เจียงไคเช็ค คืออดีตผู้นำไต้หวันที่ใครหลายๆ คนรู้จักกันดี ถือเป็นผู้ที่วางรากฐานให้ไต้หวันมีลักษณะการปกครองอย่างในปัจจุบัน โดยเจียงไคเช็คเกิดที่เมืองเฟิงหัว ในมณฑลเจ้อเจียง ของจีนแผ่นดินใหญ่ ในวัยเด็กเขาเคยมีชื่อว่าจูไท่ เกิดในครอบครัวที่มีฐานะดีเพราะทำการค้าเกลือ และใบชา แต่ในช่วงวัยรุ่นเจียงไคเช็คได้ไปศึกษายังต่างเมือง เขาได้พบและตระหนักถึงสภาพอันยากลำบากของบ้านเมือง อันเกิดจากการปกครองของราชวงศ์ชิง จึงเริ่มรับอุดมการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองให้ประเทศจีนเป็นครั้งแรก
ความเป็นมาของอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (Chiang Kai-Shek Memorial Hall)
เส้นทางของเจียงไคเช็ค ในการเป็นผู้นำของไต้หวันเริ่มจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มถงเหมิงฮุ่ยที่นำโดย ดร.ซุนยัดเซน เป้าหมายเพื่อโค่นล้มราชวงศ์ชิง และเปลี่ยนประเทศจีนให้เป็นสาธารณรัฐ เขาได้เข้าร่วมการปฏิวัติซินไฮ่โค่นล้มราชวงศ์ชิงสำเร็จในปี 1911 แต่ช่วงแรกประเทศจีนนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการแย่งชิงอำนาจกันเอง ซึ่งกว่าจะสงบลงก็ราวปี 1920 และมีการก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋งขึ้น โดยเจียงไคเช็คอยู่ในฐานะมือขวาของ ดร.ซุนมาตลอด จนดร.เสียชีวิตในปี 1925 และเจียงไคเช็คก็ได้เข้าสืบทอดอำนาจได้สำเร็จในปี 1928 และปกครองจีนนานกว่า 10 ปี แต่ก็เริ่มเกิดรอยร้าวกับพรรคคอมมิวนิสต์ที่นำโดยเหมาเจ่อตุง จนหลังการรุกรานของญี่ปุ่น เจียงไคเช็คก็พ่ายแพ้ให้กับเหมา และนำผู้คนที่ร่วมอุดมการณ์กับเขากว่า 1,500,000 คน ย้ายมายังไต้หวันในปี 1949 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเจียงไคเช็คกับไต้หวัน
ช่วงแรกที่เจียงไคเช็คย้ายมายังไต้หวันนั้น เขาได้เริ่มวางรากฐานการปกครองแบบไตรรักษ์ โดยวางรากฐานการปกครองส่วนท้องถิ่น การกำหนดสิทธิในการถือครองที่ดิน วางโครงสร้างระบบสาธารณูปโภค ระบบการศึกษา และส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมของจีน ซึ่งในการวางรากฐานต่างๆ เหล่านี้ เจียงไคเช็คปกครองไต้หวันโดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสหรัฐอเมริกา เจียงไคเช็คปกครองไต้หวันยาวนานถึง 25 ปี และเสียชีวิตในวัย 89 ปี แม้ว่ารูปแบบการปกครองของเจียงไคเช็คที่มีต่อไต้หวันนั้นจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นลักษณะของเผด็จการไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างที่เขากล่าวอ้าง เพราะปกครองโดยพรรคเดียว และยังมีการสืบทอดอำนาจต่อไปยังเจียงจิงกว๋อบุตรชาย ทำให้ไต้หวันอยู่ภายใต้การนำของตระกูลนี้นานถึง 38 ปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจียงไคเช็คคือผู้ที่วางรากฐานให้ไต้หวันเป็นอย่างทุกวันนี้
ดังนั้นในปี 1976 รัฐบาลไต้หวันในขณะนั้นจึงตัดสินใจสร้างอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คเพื่อเป็นการสดุดีคุณงามความดีของเขา และใช้เวลาสร้างนานถึง 3 ปีจึงแล้วเสร็จ ในปัจจุบันอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คนับเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทเป ประกอบไปด้วยอาคาร 4 ด้าน แต่อาคารตรงกลางจะมีสีขาวและมีหลังคาทรง 8 เหลี่ยมสีน้ำเงิน สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมของจีน ตั้งเด่นเป็นสง่าใจกลางของจตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) ตัวอาคารสูง 76 เมตร เมื่อขึ้นบันไดด้านหน้าที่มีจำนวนขั้นบันได 89 ขั้นตามอายุของเจียงไคเช็คอดีตประธานาธิบดีไต้หวัน