แนะนำ 30 อาหารเยอรมัน ที่ต้องลองให้ได้เมื่อไปเยือนประเทศเยอรมัน
1. รูลาเดน (Beef Rolls, Rouladen)
Rouladen เป็นหนึ่งในสูตรอาหารเยอรมันสำหรับมื้อค่ำยอดนิยม จุดเด่นของอาหารประจำชาติเยอรมันเมนูนี้คือน้ำเกรวี่ที่ราดลงบนเนื้อม้วนที่ชุ่มฉ่ำ โดยจะใช้เนื้อวัวที่แล่เป็นแผ่นยาวบาง ๆ คลุกกับมัสตาร์ด ใส่เบคอน, หัวหอม และผักดอง ปิดไส้ด้วยการม้วนแถบเนื้อขึ้น จากนั้นนำเนื้อม้วนที่ได้ไปเคี่ยวช้า ๆ ในน้ำเกรวี่เข้มข้น จนได้เป็นสีน้ำตาลสวย เป็นเมนูอาหารเยอรมันที่รับประทานกันได้ตลอดทั้งปี แต่นิยมกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในโอกาสพิเศษ เช่น วันคริสต์มาสอีฟ และมื้อค่ำของวันอาทิตย์
2. ชนิทเซิล (Breaded Cutlet, Schnitzel)
ชนิทเซิล (Schnitzel) เป็นอาหารเยอรมันที่หลายคนลองแล้วจะต้องติดใจ อาหารประจำชาติเยอรมันเมนูนี้จะใช้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น เนื้อลูกวัว, เนื้อแกะ, เนื้อวัว, ไก่งวง, เนื้อกวางเรนเดียร์ และเนื้อหมู นำมาทุบให้เป็นแผ่นแบน ๆ จากนั้นนำไปชุบแป้งผสมไข่และเกล็ดขนมปัง นำไปทอดให้เหลืองกรอบในน้ำมันร้อน ๆ เป็นเมนูอาหารเยอรมันที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรีย โดยปรากฏครั้งแรกในเยอรมันเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 และปรากฏในตำราอาหารในปี 1831 จนกลายมาเป็นอาหารประจำชาติเยอรมันในปัจจุบัน นิยมเสิร์ฟพร้อมกับสลัดมันฝรั่งและเลมอนฝาน
3. เมาตาเชิน (German Stuffed Pasta, Maultaschen)
อาหารเยอรมันที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ในภูมิภาคสวาเบียทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมัน ต้องบอกว่า Maultaschen นั้นเป็นเมนูอาหารประจำชาติเยอรมัน ที่ถูกนำไปใช้เป็นมื้ออาหารให้กับนักบินอวกาศชาวเยอรมัน ที่ได้เดินทางออกนอกโลกในปี 2018 กันด้วยค่ะ อาหารเยอรมันเมนูนี้ประกอบไปด้วยแผ่นแป้งพาสต้า สอดไส้ด้วยเนื้อที่คลุกเคล้าผสมกับเครื่องเทศ เสิร์ฟในน้ำซุปธรรมดาหรือผัดกับเนยและหัวหอมทอด โดยบางที่จะเลือกใช้เป็นเนื้อรมควันเพื่อให้ได้รสชาติที่หอมและเข้มข้นขึ้นไปอีก
4. ซาวเออร์บราเทน (German Pot Roast, Sauerbraten)
หากให้พูดถึงเมนูอาหารเยอรมันอันแสนยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นต้องมีอาหารประจำชาติเยอรมันอย่าง Sauerbraten แน่นอนค่ะ อาหารเยอรมันเมนูนี้ทำมาจากเนื้อที่หมักในน้ำส้มสายชูหรือไวน์ และเครื่องเทศ ภายใต้สภาวะเย็นจัดเป็นเวลาหลายวัน จากนั้นนำมาย่างก่อนที่จะนำไปปรุง เนื้อที่ผ่านการหมักจะมีความนุ่มและชุ่มฉ่ำไปด้วยรสเปรี้ยวที่กลมกล่อม ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีการใช้เนื้อที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถเป็นได้ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อกวาง ไปจนถึงเนื้อม้าเลยทีเดียว
