แนะนำ 30 อาหารอเมริกัน ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนอเมริกา
1. ชีสเบอร์เกอร์ (Cheeseburger)
เริ่มต้นกันที่ชีสเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นเป็นวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของแฮมเบอร์เกอร์นั่นเองค่ะ อาหารอเมริกาเมนูนี้มีความแตกต่างจากแฮมเบอร์เกอร์ตามปกติ ว่ากันว่าถูกคิดค้นโดยพ่อครัวอายุเพียง 16 ปี ชื่อ Lionel Clark Sternberger ที่ร้านอาหาร The Rite Spotใน Pasadena, California ที่ได้ทำการเพิ่มชีสอเมริกันชิ้นหนึ่งลงไปบนเนื้อ โดยชีสเบอร์เกอร์จะมีแผ่นชีสชิ้นหนึ่งวางอยู่ด้านบนชิ้นเนื้อ ชีสที่ใช้เป็นได้ทั้ง อเมริกันชีส, ชีสสวิส, เชดดาร์ชีส และบลูชีส และอื่น ๆ ซึ่งชีสเบอร์เกอร์ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบ บางที่มีการใส่ชีสมากกว่า 1 แผ่น ในขณะที่ท็อปปิ้งมีตั้งแต่เบคอน, ไข่ดาว, แฮม ไปจนถึงพริกชี้ฟ้า, เห็ด, หัวหอม, แตงกวาดอง, มะเขือเทศ, ผักกาดหอม และกัวคาโมเล่
2. บาร์บีคิว (Barbecue)
บาร์บีคิว (Barbecue) เป็นเมนูที่มีต้นกำเนิดโดยตรงมาจาก บาร์บาโคอา (barbacoa) ซึ่งเป็นประเพณีการรมควันเนื้อของชาวพื้นเมืองในแคริบเบียน ในอดีตเราสามารถพบเมนูบาร์บีคิวได้ในพื้นที่ชนบทของอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันเมนูนี้ได้แพร่กระจายไปยังเมืองใหญ่ต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังมีสูตรและวิธีการปรุงที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ เช่น เมื่อเดินทางไปเมมฟิส คุณสามารถหาซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิวที่มีรสเผ็ดร้อน บาร์บีคิวที่หลุยส์เซียน่าจะเสิร์ฟมาในขนมปังนุ่ม ๆ ในขณะที่นอร์ธแคโรไลนาตะวันออก หมูจะถูกทำให้สุกอย่างช้า ๆ บนถ่านหิน และราดด้วยซอสเผ็ด เป็นต้น ดังนั้นหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวอเมริกาตามรัฐต่าง ๆ แนะนำให้ลองมองหาเมนูบาร์บีคิวของแต่ละที่มาลองชิมกันดูค่ะ
3. ไก่ทอด (Fried Chicken)
อาหารอเมริกันยอดนิยมทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่กลายมาเป็นเมนูสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน ไก่ทอดที่เนื้อด้านในนุ่มชุ่มฉ่ำ เคลือบด้วยเปลือกด้านนอกสีน้ำตาลทอง ซึ่งเป็นแป้งที่กรุบกรอบแสนอร่อย ว่ากันว่าเมนูนี้เกิดขึ้นมาจากในช่วงล่าอาณานิคม เมื่อผู้อพยพชาวสก็อตได้เข้ามาตั้งรกรากทางตอนใต้ของอเมริกา แล้วได้นำเอาสูตรไก่ทอดนี้มาด้วย จากนั้นทาสชาวแอฟริกันจึงได้นำเอาเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศต่าง ๆ มาใช้ร่วมด้วย จนกลายมาเป็นเมนูไก่ทอดแสนอร่อยอย่างทุกวันนี้ ซึ่งเครื่องปรุงรสทั่วไปที่ใช้ ได้แก่ เกลือ, พริกไทย และพริกขี้หนูป่น และควรรับประทานไก่ทอดด้วยมือ เพื่อให้สามารถกัดทั้งเปลือกและเนื้อได้พร้อมกัน นิยมเสิร์ฟพร้อมกับ บิสกิตทาเนย, สลัดมันฝรั่งทางตอนใต้, มันบด หรือครีมเกรวี่
4. แม็ค แอนด์ ชีส (Mac and Cheese)
อาหารอเมริกันที่มากับส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง โดยใช้เพียงมะกะโรนีและชีสละลาย เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของชาวอเมริกัน ซึ่ง Mac and Cheese สไตล์อเมริกันดั้งเดิมจะประกอบไปด้วย เส้นพาสต้ามักกะโรนีแบบโค้ง และเชดดาร์ชีส แต่แบบสมัยใหม่ประกอบด้วยผัก ท็อปปิ้งด้วยเกล็ดขนมปัง หรือใส่วัตถุดิบรสเลิศอื่น ๆ เพิ่มเติมลงไป เช่น ปู, ล็อบสเตอร์ หรือเห็ดทรัฟเฟิล ซึ่งเมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารประเภทพาสต้า ซึ่งเป็นอาหารของอิตาลีและฝรั่งเศส โดย โทมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา ที่ตกหลุมรักส่วนผสมของพาสต้าและชีสเมื่อครั้งได้เดินทางท่องเที่ยวในยุโรป จึงให้เชฟเตรียมมักกะโรนีและชีสเสิร์ฟในงานเลี้ยง อีกทั้งยังได้นำเข้ามักกะโรนีและส่งเครื่องทำพาสต้าไปยังเวอร์จิเนีย จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารอเมริกัน ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
