30 อาหารสวิตเซอร์แลนด์ ที่ต้องลองเมื่อไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์

รวม 30 อาหารสวิตเซอร์แลนด์ ที่ต้องลองให้ได้!

1. ฟองดู (Fondue)

เริ่มต้นที่เมนูอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์อย่าง ฟองดู (Fondue) กันค่ะ อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดหลอมรวมของรสชาติและกลิ่น สะท้อนไปจนถึงผู้คนและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว ชื่อของอาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้มาจากคำว่า “fondre” ในภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ละลาย” ลักษณะเด่นของฟองดูคือชีสที่ละลายอยู่บนกองไฟ ซึ่งส่วนผสมที่ใช้จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ แบบดั้งเดิมคือ ส่วนผสมของชีส, นมแพะ, แป้ง และไวน์ เป็นวิธีการบริโภคของคนในท้องถิ่นที่อยู่บนเทือกเขาสูงในอดีต รวมไปถึงผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องเดินทางในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะอาศัยเพียง ชีส, ไวน์ และขนมปังเพื่อให้ผ่านฤดูหนาวไปได้นั่นเอง โดยจะใช้ขนมปังเก่าที่เก็บไว้ในช่วงฤดูหนาว จากนั้นละลายชีสกับไวน์และจุ่มขนมปังลงไป ปัจจุบันฟองดูได้กลายมาเป็นอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกกันเลยค่ะ

2. กอร์ดองเบลอ (Cordon Bleu)

กอร์ดองเบลอ (Cordon Bleu) เป็นอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกเลยทีเดียวค่ะ รูปแบบพื้นฐานของเมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์ชนิดนี้ ประกอบไปด้วยเนื้อทอดชุบเกล็ดขนมปัง ที่เต็มไปด้วยแฮมและชีสแผ่นบาง ๆ โดยทั่วไปจะใช้เป็นชีส Gruyère การปรุงสามารถนำไปอบหรือทอดในน้ำมันก็ได้ โดยจะประกอบไปด้วยเนื้อทอด 2 ชิ้นที่ประกบอยู่กับแฮมและชีสตรงกลาง มีการกล่าวถึงเมนูกอร์ดองเบลอ (Cordon Bleu) ในตำราอาหารสวิตเซอร์แลนด์ครั้งแรกเมื่อปี 1949 ซึ่งในปัจจุบันเมนูนี้สามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้หลากหลายประเภท เช่น กอร์ดองเบลอเนื้อลูกวัว, กอร์ดองเบลอไก่ และกอร์ดองเบลอที่เสิร์ฟพร้อมซอสเห็ด นิยมเสิร์ฟกับเครื่องเคียงเช่น เฟรนช์ฟรายส์, เลมอนฝาน และใบพาสลี่ย์

3. ราเคล็ตต์ (Raclette)

ราเคล็ตต์ (Raclette) เป็นอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งใช้ชื่อเดียวกับชีสสวิสที่ทำมาจากนมวัว เมนูนี้เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในเขตเล่นสกีวาเลส์ และส่วนอื่น ๆ ของเทือกเขาแอลป์ เมนูนี้ถูกคิดค้นโดยคนเลี้ยงแกะบนภูเขา ที่รวมตัวกันรอบกองไฟเพื่อย่างมันฝรั่ง แต่บังเอิญว่าได้วางเนยแข็งเอาไว้ใกล้กองไฟจึงทำให้เนยละลาย จึงได้นำเอาเนยแข็งที่ละลายนั้นมาขูดใส่มันฝรั่ง และนั่นก็คือต้นกำเนิดของเมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยมในปัจจุบัน ชื่อของเมนู Raclette มาจากคำว่า “racler” ในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงการขูด โดยทั่วไปชีสที่ขูดมักจะมาพร้อมกับมันฝรั่งอบที่ยังคงมีเปลือกติดอยู่ เสิร์ฟพร้อมกับผัก, เนื้อตัดเย็น, ผักดอง, หัวหอม และขนมปัง เป็นเมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่เหมาะสำหรับการรับประทานร่วมกันในค่ำคืนฤดูหนาว จับคู่กับไวน์ขาวหรือเหล้าเคิร์ชแบบดั้งเดิมก็เข้ากันดีอยู่ไม่น้อย