5. แคสเลอร์ (Salted and Smoked Pork, Kassler)
Kassler หรือหมูรมควัน เรียกได้ว่าเป็นส่วนเติมเต็มเพื่อทำให้อาหารเยอรมันมื้อกลางวันนั้นสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นเลยล่ะค่ะ อาหารประจำชาติเยอรมันเมนูดั้งเดิมประจำเทศกาล “อ็อกโทเบอร์เฟสต์” (Oktoberfest) ที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน โดยจะนำเนื้อหมูมาหมักและรมควันด้วยควันไม้ ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ส่วนของคอหมูและเนื้อสันใน เสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำปลีดองและมันฝรั่งบด หรือกับคะน้าและมันฝรั่งอบ ซึ่งนอกจากเนื้อหมูแล้ว ในร้านอาหารบางแห่งยังมี Kassler ที่ทำมาจากเนื้อไก่อีกด้วยค่ะ
6. หมูหัน /หมูย่าง (Roasted Suckling Pig/Hog, Spanferkel)
อาหารเยอรมันเมนูหมูย่างนี้มีต้นกำเนิดมาจากอาหารโรมันและอาหารจีน เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติเยอรมันที่มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่โบราณ คำว่า “Spanferkel” นั้นแปลว่า “หมูดูดนม” ซึ่งหมายถึงลูกหมูที่ยังอยู่ในระยะให้นมนั่นเองค่ะ โดยจะนำเอาลูกหมูที่มีอายุประมาณ 6 สัปดาห์ น้ำหนักประมาณ 12-20 กิโลกรัม ควักเครื่องในออกแล้วมาย่างทั้งตัว เมนูอาหารเยอรมันที่จะทำให้คุณหลงรักความกรอบของหนังหมู และเนื้อด้านในที่มีความนุ่มชุ่มฉ่ำ ชาวเยอรมันมักรับประทานเมนูนี้ในโอกาสสำคัญ หรือเทศกาลต่าง ๆ
7. แลปสเคาส์ (Mashed Potatoes and Beets, Labskaus)
Labskaus เป็นสูตรอาหารเยอรมันอันแสนยอดเยี่ยมที่ไม่อยากให้พลาดกันค่ะ อาหารประจำชาติเยอรมันจานพิเศษ ที่มาจากเมืองทางตอนเหนือของเยอรมันอย่างเมืองเบรเมิน, ฮัมบูร์ก และลือเบค ซึ่งถูกคิดค้นโดยกะลาสีเรือชาวเยอรมันในช่วงศตวรรษที่ 16 ด้วยการนำเอาวัตถุดิบที่เหลือบนเรือ มาประกอบเป็นอาหารเพื่อให้อิ่มท้อง ส่วนผสมหลักของอาหารเยอรมันเมนูนี้คือ เนื้อเค็มหรือคอร์นบีฟ นำมาบดผสมกับมันฝรั่งและหอมหัวใหญ่ บางสูตรจะใส่บีทรูททำให้ได้เนื้อเป็นสีชมพูเข้ม พร้อมด้วยแตงกวาดองและปลาเฮอริ่ง นิยมโปะไข่ดาวเอาไว้ด้านบน ซึ่งเราสามารถพบเมนูนี้ได้ในร้านอาหารบนชายฝั่งทางตอนเหนือของเยอรมนีค่ะ
8. ซุปผักไอน์ท็อป (German One-Pot Stew, Eintopf)
ซุปผักไอน์ท็อป (Eintopf) เป็นเมนูอาหารเยอรมันดั้งเดิม รวมไปถึงยังเป็นเมนูอาหารของประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย พื้นฐานของเมนูนี้คือน้ำซุปผัก ซึ่งสามารถเพิ่มเติมส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปได้ วัตถุดิบที่เติมเข้าไปนิยมใช้เป็นเนื้อสัตว์หรือไส้กรอก ที่มาของเมนูนี้เกี่ยวข้องกับชาวเยอรมันจำนวนมาก เนื่องจากช่วงเวลาที่ยากลำบากในอดีต ทำให้ผู้คนไม่มีเงินมากพอที่จะซื้ออาหารอร่อย ๆ จึงได้ทำการรวบรวมเนื้อและผัก แล้วนำมาต้มเป็นซุปหม้อใหญ่แบ่งกันนั่นเองค่ะ อาหารประจำชาติเยอรมันเมนูนี้นิยมรับประทานกันในช่วงฤดูหนาว และเสิร์ฟพร้อมกับขนมปัง
