รวมลิสต์ 30 เมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่น ที่ต้องลองเมื่อไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
1. ซูชิ (Sushi, すし)
ซูชิคือตัวแทนเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นอาหารประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมและแพร่หลายไปทั่วโลก เดิมทีซูชิเป็นหนึ่งในวิธีการถนอมอาหารซึ่งเป็นเนื้อปลาเท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีการที่เริ่มใช้กันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแพร่หลายมายังญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 8 ส่วนประกอบหลักของซูชิทุกประเภทได้แก่ ข้าวที่ปรุงด้วยน้ำส้มสายชูและกินพร้อมกับปลา และได้มีการพัฒนารูปแบบของซูชิเรื่อยมา โดยได้มีการใช้ส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผักที่เป็นแบบดิบหรือแบบสุกก็ได้ โดยทั่วไปจะเสิร์ฟบนจานหรือในกล่องเบนโตะที่มีช่องสำหรับน้ำจิ้ม ซึ่งจะใช้เป็นซอสถั่วเหลืองและกินคู่กับวาซาบิ ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากกินซูชิที่มาจากวัตถุดิบแบบสด ๆ แนะนำให้ลองไปร้านซูชิที่อยู่แถวตลาดปลากันค่ะ
2. ราเมน (Ramen, ラーメン)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นซึ่งมีต้นกำเนิดที่โยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ ในปี ค.ศ. 1910 โดยได้รับการพัฒนามาจากเมนูก๋วยเตี๋ยวทางตอนใต้ของจีน สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในโยโกฮาม่า ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ประกอบไปด้วยบะหมี่ข้าวสาลีสไตล์จีน เสิร์ฟในน้ำซุปรสเค็มที่ผสมด้วยซอสถั่วเหลืองและมิโซะ โดยปกติจะใช้ท็อปปิ้งเป็นหมูสไลด์หรือชาชู สาหร่ายแห้ง หน่อไม้ ต้นหอม และคามาโบโกะ สำหรับสูตรของน้ำซุปและวิธีการเตรียมมักจะถูกเก็บเป็นความลับแบบสุดยอดของแต่ละร้าน โดยหลัก ๆ แล้วรูปแบบของน้ำซุปราเมนสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ชิโอะ (塩), โชยุ (醤油), มิโซะ (味噌) และ Karē (カレー) หรือแกงกะหรี่ ซึ่งเป็นรูปแบบของราเมนน้องใหม่ที่ปรุงน้ำซุปด้วยแกงกะหรี่ ดังนั้นจึงทำให้มีราเมนหลากหลายรูปแบบที่มีรสชาติแตกต่างกันออกไปตามแต่ละภูมิภาค เป็นอีกเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ไม่อยากให้พลาดกันค่ะ
3. ยากินิกุ (Yakiniku, 焼き肉 หรือ 焼肉)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่สายเนื้อไม่ควรพลาด เมนูเนื้อย่างซึ่งเป็นอาหารประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดัง ด้วยความอร่อยของเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยม ซึ่งยากินิกุสไตล์ญี่ปุ่นโดยทั่วไปนั้นได้รับอิทธิพลมาจากเมนูย่างของเกาหลี เช่น บุลโกกิและคัลบี เป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา โดยทั่วไปจะหมายถึงรูปแบบของการปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่หั่นเป็นขนาดพอดีคำ และผักซึ่งย่างด้วยเตาถ่านบนตะแกรงหรือกระทะ รูปแบบของร้านอาหารยากินิกุในปัจจุบันจะให้ลูกค้าสั่งเป็นวัตถุดิบสดที่เตรียมเอาไว้ แล้วนำมาย่างด้วยตนเองบนเตาที่ติดตั้งเอาไว้บนโต๊ะ แล้วจิ้มในซอสทาเระ ซึ่งเป็นน้ำจิ้มที่นิยมใช้สำหรับเมนูย่างของอาหารประเทศญี่ปุ่น หรืออาจจะจิ้มกับซอสมิโซะก็ได้
4. ซาซิมิ (Sashimi, 刺身)
เมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ซูชิเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเหมือนกับซูชิ คือถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 8 อาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ประกอบไปด้วยปลาดิบสด ๆ หรือเนื้อหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ นิยมรับประทานคู่กับโชยุหรือซอสถั่วเหลืองพร้อมด้วยวาซาบิ ที่ญี่ปุ่นนิยมเสิร์ฟซาซิมิเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยในมื้ออาหารญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเสิร์ฟพร้อมกับใบชิโสะ แตงกวา และสาหร่าย หรืออาจจะใช้เป็นอาหารหลักได้เช่นกัน โดยจะเสิร์ฟพร้อมกับข้าวและซุปมิโซะซึ่งแยกมาต่างหากในชาม โดยเชฟญี่ปุ่นแนะนำให้รับประทานซาซิมิก่อนเป็นอันดับแรก เพราะรสชาติของอาหารประจำชาติญี่ปุ่นเมนูอื่น ๆ จะมีผลต่อรสชาติของซาชิมินั่นเอง