5. เบอร์ริโต้ (Burrito)
เบอร์ริโต้ (Burrito) เป็นอาหารอเมริกันที่ทำจากแป้งตอร์ตียา (tortilla) ที่ห่อไส้ด้านในเอาไว้ ชื่อเมนูมาจากคำว่า “ลาตัวเล็ก ๆ” ในภาษาสเปน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากลักษณะของถุงสัมภาระที่บรรทุกบนตัวลา ที่มาของเมนูนี้บ้างก็ว่ามีต้นกำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยชาว Vaqueros ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเม็กซิโก ไปจนถึงชาวนาในแคลิฟอร์เนีย หรือคนงานเหมืองจากโซโนรา โดยพบว่าเมนูนี้มีการปรากฏขึ้นครั้งแรกในร้านอาหารอเมริกันช่วงปี 1920 ในลอสแองเจลิส โดยเป็นเมนูที่จะใช้แป้งตอร์ตียา นำมาห่อไส้ซึ่งอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมต่าง ๆ เช่น เนื้อ, ถั่ว, ข้าว, ผักกาดหอม, กัวคาโมเล่ และชีส ปัจจุบันกลายเป็นอาหารอเมริกันที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ และเริ่มมี Burrito รูปแบบต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น เบอร์ริโตไก่แบบไทย, เบอร์ริโตหมูแบบจีน และเบอร์ริโตสำหรับมื้อเช้า เป็นต้น
6. ฟาฮิต้า (Fajitas)
ฟาฮิต้า (Fajitas) เป็นอาหารอเมริกันสไตล์เท็กซัสเม็กซิกันยอดนิยม ในอดีตจะใช้เนื้อสเต็กส่วนกระโปรง ซึ่งเป็นเนื้อส่วนของชิ้นเนื้อกระบังลม เนื่องจากเป็นส่วนที่มีราคาถูก เนื้อเหนียว และไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก นำมาหมักแล้วย่าง พร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ผักกาดหอม, ครีมเปรี้ยว, ชีส, มะเขือเทศ, ซัลซ่าเม็กซิกัน หรือกัวคาโมเล่ โดยในอดีตชาวบ้านจะทำให้สเต็กส่วนกระโปรงนุ่มลงด้วยการนำมาทุบ และหมักในน้ำมะนาวก่อนที่จะนำไปปรุง เวลารับประทานจะห่อด้วยแป้งตอร์ตียา (tortilla) ที่ทำจากข้าวสาลี ในปัจจุบันสามารถใช้เนื้อสัตว์อื่น ๆ เช่น ไก่ย่าง, กุ้ง และผัก หรืออาจจะเลือกใช้เนื้อวัวส่วนที่นุ่มและอร่อยมากกว่าบริเวณสเต็กกระโปรงก็ได้
7. แซนด์วิชชีสสเต็ก (Cheesesteak Sandwich)
อาหารอเมริกันเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นเมนูไอคอนของฟิลาเดลเฟีย ที่รู้จักกันในชื่อ “Philly cheesesteak” เป็นเมนูแซนด์วิชที่รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประกอบด้วยสเต็กชิ้นบางและชีสนุ่มละลายในขนมปัง hoagie roll ที่มีขนาดยาวและผิวด้านนอกกรอบ เมนูนี้ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1930 ปัจจุบันเป็นสถาบันในฟิลาเดลเฟียที่เรียกว่า Pat 's King of Steaks ซึ่งเดิมทีเริ่มต้นมาจากการเป็นร้านขายฮอทดอก แต่แล้ววันหนึ่งได้มีการทำเมนูแซนด์วิชเป็นของตนเองขึ้นมา ด้วยการนำเอาสเต็กเนื้อริบอายหั่นบาง ๆ และหอมหัวใหญ่ที่ปรุงสุกวางลงในโรลอิตาเลียน และเมื่อคนขับแท็กซี่ที่กำลังหิวได้แวะเข้ามาที่ร้านและได้กลิ่นเนื้อวัว จึงได้สั่งเมนูนี้และลืมฮอทดอกกันไปเลย นั่นจึงทำให้แซนด์วิชชีสสเต็กได้ถือกำเนิดขึ้นมา จนกลายเป็นหนึ่งในอาหารอเมริกันจานด่วนที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
8. บัฟฟาโล่ วิงก์ (Buffalo Wings)
อาหารอเมริกันที่ตั้งชื่อขึ้นตามแหล่งกำเนิดในเมือง Buffalo, New York สหรัฐอเมริกา มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเมนูปีกไก่แสนอร่อยที่ชวนน้ำลายสอนี้ แต่ที่ดูเป็นไปได้มากที่สุดคือเป็นเมนูที่ถูกเสิร์ฟขึ้นครั้งแรกในร้าน Anchor Bar ของเมือง Buffalo โดยเมื่อปี 1964 เจ้าของร้านคือคุณ Teressa Bellissimo ได้รับปีกไก่ที่ถูกส่งมาโดยบังเอิญและไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงเกิดความคิดที่จะนำปีกไก่ไปทอดในซอสร้อน เสริฟคู่กับน้ำสลัดบลูชีส และขึ้นฉ่ายฝรั่งซอยบาง ๆ ปรากฏว่าว่าลูกค้าต่างก็ชื่นชอบเมนูนี้เป็นอย่างมาก จนกลายมาเป็นเมนูหลักของร้านในที่สุด ด้วยเนื้อสัมผัสที่อีกกรอบนอกนุ่มในและเต็มไปด้วยรสชาติของซอสที่คลุกเคล้ากับปีกไก่ จิ้มกับน้ำสลัดบลูชีสที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี โดยเราสามารถพบเมนูอาหารอเมริกันชนิดนี้ได้แทบทุกที่ในสหรัฐอเมริกาเลยค่ะ