9. เคอนิกส์แบร์เกอร์ คล็อปป์ (German Meatballs, Königsberger Klopse)
อาหารเยอรมันที่ตั้งชื่อขึ้นตามเมือง Konigsberg ในอดีต ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเยอรมัน ปัจจุบันคือเมืองคาลินินกราด (Kaliningrad) ของรัสเซีย โดยอาหารประจำชาติเยอรมันที่มีชื่อเสียงเมนูนี้ รู้จักกันในอีกชื่อว่า “Soßklopse” สูตรดั้งเดิมจะทำจากเนื้อลูกวัวสับละเอียดและปลาแองโชวี่ พร้อมด้วยหัวหอม, พริกไทยขาว และเกล็ดขนมปังเล็กน้อย นำไปเคี่ยวในน้ำซุป เมื่อสุกแล้วนำมาราดด้วยซอสครีมเคเปอร์ นิยมเสิร์ฟพร้อมกับบีทรูทและมันฝรั่งต้ม หรือกับข้าว
10. มันฝรั่งผัด (Fried Potatoes, Bratkartoffeln)
Bratkartoffeln เป็นอาหารเยอรมันที่มีชื่อเสียง และถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารที่มีกันทุกบ้านเลยทีเดียวค่ะ โดยจะนำเอามันฝรั่งมาผัดกับเนยจนได้ความกรอบที่ต้องการ นิยมใส่หัวหอมและเบคอนผสมลงไปด้วย จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย เมนูนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและพบเห็นได้ทั่วไปในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งกองทัพเยอรมันได้นำเอาสูตรมันฝรั่งผัดนี้เข้ามาในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และกลายมาเป็นเมนูอาหารเยอรมันยอดนิยมกันในปัจจุบันค่ะ
11. เกี๊ยวมันฝรั่ง (Potato Dumplings, Kartoffelknödel)
มีบันทึกเกี่ยวกับอาหารเมนูนี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 18 ชื่อของ Kartoffelknödel มาจากคำว่า "knode" ซึ่งแปลว่า "ปมเล็ก ๆ" อาหารเยอรมันที่ใช้มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบหลัก เนื่องจากมันฝรั่งนั้นเป็นพืชที่เป็นที่รู้จักและเพาะปลูกกันทั่วไปในเยอรมัน เมนูนี้จะนำเอามันฝรั่งมาต้มแล้วบด ผสมกับแป้ง, ไข่ และเครื่องปรุงรส จากนั้นนำมานวดและขึ้นรูปเป็นก้อน มักจะยัดไส้ด้วยขนมปังกรอบ, แฮม หรือกะหล่ำปลีดอง นำไปทอดแล้วเสิร์ฟร้อน ๆ นิยมใช้เป็นเครื่องเคียงร่วมกับอาหารเมนูอื่น ๆ เช่น ซาวเออร์บราเทน (Sauerbraten)
12. สลัดมันฝรั่ง (German Potato Salad, Kartoffelsalat)
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่ามันฝรั่งนั้นเป็นส่วนประกอบยอดนิยมของอาหารเยอรมัน ซึ่ง Kartoffelsalat ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ใช้มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบหลักเช่นเดียวกัน สลัดมันฝรั่งแบบดั้งเดิมที่มาจากภูมิภาค Swabia ทางตอนใต้ของเยอรมัน โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยมันฝรั่งต้มฝาน, หัวหอมสับ, น้ำซุปเนื้อ, น้ำส้มสายชูขาว, น้ำมัน, มัสตาร์ดเยอรมัน, น้ำตาล และพริกไทย ซึ่งน้ำซุปที่ใช้อาจเป็นน้ำสต๊อกไก่หรือผักก็ได้ ว่ากันว่าเมนูนี้จะมีรสชาติดีขึ้นหากทำเอาไว้ข้ามคืน เวลาเสิร์ฟนิยมโรยหน้าด้วยกุ้ยช่ายสด และมักเสิร์ฟพร้อมกับไส้กรอกเยอรมัน โดยเราสามารถมองหาเมนู Kartoffelsalat ได้ตามร้านอาหารทั่วไป รวมไปถึงในร้านขายของชำด้วยเช่นกัน