5. ยากิโทริ (Yakitori, 焼き鳥)
เมนูไก่เสียบไม้อาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่สามารถหากินได้ตามร้านข้างทางทั่วไป ซึ่งไม้ที่ใช้เสียบสามารถทำมาได้ทั้งจากเหล็ก ไม้ไผ่ หรือวัสดุอื่น ๆ การปรุงรสของยากิโทรินั้นสามารถเป็นได้ทั้งรสเค็มและรสเค็ม-หวาน เนื้อไก่จะถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่มีรูปร่างสม่ำเสมอกัน เพื่อให้สามารถสุกและสัมผัสกับเครื่องปรุงได้อย่างทั่วถึงทุกชิ้น ย่างด้วยเตาถ่านที่ใช้ไฟแรงจึงทำให้เนื้อไก่สุกอย่างรวดเร็ว ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน โดยเราสามารถหาซื้อยากิโทริได้ทั่วไปตามร้านข้างทาง และเป็นอาหารประเทศญี่ปุ่นริมทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตามช่วงงานเทศกาลหรือบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน และยังเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่นิยมรับประทานแกล้มเบียร์หรือเหล้าสาเกกันอีกด้วย
6. โมจิ (Mochi, もち)
เมนูขนมหวานซึ่งถือได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่รู้จักกันดี ขนมชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งทำจากแป้งข้าวเหนียว อันเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของอาหารประเทศญี่ปุ่น จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่ามีการทำโมจิแบบโฮมเมดตั้งแต่ในยุคโคฟุง ต่อมาในยุคเฮอันโมจิถูกนำมาเป็นขนมที่ใช้ในงานชินโต เพื่อเฉลิมฉลองการคลอดบุตรและการแต่งงาน อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของขนมที่ใช้ในเทศกาลปีใหม่ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นหนึ่งในอาหารประเทศญี่ปุ่นดั้งเดิมที่รับประทานกันในช่วงวันปีใหม่ของญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยม อีกทั้งยังนำมาทำเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย เช่น ไดฟูกุ ไอศครีมโมจิ ดังโงะ รวมไปถึงนำไปใช้เป็นท็อปปิ้งในเมนูซุปอีกด้วย
7. โอนิกิริ (Onigiri, お握り หรือ 御握り)
ข้าวปั้นเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ทำมาจากข้าวขาว ปั้นเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือทรงกระบอก และมักจะห่อด้วยสาหร่ายโนริ ตามธรรมเนียมแล้วโอนิกิริจะมีการใส่บ๊วยดอง (อุเมะโบชิ ), ปลาแซลมอนเค็ม, คัตสึโอบูชิหรือปลาทูน่าแห้งรมควัน, สาหร่ายคอมบุ, ไข่ปลาทาราโกะ, ปลาเมนไทโกะ, ทาคานะซึเกะหรือผักมัสตาร์ดดอง รวมไปถึงส่วนผสมที่มีรสเค็มหรือเปรี้ยวอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นสารกันบูดตามธรรมชาติ มีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งบอกว่าโอนิกิริมีมาตั้งแต่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นเมนูที่ถูกใช้เป็นอาหารพกพาหรือเบนโตะมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน โดยเราสามารถหาซื้อโอนิกิริได้ทั่วไปตั้งแต่ในร้านอาหารจนถึงร้านสะดวกซื้อเลยทีเดียว