4. รอสตี (Rösti)

เมนูอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่มีความเรียบง่ายแต่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ คือแพนเค้กมันฝรั่งกรุบกรอบสีทองหน้าตาน่ารับประทาน มีกลิ่นหอมเนย โดยใช้มันฝรั่งต้มขูดเป็นเส้นยาว นำมาผัดกับเนย, น้ำมัน ปรุงรสด้วยเกลือ อาจใช้ไขมันเบคอนผสมลงไปเล็กน้อย และสามารถเพิ่มสมุนไพร, หัวหอม, แฮม หรือชีสขูดลงไปได้เพื่อเพิ่มรสชาติ เดิมที รอสตี (Rösti) เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกนำมาบริโภคเป็นอาหารเช้า โดยเกษตรกรที่อยู่ในรัฐเบิร์น (Bern) แต่ในปัจจุบันนิยมเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงคู่กับเมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูอื่น ๆ ได้อย่างหลากหลาย

5. แซฟเริน ริซอตโต้ (Saffron Risotto)

มากันที่อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูพิเศษของรัฐทีซีโน (Ticino) กันค่ะ เมนูนี้เป็นริซอตโต้หญ้าฝรั่น ที่ทำมาจากหญ้าฝรั่นสวิสซึ่งปลูกในเขต Valais ซึ่งมีลักษณะเป็นสีแดงเข้มและเก็บเกี่ยวด้วยมือ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหญ้าฝรั่นที่ดีที่สุดในโลก และมักเรียกกันว่า “red gold” อาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ ทำมาจากข้าว, หญ้าฝรั่น, เนย, น้ำสต็อกเนื้อ, ไวน์ขาวแห้ง และชีส Parmigiano ปรุงรสด้วยโหระพา, เกลือ และพริกไทย สามารถใส่เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อลูกวัวและเบคอนลงไปได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือรีซอตโตครีมสีเหลืองสวย ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหญ้าฝรั่นสวิสอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

6. เซอร์เวลัต (Cervelat)

เซอร์เวลัต (Cervelat) เป็นไส้กรอกสวิสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ อาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ทำมาจากเนื้อหมู หรือส่วนผสมของเนื้อหมูและเนื้อวัว โดยทั่วไปจะนำมาปรุงรสอ่อน ๆ ด้วยมัสตาร์ด, กระเทียม, สมุนไพร และเครื่องเทศ ไส้กรอกที่ได้จะถูกนำไปบ่ม ตากแห้ง และรมควัน สามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบดิบ หรือนำไปปรุงให้สุกก่อนด้วยการต้มหรือย่าง ซึ่งถ้าหากนำไปย่าง ส่วนใหญ่จะทำการผ่าด้านปลายของไส้กรอก เพื่อให้ปลายของไส้กรอกบานออกมาดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นค่ะ

7. เนื้อลูกวัวย่างสไตล์ซูริค (Zürcher Geschnetzeltes)

อาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่ปรุงมาจากเนื้อลูกวัวซูริคด้วยวิธีแบบดั้งเดิม ประกอบไปด้วยเนื้อลูกวัวสไลด์, ครีม, น้ำสต็อกเนื้อวัว, ไวน์ขาว และมักใส่เห็ดลงไปด้วย ปรุงรสด้วยเกลือ, พริกไทย, ปาปริก้า และน้ำมะนาว อาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ “Zürcher geschnetzeltes” โดยปรากฏขึ้นในตำราอาหารครั้งแรกเมื่อปี 1947 และนิยมเสิร์ฟคู่กับเมนู Rösti มาเป็นเครื่องเคียง แต่ก็สามารถเสิร์ฟคู่กับข้าว, มันบด หรือพาสต้า tagliatelle เป็นเครื่องเคียงได้เช่นกัน

8. แคปซูน (Capuns)

เมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์แบบดั้งเดิม ที่มีต้นกำเนิดจากรัฐเกราบึนเดิน (Graubünden) ต้องบอกว่าเมนูนี้ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้ส่วนผสมต่าง ๆ นั้นมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ เรียกได้ว่าเกือบทุกบ้านต่างก็มีสูตรของ Capuns เป็นของตนเองกันโดยเฉพาะเลยค่ะ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะทำมาจากส่วนผสมของเนื้อแห้ง และแป้ง spätzle ห่อด้วยใบสวิสชาร์ด (Swiss Chard) โดยนำเอาส่วนผสมทั้งหมดไปผัดในเนย จากนั้นเคี่ยวในน้ำสต็อกและครีม เวลาเสิร์ฟมักจะโรยหน้าด้วยเบคอนทอดและชีสขูด

9. เอลเปลมาโกรเนน (Älplermagronen)

อาหารสวิตเซอร์แลนด์แบบดั้งเดิมที่ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงปี 1930 เป็นเมนูที่เกิดขึ้นในชนบทบริเวณเทือกเขาแอลป์ ชื่อของเมนูสามารถแปลได้ว่า “มักกะโรนีบนเทือกเขาแอลป์” เนื่องมาจากในอดีตอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ ถูกทำขึ้นมาสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ที่คอยเฝ้ามองดูวัวเล็มหญ้าอยู่บนทุ่งหญ้าของเทือกเขาแอลป์นั่นเอง โดยพื้นฐานจะเตรียมโดยการวางพาสต้าและมันฝรั่งสุกเป็นชั้นๆ กับชีสและครีม นำไปอบในเตาอบและเสิร์ฟพร้อมหัวหอมใหญ่, ซอสแอปเปิ้ล และเบคอน เป็นเมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่เหมาะสำหรับการอบอุ่นร่างกายในฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี

10. ปาเปต์ โวดัวส์ (Papet Vaudois)

อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากรัฐโวด์ (Vaud) เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูเด็ดของที่นี่เลยค่ะ เมนูหม้อไฟรสเด็ดที่ทำมาจากมันฝรั่งและต้นหอม นำมาเคี่ยวรวมกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง ปรุงรสด้วยครีม, ไวน์ขาว หรือน้ำส้มสายชู จนกระทั่งได้เนื้อครีมข้นที่คล้ายกับมันบด หรือที่เรียกว่า “papette” ตามธรรมเนียมแล้วเนื้อมันบดที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นฐานรอง แล้ววางไส้กรอกหมูรมควันตัวยอดฮิตอย่าง Saucisson Vaudois ลงไป หรือจะใช้ไส้กรอก Boutefas ก็ได้

11. เฮเฟครานซ์ (Hefekranz)

ในมื้ออาหารสวิตเซอร์แลนด์ส่วนใหญ่ เรามักจะพบขนมปังเสิร์ฟอยู่ด้วยเป็นประจำ และสำหรับเฮเฟครานซ์ (Hefekranz) ก็คือขนมปังยีสต์รสหวาน ที่มีรูปร่างคล้ายกับพวงมาลา สอดไส้ด้วยลูกเกด ปรุงรสด้วยผิวเลมอน มีความเชื่อกันว่าขนมปังชนิดนี้ถูกทำขึ้นครั้งแรกโดยกลุ่ม Bakers' Union ของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 1256 และเป็นขนมปังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมนี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลอีสเตอร์และคริสต์มาส ซึ่งแต่ละบ้านจะมีการจัดเตรียมขนมปังชนิดนี้ อีกทั้งตามร้านเบเกอรี่ต่าง ๆ ทั่วประเทศก็ได้มีการทำออกมาวางขายเป็นจำนวนมาก

12. ซุปข้าวบาร์เลย์บุนด์เนอร์ (Bündner Gerstensuppe)

เมนูนี้เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่มีอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยมีต้นกำเนิดอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน (Graubünden) โดยพื้นฐานแล้วอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ ทำมาจากข้าวบาร์เลย์มุก ที่ปรุงพร้อมกับน้ำสต็อก, แครอท, มันฝรั่ง, ขึ้นฉ่าย, ผักกาดขาว, กระเทียมต้น, เนื้อแห้งหรือเนื้อรมควัน และครีม โดยจะเคี่ยวเป็นเวลานาน เพื่อให้สามารถดึงรสชาติทั้งหมดของวัตถุดิบออกมาให้ได้มากที่สุด จนได้ออกมาเป็นซุปข้นที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร โดยเป็นเมนูที่นิยมนำมาใช้เป็นมื้อกลางวันในขณะเล่นสกีบนเทือกเขาแอลป์