13. เรเบะคูเฮน (Potato Pancake, Reibekuchen)
ยังคงอยู่ที่เมนูอาหารเยอรมันจากมันฝรั่งกันค่ะ Reibekuchen หรือแพนเค้กมันฝรั่ง เป็นเมนูที่ตั้งชื่อขึ้นตามพื้นที่ Rheinland อันเป็นต้นกำเนิดของเมนูนี้นั่นเอง เป็นอาหารประจำชาติเยอรมันที่คุณจะพบเห็นได้ทั่วไปเมื่อเดินทางมาที่เยอรมัน โดยเฉพาะตามตลาดนัดและตลาดคริสต์มาส ชาวเยอรมันมักเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Kartoffelpuffer” ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือของว่างอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยทีเดียว เป็นแพนเค้กที่ทำจากมันฝรั่งขูด, ไข่ และแป้ง แล้วนำไปทอด หลังจากทอดแล้วจะให้เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน แนะนำให้ประทานคู่กับซอสแอปเปิ้ลจะอร่อยยิ่งขึ้น
14. เคอร์รี่เวิร์ส (Curry Sausage, Currywurst)
อาหารเยอรมันแบบฟาสต์ฟู้ดที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านค้าและร้านข้างทางต่าง ๆ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนเยอรมันและนักท่องเที่ยว เนื่องจากสามารถหารับประทานได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว โดยทั่วไปจะนำเอาไส้กรอกหมู (Bratwurst) มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ปรุงรสด้วยซอสแกงกะหรี่ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ นิยมเสิร์ฟพร้อมกับเฟรนช์ฟรายหรือมันฝรั่งทอด เมนูนี้มีขึ้นครั้งแรกในปี 1949 หลังจากที่เชฟชาวเยอรมัน Herta Heuwer ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลิน ได้รับซอสมะเขือเทศและผงกะหรี่มาจากทหารอังกฤษ จึงได้ทำการรวมซอสมะเขือเทศและผงกะหรี่เข้าด้วยกัน แล้วนำมาเสิร์ฟพร้อมกับไส้กรอกย่าง จนกลายเป็นหนึ่งในเมนูไส้กรอกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมันจนทุกวันนี้
15. ฟลาเมคูเอเช่ (Tarte Flambee, Flammekuechen)
อาหารประจำชาติเยอรมันที่เป็นเอกลักษณ์นี้ มีต้นกำเนิดมาจากเกษตรกรในภูมิภาค Bas Rhin, Alsace และ Palatinate ซึ่งมักจะอบขนมปังสัปดาห์ละครั้ง ประกอบไปด้วยแป้งขนมปังที่รีดเป็นแผ่นบาง ๆ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือวงรี จากนั้นทาด้วยชีสสด Fromage blanc หรือครีมเปรี้ยว crème fraîche โรยด้วยหัวหอม, พริกไทย และเบคอน แล้วนำไปอบ หน้าตาก็จะดูคล้ายพิซซ่าอยู่พอสมควรเลยทีเดียวค่ะ แต่ตัวแป้งจะค่อนข้างบางและกรอบกว่า นอกจากนี้หน้ายังมีรูปแบบอื่น ๆ ด้วย เช่น Gratinee กับชีส Gruyere หรือ Munster กับชีส Munster และสามารถทำเป็นแบบหวานโดยใช้แอปเปิ้ลก็ได้
16. ซอสแฟรงก์เฟิร์ตกรีน (Frankfurter Green Sauce, Frankfurter Grüne Soße)
