ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความแตกต่างของสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลและภูมิภาคค่อนข้างมาก การแต่งตัวไปญี่ปุ่น จึงต้องตรวจสอบสภาพอากาศในช่วงที่จะไปอย่างรอบคอบ เพราะไม่แน่ว่าวันที่เราไปอาจจะต้องพบเจอสภาพอากาศที่ไม่เป็นอย่างที่คาดเดา และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ทริปของเราต้องสะดุด วันนี้เราจึงมาแนะนำเทคนิคจัดกระเป๋าแต่งตัวไปญี่ปุ่น ให้ใส่ได้ทุกสภาพอากาศไม่มีพลาดแม้อากาศไม่เป็นใจค่ะ
ก่อนจัดเสื้อผ้าสำหรับแต่งตัวไปญี่ปุ่น ลงกระเป๋า เรามาทำความรู้จักสภาพอากาศของประเทศญี่ปุ่นในแต่ละฤดูกาล เพื่อจะเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศ โดยประเทศญี่ปุ่นแบ่งฤดูกาลหลักๆ ออกเป็น 4 ฤดูกาล ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น คือช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เพิ่งผ่านพ้นฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12 - 25 องศาเซลเซียส ถือได้ว่ามีอากาศค่อนข้างอบอุ่นสำหรับคนญี่ปุ่น แต่สำหรับเราๆ นั้นก็ยังจัดว่าหนาวเย็นอยู่ดี ดังนั้นเราควรจัดเตรียมเสื้อผ้าให้มีความรัดกุมและช่วยเพิ่มความอบอุ่นเผื่อเอาไว้ด้วย
ถัดมาเป็นช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม คือฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 27 - 35 องศาเซลเซียส สำหรับคนไทยที่เคยชินกับอากาศร้อนอาจจะไม่ค่อยกังวลใจ แต่ไม่แนะนำให้ชะล่าใจนะคะเพราะฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นจะมีสภาพอากาศร้อนชื้น เพราะจะมีช่วงต้นฤดูร้อนที่มีฝนตกมากกว่าปกติประมาณ 1 เดือน ดังนั้นแต่งตัวไปญี่ปุ่นในฤดูนี้ ควรเตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี แต่ไม่จำเป็นต้องเตรียมร่มไปให้หนักกระเป๋า เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นมีร่มสวยๆ คุณภาพดีให้เลือกซื้ออยู่มากมาย แต่ใครจะเตรียมไปก็ไม่ผิดแต่อย่างใด
ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศค่อนข้างอบอุ่นเย็นสบายมากขึ้น โดยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 16 - 33 องศาเซลเซียส สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะแต่งตัวไปญี่ปุ่นในฤดูนี้ แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับเพิ่มความบอบอุ่นและเตรียมตัวรับมือกับพายุฝน เพราะในช่วงเดือนกันยายนจะเป็นช่วงที่มีพายุไต้ฝุ่นเข้า หากเป็นไปได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนั้น และควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนวางแผนการเดินทาง
เป็นอีกหนึ่งฤดูที่นักท่องเที่ยวชาวไทยอยากมาสัมผัสมากฤดูกาลหนึ่ง และเป็นฤดูที่แต่งตัวไปญี่ปุ่นได้แบบจัดเต็ม ทั้งเสื้อโค้ท ผ้าพันคอ ถุงมือ และทุกๆ แฟชั่นที่ประเทศเมืองร้อนอย่างประเทศไทยใส่ไม่ได้ โดยฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มต้นในช่วงเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนกุภาพันธ์ สภาพอากาศของประเทศญี่ปุ่นจะหนาวเย็นและมีหิมะตก อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2 - 10 องศาเซลเซียส และในบางพื้นที่โดยเฉพาะทางภาคเหนืออย่างฮอกไกโด อุณหภูมิอาจลดต่ำกว่านั้น (ยกเว้น เกาะโอกินาว่าที่มีสภาพอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี จึงไม่มีฤดูหนาว)