9. ไข่เบเนดิกต์ (Eggs Benedict)
Eggs Benedict เป็นอาหารอเมริกันสำหรับมื้อเช้าหรือมื้อสาย ประกอบไปด้วยขนมปังมัฟฟินแบบอังกฤษ ที่นำไปปิ้งแล้วโปะหน้าด้วยแฮมหรือเบคอน, ไข่ลวก และซอสฮอลแลนเดส ที่มาของเมนูนี้ค่อนข้างมีหลากหลาย แต่ที่เป็นไปได้มากที่สุดเชื่อกันว่ามาจากร้านอาหารที่ชื่อ Delmonico's Restaurant ที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยเชฟ Charles Ranhofer ในปี 1860 ให้กับลูกค้า ชื่อ Mrs. LeGrand Benedict ที่ต้องการหาเมนูใหม่ ๆ ไว้รับประทาน และถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเมนูไข่เบเนดิกต์นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่หากมีโอกาสได้ไปเยือนอเมริกากันทั้งที ก็อยากให้ลองเมนูไข่เบเนดิกต์จากดินแดนต้นตำรับกันดูค่ะ
10. พิซซ่าเปปเปอร์โรนี (Pepperoni Pizza)
พิซซ่าเปบเปอโรนี (Pepperoni Pizza) เป็นหนึ่งในอาหารอเมริกันเมนูพิซซ่า ที่มีอยู่มากมายหลายชนิดในอเมริกา แต่เมนูนี้ถือได้ว่าเป็นพิซซ่าที่ได้รับความนิยมและชื่นชอบมากที่สุด โดยจะใช้ท็อปปิ้งเป็นไส้กรอก Pepperoni ที่เต็มไปด้วยรสชาติเผ็ดร้อนและส่วนผสมของเครื่องเทศ ซึ่งความนิยมของพิซซ่าเปปเปอร์โรนี เริ่มมีมาตั้งแต่ในปี 1950 และในปัจจุบันเป็นอาหารอเมริกาเมนูพิซซ่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และมีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้กลายเป็นเมนูพิซซ่าหลักที่นิยมรับประทานกันทั่วสหรัฐอเมริกา โดยพื้นฐานแล้วจะใช้ส่วนผสมเพียงง่าย ๆ คือแป้งพิซซ่า, มอซซาเรลล่าชีส, ซอสมะเขือเทศ และหั่นเปปเปอร์โรนีวางเป็นท็อปปิ้งที่ด้านบน ซึ่งการเตรียมพิซซ่าเปปเปอร์โรนีก็จะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละรัฐ ดังนั้นหากมีโอกาสได้ไปเยือนอเมริกา แนะนำให้ลองชิมเมนูพิซซ่าเปปเปอร์โรนีของแต่ละรัฐกันดูค่ะ
11. ล็อบสเตอร์โรล (Lobster Roll)
ล็อบสเตอร์โรลเป็นอาหารอเมริกันเมนูพิเศษของอาหารมื้อหลัก ว่ากันว่าล็อบสเตอร์โรลถูกทำขึ้นครั้งแรกที่ร้าน Perry's ในมิลฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต อาหารอเมริกาจานนี้ประกอบไปด้วยเนื้อล็อบสเตอร์ที่ถูกนำไปปรุงให้สุก วางลงในขนมปังฮอทดอกที่ผ่าตรงกลาง จากนั้นราดด้วยเนยละลาย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว, เกลือ และพริกไทยดำ สามารถใส่ผักกาดหอมลงไปในขนมปังด้วยก็ได้ นอกจากนี้ยังนิยมนำเนื้อล็อบสเตอร์ไปผัดกับเนย แล้วคลุกเคล้ากับซอสที่มีส่วนผสมของ มายองเนส, กุยช่ายฝรั่ง, ขึ้นฉ่าย, มะนาว, เกลือ และพริกไทยดำ ได้เช่นกัน นิยมรับประทานคู่กับเครื่องเคียงแบบดั้งเดิมได้แก่ มันฝรั่งทอด หรือเฟรนช์ฟราย
12. ปลาทอด (Fish Fry)
อาหารอเมริกันซึ่งเป็นที่นิยมในรัฐ Wisconsin เป็นเมนูอาหารอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับประเพณีคืนวันศุกร์ ที่จะต้องงดเว้นจากเนื้อสัตว์แต่สามารถรับประทานเนื้อปลาได้ จึงได้มีการนำเอาเนื้อปลามาปรุงเป็นเมนูสำหรับประเพณีคืนวันศุกร์นั่นเอง โดยใช้เนื้อปลาอะไรก็ได้ แต่ที่พบมากที่สุดคือ ปลาคอด, ปลาวัลเลย์, ปลาเลคเพิร์ช และปลาบลูกิลล์ โดยจะนำเอาเนื้อปลาไปชุบแป้งหรือชุบเกล็ดขนมปัง แล้วนำไปทอดจนแป้งด้านนอกสุกเหลืองกรอบ เนื้อปลาด้านในนุ่มชุ่มฉ่ำ ซึ่งวิธีการทอดปลาแบบนี้มาจากผู้อพยพชาวคาทอลิก,ชาวไอริช, โปแลนด์ และเยอรมัน ที่มาตั้งรกรากในรัฐวิสคอนซินนั่นเอง นิยมเสิร์ฟพร้อมกับ โคลสลอว์, สลัดมันฝรั่ง, เฟรนช์ฟราย, ซอสทาร์ทาร์, ข้าวโพดทอด hushpuppies และเลมอนฝาน