13. เบอร์เนอร์ แพลท (Berner Platte)

สำหรับเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นอาหารเฉลิมฉลองแบบดั้งเดิมของชาวสวิส ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากรัฐเบิร์นของสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ โดยจะมาพร้อมจานขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์, เครื่องใน, ไส้กรอก, มันฝรั่ง, กะหล่ำปลีดอง และถั่วเขียว ส่วนผสมต่าง ๆ จะนำไปปรุงแยกกันก่อนที่จะนำมาจัดจานรวมกัน โดยวัตถุดิบที่เป็นเนื้อจะถูกนำไปต้มกับหัวหอมและใบกระวาน ถั่วเขียวจะนำไปผัดกับเนย ส่วนมันฝรั่งต้มจะนำไปผัดกับเนยและกุยช่ายฝรั่ง ในขณะที่กะหล่ำปลีดองจะถูกปรุงกับไวน์ขาว พร้อมด้วยลูกเกดและเบคอน แต่ในบางครั้งการเสิร์ฟอาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ จะมาในรูปแบบของบุฟเฟ่ต์ ดังนั้นจึงสามารถเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ มาจัดใส่จานกันได้ตามชอบค่ะ

14. คาเฟ่ เดอ ปารีส ซอส (Café de Paris Sauce)

อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้รู้จักกันเป็นครั้งแรกในปี 1940 ที่ร้านอาหารชื่อว่า “Café de Paris” ในเจนีวา อันเป็นที่มาของชื่ออาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้นั่นเองค่ะ โดยเป็นเมนูซอสที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมจำนวนมาก ซึ่งก็มีทั้งเนย, ซอสมะเขือเทศ, มัสตาร์ด, เคเปอร์, หอมแดง, ใบพาสลี่ย์, ใบไทม์, โรสแมรี่, มาเจอแรม, กระเทียม, แองโชวี่, ตับไก่, ซอสวูสเตอร์เชียร์, ผงกะหรี่, ปาปริก้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ได้ออกมาเป็นซอสเข้มข้นสีเขียวออกเหลือง โดยที่สูตรของซอสชนิดนี้ก็ยังคงถูกเก็บเป็นความลับจากร้านอาหารกันค่ะ โดยทั่วไปแล้วจะนิยมเสิร์ฟซอสแบบดั้งเดิมนี้กับสเต็กเนื้อที่หั่นเป็นชิ้น และเฟรนช์ฟราย

15. ริซ คาซิเมียร์ (Riz Casimir)

เมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์แท้ ๆ ที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1952 ถูกทำขึ้นเป็นครั้งแรกโดย Ueli Prager เจ้าของร้านอาหาร Mövenpick เป็นอาหารที่ทำมาจากไก่ นำมาปรุงกับส่วนผสมอื่น ๆ ได้แก่ครีม, กะทิ, ข้าว, อัลมอนด์ปิ้ง, ลูกแพร์, สับปะรด, ลูกพีช และเครื่องปรุงต่าง ๆ เช่น ผงกะหรี่, พริก, อบเชย, กานพลู, การัมมาซาลา และใบกระวาน ออกมาเป็นสตูว์เข้มข้น เวลาเสิร์ฟจะนำไปราดบนข้าวสวย ซึ่งดูแล้วก็หน้าตาคล้ายกับข้าวราดแกงบ้านเราอยู่เหมือนกันค่ะ เมนูนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนกลายมาเป็นอาหารจานโปรดของชาวสวิสทุกเพศทุกวัยกันเลยทีเดียว ดังนั้นหากมีโอกาสได้ไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์ อย่าลืมที่จะหาอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้มาชิมกันดูค่ะ

16. แบร์เนอร์ โรสตี (Berner rösti)

เมนูนี้เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์ดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากรัฐเบิร์น โดยเป็นอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่มีความแตกต่างจากเมนูดังอย่าง rösti กันอยู่เล็กน้อย เนื่องจากจะมีการเพิ่มวัตถุดิบ ได้แก่เบคอนหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และมันฝรั่งขูดหยาบลงไปด้วย ทำให้ได้เนื้อสัมผัสและรสชาติที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ปรุงรสด้วยเกลือและนำไปทอดกับเนย จนกระทั่งได้ผิวด้านล่างที่ค่อนข้างเกรียมและกรอบ โดยเวลาเสิร์ฟจะพลิกเอาด้านเกรียมด้านล่างขึ้นมา

