Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) วิวเมืองทะเลสาบ​ที่สวยที่สุดในออสเตรีย Cover Page

หมู่บ้าน Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) นั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนโรแมนติกในยุโรปที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปให้ได้กันสักครั้ง  ที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามราวกับเทพนิยาย แวดล้อมไปด้วยภูเขา ทะเลสาบ อาคารบ้านเรือนและโบสถ์ในสถาปัตยกรรมโบราณที่ดูสวยงามน่ารัก ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ และบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งถ้าหากใครกำลังวางแผนมาเที่ยวออสเตรียกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ วันนี้เราก็มีข้อมูลที่น่าสนใจของหมู่บ้านแห่งนี้มาฝากกันค่ะ  

 

ทำความรู้จักกับ Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) วิวเมืองทะเลสาบ​ที่สวยที่สุดในออสเตรีย

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) Image1

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) ตั้งอยู่ในรัฐโอแบร์เอิสเตอร์ไรช์ (Oberösterreich) หรือ Upper Austria ซึ่งเป็นเป็น 1 ใน 9 รัฐ (Bundesländer) ของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบฮัลชตัททางตะวันตกเฉียงใต้ ที่นี่เป็นหมู่บ้านในแหล่งมรดกโลกซัลทซ์คัมเมอร์กูท (Salzkammergut) ซึ่งเป็นเขตท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในประเทศออสเตรีย โดยชื่อ ซัลทซ์คัมเมอร์กูท ก็มีความหมายว่า "ทรัพย์แห่งสภาเกลือ" หมายถึงสภาเกลือในสมัยจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่รับผิดชอบกิจการเหมืองเกลือของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (House of Habsburg) สื่อให้เห็นว่าในอดีตนั้นเคยเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยเหมืองเกลือเป็นจำนวนมาก  

ซึ่งในประวัติศาสตร์หมู่บ้านแห่งนี้ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของการผลิตเกลือ และเป็นที่มาของชื่อวัฒนธรรม Hallstatt ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเชื่อมโยงกับกลุ่มชนที่พูดภาษาเคลต์, ภาษาเคลต์ดั้งเดิม และภาษาก่อนอิลลิเรียในยุคเหล็กตอนต้นของยุโรปเมื่อ 800–450 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยมีหลักฐานการค้นพบโบราณคดียุคแรกสุดของชาวเคลต์บางชิ้นในหมู่บ้านนี้อีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งเป็นไฮไลท์ของหมู่บ้านก็ได้แก่ พิธภัณฑ์เหมืองเกลือ (Salzwelten), Classic Village Viewpoint, จัตุรัสกลางเมืองและร้านค้า (Market Square) เป็นต้น

 

แนะนำจุดเช็คอินห้ามพลาดของหมู่บ้าน Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์)

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) Image2

 

1. จุดชมวิวถ่ายภาพที่ระลึก (Classic Village Viewpoint / Postcard Angle)

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) จุดชมวิวถ่ายภาพที่ระลึก (Classic Village Viewpoint / Postcard Angle) Image3

 

พิกัดนี้เป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนหมู่บ้าน Hallstatt เพราะตรงจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้หมู่บ้านกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปัจจุบัน โดยตั้งอยู่บริเวณทางเดินถนนริมทะเลสาบที่อยู่ห่างจากจัตุรัสกลางเมืองประมาณ 150 เมตร ถ้าหากมองจากจุดชมวิวแห่งนี้ก็จะมองเห็นโบสถ์ประจำเมืองซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ของหมู่บ้าน ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบและมีฉากหลังเป็นขุนเขาอันสวยงาม จนกลายเป็นวิวยอดนิยมของหมู่บ้านที่นักท่องเที่ยวจะต้องขึ้นมาเก็บภาพกันให้ได้สักครั้ง  

Location : Gosaumühlstraße 67, 4830 Hallstatt, Austria

 

2. โบสถ์ประจำเมือง (Hallstatt Lutheran Church)

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) โบสถ์ประจำเมือง (Hallstatt Lutheran Church) Image4

 

เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มักปรากฏอยู่ในภาพวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้าน Hallstatt จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1785 เพื่อใช้เป็นสถานที่รวมตัวในการสวดภาวนาของชาวบ้าน จากนั้นในปี ค.ศ. 1863 ก็ได้รับการปรับปรุงและสร้างใหม่ให้กลายเป็นโบสถ์ประจำเมืองนับแต่นั้นเป็นต้นมา ความโดดเด่นของโบสถ์แห่งนี้ก็คือหลังคาที่มีลักษณะเป็นปลายแหลมสูงที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของเมือง ด้านหลังติดทะเลสาบ และยังเปิดให้เข้าชมทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย  

