สภาพอากาศจอเจียร์ ที่ควรรู้ เพื่อเตรียมตัวไปประเทศจอร์เจีย

สภาพอากาศจอร์เจีย

เนื่องจากประเทศจอร์เจียนั้นมีลักษณะของภูมิประเทศที่ค่อนข้างหลากหลายจึงทำให้มีสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งลักษณะภูมิภาคของประเทศจอร์เจียนั้นก็ก็มีตั้งแต่ที่ราบลุ่ม หนองน้ำ ป่าฝนเขตอบอุ่นไปจนถึงหิมะและธารน้ำแข็ง รวมไปถึงมีภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าในบางส่วนของประเทศ แต่โดยทั่วไปแล้วก็สามารถแบ่งเขตภูมิอากาศหลักออกได้เป็น 2 เขต ก็คือทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของประเทศ โดยมีเทือกเขา Greater Caucasus และทะเลดำที่มีบทบาทสำคัญต่อสภาพอากาศจอร์เจีย

อากาศจอร์เจียทางด้านพื้นที่ทางตะวันตกส่วนใหญ่มีสภาพอากาศเป็นแบบกึ่งร้อนชื้น เนื่องจากอยู่ติดกับทางฝั่งทะเลดำ มีภูมิอากาศแตกต่างกันออกไปตามระดับความสูงของพื้นที่ โดยในบริเวณพื้นที่ราบลุ่มก็จะมีอากาศค่อนข้างอบอุ่นตลอดทั้งปี ในขณะที่บริเวณเชิงเขาและพื้นที่ภูเขา รวมไปถึงบริเวณเทือกเขา Greater และ Lesser Caucasus ก็จะมีอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นกว่าและมีหิมะตกในฤดูหนาว ส่วนอากาศจอร์เจียทางด้านพื้นที่ฝั่งตะวันออกก็จะมีภูมิอากาศที่ได้รับอิทธิพลมาจากมวลอากาศจากทะเลดำทางด้านตะวันตก มีสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนจากแบบกึ่งเขตร้อนชื้นมาเป็นแบบภาคพื้นทวีป (continental climate) มีฤดูร้อนที่ค่อนข้างร้อนโดยเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่ม และมีอากาศค่อนข้างหนาวจัดในฤดูหนาว โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1500 เมตรขึ้นไป ก็จะมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นกว่าพื้นที่ราบลุ่ม

ฤดูกาลของจอร์เจีย

สภาพภูมิอากาศจอร์เจียสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งในแต่ละฤดูกาลก็จะมีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

ฤดูร้อน อยู่ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม สภาพอากาศจอร์เจียในช่วงนี้ก็จะมีอากาศร้อนจัดในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม อุณหภูมิสูงสุดสามารถขึ้นไปได้สูงถึงมากกว่า 30 องศาเซลเซียส ดังนั้นแนะนำให้ท่องเที่ยวไปตามเมืองที่มีพื้นที่ราบลุ่มบริเวณตอนกลางของประเทศอย่างเช่น เมืองหลวง Tbilisi หรือเมืองบริเวณชายฝั่งอย่างเช่น Batumi หรืออาจจะเลือกไปตามบริเวณเทือกเขา Great Caucasus อย่างเช่น เมือง Mestia, Kazbegi คุณจะได้พบกับเส้นทางเดินป่าที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม และหมู่บ้านมรดกโลกที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน เป็นช่วงที่สภาพอากาศจอร์เจียเริ่มเย็นลงในบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม แต่ก็ยังคงไม่หนาวเย็นจนเกินไป คุณจะได้พบกับสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงอันแสนงดงามและยังเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวองุ่นที่เต็มไปด้วยเทศกาลและงานรื่นเริง อย่าพลาดที่จะไปในพื้นที่ผลิตไวน์ล่ะของประเทศอย่าง Kakheti (ทางตะวันออกของทบิลิซี) ที่คุณจะได้ร่วมเก็บเกี่ยวและผลิตไวน์ รวมไปถึงร่วมงานเฉลิมฉลองที่สนุกสนาน นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็ยังมีเทศกาลที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวงทบิลิซี ที่จะมีเทศกาลเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่อย่าง เทศกาล "Tbilisoba" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ในเทศกาลก็จะเต็มไปด้วยการแสดงดนตรี การเต้นรำ ร้านค้า ร้านอาหาร ชีสและไวน์ขึ้นชื่อของจอร์เจียอย่างมากมาย
ฤดูหนาว อยู่ในช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงมีนาคม เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นและมีหิมะตก ซึ่งในประเทศจอเจียก็จะมีวันฉลองวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส) ของนิกายออร์ทอดอกซ์ ในวันที่ 7 มกราคม แล้วจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น และในช่วงนี้ก็ยังเป็นช่วงเวลาของกิจกรรมในฤดูหนาวที่แสนจะครึกครื้น โดยเฉพาะตามสกีรีสอร์ทต่าง ๆ ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งก็มีสกีรีสอร์ทหลายแห่งให้เลือกเล่น โดยมี Gudauri เป็นสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดของจอร์เจีย หรืออาจจะเลือกไปทางภูมิภาค Svaneti ทางตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นจากนักปีนเขาและนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย
ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นโดยมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียสในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงที่ต้นไม้ใบไม้เริ่มผลิดอกออกใบและเริ่มเปิดเส้นทางเดินป่าตามพื้นที่บริเวณเชิงเขา ในช่วงนี้ก็ยังเป็นฤดูล่องแก่งอีกด้วย โดยสถานที่ล่องแก่งยอดนิยมก็จะอยู่ที่บริเวณแม่น้ำ Aragvi ทางตอนเหนือของทบิลิซี โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมีเทศกาลอีสเตอร์ของจอร์เจียซึ่งจัดขึ้นนานถึง 5 สัปดาห์ โดยจะมีการจัดงานขึ้นเป็นพิเศษที่วิหาร Svetitskhoveli ใน Mtskheta ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทบิลิซี

[ มารู้จัก เทือกเขาคอเคซัส Caucasus Mountains ประเทศจอเจียร์กัน ]

เมื่อพิจารณาจากสภาพอากาศจอร์เจียโดยรวมแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวจอร์เจียก็คือตั้งแต่ประมาณเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของที่นี่ด้วยเช่นกัน โดยในช่วงนี้ก็จะมีอากาศที่เย็นสบายกำลังดี มีฝนตกน้อยเมื่อเทียบกับช่วงอื่น ๆ ทำให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกที่ แต่ถ้าหากอยากสัมผัสอากาศหนาวเย็นหรืออยากเล่นหิมะ ก็แนะนำให้มาในช่วงตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมกันค่ะ แต่ทั้งนี้ประเทศจอร์เจียก็เป็นประเทศที่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี ซึ่งก็จะมีเสน่ห์และความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไปรอให้คุณได้มาสัมผัสกันด้วยตนเอง