17. ซุปแป้งบาเซิล (Basler Mehlsuppe)

อาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองบาเซิล เมืองที่ตั้งอยู่ชายแดน 3 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมัน อาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้คือซุปรสชาติเข้มข้น ที่ทำมาจากแป้งขัดสี, น้ำสต็อกเนื้อ, หัวหอม และไวน์แดง ปรุงรสด้วยเครื่องเทศได้แก่ พริกไทย, กานพลู และลูกจันทน์เทศ เป็นเมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่จะต้องมีในงานเฉลิมฉลอง Basel Carnival และนิยมเสิร์ฟพร้อมชีสสวิส เช่น Sbrinz หรือ Gruyère โดยเป็นเมนูที่มีจำหน่ายทั่วไปในร้านอาหารต่าง ๆ ทั่วสวิตเซอร์แลนด์กันเลยค่ะ

18. ฮูซัปเป้ (Heusuppe)

ยังคงอยู่ที่อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูซุปกันอีกหนึ่งเมนูค่ะ Heusuppe เป็นซุปสวิสสูตรต้นตำรับ ที่มีต้นกำเนิดมาจากกระท่อมแห่งหนึ่งบนเทือกเขาแอลป์ เมนูนี้มีความหมายตามตัวอักษรว่าซุปหญ้าแห้ง โดยทำมาจากดอกไม้บนภูเขาและสมุนไพรที่นำมาแช่ในน้ำซุป แล้วเติมหญ้าแห้งลงไป จากนั้นนำเอาหญ้าแห้งออกจากน้ำซุปก่อนที่จะเสิร์ฟ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้หญ้าแห้งประมาณ 2 กิโลกรัมในการทำน้ำซุป 1 ลิตร โดยจะมีส่วนผสมเพิ่มเติม ได้แก่ครีมและเนย เพื่อช่วยให้ซุปมีความหอมและข้นมากขึ้น ซึ่งรสชาติของซุปชนิดนี้เริ่มต้นจะมีความหวานเล็กน้อย จากนั้นจะสัมผัสได้ถึงรสชาติของความครีมมี่ และสุดท้ายคือรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อยในปาก เหมาะสำหรับการซดร้อน ๆ เพื่ออบอุ่นร่างกายในวันที่อากาศหนาวได้เป็นอย่างดี

19. บูเตฟาส (Boutefas)

อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูไส้กรอกที่ผลิตขึ้นในรัฐโวด์ (Vaud) ของสวิตเซอร์แลนด์ ไส้กรอกชนิดนี้ทำมาจากเนื้อหมูแล้วยัดเข้าไปในลำไส้หมู จากนั้นผูกเอาไว้ด้วยเชือก จึงทำให้ได้เป็นไส้กรอกที่มีรูปร่างอวบอ้วนดูน่ารับประทาน และมีความชื้นอยู่ด้านในค่อนข้างมาก ชื่อของไส้กรอกชนิดนี้มาจากวลีที่ว่า “boute la faim” ซึ่งแปลว่าสิ้นสุดความหิวโหย การปรุงไส้กรอกโดยทั่วไปแล้วมักจะนำไปต้มให้สุก หั่นเป็นชิ้นแล้วรับประทานแบบเย็น ร่วมกับชีสและเมนูเนื้อเย็นชนิดอื่น ๆ และมักจะเสิร์ฟคู่กับเมนูปาเปต์ โวดัวส์ (Papet Vaudois) ซึ่งเป็นส่วนผสมของมันฝรั่งและกระเทียมปรุงในครีม โดยจะวางไส้กรอกชนิดนี้เอาไว้ด้านบนนั่นเองค่ะ

20. ฮาเฟชาบิส (Hafechabis)