อาหารเยอรมันประเภทซอสที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งหรือขนมปัง ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับซอสชนิดนี้มีการโต้เถียงกันอย่างหลากหลาย แต่ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด น่าจะเป็นการถูกคิดค้นโดยมารดาของ โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่ (Johann Wolfgang von Goethe) ซึ่งเป็นนักกวีนักปรัชญาผู้รอบรู้ชื่อดังในอดีต โดยมีการปรากฏสูตรเป็นครั้งแรกในตำราอาหารเมื่อปี 1860 ทำจาก สมุนไพรสีเขียวหลายชนิด พร้อมด้วยครีมเปรี้ยว, ไข่ไก่, น้ำมัน, น้ำส้มสายชู ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย และโรยหน้าด้วยดอกโบราจหรือเครส นิยมเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอดและไข่ลวก
17. บราทเวิร์ส (Grilled Sausage, Brätwurst)
มากันที่อาหารประจำชาติเยอรมันเมนูไส้กรอกย่างอันเลื่องชื่ออย่าง Bratwurst กันค่ะ เป็นไส้กรอกเยอรมันประเภทหนึ่งที่ทำมาจากเนื้อหมู แต่บางครั้งอาจใช้เนื้อวัวหรือเนื้อลูกวัวก็ได้ ว่ากันว่าเมนูนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 228 กันเลยทีเดียว แต่มีปรากฏในเอกสารของเยอรมนีเมื่อปี ค.ศ. 1313 และสามารถพบได้ในเมือง Franconian แห่ง Nuremberg ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการผลิตไส้กรอก โดยทั่วไปนิยมนำไปย่าง เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังขาวที่ทำจากแป้งสาลี และรับประทานคู่กับมัสตาร์ด ปัจจุบันเป็นอาหารริมทางที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ และแฟนบอลที่เข้าไปชมการแข่งขันฟุตบอลค่ะ
18. ไวส์เวิร์ส (White Sausage, Weißwurst)
ยังคงอยู่ที่อาหารเยอรมันเมนูไส้กรอกกันค่ะ ไส้กรอกขาวอันโด่งดังที่ได้กลายเป็นอาหารประจำชาติเยอรมันของแคว้นบาวาเรียทางตอนเหนือ ทำจากเนื้อลูกวัวสับผสมกับเนื้อสันนอกและหมูสับ แต่งกลิ่นและรสด้วยพาร์สลีย์, เลมอน, หัวหอม, ขิง, ดอกจันทน์เทศ และกระวาน นำส่วนผสมทั้งหมดกรอกลงในไส้หมูแล้วนำไปต้มในน้ำร้อน ไส้กรอกจะเปลี่ยนเป็นสีขาวอมเทาเนื่องมาจากไม่ได้มีการใส่ไนไตรท์ ที่ทำให้เกิดสีแดงอมชมพูของไส้กรอก นิยมเสิร์ฟพร้อมกับน้ำซุปที่ใช้ต้มไส้กรอก, มัสตาร์ดหวาน, เพรทเซล และไวส์เบียร์ วิธีการรับประทานแบบดั้งเดิมคือตัดหรือกัดปลายไส้กรอกให้เปิดออก แล้วดูดเนื้อไส้กรอกออกจากเปลือก
19. บลูตเวิร์ส (Blood Sausage, Blutwurst)
เมนูไส้กรอกเลือดซึ่งถือได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติเยอรมันยอดนิยม เป็นหนึ่งในไส้กรอกที่มีประวัติอันยาวนานของเยอรมัน โดยเป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโรมัน เมื่อทหารทำไส้กรอกเลือดไว้บริโภคในสนามรบ รวมไปถึงชาวบ้านที่นำเอาผลพลอยได้ที่เหลือจากการฆ่าสัตว์มาใช้ทำเป็นอาหาร โดยทั่วไปจะใช้เนื้อหมู, ไขมันสัตว์, เลือดสัตว์, เครื่องในสัตว์ และเครื่องเทศต่าง ๆ ในการทำไส้กรอกเลือดชนิดนี้ ซึ่งที่เยอรมันนั้นมีเมนูไส้กรอกเลือดอยู่มากมายหลายชนิด โดยทั่วไปนิยมนำไปย่างแล้วเสริฟพร้อมกับกะหล่ำปลีดองและมันบด หรือแพนเค้กมันฝรั่ง