8. เกี๊ยวซ่า (Gyoza, ギョーザ, ギョウザ)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นเมนูยอดนิยมซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเกี๊ยวแบบดั้งเดิมของจีนที่เรียกว่าเจียวซี มีลักษณะเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวและมีการดัดแปลงสูตรอาหารเล็กน้อยเพื่อให้ถูกปากกับคนญี่ปุ่น และได้กลายมาเป็นเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นยอดนิยมอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน ประกอบไปด้วยแผ่นแป้งบาง ๆ ซึ่งทำมาจากแป้งสาลี ไข่ และน้ำ แล้วยัดไส้ด้วยส่วนผสมของเนื้อสัตว์และผัก โดยทั่วไปแล้วจะใช้เป็น เนื้อหมูบด กุยช่าย ต้นหอม กะหล่ำปลี ขิง กระเทียม ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองและน้ำมันงา ซึ่งส่วนผสมของไส้จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละภูมิภาคและตามสูตรของแต่ละร้าน เราสามารถพบเมนูเกี๊ยวซ่าได้ตามร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและร้านที่ขายเกี๊ยวซ่าโดยเฉพาะ รูปแบบของเกี๊ยวซ่าที่พบบ่อยที่สุดคือ Yaki gyoza หรือเกี๊ยวซ่ากระทะทอด โดยทั่วไปนิยมเสิร์ฟเป็นของว่างพร้อมกับน้ำจิ้มที่ทำมาจากน้ำส้มสายชูข้าว ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันงา
9. วากาชิ (Wagashi, 和菓子)
วากาชิเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นขนมแบบดั้งเดิม ที่มักจะทำมาจากแป้งข้าวเหนียวและถั่วแดงอะซูกิ ต้นกำเนิดของขนมวากาชินี้ย้อนกลับไปในสมัยยาโยอิ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากทักษะการแปรรูปเมล็ดข้าวที่ได้มาจากประเทศจีน เป็นเมนูขนมหวานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการออกแบบตามฤดูกาล เช่น ในฤดูใบไม้ผลิจะมีการผลิตวากาชิเป็นรูปดอกซากุระ รวมไปถึงการปั้นเป็นรูปร่างและลวดลายต่าง ๆ และการใช้สีสันที่มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ซึ่งรสชาติของวากาชิจะค่อนข้างหวานแหลม จึงนิยมเสิร์ฟคู่กับชาเขียว อีกทั้งยังเป็นขนมที่ใช้มอบเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย
10. ชาบู ชาบู (Shabu-shabu, しゃぶしゃぶ)
ชาบู ชาบู เป็นอาหารประเทศญี่ปุ่นยอดนิยมที่ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์และผักหั่นบาง ๆ ปรุงในน้ำซุป เป็นรูปแบบของเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่พัฒนามาจากการปรุงอาหารแบบ Mongolian nabemono (หม้อเดียว) แบบดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน และเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในเมืองโอซาก้า วัตถุดิบที่นิยมใช้มากที่สุดคือเนื้อวัว และสามารถใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแกะ ไก่ หมู เป็ด ปู หรือล็อบสเตอร์ นิยมเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและซอสต่าง ๆ สำหรับจิ้ม โดยปกติแล้วจะเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่นิยมรับประทานร่วมกัน ซึ่งแต่ละคนจะทำการจุ่มชิ้นเนื้อหรือผักลงในหม้อที่มีน้ำซุปเดือดอยู่กลางโต๊ะ เหมาะสำหรับการรับประทานในช่วงอากาศหนาว ๆ กับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้เป็นอย่างดี
11. ทงคัตสึ (Tonkatsu, 豚カツ, とんかつ, トンカツ)
เมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นยอดนิยมซึ่งทำมาจากหมูชุบเกล็ดขนมปังทอด เป็นเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาในช่วงยุคเมจิ ซึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหารด้วยการชุบเกล็ดขนมปังทอดสไตล์ยุโรปในช่วงเวลานั้น ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีจะทำมาจากเนื้อวัว และได้มีการเริ่มใช้เนื้อหมูขึ้นมาครั้งแรกในปี ค.ศ 1899 โดยร้านอาหารสไตล์ยุโรปที่ชื่อว่า Rengatei ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะใช้เนื้อสันในหมูที่มีความนุ่ม ปรุงรสให้มีความเค็มเล็กน้อย พร้อมด้วยพริกไทย นำไปชุบ แป้ง ไข่ และเกล็ดขนมปัง แล้วนำไปทอดให้เหลืองกรอบ จากนั้นหั่นเป็นชิ้นแล้วเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีฝอย มะนาวฝาน ข้าวสวย ซุปมิโซะ และผักดอง นิยมรับประทานร่วมกับซอสข้นสีน้ำตาลที่เรียกว่าซอสทงคัตสึ โดยสามารถนำเอาหมูทอดทงคัตสึไปประยุกต์ได้อีกหลากหลาย เช่น ทำเป็นแซนด์วิช รับประทานคู่กับราเมนหรือข้าว เสิร์ฟพร้อมแกงกะหรี่ และยังสามารถใช้วัตถุดิบอื่น ๆ แทนเนื้อหมูได้เช่น แฮม เนื้อวัว ไส้บด และไก่ เป็นต้น
12. ซุปมิโซะ (Miso Soup, 味噌汁)