ฮาเฟชาบิส (Hafechabis) เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูสตูว์แบบดั้งเดิม ที่มีต้นกำเนิดมาจากบริเวณภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ วัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูนี้ประกอบไปด้วย เบคอน, กะหล่ำปลี, มันฝรั่ง, น้ำสต็อกผัก, หัวหอม, กระเทียม, ใบกระวาน, กานพลู, กุยช่าย, เนย, เกลือ, พริกไทย, เนื้อแกะ, หมู หรือเนื้อวัว การปรุงจะนำเอาเนื้อไปผัดในเนยแล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย จากนั้นสัดส่วนผสมของผักได้แก่ กะหล่ำปลี, หัวหอม และกระเทียมพร้อมกัน คลุกเคล้ากับเครื่องเทศและเครื่องปรุงรส เติมน้ำสต็อกลงไปแล้วเคี่ยวจนส่วนผสมต่าง ๆ เปื่อยนุ่ม เวลาเสิร์ฟจะนำไปราดบนมันฝรั่งต้มที่หั่นเป็นชิ้น แล้วตกแต่งด้วยใบกุยช่ายฝรั่ง

21. ชูเรอร์ เฟลชทอร์ต (Churer Fleischtorte)

ชูเรอร์ เฟลชทอร์ต (Churer Fleischtorte) เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์ดั้งเดิม ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเมืองคูร์ (Chur) พายเผ็ดชนิดนี้ประกอบไปด้วยแป้งและไส้ที่ทำมาจากเนื้อ โดยส่วนผสมของแป้งพายจะทำมาจาก แป้ง, เกลือ, เนย และน้ำเย็น ในขณะที่ไส้จะทำมาจากเบคอน, หัวหอม, เนื้อบด (หมู, เนื้อวัว หรือเนื้อลูกวัว) ขนมปังเก่า และไวน์แดง ปรุงรสด้วยพริกและพาสลี่ย์หรือมาร์จอรัม จากนั้นนำไปอบจนกลายเป็นสีน้ำตาลสวย ตัดเสิร์ฟเป็นชิ้นพร้อมรับประทาน

22. สตุงกิส (Stunggis)

สตุงกิส (Stunggis) เป็นสตูว์สวิสแบบดั้งเดิม ที่มีต้นกำเนิดจากรัฐ Nidwalden อาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ วัตถุดิบที่ใช้โดยทั่วไปจะทำมาจากสันคอหมู, หัวหอม, กะหล่ำปลี, กระเทียมต้น, แครอท, เซเลอรี, น้ำสต็อก, มันฝรั่ง ปรุงรสด้วย เกลือ พร้อมด้วยเครื่องเทศต่าง ๆ ได้แก่ พริกไทย, ลูกจันทน์เทศ, โหระพา และมาร์จอรัม การเตรียมจะทำโดยการผัดเนื้อสัตว์และผักในน้ำมัน นำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนในน้ำสต็อกพร้อมกับเครื่องเทศต่าง ๆ จากนั้นเติมมันฝรั่งลงไปในตอนใกล้จะเสร็จ เมื่อทุกอย่างเปื่อยนุ่มแล้ว จะตักเสิร์ฟแบบร้อน ๆ โดยวางขนมปังเอาไว้ด้านข้างเพื่อรับประทานคู่กันค่ะ

23. ลุมเมลบราเทน (Lummelbraten)

สำหรับเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์แบบดั้งเดิม ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองบาเซิล ทำมาจากเนื้อวัวที่นำมาทอดเล็กน้อย หั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วราดด้วยซอสที่ทำมาจากส่วนผสมของเนยหรือครีม, กระเทียม, หัวหอม, แครอท, เซเลอรี, ไวน์ขาว, มัสตาร์ด และไวน์แดง แบบดั้งเดิมจะเสิร์ฟพร้อมกับผัก เช่น แครอท และขึ้นฉ่ายฝรั่ง เสิร์ฟโดยวางมันฝรั่งทอดเอาไว้ด้านข้าง แต่ในปัจจุบันก็มีการเสิร์ฟ lummelbraten พร้อมกับข้าวและถั่วลันเตาเพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกันค่ะ

24. โพเลนต้า ติชิเนเซ่ (Polenta Ticinese)

สำหรับอาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมนูโจ๊กดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากรัฐทีชีโน (Ticino) ซึ่งโพเลนต้า ติชิเนเซ่ (Polenta Ticinese) ของแท้จะต้องมีการปรุงอยู่บนกองไฟกลางแจ้งหรือในเตาผิง โดยจะทำการเคี่ยวอย่างช้า ๆ บนฟืนที่กำลังปะทุอยู่ แต่ในปัจจุบันวิธีนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันมากนัก และมีเพียงร้านอาหารไม่กี่แห่ง ที่ยังคงปรุงอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้โดยใช้วิธีการดั้งเดิม โดยทั่วไปจะใช้ข้าวโพดแบบหยาบ เคี่ยวในน้ำเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จนได้โจ๊กเนื้อข้นสีทองที่มีความสวยงาม เติมเนยลงไปเพื่อให้เนื้อมีความเป็นครีมมากยิ่งขึ้น นิยมเสิร์ฟคู่กับชีส, ไส้กรอกมอร์ทาเดลลา และเนื้อตุ๋น

25. ชไวเซอร์ เวิร์สต์ซาลัต (Schweizer Wurstsalat)

ใครที่ชื่นชอบสลัดและไส้กรอกแนะนำเมนูนี้กันเลยค่ะ สลัดแบบดั้งเดิมซึ่งกลายเป็นเมนูอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยม โดยเฉพาะการใช้เป็นของว่างในลานเบียร์หรือโรงแรมแบบดั้งเดิม เป็นเมนูที่นิยมเสิร์ฟกันในช่วงฤดูร้อนที่มีอากาศอบอุ่น โดยใช้ไส้กรอกฝานบาง ๆ ซึ่งไส้กรอกที่นิยมใช้กันมากที่สุดได้แก่ Lyoner, Fleischwurst หรือ Stadtwurst พร้อมด้วยผักดองและชีส เสิร์ฟแบบเย็นพร้อมกับขนมปังหรือเพรทเซิล เป็นเมนูอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่ดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรสชาติที่มีความสดชื่น โดยสามารถเป็นได้ทั้งอาหารจานเดียว หรือเป็นส่วนประกอบของอาหารมื้อใหญ่ก็ได้

26. เบลล์ตุนเน่ (Bölletünne)

เบลล์ตุนเน่ (Bölletünne) เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่มาในรูปแบบของพายรสเผ็ด เมนูดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) โดยทั่วไปแล้วตัวแป้งพายจะทำมาจาก แป้ง, เนย เกลือ และน้ำเย็น ในส่วนของไส้จะประกอบไปด้วยหัวหอมสับ, เบคอนหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า, ไข่, นม, เกล็ดขนมปัง ปรุงรสด้วยลูกจันทน์เทศ, เกลือ และพริกไทยดำ โดยจะนำเอาแป้งพายที่เตรียมได้มากรุลงในถาดพายกลม ทิ้งไว้ให้เย็นในตู้เย็นก่อนที่จะนำมาโรยด้วยเกล็ดขนมปัง ใส่ส่วนผสมของไส้ที่เตรียมเอาไว้ นำไปอบจนกลายเป็นสีเหลืองทอง และเสิร์ฟในขณะที่กำลังอุ่น ๆ อยู่

27. โซลเดอร์เนอร์ วิสชุปลี (Soledurner wysüppli)

อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูซุปแบบดั้งเดิมที่ทำมาจากไวน์ อาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองโซโลทูร์น (Solothurn) ส่วนผสมที่ใช้โดยทั่วไปประกอบไปด้วยเนย, หอมแดง, แครอท, กระเทียมหอม, น้ำสต็อกไก่, ครีม, ไข่แดง, เกลือ และกุ้ยช่ายฝรั่ง โดยจะนำเอาหอมแดง, ต้นหอม และแครอทไปผัดกับเนย เติมน้ำสต็อกและไวน์ขาวแล้วนำไปต้มด้วยไฟอ่อน จากนั้นปิดเตาแล้วตีครีมกับไข่แดงใส่ลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ ตักเสิร์ฟทันทีโดยโรยหน้าด้วยกุยช่ายฝรั่ง หรือโรยเฮเซลนัทสับหยาบลงไปบนซุป

28. วาเฮ (Wähe)