ดังนั้นถ้าเราจะแต่งตัวไปญี่ปุ่น ในฤดูนี้ก็ควรเน้นเป็นเสื้อผ้าประเภทที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเป็นพิเศษ โดยเสื้อโค้ทกันหนาวจะต้องเป็นเสื้อผ้าสำหรับประเทศเมืองหนาวโดยเฉพาะ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลายคนเข้าใจผิดซื้อเสื้อโค้ทกันหนาวจากเมืองไทย ซึ่งโค้ทเหล่านั้นไม่สามารถกันความหนาวในฤดูหนาวของญี่ปุ่นได้ ทำให้ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มในภายหลัง แถมยังไม่สามารถใช้ในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนได้ ดังนั้นก่อนซื้อหรือเช่าเสื้อโค้ทกันหนาว ควรสอบถามให้แน่ใจว่า สามารถใช้กันความหนาวเย็นของฤดูหนาวที่ประเทศญี่ปุ่นได้จริงๆ
จะสังเกตได้ว่าประเทศญี่ปุ่นไม่มีการแบ่งฤดูฝนแยกออกมาอย่างชัดเจนจะมีเพียงช่วงสั้นๆ ที่มีฝนตกบ่อยเป็นพิเศษ แต่ไม่ใช่ว่าญี่ปุ่นจะไม่มีฤดูฝน เพียงแต่ฤดูฝนของแต่ละภูมิภาคไม่ได้เริ่มพร้อมกันแบบฤดูอื่นๆ โดยไล่จากทางภาคใต้ของประเทศขึ้นไป โดยมักจะกินระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่ง เริ่มต้นจากแถบใต้สุดของประเทศอย่างโอกินาว่าที่ฤดูฝนจะเริ่มต้นราวๆ เดือนพฤษภามคม ในขณะที่โตเกียวฤดูฝนจะเริ่มประมาณต้นเดือนมิถุนายน ในขณะที่แถบฮอกไกโดและเกาะโอกาซาวาระ จะไม่มีฤดูฝน เพราะไม่มีช่วงที่ฝนตกอย่างต่อเนื่องจนเรียกว่าฤดูกาลได้ หากเราไปท่องเที่ยวในช่วงที่อาจมีฝนตกบ่อย การแต่งตัวไปญี่ปุ่นในช่วงนี้ควรเลือกเป็นแบบที่สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี และเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตหรือคาร์ดิแกนที่ไม่หนามากไว้ใส่เพิ่มความอบอุ่นในช่วงที่อากาศเย็นลง
เสื้อผ้าฮีทเทค คือเสื้อผ้าที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยกักเก็บความร้อนทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกอบอุ่นมากขึ้นกว่าเสื้อผ้าทั่วไป ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้นในปัจจุบันตัวเสื้อผ้าฮีทเทคจะมีคุณสมบัติที่ช่วยกักเก็บความร้อน ระบายความชื้นได้ดีมีความยืดหยุ่นสูง แต่มีเนื้อผ้าบางสามารถสวมเสื้อผ้าอื่นทับได้โดยไม่ทำให้ตัวเราดูหนาขึ้น ถูกผลิตมาหลากหลายแบบ ทั้งเสื้อแขนยาว แขนสั้น เลกกิ้ง กางเกงลองจอห์น เป็นต้น ซึ่งใครที่จะแต่งตัวไปญี่ปุ่น ไม่ว่าฤดูกาลไหน ก็ควรซื้อเสื้อผ้าฮีทเทคติดกระเป๋าไปด้วย เพราะนอกจากจะช่วยให้เราไม่หนาวแล้วยังช่วยให้การแต่งตัวเที่ยวญี่ปุ่นแบบอินเทรนด์ตามแฟชั่น มิกซ์แอนด์แมชต์ได้ง่ายขึ้น