13. สเต็กไก่ทอด (Chicken Fried Steak)
สเต็กไก่ทอด (Chicken Fried Steak) เป็นหนึ่งในอาหารอเมริกันที่ถึงแม้ว่าจะชื่อว่าสเต็กไก่ แต่ไม่ได้ใช้ไก่เป็นวัตถุดิบหลักค่ะ กลายเป็นว่าใช้เนื้อวัวแทนซะอย่างนั้น อาหารอเมริกาเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารหลักของสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้ ทำจากเนื้อวัวแล่บาง ๆ ชุบเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอดจนสุกเหลือง แต่ที่เรียกว่าสเต็กไก่ทอดเนื่องจากวิธีการเตรียมเนื้อที่คล้ายกับการทอดไก่นั่นเอง เมนูนี้ปรากฏขึ้นมาในตำราอาหารทางใต้ของอเมริกาช่วงต้นปี 1800 เชื่อกันว่ามาจากผู้อพยพชาวเยอรมันที่เข้ามาตั้งรกรากในเท็กซัส โดยดัดแปลงมาจากเมนูอาหารออสเตรียที่เรียกว่า Wiener schnitzel ซึ่งในอดีตจะนำเอาส่วนของเนื้อวัวที่มีราคาไม่แพงและค่อนข้างเหนียวมาทำ แต่ในปัจจุบันร้านอาหารหลายแห่งได้เลือกใช้เนื้อวัวที่มีคุณภาพ และมีราคาแพงกว่า เช่น เนื้อสันในและเนื้อริบอาย เพื่อให้ได้ความอร่อยมากยิ่งขึ้น
14. คลับแซนด์วิช (Club Sandwich)
อาหารอเมริกันที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอเมริกันอย่างแท้จริง โดยอาหารอเมริกาเมนูนี้ประกอบไปด้วยเบคอน, อกไก่หรือไก่งวงปรุงสุก, มะเขือเทศ และผักกาดแก้ว ประกบด้วยขนมปังปิ้งสองสามแผ่นกับมายองเนส เวลาเสิร์ฟจะหันเป็นรูปสามเหลี่ยม หรือตัดออกเป็น 4 ส่วนแล้วใช้ไม้เสียบยึดไว้ด้วยกัน ต้องบอกว่า Club Sandwich นั้นเป็นอาหารอเมริกาที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะตามโรงแรมและรีสอร์ท จึงเชื่อกันว่าชื่อของเมนูมาจากความนิยมที่เกิดขึ้นในคันทรีคลับนั่นเอง แต่อีกความเชื่อหนึ่งก็กล่าวว่าเป็นเมนูที่ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1894 ที่ Saratoga Club-House ในนิวยอร์ก โดยมีการพบสูตรของ Club Sandwich ที่เก่าแก่ที่สุดในตำราอาหารชื่อ Good Housekeeping Everyday Cook Bookในปี 1903 ซึ่งเขียนโดย Isabel Gordon Curtis นอกจากนี้ Club Sandwich ยังเป็นอาหารอเมริกันเมนูแซนวิชสุดโปรดของ King Edward VIII แห่งอังกฤษอีกด้วย
15. เซิร์ฟแอนด์เทิร์ฟ (Surf and Turf)
อาหารอเมริกันจานหลักที่ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ความเป็นมาของอาหารอเมริกาเมนูนี้ไม่ค่อยแน่ชัดมากนัก แต่ว่ากันว่าเป็นเมนูอาหารอเมริกันที่เริ่มได้รับความนิยมไปทั่วสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1960 ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยเนื้อสเต็กและอาหารทะเลอยู่ด้วยกัน เนื้อสเต็กจะถูกนำไปย่างและเสิร์ฟพร้อมกับซอสข้น ในขณะที่อาหารทะเลมักจะนำไปย่าง, ทอด, อบ หรือต้ม ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารทะเลที่เลือก ซึ่งอาจเป็นไปได้ตั้งแต่อาหารทะเลตามปกติ ไปจนถึงอาหารทะเลราคาแพงอย่างเช่นกุ้งล็อบสเตอร์ แต่โดยทั่วไปแล้วตามร้านอาหารต่าง ๆ ก็นิยมใช้วัตถุดิบแบบพรีเมี่ยม จึงทำให้เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่มีราคาค่อนข้างแพง แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมมากจนถึงขนาดกำหนดให้วันที่ 29 กุมภาพันธ์ เป็นวัน Surf and Turf แห่งชาติกันเลยทีเดียว
16. สลัดมักกะโรนี (Macaroni Salad)
อาหารอเมริกันที่อาจเรียกได้ว่าเป็นจานภาคบังคับของมื้ออาหารกลางวันแบบฮาวายกันเลยค่ะ ที่มาของอาหารอเมริกาจานนี้ว่ากันว่าเกิดขึ้นในปี 1962 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงต้นทศวรรษ 1980 จนกระทั่งกลายเป็นเมนูอาหารอเมริกันยอดนิยมทั่วประเทศในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นสลัดแบบเย็นที่มีรสหวานออกเปรี้ยวเล็กน้อย ประกอบไปด้วยเส้นพาสต้ามักกะโรนีแบบงอ ราดด้วยมายองเนสที่ผสมกับนม ซึ่งการลวกเส้นมักกะโรนีจะต้องไม่สุกจนเกินไป เพราะจะทำให้เส้นมักกะโรนีสามารถดูดซับน้ำสลัดเข้าไปในตัว ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยเข้าเนื้อมากยิ่งขึ้น โดยมักจะใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติมลงไปด้วย เช่น ทูน่า, มะเขือเทศ, หัวหอม, ผักชีฝรั่ง, กระเทียม, ซาลามี่. พริกหยวก หรือไก่หยอง เป็นต้น และยังเป็นเมนูอาหารอเมริกันที่นิยมเสิร์ฟพร้อมกับไก่ทอดหรือเนื้อย่างอีกด้วย