20. เค้กโดเนาเวลล์ (German Wave Cake, Donauwelle)
เค้กโดเนาเวลล์หรือเยอรมันเวฟเค้ก อาหารเยอรมันเมนูของหวานยอดนิยมที่ไม่อยากให้พลาดกันค่ะ เป็นเค้กแบบดั้งเดิมที่มีความโดดเด่นของลวดลายหยักในชั้นเค้กและช็อกโกแลตด้านหน้า จนเป็นชื่อมาของชื่อเค้กชนิดนี้นั่นเอง ตัวแป้งเค้กทำมาจาก เนย, แป้ง, ไข่ และน้ำตาล จากนั้นแบ่งส่วนหนึ่งมาผสมกับผงโกโก้ นำแบทเทอร์ของเค้กที่ผสมโกโก้เทด้านบนเหนือแบทเทอร์ธรรมดา ก่อนที่จะโรยด้วยเชอรี่เปรี้ยว ในระหว่างการอบเชอรี่จะจมลงไปที่ด้านล่างจนทำให้เกิดเป็นลายคลื่นในชั้นเค้กขึ้นมา จากนั้นตกแต่งด้วยบัตเตอร์ครีมหนา ๆ แล้วราดด้วยช็อกโกแลตด้านบนสุด โดยนิยมตกแต่งให้เป็นคลื่นเพื่อให้เข้ากับลวดลายในชั้นเค้กด้วยเช่นกัน
21. ชต็อลเลิน (Fruit Cake, Stollen)
ยังคงอยู่กันที่อาหารเยอรมันเมนูของหวานกันอีกหนึ่งเมนูค่ะ เค้กผลไม้แบบดั้งเดิมของเยอรมันซึ่งปรากฏขึ้นครั้งแรกในเทศกาลคริสต์มาสปี ค.ศ. 1545 ที่สภาเมืองเทรนต์ และกลายเป็นขนมวันคริสต์มาสที่สำคัญของชาวเยอรมันในปัจจุบัน ของหวานที่ถือได้ว่าเป็นลูกผสมระหว่างขนมปังและฟรุตเค้ก ในยุคแรกนั้นจะมีส่วนผสมเพียง 3 ชนิด ได้แก่ แป้ง, ข้าวโอ๊ต และน้ำ ส่วนในปัจจุบันได้มีการใส่วัตถุดิบต่าง ๆ เพิ่มเติมลงไปไม่ว่าจะเป็น ถั่ว, เปลือกส้มเชื่อม, ลูกเกด, อัลมอนด์, เหล้ารัม, นม, เนย, กระวาน และอบเชย เป็นต้น เป็นขนมที่หลายคนลองชิมแล้วติดใจกันมาก
22. ไอศกรีมสปาเก็ตตี้ (Spaghetti Ice Cream, Spaghettieis)
อาหารเยอรมันเมนูของหวานนี้มีหน้าตาดูคล้ายกับสปาเก็ตตี้ของอิตาลี โดยจะทำการกดไอศครีมวานิลลาให้กลายเป็นเส้นคล้ายกับเส้นสปาเก็ตตี้ ด้วยที่กดเส้นก๋วยเตี๋ยวหรือที่บดมันฝรั่ง นำไปวางบนวิปปิ้งครีมและราดด้วยซอสสตอเบอรี่ ทำให้ดูคล้ายกับเส้นสปาเก็ตตี้ราดด้วยซอสมะเขือเทศ จากนั้นโรยด้วยเกล็ดมะพร้าวและอัลมอนด์บด หรือไวท์ช็อกโกแลตขูด เพื่อทำให้ดูคล้ายกับพาเมซานชีสบนสปาเก็ตตี้ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อไอศกรีมสปาเก็ตตี้นั่นเอง
23. แอปเปิ้ลสตรูเดิ้ล (Apple Strudel, Apfelstrudel)
Apfelstrudel เป็นอาหารเยอรมันยอดนิยม ถึงแม้ว่าแต่เดิมจะเป็นอาหารพื้นเมืองของออสเตรีย ที่มีต้นกำเนิดในเวียนนาตั้งแต่ปี 1697 ก็ตาม คำว่า “Strudel” เป็นคำในภาษาเยอรมันที่แปลว่าหมุนวน โดยทำมาจากแป้งที่นวดกับน้ำมันหรือเนย และเกลือเล็กน้อยโดยที่ไม่ผสมยีสต์ เมื่อแป้งได้ที่แล้วจะทำการแผ่แป้งออกเป็นแผ่นบาง ๆ จัดเรียงไส้ที่ทำจากแอปเปิ้ลสำหรับทำอาหาร, น้ำตาล, อบเชย และเกล็ดขนมปัง และห่อแป้งปิดไส้จนกว่าแป้งที่แผ่เอาไว้จะหมด จากนั้นนำไปอบ เมื่อสุกแล้วนำมาตัดเป็นชิ้นและโรยด้วยผงน้ำตาล เสิร์ฟในขณะที่กำลังอุ่น ๆ รับประทานคู่กับไอศครีมวนิลาก็อร่อยกันไปอีกแบบค่ะ