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าโอมิโอสึเกะ ( 御味御付) เมนูนี้ถือได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่พบได้ในแทบทุกมื้อเลยทีเดียว เป็นซุปที่ทำมาจากถั่วเหลืองของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมซึ่งมีประวัติความเป็นมาหลายศตวรรษ เมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่มีรากเหง้ามาจากเต้าเจี้ยวหมักของประเทศจีนเมื่อกว่า 2,500 ปีก่อน ในปัจจุบันซุปมิโซะทำมาจากน้ำสต๊อกดาชิ ซุปมิโซะที่เราพบเห็นกันโดยทั่วไปจะใส่เต้าหู้นิ่ม พร้อมด้วยสาหร่ายวากาเมะ สำหรับวัตถุดิบอื่น ๆ ในซุปมิโซะจะถูกเลือกมาใส่เพิ่มเติมตามแต่ฤดูกาล เช่น เห็ด มันฝรั่ง เผือก ผักใบเขียว ต้นหอม ปลา กุ้ง หอย เป็นต้น เป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นประเภทซุปที่สามารถเตรียมได้รวดเร็วและง่ายดาย อีกทั้งยังมีจำหน่ายในรูปแบบสำเร็จรูปที่สามารถหาซื้อกันได้อย่างสะดวก
13. ยากิโซบะ (Yakisoba, 焼きそば)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นบะหมี่ผัดที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ส่วนผสมที่นิยมได้แก่ เนื้อหมู กะหล่ำปลี หัวหอม และแครอท ผัดพร้อมกับเส้นบะหมี่ ปรุงรสด้วยซอสยากิโซบะสูตรพิเศษ เกลือ และพริกไทย โดยเส้นบะหมี่ที่นิยมมาใช้ได้แก่ เส้นบะหมี่จีน (ชูกะโซบะ) ซึ่งทำมาจากแป้งสาลี และเส้นโซบะที่ทำมาจากแป้งบัควีท เป็นเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่สามารถหารับประทานได้ทั่วไป ซึ่งแต่ละร้านจะมีสูตรเฉพาะเป็นของตนเอง นิยมเสิร์ฟมาบนจานพร้อมกับเครื่องปรุงต่าง ๆ เช่น สาหร่ายป่น, ขิงดองหั่นฝอย, เกล็ดปลาโบนิโตะ และมายองเนสสไตล์ญี่ปุ่น นิยมเสิร์ฟเป็นอาหารจานหลักหรือเป็นกับข้าวในมื้ออาหารก็ได้ นอกจากนี้บางร้านยังมีวิธีการเสิร์ฟยากิโซบะที่แปลกใหม่ ด้วยการนำเอาไปใส่เป็นไส้แซนด์วิช พร้อมตกแต่งด้วยขิงดองและมายองเนสแบบญี่ปุ่น
14. เทอริยากิ (Teriyaki, 照り焼き, てりやき)
เมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นแสนอร่อยที่หลายคนรู้จักกันดี เมนูนี้ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกโดยเชฟชาวญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 17 และเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1960 อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของร้านอาหารญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา เป็นเทคนิคการทำอาหารย่างด้วยการเคลือบซีอิ๊วมิรินและน้ำตาล หรือที่เรียกกันว่าซอสเทอริยากินั่นเอง โดยจะเป็นการทาหรือจุ่มซอสเทอริยากิในระหว่างการปรุงอาหาร เนื้อที่ใช้มีได้ทั้งเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อวัว ไปจนถึงเนื้อปลา และนิยมโรยหน้าด้วยเมล็ดงาขาวคั่ว
15. คุชิยากิ (Kushiyaki, 串焼き)
เมนูเนื้อเสียบไม้ย่างซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด เป็นเทคนิคการปรุงแบบญี่ปุ่นโดยใช้เนื้อเสียบไม้แล้วย่างกับถ่าน ซึ่งมีได้ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล เครื่องใน หรือแม้แต่ผักและเต้าหู้ โดยวัตถุดิบต่าง ๆ จะถูกนำไปเสียบกับไม้ไผ่แล้วปรุงรสด้วยเกลือ หรือซีอิ๊วแบบลดความหวานที่เรียกว่าทาเระ คุชิยากิจะถูกปรุงแบบสดใหม่และพร้อมเสิร์ฟทันทีหลังการย่าง นิยมเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงได้แก่ ถั่วแระญี่ปุ่น สลัด หรือผักดอง เป็นเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่พบเห็นได้ทั่วไปตามร้านอาหารแบบอิซากายะและบาร์ ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมดื่มเบียร์หรือสาเกเป็นของคู่กันกับคุชิยากิทุกประเภทอีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูกับแกล้มชั้นเลิศเลยทีเดียว
16. คาเร (Karē,カレ)