17. ซี่โครงย่าง (Standing Rib Roast)
อาหารอเมริกันที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเนื้อย่างที่ดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ค่ะ อาหารอเมริกาจานนี้จะใช้เนื้อส่วนซี่โครงชิ้นที่ 6 ถึง 12 ของวัว จึงทำให้ได้ชื่อว่าเป็น Standing Rib Roast เนื่องจากกระดูกซี่โครงที่ตั้งขึ้นมาเหมือนขาเวลาย่างนั่นเอง ซึ่งการเตรียมมักจะเริ่มต้นด้วยการทำให้เนื้อวัวแห้ง อาจใช้เวลา 2-3 วันไปจนถึง 2-3 สัปดาห์ ขั้นตอนนี้จะทำให้ได้รสชาติและความนุ่มของเนื้อวัวที่ยอดเยี่ยม จากนั้นนำเนื้อที่เตรียมได้มาปรุงรสด้วยเกลือและเครื่องเทศ เช่น พริกไทยดำ, ใบไทม์, โรสแมรี่, กระเทียม หรืออาจเคลือบด้วยน้ำหมักซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน นำไปย่างให้สุกปานกลางแล้วแล่เป็นชิ้น โดยทั่วไปจะเสิร์ฟพร้อมกับ ยอร์คเชียร์พุดดิ้งและน้ำเกรวี่ มันบด ผักต่าง ๆ และ Green Bean Casserole
18. พาสต้าซีตีอบ (Baked Ziti)
อาหารอเมริกันประเภทหม้ออบ อาหารอเมริกาจานนี้ถือได้ว่าเป็นลูกผสมระหว่างอาหารอิตาเลียนและอาหารอเมริกัน ซึ่งประกอบไปด้วยเส้นพาสต้าแบบหลอดที่เรียกว่า “Ziti” นำไปอบพร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ ที่หลากหลาย โดยทั่วไปมักจะเป็น ไส้กรอกชิ้นหนา, มอสซาเรลล่าชีส, เนื้อสัตว์ และผักต่าง ๆ เช่น เห็ด, พริก, มะเขือเทศ และหัวหอม สลับกับชั้นซอสมารีนารา (Marinara) ซึ่งเมนูอาหารอเมริกันจานนี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เมื่อปรากฏขึ้นอยู่ในตอนหนึ่งของรายการทีวียอดนิยมอย่าง “The Sopranos” โดยเป็นหนึ่งในอาหารจานโปรดของ Carmela ภรรยาของ Tony Soprano นั่นเองค่ะ โดยทั่วไปนิยมเสิร์ฟทั้งหม้ออบเพื่อเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย โดยจะตัดเป็นชิ้นใหญ่ ๆ แล้วเสิร์ฟพร้อมกับสลัดผักสด แต่ก็สามารถเสิร์ฟเพื่อเป็นอาหารจานหลักได้เช่นกัน
19. พิซซ่าสไตล์ชิคาโก (Chicago-Style Deep Dish Pizza)
อาหารอเมริกันเมนูนี้ถือได้ว่าเป็นอาหารอเมริกาที่เกิดขึ้นมาจากผู้อพยพ ที่ได้เข้ามาอยู่อาศัยในอเมริกาเมื่อในอดีต โดยในช่วงปลายปี 1800 และต้นปี 1900 ผู้อพยพชาวเนเปิลส์ได้เดินทางมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อค้นหาชีวิตที่ดีขึ้น จากนั้นในปี 1943 Ike Sewell และ Ric Riccardo ได้เปิดร้าน Pizzeria Uno ขึ้นมาในชิคาโก โดยเสิร์ฟพิซซ่าหลากหลายชนิดที่มีขอบสูงกว่าปกติ โดยมีชั้นชีส, เนื้อ, มะเขือเทศ และขอบแป้งที่กรุบกรอบ ในปัจจุบันเป็นอาหารอเมริกันที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม และการทำอาหารของชิคาโก และไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมในชิคาโกเท่านั้น อาหารอเมริกาจานนี้ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ถึงขนาดที่มีวันเฉลิมฉลอง National Deep Dish Pizza Day จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 5 เมษายนกันเลยทีเดียว ใครที่ชื่นชอบเมนูพิซซ่าหากมีโอกาสได้มาเยือนอเมริกาอย่าพลาดเมนูนี้กันค่ะ
20. นิวยอร์กชีสเค้ก (New York-Style Cheesecake)