24. แบล็คฟอร์เรสต์ (Black Forest Gateau, Schwarzwälder Kirschtorte)
เป็นหนึ่งในเมนูเค้กทั่วไปของอาหารประจำชาติเยอรมัน ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเขตเทือกเขา Black Forest ทางตะวันตกเฉียงใต้ แต่เมนูนี้ตั้งชื่อตามสุราชนิดพิเศษที่ผลิตขึ้นในภูมิภาค ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Schwarzwälder Kirsch (วอสเซอร์) ที่ทำจากเชอรี่เปรี้ยวนำมาใช้เป็นส่วนผสมในขนมเค้ก ไม่ได้ตั้งตามชื่อของเทือกเขาแต่อย่างใดค่ะ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นขนมเค้กที่ประกอบไปด้วยเค้กช็อกโกแลตเนื้อสปันจ์ สลับชั้นด้วยวิปครีมและเชอร์รี่ แต่งหน้าด้วยวิปครีม, เชอร์รี่มาราสชิโน และช็อกโกแลตขูด
25. ฟิชบรู๊คเคิน (German Fish Sandwiches, Fischbrötchen)
Fischbrötchen แปลตรงตัวว่า “ปลาม้วน” อาหารเยอรมันเมนูแซนวิชที่ทำมาจากปลาแบบเต็ม ๆ คำ เป็นอาหารประจำชาติเยอรมัน ซึ่งนิยมรับประทานกันในภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศ เนื่องจากอยู่ใกล้กับทะเลเหนือและและทะเลบอลติก โดยทั่วไปจะใช้ปลาเฮอริ่งดอง ร่วมกับ ผักกาดหอม, แตงกวาดอง, หอมหัวใหญ่, ซอสรีมูเลด, ซอสมะเขือเทศ หรือซอสค็อกเทล แล้วประกบด้วยขนมปัง เป็นการผสมผสานรสชาติที่ลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนจากปลาเฮอริ่งดอง เป็นปลาทะเลชนิดอื่น ๆ เช่น ปลาแซลมอน, ปลาแมคเคอเรล, ปลาคอด หรืออาจใช้กุ้งก็ได้ เมนูนี้มักจะขายกันที่แผงขายอาหารจานด่วน หรือร้านอาหารแบบซื้อกลับบ้านเยอรมัน
26. เพรทเซล (Pretzel, Brezeln)
Brezeln หรือ Pretzel เป็นขนมปังที่มีแป้งสาลีเป็นส่วนผสมหลัก อาหารเยอรมันที่จะทำให้คุณประทับใจในรสชาติและเนื้อสัมผัสกันตั้งแต่คำแรก ขนมปังที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการขึ้นรูปให้ขนมปังบิดเกลียวแล้วแบบผูกเป็นปมออกมาเป็นห่วงเพรทเซล หรือโบว์เพรทเซล เป็นขนมที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี โดยมักจะถูกนำไปห้อยคอให้กับเด็กชาวเยอรมันในวันปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 26 เมษายน ถือได้ว่าเป็นวันเพรทเซลแห่งชาติของเยอรมันกันด้วยค่ะเราสามารถมองหาเพรทเซลได้ทั่วไปตามร้านเบเกอรี่ในเยอรมัน และมีให้เลือกหลากหลายชนิดเลยทีเดียวค่ะ
27. ชอยเฟล (Pig's scapula, Schäufele)
Schäufele เป็นอาหารเยอรมันดั้งเดิมจากทางใต้ของประเทศ โดยจะใช้ไหล่หมู หรือกระดูกสะบักของหมูเป็นวัตถุดิบหลัก นำมาบ่มและรมควัน ปรุงรส แล้วนำไปย่างหรือต้มก็ได้ ส่วนผสมเพิ่มเติมอาจเป็นได้ทั้งเครื่องเทศต่าง ๆ หัวหอม และขิง สูตรสำหรับอาหารจานนี้จะแตกต่างกันไปเล็กน้อยขึ้นอยู่กับภูมิภาค โดยทั่วไปจะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำเกรวี่, เกี๊ยวมันฝรั่ง และสลัดเป็นเครื่องเคียง ใครชอบหมูหมักเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ น่าจะถูกปากเมนูนี้กันค่ะ