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในช่วงสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868–1912) ซึ่งถูกนำเข้ามาโดยชาวอังกฤษในสมัยนั้น โดยจะเสิร์ฟใน 3 รูปแบบหลักได้แก่ ข้าวแกงกะหรี่ (แกงกะหรี่ที่ราดบนข้าว) อุด้งแกงกะหรี่ (แกงกะหรี่ที่ราดบนเส้น) และขนมปังแกงกะหรี่ (แกงกะหรี่ที่มีไส้ในขนมปัง) วัตถุดิบหลักที่ใช้โดยพื้นฐานคือ หอมใหญ่ แครอท มันฝรั่ง และเนื้อสัตว์ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ในช่วงแรก ๆ ข้าวราดแกงกะหรี่ถือได้ว่าเป็นอาหารรสเลิศราคาแพง ต่อมากลายเป็นอาหารที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ในปี ค.ศ 1960 จนกระทั่งกลายมาเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นกันในปัจจุบัน โดยรูปแบบของแกงกะหรี่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือข้าวแกงกะหรี่ที่เราคุ้นตากันดีนั่นเองค่ะ
17. สุกี้ยากี้ (Sukiyaki, すき焼き, 鋤焼)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นประเภทหม้อไฟ เชื่อกันว่าเป็นเมนูที่เกิดขึ้นในยุคเมจิ ซึ่งในช่วงเวลานั้นญี่ปุ่นได้เปิดพรมแดนติดต่อกับชาวต่างชาติ จึงได้มีการนำเอารูปแบบการปรุงอาหารใหม่ ๆ และประเพณีการกินเนื้อสัตว์เข้ามามากขึ้น นอกจากเนื้อสัตว์แล้วส่วนประกอบอื่น ๆ ที่นิยมใช้ได้แก่ ผักกาดขาว เห็ด กระเทียมหอม เส้นบุกเจลาติน และใบชุงกิกุ ซึ่งจะถูกปรุงอย่างรวดเร็วในน้ำซุปที่มีส่วนผสมของมิริน โชยุ และน้ำตาล โดยมีรูปแบบการปรุง 2 วิธีดั้งเดิม ได้แก่ สุกี้ยากี้สไตล์คันไซ ที่ส่วนผสมทั้งหมดจะถูกใส่หม้อลงไปพร้อม ๆ กัน และสุกี้ยากี้สไตล์คันโต ที่จะทำให้เนื้อสุกก่อนถึงใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ตามลงไป ตามธรรมเนียมวิธีกินแบบดั้งเดิมแนะนำให้จุมวัตถุดิบต่าง ๆ ลงไปในก่อนนำไปปรุงกันด้วยค่ะ เป็นเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับการรับประทานเป็นหมู่คณะ และเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่เหมาะกับช่วงอากาศหนาว ๆ เป็นอย่างมาก
18. เทปันยากิ (Teppanyaki, 鉄板焼き)
เป็นเมนูอาหารที่เกิดมาจากเทคนิคการปรุงของญี่ปุ่น โดยการย่างส่วนผสมหลากหลายชนิดบนแผ่นเหล็ก ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบของอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด ซึ่งประวัติความเป็นมาของเทปันยากินั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ว่ากันว่ามาจากประเพณีการรับประทานอาหารแบบครอบครัวในยุคศักดินาของญี่ปุ่น โดยสมาชิกในครอบครัวจะมารวมตัวกันรอบกองไฟและเตรียมอาหารปิ้งย่างอย่างง่าย ๆ ซึ่งตามร้านที่เสิร์ฟเทปันยากิจะมีเตาแผ่นเหล็กอยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหาร เพื่อให้เห็นเชฟปรุงกันแบบสด ๆ เมนูส่วนใหญ่มักจะเป็น สเต็ก อาหารทะเล ผัดผัก ข้าว และอาหารที่ทำจากแป้ง เช่น บะหมี่ผัด ยากิโซบะ เป็นต้น
19. คาราอาเกะ (Karaage, 唐揚げ, 空揚げ หรือ から揚げ)
คาราอาเกะเป็นวิธีการทอดแบบแห้งซึ่งเป็นเทคนิคการทำอาหารประเทศญี่ปุ่น โดยวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้จะถูกนำไปชุบแป้งก่อนแล้วจึงนำไปทอด ซึ่งการชุบแป้งนั้นจะช่วยรักษาปริมาณน้ำตามธรรมชาติของวัตถุดิบ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวด้านนอกมีความกรอบอร่อย โดยสามารถใช้แป้งได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นแป้งท้าวยายม่อม แป้งสาลี แป้งข้าวโพด หรือแป้งมันฝรั่ง รูปแบบการทอดที่เรียกว่าคาราอาเกะ เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยเก็นโรคุตอนปลายศตวรรษที่ 17 โดยทั่วไปแล้วจะหมายถึงเมนูไก่ซึ่งเป็นรูปแบบของคาราอาเกะพี่พบเห็นได้บ่อยมากที่สุด โดยจะนำชิ้นไก่มาหมักกับสาเก โชยุ และน้ำตาลก่อนที่จะนำไปชุบแป้งทอด เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่รับประทานง่ายและหาซื้อได้ไม่ยาก โดยเราสามารถมองหาเมนูคาราอาเกะของญี่ปุ่นได้ทั่วไป ทั้งตามร้านอาหารกึ่งผับ ร้านแบบอิซากายะ ไปจนถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ
20. ชาชู (Chashu, チャーシュー, 焼豚)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ถูกดัดแปลงมาจากชาซิ่ว ซึ่งเป็นอาหารประเภทหมูย่างยอดนิยมของจีน โดยเป็นการนำเอาส่วนผสมดั้งเดิมของญี่ปุ่นมาใช้ เพื่อสร้างเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่ถูกปากและรับประทานง่าย ด้วยการนำเอาหมูสามชั้นชิ้นแบน ๆ คลุกเคล้ากับซอสโชยุ มิริน สาเก และน้ำตาล ปรุงรสเพิ่มเติมด้วยขิงและต้นหอมหั่นบาง ๆ ม้วนให้เป็นรูปทรงกระบอก นำไปตุ๋นด้วยไฟอ่อนเป็นเวลาหลายชั่วโมงจนเนื้อหมูดูดซับรสชาติทั้งหมด กลายเป็นหมูสามชั้นเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ นิยมนำหมูชาชูมาสไลด์เป็นชิ้นบาง ๆ เพื่อใช้เป็นท็อปปิ้งบนราเมน ใส่เป็นไส้ขนมปังและแซนวิช หรือใช้เป็นท็อปปิ้งสำหรับเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่น ทั้งประเภทเส้นและประเภทข้าวได้อีกหลายเมนูเลยล่ะค่ะ
21. กิวด้ง (Gyūdon, 牛丼)
หนึ่งในอาหารประจำชาติญี่ปุ่นแบบจานด่วนที่ได้รับความนิยมและมีราคาไม่แพง ที่มาของเมนูข้าวหน้าเนื้อหรือกิวด้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงหลังจากการฟื้นฟูสมัยเมจิ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากประเทศตะวันตกทำให้เริ่มมีการรับประทานเนื้อสัตว์กันอย่างแพร่หลาย กิวด้งรุ่นแรกที่ได้รับความนิยมปรากฏขึ้นในปี 1862 ในภูมิภาคคันโต เป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ประกอบไปด้วยข้าวสวยในชาม ราดหน้าด้วยเนื้อวัวและหัวหอมซึ่งปรุงด้วยส่วนผสมของมิริน น้ำตาล สาเก และโชยุ ให้รสชาติเค็ม-หวาน บางครั้งอาจมีท็อปปิ้งเพิ่มเติมเช่น ไข่ดาวน้ำ ไข่ลวก ไข่ดิบ ชีสขูด หรือกิมจิ นิยมรับประทานคู่กับขิงดองและพริกป่น โดยมีซุปมิโซะเป็นเครื่องเคียง เราสามารถมองหากิวด้งได้ในร้านอาหารหลายแห่งรวมไปถึงร้านฟาสต์ฟู้ด เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่อิ่มอร่อยอยู่ท้อง และประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย
22. โอมุไรซ์ (Omu-Rice, オムライス)
เมนูข้าวห่อไข่ซึ่งเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เมนูที่ผสมผสานระหว่างไข่เจียวแบบตะวันตกร่วมกับข้าวผัดแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เป็นเมนูที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งร้านแรกที่ทำเมนูนี้ขึ้นมาได้แก่ร้าน Hokkyokusei ที่ได้คิดค้นเมนูข้าวไข่เจียวที่อร่อยมากกว่าเดิม เพื่อเสิร์ฟให้กับลูกค้าประจำซึ่งกระเพาะไม่ค่อยดีและสั่งข้าวไข่เจียวอยู่เป็นประจำ โดยใช้ข้าวผัดกับเนยหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศและซอสถั่วเหลือง ห่อด้วยไข่เจียวเป็นรูปวงรีอันเป็นเอกลักษณ์ แล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศด้านบนอีกที เมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นแสนอร่อยที่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ภายใต้หน้าตาที่ดูเรียบง่าย เหมาะสำหรับเด็ก ๆ หรือผู้ที่ต้องรับประทานอาหารเบา ๆ ได้เป็นอย่างดี
23. นัตโตะ (Nattō, 納豆, なっとう)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่หลายคนคงเคยได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง นัตโตะหรือถั่วเน่าเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้มาจากถั่วเหลืองหมัก ซึ่งกระบวนการหมักนั้นค่อนข้างเรียบง่ายเพียงแค่ใช้ถั่วเหลืองแช่น้ำเอาไว้ เพื่อให้แบคทีเรีย Bacillus subtilis หรือนัตโตะ-คิน เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือเนื้อสัมผัสของถั่วเหลืองเนื้อแน่นอันเป็นเอกลักษณ์ ผสานเข้ากับเส้นใหญ่ที่เหนียวยืดยึดเมล็ดถั่วเอาไว้ด้วยกัน พร้อมด้วยกลิ่นฉุนที่โดดเด่นซึ่งเปรียบได้กับกลิ่นของชีสที่มีกลิ่นหอมแรง ซึ่งนัตโตะค่อนข้างนิยมเป็นพิเศษในญี่ปุ่นตะวันออก และไม่ค่อยพบในฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น โดยนิยมใส่ลงในอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่จะวางนัตโตะเอาไว้บนข้าว หรือเสิร์ฟพร้อมกับเมนูที่ทำจากปลา ซุปมิโซะ เต้าหู้ และยังใช้ทาบนขนมปัง ใส่ในซูชิ หรือรับประทานเปล่า ๆ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยก็ได้