เมนูอาหารอเมริกันประเภทของหวานที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งชีสเค้กสไตล์นิวยอร์กนี้จะแตกต่างจากชีสเค้กชนิดอื่น ๆ ด้วยเนื้อสัมผัสที่มีความหนักและแน่น มีความเรียบเนียน และมีรสชาติหวานออกเปรี้ยวเข้มข้น เชื่อกันว่าอาหารอเมริกาชีสเค้กสไตล์นิวยอร์กชิ้นแรก ถูกทำขึ้นในนครนิวยอร์กเมื่อปี 1950 จึงเป็นที่มาของชื่อ New York-Style Cheesecake โดยทำมาจากเฮฟวี่ครีม, ไข่, วานิลลา และครีมชีส และสามารถเพิ่มเติมครีมเปรี้ยวลงไปได้ ในขณะที่ตัวฐานเค้กจะใช้แครกเกอร์เกรแฮม หรือจะเลือกใช้เป็น Spong Cake ก็ได้ ถึงแม้ว่าอาหารอเมริกันเมนูนี้จะสามารถหารับประทานได้ในบ้านเราได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวอเมริกากันทั้งที จะพลาดนิวยอร์กชีสเค้กสูตรต้นฉบับสำหรับออริจินอลกันได้อย่างไรล่ะคะ
21. ชิกเก้น พอท พาย (Chicken Pot Pie)
ชิกเก้น พอท พาย (Chicken Pot Pie) เป็นอาหารอเมริกันที่อร่อยและทำได้ง่าย อาหารอเมริกาเมนูนี้ว่ากันว่ามีมาตั้งแต่ในสมัยจักรวรรดิโรมันที่ใช้เสิร์ฟในงานเลี้ยง และได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาในช่วงศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา พายไก่แสนอร่อยที่ทำมาจากเนื้อไก่, ถั่ว, แครอท, หัวหอม, ถั่วลันเตา และขึ้นฉ่าย สามารถใส่พริกหยวกเขียวหรือเห็ดลงไปเพิ่มเติมก็ได้ตามชอบ ปรุงรสด้วย เกลือ, พริกไทย และเมล็ดขึ้นฉ่าย ใส่น้ำซุปไก่และนม เพื่อช่วยเพิ่มความนุ่มละมุนและช่วยเพิ่มรสชาติของพายไก่จานนี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อเคี่ยวจนไส้พายข้นแล้ว จะนำไปใส่ในแป้งพายที่อยู่ในหม้อสำหรับอบ เทซุปไก่เติมลงไป แล้วอบจนเปลือกแป้งพายกลายเป็นสีน้ำตาลทอง ซึ่งนอกจากจะใช้เนื้อไก่แล้ว ยังสามารถใช้เนื้อวัว, เนื้อแกะ และไก่งวงได้ ปัจจุบัน Chicken Pot Pie ถือได้ว่าเป็นอาหารอเมริกาที่มีวันสำคัญเป็นของตนเอง โดยในวันที่ 23 กันยายนของทุกปี ได้ถูกกำหนดให้เป็น National Great American Pot Pie Day ให้กับอาหารอเมริกันจานนี้กันด้วยค่ะ
22. โปเก (Poke)
โปเก (Poke) เป็นอาหารอเมริกันฮาวายแบบดั้งเดิม ที่ทำมาจากปลาหรืออาหารทะเลสด ๆ แบบดิบ เสิร์ฟมาพร้อมกับผักต่าง ๆ ซึ่งดูไปแล้วก็หน้าตาคล้ายกับเมนูข้าวหน้าปลาดิบของญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นเมนูที่ชาวประมงท้องถิ่นในอดีตได้นำเอาปลาที่จับได้สด ๆ มาปรุงกับเครื่องปรุงเล็กน้อย แล้วรับประทานคู่กับข้าว ซึ่งแบบดั้งเดิมจะใช้ปลาทูน่าครีบเหลืองหรือปลาหมึกยักษ์ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้ปลาแซลมอน, หอยแมลงภู่, เนื้อปู หรือหอยนางรม ที่พบเห็นได้ทั่วไปคือการใช้ปลาแซลมอนนำมาหั่นเต๋า พร้อมด้วยผักต่าง ๆ เช่น หอมหวาน, กระเทียม, หอมแดง, ต้นหอม, เมล็ดงา, สาหร่าย, ถั่วเทียน, ลิมู (สาหร่ายสีน้ำตาล) ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว, น้ำผึ้ง, น้ำมันงา, พริกแดงป่น และเกลือทะเลฮาวาย และสำหรับใครที่รับประทานมังสวิรัติ สามารถใช้อะโวคาโดหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแทนอาหารทะเลได้ เป็นเมนูอาหารอเมริกาเพื่อสุขภาพที่ไม่อยากให้พลาดเลยค่ะ
23. หอมหัวใหญ่ทอด (Onion Rings)
หอมหัวใหญ่ทอด (Onion Rings) เป็นอาหารอเมริกันเมนูเครื่องเคียงยอดนิยม ที่มักจะเสิร์ฟคู่กับเบอร์เกอร์และอาหารอเมริกาจานด่วนอื่น ๆ และมักจะเสิร์ฟคู่กับซอสมะเขือเทศ, มายองเนส ไปจนถึงซอสจิ้มชนิดอื่น ๆ แล้วแต่สูตรของทางร้าน เมนูอาหารอเมริกันเครื่องเคียงยอดนิยมนี้ ทำโดยการนำเอาหอมหัวใหญ่มาคลี่ออกเป็นวง ๆ ชุบแป้งแล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ถึงแม้จะไม่มีที่มาชัดเจนว่าใครเป็นผู้คิดค้นอาหารอเมริกันเมนูนี้ขึ้นมา แต่มีบันทึกเอาไว้ในตำราอาหารอเมริกาของ John Molland ในปี 1802 ชื่อ “The Art of Cookery Made Easy and Refined” ซึ่งในสูตรแนะนำว่าควรทอด Onion Rings กับพาเมซานชีส ทุกวันนี้ Onion Rings เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่มีหลากหลายแบบ และเป็นที่นิยมมากจนมีวันเทศกาลเฉลิมฉลองหอมหัวใหญ่แห่งชาติ (National Onion Ring Day) ในทุกวันที่ 22 มิถุนายนของทุกปีกันเลยทีเดียวค่ะ