แต่งตัวไปญี่ปุ่นทั้งที ต้องเลือกรองเท้าสำหรับใส่เดินได้นาน เพราะไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวที่ไหน เราต่างก็ต้องเดินชมสถานที่ต่างๆ ดังนั้นรองเท้าคือสิ่งสำคัญที่เราต้องเลือกอย่างพิถีพิถันและใส่ใจ ซึ่งรองเท้าที่ควรพกพาไปควรเน้นไปที่การใส่เดินเป็นหลัก แนะนำให้เลือกรองเท้าสนีกเกอร์ (Sneaker) หรือรองเท้าผ้าใบสำหรับการใส่เดินหรือออกกำลังกาย เพราะจะช่วยเซฟเท้าและซัพพอร์ตแรงกระแทกต่างๆ ลดอาการปวดขาปวดเท้าหลังจากการเดินเที่ยวมาทั้งวัน ซึ่งแฟชั่นของสนีกเกอร์หรือรองเท้ากีฬาทุกวันนี้ มีความหลากหลายและสามารถจับคู่เข้ากับเสื้อผ้าได้หลายสไตล์
ไม่แนะนำให้ใส่รองเท้าคู่ใหม่ในการแต่งตัวไปญี่ปุ่น หรือไปหาซื้อเพื่อใช้ใส่เดินตอนไปถึงประเทศญี่ปุ่น เพราะหลายคนที่ไม่ได้ใส่รองเท้าสนีกเกอร์เป็นประจำ อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับสภาพเท้าก่อน ซึ่งในบางคนจะมีอาการปวดเท้าอย่างรุนแรงในช่วงแรกๆ ทำให้หมดสนุก ดังนั้นก่อนไปวันเดินทางควรใส่รองเท้าคู่ที่จะใช้เดินเที่ยวก่อนวันเดินทาง ประมาณ1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ปรับสภาพเท้าและดูว่ารองเท้ากัดจะกัดหรือมีปัญหาอะไรหรือไม่
สำหรับรองเท้าอื่นๆ อย่างเช่นรองเท้าที่เป็นทางการสำหรับการเข้าไปในสถานที่สำคัญหรือสถานที่ที่ต้องใส่ชุดเป็นทางการสามารถจัดเตรียมได้ตามความเหมาะสม
การแต่งตัวไปญี่ปุ่นไม่ว่าจะในฤดูไหน ก็ควรติดเสื้อคลุมตัวบางสีสุภาพ อาจจะเป็นแจ็คเก็ต เสื้อโค้ท เสื้อคลุม เสื้อคาร์ดิแกน ฯลฯ ที่ไม่หนามาก เพื่อใช้ใส่ในช่วงที่อากาศไม่ได้หนาวเย็นนัก
เสื้อกันลม (Windbreaker) เป็นอีกไอเทมหนึ่งที่ควรตระเตรียมสำหรับการแต่งตัวไปญี่ปุ่น เสื้อกันลมถูกออกแบบมาเพื่อใช้สวมใส่ในวันที่มีอากาศไม่หนาวมากนัก เนื้อผ้าจะมีความบาง น้ำหนักเบา แต่ถูกถักทออย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันลมโกรก นิยมใส่สวมใส่เป็นเสื้อชั้นนอกทับกับเสื้อผ้าอื่นๆ
การแต่งตัวไปญี่ปุ่นของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเน้นไปที่การสวมใส่สบายและแฟชั่นที่กำลังนิยม ทำให้หลายคนลืมไปว่า ในบางสถานที่อย่างเช่น วัด ศาลเจ้า ร้านอาหารที่หรูหรา อาจมีการจำกัดหรือจำเป็นจะต้องแต่งตัวให้ดูสุภาพและเป็นทางการ แนะนำให้ตรวจสอบสถานที่ที่จะเดินทางไปว่ามีข้อจำกัดอะไรหรือไม่
ข้อควรระวังในการแต่งตัวไปเที่ยวสถานที่สำคัญในญี่ปุ่น
เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่หลายคนมองข้าม เราควรเตรียมถุงเท้าที่สะอาด ไม่มีรอยขาดและเหมาะกับการใส่เดินเที่ยว เพราะมีหลายสถานที่ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปไหว้พระในวัด การเข้าไปรับประทานอาหารให้บางร้าน ที่เราจำเป็นจะต้องถอดรองเท้าออก ซึ่งต่อให้เราแต่งตัวดีแค่ไหน แต่เท้าเรามีกลิ่นเหม็นหรือถุงเท้าขาด ก็คงดูไม่ดีอย่างแน่นอน
แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่โดดเด่นเรื่องของแฟชั่นและการแต่งตัว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเพื่อไปชมสถานที่สำคัญต่างๆ การจัดกระเป๋าเตรียมเสื้อผ้าแต่งตัวไปญี่ปุ่น จึงควรใส่ใจในเรื่องของการใช้งาน เน้นที่ความคล่องตัว ใส่สบาย ใช้งานได้จริง และถูกกาลเทศะ ซึ่งข้อแนะนำด้านบนจะช่วยให้คุณจัดเสื้อผ้าสำหรับแต่งตัวไปญี่ปุ่นได้ทุกสภาพอากาศและสถานที่อย่างแน่นอน