24. ฮิโมโนะ (Himono, 干物)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ปลาแห้งประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นวิธีถนอมอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยทั่วไปจะใช้ปลาพันธุ์เล็กเช่น ปลาแมคเคอเรลหรือปลาซาร์ดีน นำมาแล่แบบผีเสื้อแล้วนำไปหมักด้วยเกลือ นำไปตากแดดหรือแช่เย็นเพื่อให้ปลาแห้ง ซึ่งดูคล้ายกับการทำปลาแดดเดียวบ้านเราอยู่เหมือนกันค่ะ เมื่อปลาแห้งแล้วสามารถเก็บเอาไว้หรือจะนำไปรับประทานทันทีเลยก็ได้ โดยนำไปย่างแล้วทาด้วยซอสถั่วเหลืองเพื่อปรุงรส นิยมรับประทานคู่กับข้าวสวยเป็นอาหารเช้าหรืออาหารกลางวัน ซึ่งเมนูนี้พบได้ทั่วไปตามร้านอาหารอิซากายะยอดนิยม และเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่นิยมเสิร์ฟเป็นของว่างยามดึกกันอีกด้วย
25. โมนากะ (Monaka, 最中, 最中冰淇淋)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นเมนูขนมหวานแบบดั้งเดิม ขนมไส้ถั่วแดงที่ประกบด้วยโมจิแผ่นบางกรอบ ซึ่งได้มาจากการนำเอาแป้งโมจิมาทำให้เป็นแผ่นบางแล้วย่างจนแห้งกรอบ มีลักษณะคล้ายกับเวเฟอร์ โดยทั่วไปจะใช้เป็นไส้ถั่วแดงกวนและทำเป็นรูปวงกลม แต่สามารถประยุกต์โดยการใส่ไส้อื่น ๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม วิปครีม ครีมชีส หรือเกาลัดบด และยังดัดแปลงให้เป็นรูปแบบต่าง ๆ รวมไปถึงใส่สีเพื่อให้เปลือกขนมมีความสวยงามน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น เช่น ทำรูปแบบให้เหมือนกับเหรียญทองแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดงเพื่อความเป็นสิริมงคล นิยมเสิร์ฟคู่กับชาซึ่งสามารถเข้ากับรสชาติหวาน ๆ ของโมนากะได้เป็นอย่างดี
26. เทมปุระ (Tempura, 天ぷら, 天麩羅)
เมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันดี แต่แนะนำว่าไปถึงญี่ปุ่นทั้งทีก็ควรชิมเทมปุระตามแบบฉบับต้นตำรับกันดูสักครั้ง เทมปุระนั้นเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นญี่ปุ่นสไตล์โปรตุเกส ที่มีต้นกำเนิดอยู่ในเมืองนางาซากิในช่วงศตวรรษที่ 16 เทมปุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเทมปุระกุ้งเอบิ นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลและผักอีกหลายชนิดที่นิยมนำมาทำเทมปุระด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก หอยเชลล์ ปลาทะเล หน่อไม้ เห็ด บร็อคโคลี่ กระเจี๊ยบเขียว หัวหอม เป็นต้น เทมปุระที่ทอดเสร็จแล้วจะมีสีค่อนข้างซีด บางและฟู ให้รสชาติที่กรุบกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับหัวไชเท้าขูดฝอยและรับประทานร้อน ๆ ทันทีหลังจากทอดคู่กับน้ำจิ้ม หรือนำไปใส่ในเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นอื่น ๆ เช่น เทมปุระโซบะ เทมปุระอุด้ง และข้าวหน้ากุ้งเทมปุระ เป็นต้น
27. อุด้ง (Udon, うどん, 饂飩)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นบะหมี่เส้นหนาทำมาจากแป้งสาลี ที่ญี่ปุ่นนิยมรับประทานอุด้งในน้ำซุปใสร้อน ๆ ที่เรียกว่าคาเคจิรุ ซึ่งทำมาจากดาชิ ซอสถั่วเหลือง และมิริน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย และใส่ท็อปปิ้งอื่น ๆ เช่น เทมปุระ, อาบุราอาเกะหรือเต้าหู้ทอด, คามาโบโกะหรือทอดมันปลากราย และเครื่องเทศที่เรียกว่าชิจิมิเพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งน้ำซุปที่ใช้และเส้นอุด้งจะมีความแตกต่างกันออกไปตามสูตรของร้านและตามแต่ละภูมิภาค ซึ่งนอกจากจะรับประทานกับน้ำซุปร้อน ๆ แล้ว ยังมีการนำเอาเส้นอุด้งไปทำเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นได้อีกหลากหลาย เช่น นำไปใช้เสิร์ฟเป็นอุด้งเย็นหรือสลัดอุด้ง, อุด้งแกงกะหรี่, หม้อไฟอุด้ง, อุด้งผัดในซอสถั่วเหลือง เป็นต้น ถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปเลยทีเดียวค่ะ
