัง สร้างขึ้นในราวปี 1619 เป็นหอสังเกตการณ์สามชั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสภาพเดิมและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น
7. ประตู Seeimon
ปราสาท นาโกย่า มีประตูอยู่หลายแห่ง โดยมีประตูหลักก็คือ Seeimon ซึ่งแต่เดิมเรียกว่าประตู Enokida-mon เป็นประตูหลักที่นำไปสู่เขตพระราชวังและเป็นหนึ่งในประตูของปราสาทที่สำคัญซึ่งถูกสงวนเอาไว้สำหรับผู้ติดตามและแขกผู้มีเกียรติ โดยประตูแห่งนี้ก็ถูกทำลายลงในช่วงสงครามด้วยเช่นกัน และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่พร้อมกับปราสาทหลัก
นอกจากนี้บริเวณปราสาท นาโกย่า ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น บ้านพิธีชงชา (Tea Ceremony Houses) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ศึกษาสำหรับใช้ในพิธีชงชา ต้นกายาแห่งชัยชนะ (The Victorious Kaya Tree Natural Monument) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติที่มีอายุมากกว่า 600 ปี โดยมีตำนานเล่าขานกันว่า โทคุกาวะ โยชินาโอะ ผู้ปกครองคนแรกของนาโกย่าได้กินผลของต้นไม้นี้ และอธิษฐานขอให้ได้รับชัยชนะก่อนออกรบ รวมไปถึงคลังเก็บของ และปราสาท นาโกย่าเก่าอีกด้วย
เรียกได้ว่าปราสาท นาโกย่า (Nagoya Castle) นั้นก็เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจและความมั่งคั่งของโชกุนในยุคสมัยเอโดะ เป็นสมบัติของชาติและเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองนาโกย่า นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย
[ 10 พิกัดใน นาโกย่า ชมใบไม้เปลี่ยนสี เรียงรายทั่วทั้งสองข้างทาง ]