ก็จะนำไปสู่ห้องโถงด้านบน และเมื่อผ่านซุ้มประตูโลหะสูง 16 เมตร หนัก 75 ตัน ก็จะพบว่าภายในอาคารตรงกลางจะมีรูปปั้นของเจียงไคเช็คอดีตประธานาธิบดีไต้หวันทำจากทองสัมฤทธิ์ รูปปั้นอยู่ในอิริยาบถท่านั่ง ใส่เสื้อจีนแบบโบราณ และมีใบหน้ายิ้มแย้ม รูปปั้นมีความสูง 30 เมตร กว้าง 80 เมตร ซึ่งจะมีทหารมายืนเฝ้ารูปปั้น 2 นายตลอดเวลา ที่กำแพงด้านหลังรูปปั้นในอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค จะมีข้อความปรัชญาทางการเมืองการปกครอง 3 คำ คือ จริยธรรม ประชาธิปไตย และวิทยาศาสตร์ ส่วนอาคารหลังสีส้มที่ตั้งอยู่ด้านข้างฝั่งซ้ายจะเป็นหอประชุมใช้แสดงดนตรี ส่วนฝั่งขวาเป็นโรงละครแห่งชาติ ด้านล่างของอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คเป็นห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์ที่ใช้แสดงประวัติและชีวิตการทำงานของท่านประธานาธิบดีเจียงไคเช็คด้วย โดยภาพถ่ายต่างๆ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว รวมถึงรถยนต์ส่วนตัวของเจียงไคเช็คอดีตประธานาธิบดีไต้หวัน มีการทำฉากจำลองการทำงานของเขา ไปจนถึงเรื่องราวของการพัฒนาไต้หวันในด้านต่างๆ
ไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาดของอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค คือพิธีเปลี่ยนเวรทหาร ซึ่งจะทำทุกๆ ต้นชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงเวลา 10:00-16:00 ของทุกวัน ซึ่งทหารที่ทำหน้าที่นี้จะผลัดเปลี่ยนมาจาก 3 เหล่าทัพ ดูได้จากสีของชุดยูนิฟอร์มที่แตกต่างกัน โดยจะทำหน้าที่ประจำการครั้งละ 4 เดือน และยังมีพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาในตอนเช้า และตอนเย็นด้วย คือเวลา 06:00 และ 18:10 ในเดือนเมษายน - เดือนกันยายน และเปลี่ยนเป็นเวลา 06:30 และ 17:10 ในช่วงเดือนตุลาคม - เดือนมีนาคม
การเดินทางมายัง อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค
- รถประจำทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมประวัติของเจียงไคเช็คที่ไต้หวันด้วยรถประจำทางสาย 205 และ 257 หรือ Shuttle Bus สาย 262 ซึ่งหากเป็นช่วงที่การจราจรคับคั่งอาจใช้เวลานานพอสมควร
- รถแท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินทางมาชื่นชมขนาดอันใหญ่โตของรูปปั้นเจียงไคเช็คที่ไต้หวัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระติดตัวค่อนข้างมาก หรือเดินทางกันเป็นกลุ่ม เพราะค่าบริการแท็กซี่ที่ไต้หวันค่อนข้างสูงกว่าระบบการเดินทางวิธีอื่นๆ
- รถไฟฟ้า นักท่องเที่ยวสามารถขึ้น MRT สายสีแดงไปลงที่สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร ซึ่งการเดินทางโดยใช้รถไฟ MRT ค่อนข้างสะดวก เพราะเส้นทางของรถไฟฟ้าครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวครบเกือบทุกแห่ง หรือจะเปลี่ยนไปใช้บริการรถประจำทางก็ได้ เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซื้อตั๋วใหม่ทุกรอบ เพราะสามารถเลือกใช้บริการจากบัตร Easy Card ได้
เวลาทำการของอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค คือ 9.00 – 18.00 น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด
เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวนี้อยู่ใจกลางกรุงไทเป นักท่องเที่ยวหลายคนจึงเลือกแวะมาเยือนที่สถานที่ท่องเที่ยวนี้เป็นอันดับแรกๆ ส่วนหนึ่งเพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อได้สะดวก และเจียงไคเช็คกับไต้หวันเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กันมาอย่างช้านานอีกด้วย