28. ฮิสึมาบุชิ (Hitsumabushi, ひつまぶし)
ฮิสึมาบุชิเป็นอาหารประจำชาติญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดมาจากนาโกย่า ประกอบไปด้วยปลาไหลย่างที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสิร์ฟบนข้าวสวย พร้อมด้วยเครื่องปรุงและเครื่องเคียงต่าง ๆ เชื่อกันว่าเป็นเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดย้อนไปจนถึงในช่วงปลายยุคเมจิ เมนูข้าวหน้าปลาไหลที่จะทำให้คุณสามารถสัมผัสกับความอร่อยได้ถึง 3 แบบภายในชามเดียวกัน วิธีรับประทานให้แบ่งข้าวหน้าปลาไหลออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกสามารถรับประทานได้เลยเพื่อสัมผัสกับรสชาติของข้าวหน้าปลาไหลในซอสรสหวานแบบดั้งเดิม ส่วนที่ 2 ให้นำมาผสมคลุกเคล้ากับเครื่องเทศที่เรียกว่ายาคุมิที่เสิร์ฟมาในถ้วยเล็ก ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นวาซาบิและต้นหอมซอย ส่วนที่ 3 ให้นำมาผสมกับน้ำซุปดาชิหรือน้ำชาซึ่งเสิร์ฟมาในกา และส่วนสุดท้ายสามารถเลือกได้ว่าจะรับประทานแบบไหนหลังจากที่ลองมาทั้ง 3 แบบกันแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเมนูข้าวหน้าปลาไหลที่ซ่อนไปด้วยความน่าสนใจและรสชาติที่หลากหลายเลยทีเดียวค่ะ
29. โดรายากิ (Dorayaki, どら焼き, どらやき)
อาหารประจำชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นขนมหวานที่เราคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นของโปรดของตัวการ์ตูนชื่อดังอย่างโดราเอมอนนั่นเอง เดิมทีนั้นโดรายากิแบบดั้งเดิมจะมีเพียงชั้นเดียว และได้มีการพัฒนารูปแบบให้เป็นแป้งแพนเค้กขนาดเล็ก 2 ชิ้น ประกบกับไส้ถั่วแดงอะซูกิหวานเหมือนแซนด์วิชขึ้นมาในปีค.ศ 1914 โดยร้านขนมอุซางิยะซึ่งตั้งอยู่ในย่านอุเอโนะของโตเกียว จนกลายมาเป็นรูปแบบของขนมโดรายากิในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากไส้ถั่วแดงกวนแบบคลาสสิคแล้ว โดรายากิยังมีไส้อื่น ๆ ให้เลือกอีกหลายรสชาติ เช่น ไส้ถั่วขาว ไส้ชาเขียวมัทฉะ สร้อยครีมมันเทศกับเกาลัด ไส้คัสตาร์ดครีม วิปปิ้งครีม ช็อกโกแลต และสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
30. ทาโกะยากิ (Takoyaki, たこ焼き, 蛸焼)
ปิดท้ายกันที่อาหารประจำชาติญี่ปุ่นชื่อดังอย่างทาโกะยากิ ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารประเทศญี่ปุ่นที่หารับประทานได้ง่ายในบ้านเรา แต่ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็อยากจะแนะนำให้ลองชิมทาโกะยากิฉบับต้นตำรับกันดูสักครั้งค่ะ เชื่อกันว่าทาโกะยากิมีต้นกำเนิดอยู่ในโอซาก้าในปี ค.ศ 1935 ซึ่งในปัจจุบันเป็นเมนูที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านอาหารทั่วไปและร้านข้างทางที่ทำกันแบบสดใหม่ร้อน ๆ โดยทำมาจากแป้งที่ประกอบไปด้วย แป้งสาลี ซอสถั่วเหลือง และน้ำซุปดาชิ เทลงในกระทะแม่พิมพ์ที่ร้อนฉ่า ตามด้วยปลาหมึกชิ้นนุ่ม ๆ และมักจะใส่ต้นหอมซอย ขิงดอง เท็งคาสึทอดกรอบ เกล็ดปลาแห้งเพื่อเพิ่มรสชาติ จากนั้นเทแป้งเติมลงไปและหมุนจนกลายเป็นรูปทรงกลม โรยหน้าด้วยสาหร่ายแห้งและราดซอสทาโกะยากิ เป็นเมนูอาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่อยากให้ลองไปชิมรสชาติสูตรต้นตำรับของอาหารประเทศญี่ปุ่นกันให้ได้สักครั้งค่ะ
และทั้งหมดนี้ก็คือ 30 อาหารประจำชาติญี่ปุ่นที่เราได้คัดเลือกมาแนะนำกันค่ะ แต่ต้องบอกเลยว่าอาหารประเทศญี่ปุ่นนั้นยังมีอีกมากมายหลายเมนู ที่รอให้เราได้ไปชิมเมื่อได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ ซึ่งมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ขนมขบเคี้ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นนอกจากจะไปท่องเที่ยวและช้อปปิ้งกันแล้ว อย่าลืมให้เวลากับการลองลิ้มชิมรสเมนูอาหารประเทศญี่ปุ่นตามแบบฉบับต้นตำรับกันดูค่ะ