24. สนิกเกอร์ดูเดิ้ล (Snickerdoodle)
มากันที่อาหารอเมริกันเมนูของหวานกันบ้างค่ะ สนิกเกอร์ดูเดิ้ล (Snickerdoodle) เป็นคุกกี้แบบโบราณของอเมริกา ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมของอบเชย, เนย, น้ำตาล, ไข่ และแป้ง ลักษณะของคุกกี้จะมีผิวด้านนอกแตก รสหวานหอมเนยที่เข้ากันได้ดีกับกลิ่นของอบเชย เมนูนี้ได้ชื่อมาจากคำภาษาเยอรมัน “Schneckennudeln” ซึ่งแปลว่าขนมปังหวานอบเชย บ้างก็ว่าชื่อนี้มาจากนิทานเรื่องหนึ่งในช่วงปี 1900 ที่มีพระเอกชื่อว่า “Snickerdoodle” แต่ไม่ว่าจะมาจากไหน ปัจจุบัน Snickerdoodle เป็นขนมที่ชาวอเมริกันนิยมทำกันในวันหยุด โดยจะรับประทานขณะที่กำลังอุ่น ๆ หรือทิ้งไว้ให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง และจะอร่อยฟินมากยิ่งขึ้นหากรับประทานคู่กับนมสักแก้วค่ะ ซึ่งเราสามารถมองหาคุกกี้ชนิดนี้กันได้ตามร้านเบเกอรี่ต่าง ๆ ในอเมริกา
25. มีทโลฟ (Meatloaf)
อาหารอเมริกันที่ได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของความเรียบง่ายและความอร่อย ต้นกำเนิดของ Meatloaf มีมาตั้งแต่ในสมัยกรุงโรมโบราณ และเริ่มแพร่หลายในอเมริกาในช่วงปี 1930 อาหารอเมริกาเมนูนี้ทำจากเนื้อสับจำนวนมาก ส่วนใหญ่นิยมใช้เนื้อหมูและเนื้อวัว จากนั้นนำมาห่อกับไข่หรือชีส แล้วนำไปอบในแม่พิมพ์ที่มีลักษณะคล้ายกับโลฟของขนมปังปอนด์ จึงทำให้บางครั้งถูกเรียกว่า “Meatbread” เวลาเสิร์ฟจะหั่นเป็นชิ้นแล้วเสิร์ฟพร้อมกับมันบดหรือผัก ราดด้วยน้ำซอสที่ชุ่มฉ่ำ เป็นเมนูอาหารอเมริกาที่ถูกมองว่าเป็นมื้ออาหารสำหรับครอบครัวที่ทำได้ง่ายและประหยัด อีกทั้งยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งเราสามารถมองหาเมนูนี้ได้ตามร้านอาหารราคาถูกทั่วไปค่ะ
26. ไก่พาเมซาน (Chicken Parmigiana)
Chicken parmigiana เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่ทำจากสัตว์ปีก โดยทั่วไปจะใช้อกไก่ชุบเกล็ดขนมปัง แล้วราดด้วยซอสมะเขือเทศและชีส จากนั้นนำไปอบจนชีสละลายและไก่สุกพอดี เป็นเมนูอาหารอเมริกันที่ได้มาจากอาหารอิตาเลียนอย่าง Melanzana Alla Parmigiana หรือ Eggplant Parmigiana ถึงแม้จะไม่มีความเป็นมาแน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้นเมนูนี้ขึ้นมาในอเมริกา แต่ Chicken Parmigiana นั้นก็กลายเป็นเมนูอาหารอเมริกันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเมืองที่มีผู้อพยพชาวอิตาลีอาศัยอยู่ เช่น นิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ นิยมเสิร์ฟบนข้าวหรือเส้นพาสต้า หรือเสิร์ฟพร้อมกับสลัดและมันฝรั่ง
27. จัมบาลาญ่า (Jambalaya)
อาหารอเมริกันที่เป็นหนึ่งในอาหารจานโปรดของรัฐหลุยเซียน่า ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารอเมริกา แต่รสชาติน่าจะถูกปากคนไทยหลายคนเลยทีเดียวค่ะ เมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจากเคจัน (Cajuns) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เมนูอาหารจานเดียวที่มีส่วนผสมหลักได้แก่ ข้าว, เนื้อไก่หรือหมู, ไส้กรอกรมควัน, กุ้งหรืออาหารทะเล, แฮมรมควัน, พริกหยวก, กระเทียม, ขึ้นฉ่าย, หัวหอม, มะเขือเทศ และเครื่องเทศเคจัน นำส่วนผสมทั้งหมดมาหุงรวมกันโดยใช้น้ำซุป จนกระทั่งข้าวสุกได้ที่ ซึ่งส่วนผสมต่าง ๆ อาจมีความแตกต่างกันออกไปตามสูตรของแต่ละร้าน เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบหลากหลาย และรสชาติที่เผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและพริก ใครที่อยากได้เมนูอาหารอเมริการสชาติจัดจ้านไม่เลี่ยน แนะนำเมนูนี้กันเลยค่ะ
28. โคลสลอว์ (Coleslaw)