Location : Landungspl. 101, 4830 Hallstatt, Austria

 

3. จุดชมวิวบนภูเขาเกลือ (Salzberg)

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) จุดชมวิวบนภูเขาเกลือ (Salzberg) Image5

 

เป็นจุดชมวิวที่จะทำให้เราได้เห็นหมู่บ้านจากมุมสูง ซึ่งจุดชมวิวแห่งนี้ก็เรียกว่า The Skywalk โดยเป็นสะพานที่ยื่นออกมาจากหน้าผาสูงจึงทำให้เราได้มองเห็นวิวแบบ panorama ของหมู่บ้านและเทือกเขา Alps และได้รับการยกย่องว่าเป็น the UNESCO World Heritage การขึ้นไปก็จะมีให้เลือกทั้งรถรางหรือจะเดินขึ้นเขาไปเองก็ได้ และเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนก็จะมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ที่อยู่ในอาคาร Rudolf’s Tower ซึ่งเป็นป้อมปราการเก่าให้เราได้ใช้บริการรวมไปถึงเดินเล่นชมวิวกันอย่างเพลิดเพลิน เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้  

Location : Salzburg, Austria
 

4. เหมืองเกลือฮาลล์สตัทท์ Hallstatt Salt Mine (Salzwelten)

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) เหมืองเกลือฮาลล์สตัทท์ Hallstatt Salt Mine (Salzwelten) Image6

 

เป็นเหมืองเกลือเก่าแก่สำหรับการผลิตเกลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปเมื่อประมาณ 800 ปีก่อนคริสตกาล จึงทำให้ในอดีตนั้น Hallstatt เป็นเมืองที่มีความร่ำรวยจากการทำเหมืองเกลือ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงในสมัยนั้น โดยในปัจจุบันถึงแม้จะไม่ได้ใช้ผลิตเกลือเป็นหลักแต่ก็ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์เหมืองเกลือเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม ซึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ก็คือสไลเดอร์แบบโบราณที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1734 บอกได้เลยว่าสนุกมาก

Location : Ramsaustraße 3, 5422 Bad Dürrnberg, Austria

 

5.  ย่านจัตุรัสใจกลางเมือง (Market Square Hallsatt village)

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) ย่านจัตุรัสใจกลางเมือง (Market Square Hallsatt village) Image7

 

ย่านจัตุรัสใจกลางเมืองซึ่งมีลักษณะเป็นลานหินขนาดย่อมมีน้ำพุอยู่ตรงกลางลาน เป็นจุดเช็คอินและจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวต่างก็ไม่พลาดเมื่อมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งที่นี่ก็ยังถูกใช้เป็นศูนย์รวมสำหรับการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ของชาวเมืองอีกด้วย บริเวณโดยรอบก็จะมีจุดนั่งพักผ่อน รวมไปถึงร้านค้าและคาเฟ่ ให้เราได้นั่งจิบน้ำชากาแฟชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตของผู้คน หรือจะเดินซื้อของฝากของที่ระลึกกันก็ได้ตามสะดวก  

Location : Marktpl. 45, 4830 Hallstatt, Austria

 

6. พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Museum Hallstatt)

 

Hallstatt (ฮัลล์สตัทท์) พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Museum Hallstatt) Image8

 

พิพิธภัณฑ์มรดกโลกซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ โดยจัดแสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาและสภาพแวดล้อมเมื่อกว่า 7,000 ปีที่ผ่านมา ในรูปแบบ 3 มิติเสมือนจริงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศและเรื่องราวของเมืองนี้อย่างใกล้ชิดสมจริงตั้งแต่สมัยที่เริ่มทำเหมืองเกลือโบราณจนกระทั่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้กลายเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การ UNESCO 

Location : Seestraße 56, 4830 Hallstatt, Austria 

 

ต้องบอกว่า Hallstatt นั้นเป็นเมืองริมทะเลสาบที่ขึ้นชื่อได้ว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรีย และเชื่อได้ว่าคุณจะต้องตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น  ซึ่งนอกจากจะให้นักท่องเที่ยวได้ไปพักผ่อนหย่อนใจกับวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามโรแมนติกแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำกันอีกมากมาย และยังเป็นเมืองที่สามารถไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดู ซึ่งในแต่ละฤดูก็จะมีเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเติมเต็มพลังชีวิตของเราได้อย่างเต็มที่ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยุโรปในฝันที่หลายคนต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต  

Powered by