มากันที่เมนูวาเฮ (Wähe) อาหารสวิตเซอร์แลนด์แสนอร่อย ที่สามารถเป็นได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เลือกใช้ เวอร์ชั่นที่เป็นแบบหวานจะถูกปรุงด้วยผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ลูกพลัม, แอปริคอต, รูบาร์บ และแอปเปิ้ล ในขณะที่แบบคาวมักประกอบด้วยชีส, ผักโขม, หรือหัวหอม คล้ายกับเมนูคีชของฝรั่งเศส ว่ากันว่า Wähe จานแรกถูกอบขึ้นในบ้านของคนยากจน ที่ทำมาจากแป้งขนมปังเหลือ ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาหารสวิตเซอร์แลนด์เมนูนี้ก็ได้กลายเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นกลาง โดยนิยมบริโภคกันในช่วงถือศีลอดหรือในวันศุกร์ และกลายเป็นเมนูอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับความนิยมกันในปัจจุบัน

29. มาโกรนา อุน จิเมลเม็กกา (Magroonä und Giimelmeckä)

เมนูนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Hörnli und Kartoffeln” เป็นอาหารสวิตเซอร์แลนด์แบบดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากรัฐอูรี (Uri) โดยทั่วไปแล้วจะทำมาจากส่วนผสมของพาสต้าฮอร์นลี หรือที่เรียกว่าเส้นมักกะโรนีสวิส พร้อมด้วยมันฝรั่ง, หัวหอม, เนย, เกลือ, พริกไทย และชีสท้องถิ่นที่มีเนื้อนุ่ม ปรุงโดยการนำเอาเส้นพาสต้าและมันฝรั่งไปต้มในน้ำเกลือจนนุ่ม ผัดหัวหอมกับเนย จากนั้นใส่มันฝรั่ง, พาสต้า และชีสลงไป บางที่อาจใส่แฮมลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ นิยมเสิร์ฟพร้อมกับสลัดผักสด

30. ซอบฟ์ (Zopf)

ปิดท้ายอาหารสวิตเซอร์แลนด์กันที่เมนูขนมปังสวิสแบบดั้งเดิม ขนมปังชนิดนี้มีลักษณะเด่นคือเนื้อสัมผัสที่มีความอ่อนนุ่ม และลักษณะการขึ้นรูปของขนมปังที่มีการถักทอคล้ายกับเปีย อันเป็นที่มาของชื่อ zopf ที่แปลว่าถักเปียตามรูปร่างของขนมปังนั่นเอง โดยทั่วไปแล้วขนมปังจะถูกเตรียมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และนำมารับประทานกันในวันอาทิตย์ โดยนิยมรับประทานคู่กับเนยและแยมผลไม้ มีความเชื่อว่าขนมปัง Zopf ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 ซึ่งเดิมทีแม่หม้ายในสมัยนั้นมักจะตัดผมเปีย แล้วนำไปฝังไว้กับสามีที่ล่วงลับไป ต่อมาจึงได้มีการอบขนมปังและถักขึ้นรูปคล้ายกับเปียเพื่อฝังลงไปแทนเส้นผม ในปัจจุบันเป็นเมนูขนมปังที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านเบเกอรี่ทั่วไปค่ะ

จะเห็นได้ว่าอาหารสวิตเซอร์แลนด์ส่วนใหญ่มักใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นนำมาเป็นส่วนผสมหลัก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมนูอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์เมนูเดียวกัน ถึงได้มีการใช้วัตถุดิบแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่แล้วอาหารสวิตเซอร์แลนด์ที่พบหลัก ๆ มักเป็นเมนูที่มีการรับประทานร่วมกับขนมปังหลากหลายชนิด และใช้วัตถุดิบซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนม ไม่ว่าจะเป็นเนย, ชีส, ครีม หรือโยเกิร์ต อีกทั้งเมนูต่าง ๆ ก็ยังมีประวัติความเป็นมาที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวสวิตเซอร์แลนด์ในอดีตได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากมีโอกาสได้มาเยือนสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากจะเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันแสนงดงาม และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจกันแล้ว อย่าลืมเพลิดเพลินกับเมนูอาหารประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่พร้อมรอให้คุณได้ลองลิ้มชิมรสกันอยู่มากมายหลายเมนูเลยค่ะ