โคลสลอว์ (Coleslaw) เป็นอาหารอเมริกันที่สามารถหารับประทานได้ไม่ยากในบ้านเรา แต่หากมีโอกาสได้ไปเยือนอเมริกากันทั้งที อยากแนะนำให้ลองชิมเมนู Coleslaw ฉบับต้นตำรับกันค่ะ เมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจากคำว่า “koolsla” ในภาษาดัตช์ ซึ่งแปลว่าสลัดกะหล่ำปลี โดยถูกนำเข้ามายังนิวยอร์กในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยผู้อพยพชาวดัตช์ ในปัจจุบันโคลสลอว์นั้นถือได้ว่าเป็นอาหารอเมริกาอย่างแท้จริง ประกอบด้วยกะหล่ำปลีหั่นฝอย, แครอท คลุกเคล้าเข้ากับมายองเนส, บัตเตอร์มิลล์หรือครีมเปรี้ยว, น้ำส้มสายชู, น้ำตาล และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ตามชอบ บางพื้นที่อาจใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปด้วยเช่น น้ำสลัด, เมล็ดขึ้นฉ่ายฝรั่ง, ชีสขูด, สับปะรด หรือพริก แต่ทั้งนี้ส่วนประกอบที่จะต้องมีในโคลสลอว์คือกะหล่ำปลีฝอย โดยจะเสิร์ฟแบบแช่เย็นเสมอ และนิยมเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงคู่กับเนื้อย่างหรือไก่ทอด รวมไปถึงใช้ในแฮมเบอร์เกอร์, แซนด์วิช และฮอทด็อก
29. นักเก็ตไก่ (Chicken Nuggets)
นักเก็ตไก่ (Chicken Nuggets) เป็นอาหารอเมริกันที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ นำมาชุบแป้งแล้วนำไปอบหรือทอด ถึงแม้ว่าเมนูนี้จะมีแคลอรี่สูง แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นอาหารอเมริกาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก นักเก็ตไก่ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 1950 โดย Robert C. ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การอาหารแห่งมหาวิทยาลัย Cornell เป็นวิธีการรักษาเนื้อไก่บดให้คงสภาพเอาไว้โดยที่ไม่ต้องมีหนังหุ้มอยู่ แต่จะใช้แป้งทำให้เนื้อไก่คงรูปร่าง วิธีนี้เป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับเนื้อสัตว์ปีก และกลายเป็นอาหารสะดวกซื้อที่เหมาะสำหรับคนที่ขี้เกียจทำอาหารเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปจะใช้เนื้อไก่นำไปชุบไข่และแป้ง ปรุงด้วยพริกไทยดำ ทอดจนสุกเหลืองด้านนอกกรุบกรอบ นิยมเสิร์ฟคู่กับซอสมะเขือเทศหรือซอสมัสตาร์ด นอกจากนี้นักเก็ตไก่ยังเป็นหนึ่งในรายการอาหารอเมริกันยอดนิยมในร้าน McDonald's ซึ่งเริ่มมีขายอยู่ในร้านเป็นครั้งแรกในปี 1980 อีกด้วยค่ะ
30. อาหารค่ำวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Dinner)
ปิดท้ายกันที่อาหารอเมริกันมื้อใหญ่อย่าง Thanksgiving Dinner ซึ่งถ้าหากมีโอกาสได้มาเยือนอเมริกากันทั้งที แนะนำให้ลองหาโอกาสชิมเมนูนี้กันดูค่ะ สำหรับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ อาหารค่ำวันขอบคุณพระเจ้าจะเลือกใช้วัตถุดิบและอาหารตามฤดูกาล เช่น ไก่งวงอบยัดไส้ และเครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น มันบด, ซอสแครนเบอร์รี่เข้มข้น, พายฟักทอง, ไส้กรอก, ขนมปัง, มาร์ชเมลโล่, นม, ไข่, ซุปครีมเห็ด, ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น ซึ่งเมนูนี้มีอายุย้อนไปถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 1621 กันเลยทีเดียว เมื่อผู้แสวงบุญและชาวอินเดียแดงพื้นเมืองต่างพากันมารวมตัวที่พลีมัธ เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันขอบคุณพระเจ้าครั้งแรกของอเมริกา ว่ากันว่างานเลี้ยงในตอนนั้นมีอาหารหลากหลายอย่าง แต่ที่ขาดไม่ได้คือไก่งวง ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ Thanksgiving Dinner กันเลยค่ะ
และทั้งหมดนี้คือ 30 เมนู อาหารอเมริกัน ที่ต้องลองให้ได้เมื่อไปเยือนประเทศอเมริกา ที่เราได้ทำการคัดเลือกมาฝากกัน ซึ่งหลาย ๆ เมนูก็สามารถพบเห็นและสามารถหารับประทานได้ง่ายในบ้านเรา แต่หากมีโอกาสได้ไปเยือนอเมริกากันทั้งที ก็อยากให้ลองชิมรสชาติตามแบบฉบับของต้นตำรับกันดูค่ะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอเมริกาอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้คุณได้ไปลองลิ้มชิมรสด้วยตัวคุณเองกันสักครั้ง