28. ไลป์ซิเกอร์ อัลเลอร์ไล (German vegetable dish, Leipziger Allerlei)
อาหารเยอรมันเมนูผักที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ในช่วงสงครามนโปเลียน ระหว่างปี 1803 และ 1815 เพื่อตบตาบรรดาทหารที่ปล้นสะดม โจร และขอทาน ไม่ให้เข้ามายังเมืองไลพ์ซิกที่มีความมั่งคั่งแห่งนี้ ด้วยการเสิร์ฟเพียงแค่เมนูผักแทนเนื้อสัตว์ที่มีราคาแพง โดยทั่วไปจะประกอบด้วยผักที่นำไปผัดกับเนย เช่นแครอท, หน่อไม้ฝรั่ง, กะหล่ำปลี, กะหล่ำดอก และถั่วลันเตา สูตรดั้งเดิมจะราดซอสที่ประกอบด้วยกุ้งหรือกั้ง, Shrimp Butter และเศษขนมปัง ซึ่งในปัจจุบันมี Leipziger Allerlei ในรูปแบบกระป๋อง ที่ค่อนข้างคล้ายกับสูตรดั้งเดิมวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน
29. เบอร์เบริท (Farmers Bread, Bauernbrot)
Bauernbrot หรือ "ขนมปังของเกษตรกร" อาหารเยอรมันเมนูขนมปังที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ แน่นอนว่าเมนูนี้มีความเกี่ยวข้องกับเกษตรกรชาวเยอรมันตามชื่อเลยค่ะ เนื่องมาจากเกษตรกรนิยมอบขนมปังชนิดนี้ เพื่อนำไปรับประทานในระหว่างที่ออกไปทำงานในฟาร์ม เป็นขนมปังซาวโดว์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นแป้งข้าวไรย์ และเครื่องเทศอย่างยี่หร่า, โป๊ยกั๊ก และเมล็ดผักชี ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับตัวขนมปังที่มีเนื้อแน่นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยไฟเบอร์ที่ทำให้รู้สึกอิ่มนานอีกด้วย
30. คาร์ทอฟเฟลซัปเป้ (Potato Soup, Kartoffelsuppe)
ปิดท้ายกันที่อาหารเยอรมันเมนูซุปยอดนิยม อาหารประจำชาติเยอรมันที่ใช้มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบหลัก เป็นอาหารเมนูพิเศษของภูมิภาค Baden ซึ่งจะเสิร์ฟตามธรรมเนียมในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว และมักจะเสิร์ฟพร้อมกับเค้กลูกพลัม โดยจะใช้มันฝรั่ง, แครอท, กระเทียมหอม และหอมหัวใหญ่ นำมาเคี่ยวในน้ำซุปที่มีส่วนผสมของเนยและนมจนเปื่อยนุ่ม จากนั้นใส่ไส้กรอกและโรยด้วยผักชีฝรั่งในตอนท้าย เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับซดร้อน ๆ ในวันที่มีอากาศหนาวได้เป็นอย่างดี
และทั้งหมดนี้คือ 30 สุดยอดเมนู อาหารเยอรมัน ไปเที่ยวเยอรมันทั้งทีต้องลองให้ได้ ที่เราได้ทำการคัดเลือกมาแนะนำกันค่ะ ซึ่งต้องบอกว่าอาหารประจำชาติเยอรมันนั้นมีอยู่มากมาย ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน อาหารว่างและของกินเล่นต่าง ๆ ให้เราได้เลือกลองลิ้มชิมรสกันเต็มไปหมด ดังนั้นหากได้มาเที่ยวเยอรมัน นอกจากจะท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และช้อปปิ้งกันแล้ว อย่าลืมที่จะมองหาอาหารเยอรมันขึ้นชื่อมาลองชิมกันดูด้วยค่ะ